บังเอิญไปเจอเอา ที่เขาว่า... --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มีผู้หนึ่ง ให้ คคห.ไว้ว่า... "โพย เป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะการพูดหรือการคุยจะมีเรื่องอื่นๆ เกิดขึ้นใหม่มาอีกมากมายแต่ละสถานการณ์ไม่เหมือนกัน การมีโพยไว้ก็เพื่อไม่ให้ลืมหรือหลุดเรื่องที่ตั้งใจมาพูดหรือคุยกัน แต่การมีล่ามนี่มันแตกต่างอรรถรสการคุยมันจะสูญหายไปมาก เรื่องพูดคุยอื่นๆที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง ก็จะสดุดหายไป" https://www.facebook.com/cheeryingluck ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เพื่อนๆ ว่ายังไงครับ...
ล่ามก็แค่คนที่ช่วยแปลภาษา คนพูดก็พูดไป พูดตามไหวพริบและสถานการณ์ คือต้องคิดอยู่แล้วแหละว่าจะพูดอะไรบ้าง อยู่ในหัวหมดแล้ว อาจมีหลุดๆ ลืมๆ บ้าง แล้วล่ามก็แปลอีกชั้นหนึ่ง รายการโทรทัศน์บางรายการ เวลาพิธีกรสัมภาษณ์ชาวต่างชาติก็ยังมีล่ามเลย เป็นล่ามของแขกรับเชิญที่ร่วมรายการนั่นแหละ โพยนี่ต้องดูว่าเขียนอะไรไปในนั้นบ้าง แค่หัวข้อที่มองแล้วนำไปขยายความต่อหรือเนื้อความคำพูดทั้งดุ้น อ่านตามโพยอย่างเดียวแล้วไม่ได้คิดต่อ ส่วนความเห็นที่ว่า การพูดหรือการคุยจะมีเรื่องอื่นๆ เกิดขึ้นใหม่มาอีกมากมายแต่ละสถานการณ์ไม่เหมือนกัน ผมอยากจะบอกว่า โพยมันเตรียมไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เรื่องก็โน้ตๆ ไว้ในนั้น ถ้าจะเกิดเรื่องอื่นเกิดขึ้นใหม่นี่ มันต้องเกิดจากกึ๋น ไหวพริบคนพูดแล้ว เรื่องนี้โพยให้ไม่ได้ เพราะไม่มีในโพย...ก็เป็นได้
โพยในความหมายของความเห็นตัวอย่างมันใช้กับการบรรยายหรือสุนทรพจน์ แต่ถ้าเป็นการคุยกันจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าจะพูดอะไรมา นอกจากจะเตี้ยมกันไว้ แล้วมันจะได้อรรถรสตรงไหน ส่วนการใช้ล่ามนั้นผู้พูดสามารถแสดงภาษากาย ความรู้สึกได้ดีกว่าสากลเค้าก็ใช้กัน แต่ถ้าไม่ใช้ล่ามแล้ว Open every door ก็ไม่ไหว
เจ้าของกระทู้จะถาม หา ความเหมาะสม หรืออะไรครับ ถ้าเรื่องนี้ตอบยากเหมือนกัน ต้องดูที่ลักษณะอาการ ที่แสดงภาพให้เห็นด้วย กรณีตามภาพ ยิ่งลักษณ์ แสดงออก เหมือนการพูดเล่น พูดหัว กันมากกว่า แบบสาวไทย มีแฟนต่างชาติ แล้วคุยกันออกทีวี มองดูแล้วไม่ได้แสดงออก ในฐานะนายก ที่จะสามารถตัดสินใจอะไร เพื่อประโยชน์ของชาติ
อ้อ เหรอ รมต.ต่างประเทศบางคนในรัฐบาลก่อน ยังบอกเลย ว่า ไม่ได้มีบรรพบุรุษ เป็นฝรั่ง ไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษได้ เอิ้กๆๆๆๆ
จบเมืองไทย พูดไม่ได้ไม่แปลก แต่บางคนโอ้อวดว่าจบโทเมืองนอก พูดภาษาอังกฤษไม่ได้นี่ น่าอายนะ แถมไม่พอ ภาษาไทยบ้านเกิดตัวเอง ยังอ่านผิดๆ คอ-นก-รีต ตกเลขอีกต่างหาก มีด๊อกจบนอก เป็น รมต ต่างประเทศ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหมือนกัน
