16 มิ.ย. 59 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย "เมื่ออดีตนักการเมืองและอดีตรัฐมนตรีที่ห่วงใยบ้านเมือง ได้ใช้สิทธิ์ของตนในการออกมาแสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญที่จะนำไปลงประชามติเพื่อกำหนดอนาคตของสังคมไทย กลับถูกผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีอำนาจในปัจจุบันบางส่วนแสดงท่าทีประหนึ่งว่า การแสดงความเห็นของท่านเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผิดหรือกระทำไม่ได้" นายภูมิธรรม กล่าวและว่าเรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร http://www.naewna.com/politic/221080
มีนักการเมืองเลือกตั้งคนไหนบ้างที่ห่วงใยบ้านเมืองอย่างแท้จริง มากกว่าห่วงปากท้องและอิทธิพลของตัวเอง ?
ตอนแรกเขาเปิดโอกาสให้เข้าร่วมประชุม ไม่มีใครร่วมด้วย พอเขาสรุปออกมาตอนนี้แต่ละคนออกมางอแงเหมือนกับเด็ก
ใครหลอกใช้ใคร? หรือมาถึงจุดที่ว่า"ถึงโดนหลอก แต่เต็มใจให้หลอก(เพราะกรูได้ประโยชน์)" ************************************************************************* หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ความพ่ายแพ้ของนักศึกษาฝ่ายซ้ายก็ปรากฏ ภูมิธรรมเดินทางเข้าป่าทางเขตงานอีสานใต้โดยใช้ชื่อจัดตั้งว่า 'สหายใหญ่' หนังสือ 'คนตุลาตายแล้ว' ที่เขียนโดย แคน สาริกา บันทึกไว้ว่า ภูมิธรรม มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ 'สหายนำ' ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ 'ลุงดิน' ธง แจ่มศรี เลขาธิการ พคท.คนสุดท้าย ที่มีความเอ็นดูสหายใหญ่ เคยเรียกใช้ไหว้วานบ่อยครั้ง จวบจนทุกวันนี้ลุงดินยังพูดถึงสหายใหญ่ในแง่ดีอยู่เสมอ ด้วยความเป็นนักจัดตั้ง นักประสานงานที่ดี มีเครือข่ายเพื่อนพ้องน้องพี่เยอะ ภูมิธรรมจึงถูกดึงเข้าไปทำงานการเมืองในหลายพรรค อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ยุคที่มีการจัดตั้งกลุ่มยังเติร์ก ปชป. เขาก็เคยร่วมด้วย แต่ด้วยความเชื่อที่ว่าคนรวยจะไม่โกง มีแต่จะแบ่งปันให้ผู้ยากไร้ในสังคม ในที่สุด 'ภูมิธรรม' ก็เลือกที่จะร่วมหัวจมท้ายกับ พ.ต.ทักษิณ ชินวัตร กระโดดเข้าร่วมจัดตั้งพรรคไทยรักไทยเต็มตัว และได้รับชัยชนะท่วมท้นในการเลือกตั้งปี 2544 ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า "คนรวยเยอะแยะ ที่มีจิตใจเมตตา เป็นเศรษฐีใจบุญ คนรวยที่ศึกษาทฤษฎีทางการเมือง มันก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มาคบหากับคนเดือนตุลา ย่อมได้รับอิทธิพลความคิดอุดมการณ์เพื่อส่วนรวมจากคนรุ่นนี้"
คนดีๆที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ย่อมไม่มีใครตำหนิหรอกครับ เพราะรับรู้ในเจตนาได้ แต่คนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโกงกินบ้านเมืองอย่างมากมายมหาศาล ย่อมถูกจับตามองและสงสัยในเจตนาว่ากระทำไปเพราะประสงค์ร้ายอย่างแน่นอน
เครดิตของแต่ละคนต่างกัน การกระทำก็สำคัญกว่าคำพูด ดูอย่างคนที่จะตั้งศูนย์ป้องกันการโกงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เคยมีชนักติดหลังกันมาทั้งนั้น
ดูจากที่มันไม่มีคดีความใดๆติดตัวทั้งๆที่มันเป็นแกนหลักคนหนึ่งในพรรค ผมว่ามันคงไม่โง่หรอก แต่ความคิดความรู้สึกสำนึกใดๆ คงถูกอำนาจและผลประโยชน์ กดทับจนไม่เหลือหรอแล้วกระมัง
"เมื่ออดีตนักการเมืองและอดีตรัฐมนตรีที่มีความห่วงใยบ้านเมือง......................................................" พี่คอมฯตกยุคเอ่ยชื่อมาเลยดีกว่าว่ามีใครบ้าง "ยิ่งลักษณ์ สุรพงษ์ กิตติรัตน์ ณัฐวุฒิ บุญทรง ปลอดประสพ เฉลิม นิวัติธำรง สุกำพล ยรรยงค์ จารุพงศ์ ชูชาติ ชัยเกษม เผดิมชัย ชูชีพ วิทยา ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ" ได้ยินแค่ชื่อก็ขนหัวลุกแล้ว ไอ้พวกนี้น่ะหรือที่ห่วงใยบ้านเมือง มันกลัวบ้านเมืองจะขึ้นพ้นจากหลุมที่พวกมันขุดดักไว้ได้ต่างหากมั้ง