คนเขามีความพยายามจะสื่อสารภาษาอังกฤษ ยังดูดีกว่า ไม่พยายามเลย เหมือนฝรั่งพยายามสื่อสารกับคนไทยด้วยภาษาไทย ยังดูน่ารัก กว่าฝรั่งที่เอาแต่พูดภาษาตัวเองอย่างเดียว ขนาดนักร้องเกาหลีมาไทย ยังพยายามหัดสื่อสารภาษาไทยกับคนไทยเลย เปิดกะลาหน่อยสลิ่มสาป
การพูดคุยเจรจาที่มีความสำคัญคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำในชีวิตประจำวันอาจจะเลือกใช้ล่ามเพื่อความมั่นใจไม่เกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร ถ้าจำไม่ผิดตอนคุณชวนเป็นนายกก็เลือกที่จะใช้ล่ามถึงแม้ว่าตนเองจะพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน นอกจากนั้นผู้นำหลายๆชาติก็เลือกที่จะใช้ล่ามถึงแม้ตนเองจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเหตุผลเดียวกัน ส่วนท่านยิ่งลักษณ์น่าจะไม่จำเป็นต้องใช้ล่ามเนื่องจากจบการศึกษาที่สหรัฐอเมริกา ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของท่านคงอยู่ในสายเลือดและจิตวิญญาณอยู่แล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งการไม่ใช่ล่ามของท่านยิ่งลักษณ์ก็นับว่าเป็นบุญแก่บรรดาล่ามยิ่งนัก เพราะถ้าใครเจอการใช้ภาษาไทยระดับเหนือมนุษย์อย่างท่านเข้าไปอาจจะถึงขั้นธาตุไฟเข้าแทรกได้ง่ายๆ
ไม่มี นักร้องชื่อ ยิ่งลักษณ์ นะครับ ไม่มีนักร้อง ที่ออกแถลงข่าว ในสภา หรือในที่รับรองแขกเหรื่อ ทางการเมือง หรือระหว่างประเทศหรอกครับ หรือ ยิ่งลักษณ์ เป็นนักร้อง
ประธานาธิบดี บ้านเขา ก็ยังพูดภาษาอังกฤษผิดบ่อย น่าอายตรงไหน สลิ่มจะอายก็อายไปสิ อย่าถือสา..มนุดสลิ่ม อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แกพูดผิดบ่อยครับ ครั้งหนึ่ง แกไปปราศรัยที่เมืองโคลัมเบียว่า “We ought to make the pie higher.” เราควรทำให้ขนมพายสูงขึ้น ถ้าจะพูดให้ถูกต้อง จะต้องพูดว่า “We ought to make the pie bigger.” คือ ต้องทำให้ขนมพายใหญ่ขึ้น หรือ เราจะได้มีส่วนแบ่งกันมากขึ้นอย่างถ้วนหน้า บุชปราศรัยที่เมืองนาชัว รัฐนิวแฮมพ์เชียร์ “I know how hard it is to put food on your family.” ข้าพเจ้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากเย็นที่จะเอาอาหารใส่ไปที่ครอบครัว ซึ่งประโยคนี้ ฟังแล้วไม่ได้เรื่อง ที่ถูกต้อง แกน่าจะพูดว่า “I know how hard it is to put food on the table for your family.” ข้าพเจ้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเอาอาหารวางไปบนโต๊ะเพื่อครอบครัว ตอนที่ปราศรัย บุชพูดถึงเรื่องรายได้ของครอบครัว เป็นประโยคเปรียบเทียบของฝรั่งนะครับ ว่า การหารายได้เพื่อครอบครัวเป็นเรื่องยาก บุชชอบพูดผิดทั้งไวยากรณ์และความหมายครับ “Families is where our nation finds hope, where wings take dream.” อันดับแรกเลย families เป็นพหูพจน์ จะให้ถูกจะต้องพูดว่า Families are...อันดับสองตรงที่แกพูดว่า where wings take dream ถ้าจะให้ถูก จะต้องพูดว่า where dreams take wings ประโยคนี้คือ ครอบครัวคือสถานที่ที่ประเทศชาติของเราค้นหาความหวัง เป็นที่ที่ความฝันติดปีก ไม่ใช่ เป็นที่ที่ปีกติดความหวัง.
ไปทำงาน ไปเซ็นต์สัญญา ไปทำการค้า ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นๆ ทำตัวแอ๊บแบ๊วน่ารัก โดยพยายามพูดสื่อสารแบบโง่ๆ เช่น overcome แทน welcome ไปทำขายหน้าให้ต่างประเทศเขาขำ ผู้นำไทย น่ะหรือ อีกอย่างพยายามจะพูดเนี่ย ฟังก็ไม่รู้เรื่อง ถามจริง มันติดต่อการค้าได้มั้ย โดนหลอกให้เซ็นสัญญาเสียเปรียบ ประเทศเสียหายหรือเปล่า อย่ามาพยายามแก้ต่างแบบโง่ๆ เลย
อยากรู้ว่าต่างอย่างไร ให้เม้ย จัดเดี่ยว เม้ย1 แข่งกะ เด็ก ป.6 ดูซิ!! ถ้าเป็น ม.6 จะเป็นการดูถูกเด็กเกินไป
ช่างบุชซิ่... Overcome to Thailand ทั้งพูดผิด ทั้งเปิดโพย ทั้งสำเนียงไม่ดี ยังบอกไม่น่าอาย... แล้วมีล่ามมันจะมีปัญหาอะไรกันนะ
ขออภัยน่ะครับ... สำหรัลลิงค์วิดีโอของเธอในวาระต่างๆนั่น... ผมทนดูไม่เคยจบเลย ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล๊ะ... ไม่รู้เป็นอะไร... มันรู้สึกหน้าชาๆ เสียวหลังวูบๆ ขนลุกซู่ๆ ยังไงไม่รู้... มันรู้สึกเหมือนกับอยากจะ "เอาหน้าแทรกแผ่นดิน" จึงทนดูไม่ค่อยได้...ขออำภัยจริงๆ...
ก็ทำนองว่าเด๋วนี้ กะหรี่พัทยาพยายามพูดกับฝรั่งเอง หลังจากอ่านโพยบ่อยๆ ขอโทษนะครับ ถ้าไม่สุภาพ ก็ถ้าผมเป็นฝรั่งบินมาจากอเมริกา ต้องมาฟังใครอ่านโพยให้ฟัง ผมจะโกรธมาก ก็ทำไมไม่ส่งทางไลน์ ให้บินมา น่ารักนักรึไง
ขอแปลความแบบง่ายๆละกันนะครับ ***โพย -กรณีคนพูดเขียนเอง ก็เป็นการเตือนความจำ ว่าเราจะต้องพูดอะไร จะได้ไม่ลืมหัวข้อสำคัญๆที่ควรพูด หรือเป็นการเรียงลำดับของเรื่องที่เราต้องพูด เพื่อไม่ให้เราสับสนเวลาพูด -กรณีให้คนอื่นเขียนให้ อันนี้เกิดจากผู้พูดไม่มีกึ๋นพอที่จะพูดให้ได้ใจความที่สำคัญ จึงต้องมีโพยเอาใว้ช่วย ไม่งั้นคนพูดอาจจะปล่อยไก่ เป็นที่อับอายขายหน้า ปล.แต่บางคนถึงมีโพยก็ยังไม่อาจช่วยได้ ***ล่าม คนพูด พูดไปตามที่ตัวเองคิด แต่ในเมื่อผู้พูดกับผู้ฟังใช้ภาษาต่างกัน ทำให้พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงต้องให้ล่ามเป็นสื่อกลาง อธิบายความหมายให้คู่สนทนาได้เข้าใจ ส่วนนายกทั้งสองคน เป็นอย่างไร คนไหนมีกึ๋นหรือไม่มีกึ๋น อันนี้ "ใครๆก็รู้นะครับ"
การใช้ ล่าม มันไม่ได้หมายถึงว่าคู่เจรจาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ในการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการระดับประเทศ มีผู้นำหลายประเทศที่ใช้ล่ามในการเจรจาพูดคุย เพราะเขาต้องการแสดงให้ประเทศต่าง ๆ เห็นว่า เขาไม่ได้ด้อยกว่าคู่เจรจาที่พูดภาษาอังกฤษ ถ้าจะเจรจากันเขาก็จะใช้ภาษาของเขาเจรจา มันก็เลยต้องมีล่ามแปล หรือบางประเทศเขาอาจมีความภาคภูมิใจที่จะแสดงให้เป็นว่าประเทศของเขาก็มีภาษาพูดของตนเอง เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษ ก็ใช้ล่ามแปล หรือบางประเทศอาจไม่ถนัดที่จะใช้ภาษาอังกฤษ เขาก็ใช้ล่ามแปลเพื่อกันความผิดพลาดในการเจรจา แต่เมื่อเจรจาพูดคุยเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้ว การพูดคุยกันส่วนตัว เขาก็ใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุย เขาใช้ล่ามเฉพาะที่เป็นทางการหรือเป็นพิธีการเท่านั้น ส่วน โพย นั้น ไม่มีในสารบบ ไม่ว่าจะพูดคุยเป็นทางการระดับประเทศ หรือระดับกิ๊กก็อกที่ไหนก็ตาม เพราะเมื่อใดที่เราไปควัก โพย เพื่อดูหัวข้อที่จะคุยต่อหน้าคู่สนทนา ความน่าเชื่อถือของเรามันจะกลายเป็นศูนย์ทันที
ถูกใจ เอาไป ล้าน ไลค์ คำว่า ทูต สะกดด้วย ท ทหาร นะ เป็นคนไทยหัดสะกดให้ถูก อย่ามัวแต่ไปว่าคนอื่นพูดภาษาประเทศนอกไม่ได้ นิสัยนี้แย่นะ ควรปฏิรูป
นายอภิสิทธิ์ และคณะ พบปะ Mr.Yu Xubo ประธานบริหาร COFCO พร้อมทีมบริหาร (17 พ.ย. 57) ขอให้อดีตนายกฯ ญ. ผู้กล้าแกร่งขึ้นเป็นผู้นำฯ ใน 45วันโชว์กึ้นนก สักทิปหนึ่งซิ!!!
มาดู!! สุรพงษ์!! รมว.ต่างประเทศคนแรก? ที่พูดอังกฤษไม่ได้ เจอนักข่าวต่างประเทศแกล้ง ขายหน้าไหมประเทศไทย http://www.oknation.net/blog/anonym/2011/08/18/entry-1 คือ นายกพูดภาษาอังกฤษไม่ได้นี่ ไม่น่าขายหน้าเท่า รมว.ต่างประเทศพูดภาษาอังกฤษไม่ได้นะคะ เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงที่จะต้องพบปะทำความเข้าใจกับนานาชาติ เหมือนเป็นโฆษกของประเทศในระดับโลกค่ะ แต่เรื่องจริงคือ นายกตู่พูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ เพียงแต่จะพูดหรือไม่พูด และเลือกกาละเทศะในการพูดค่ะ ไม่จำเป็นต้องเสนอหน้าไปพูดภาษาอังกฤษซะทุกครั้งไป บางครั้งคู่สนทนาอาจเป็นประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เค้าพูดในภาษาของเค้าเอง ก็ต้องมีล่ามเช่นกันนะคะ จะมาโชว์ออฟกันทุกครั้งไปก็คงไม่ใช่เรื่องค่ะ (กาสรแดงดิ้นมากๆ โคลนกระจายออกนอกปลักหมด จะยิ่งไม่มีอะไรมาแช่ให้คลายร้อน น้ำลายจะฟูมปากเอาง่ายๆนะคะ)
การใช้ล่ามในพิธีการทางการทูตเป็นสิ่งที่ถูกเพราะภาษาทางการกับพูดบ้านๆมันต่างกัน ศัพท์แสงที่ใช้ก็ต่างกันคำทุกคำที่ออกจากปากผู้นำมันผูกพันประโยชน์ของประเทศ หากไม่ได้เป็นดิกชินนารีกลับชาติมาเกิดหรือไปเรียนที่ต่างประเทศก็ยากที่จะรู้ว่าศัพท์เป็นทางการกับคำพูดบ้านๆมันต่างกันอย่างไร เพราะอย่างนี้ล่ามถึงจำเป็นมากกว่าที่ใครหลายคนคิด
ก็ถ้าจะให้ดีก็เอาประชาทิบตัยตัวพ่อกลับมาก็พอ ตัวแม่แค่อ่านโพยนิดหน่อย สลิ่ม แมงวาปก็หยุมหยิมซะ ดูสินายกอำหมาด เล่นของใหญ่ใช้ล่ามแล้วสลิ่มแมงวาปไม่โวยวายเบย สองมาตรฐานชัดๆ #freeอากง (เกี่ยวไรหว่า)
ก็เข้าใจนะว่าในตรรกะของสัปเหร่อ "การพูดผิดไม่ใช่เรื่องน่าอาย" เลยเอาตัวอย่างที่พอจะเปิดกรอบความคิดให้ออกจากกะลามาบ้างว่าขนาดฝรั่งเค้ายังมองว่าที่บุชพูดผิดว่าเป็นยังไงกันบ้าง http://politicalhumor.about.com/od/bushquotes/a/dumbbushquotes.htm แหม่.... ถึงกับจั่วหัวไว้ว่า 50 วลีที่บุชพูดโง่ๆเอาไว้แบบนี้คงจะเป็นเรื่องธรรมดาตามสภาพความเป็นอยู่ในชีวิตของนักล้างป่าช้าละมัง แบบว่าทำเรื่องโง่ๆจนเคยชินไม่รู้สึกรู้สาอะไร อิอิ แล้วตัวอย่างที่ยกมา มาจากเว็บแนวๆนี้ป่าว ระบุคำว่า"โง่"เสียชัดเลย อิอิ
ต๊ายยยยยยยยยยยย.......(ขอเลียนแบบเจ๊ประจำเดือน) เห็นสัปเหร่อเหมือนจะพูดภาษาอังกฤษได้เป็นไฟแล่บ แต่ดันไม่รู้จัก และไร้ความสามารถในการแยกออกระหว่างความแตกต่างของ ธรรมเนียมสากล ของคำว่า Formal และ Informal แล้วสินะคะ สงสัยอากาศใต้กะลาไม่ค่อยบริสุทธิ์ หัวคงตื้อไปหมด อิอิ ต้องให้แยกอีกมั้ยคะ ว่านักร้องควรจะเป็น formal หรือ informalแล้วนายกต้องใช้แบบไหน อิอิ
ฮั่นแน่...คุณLazy... ไปหัดสีซอ จนชำนาญแล้วซิ ท่า… http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=seton&month=06-2010&date=26&group=2&gblog=4