ก็ดีนะ ให้พวกคนไร้คุณภาพแบบนี้ไปลี้ภัยทางการเมืองหรืออพยพไปอยู่กันเยอะๆ ไอ้คนอิหร่านที่จับตัวประกันที่ประเทศซิดนี่ย์ก็ลี้ภัยทางการเมือง คนแอฟริกันที่เดินเพ่นพ่านอยู่ในยุโรปตอนนี้ก็มีทั้งอพยพและลี้ภัยทางการเมืองก็ไปสร้างปัญหาที่นั่น นี่ไม่แน่ใจว่าได้ทั้งบ้านและเงินค่าใช้จ่ายต่างๆจากทางรัฐบาลนิวซีแลนด์เนื่องจากเป็นการลี้ภัยทางการเมืองด้วยหรือเปล่า สิทธิมนุษยชนโคตรๆ
ยังนึกไม่ออกบุยขอรับ... ถ้าไปอยู่นิวซีแร๊นแล้วไปเจอหน้ามัน... กระพ๊มจะทำยังไง??? ... ไม่เมิงก๊ะกรู... ต๊ายยยยยยยยย...
น่าจะสืบคนให้เงินมันไปอยู่เมืองนอก ไม่ใช่ตามจับแค่มัน แสดงว่าท่อน้ำเลี้ยงหนามาก ไม่ต้องทำงาน ทำการ มีเงิน มีใช้ อย่างหรู
ยืนยันคำเดิมครับ "กฎหมายอาจไม่เที่ยงธรรม แต่กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ" รอ ครับว่าสิ่งที่เขาทำจะส่งผลเช่นไร
1. รอดูต่อไปจะเปิด "หน้าแรก" อันเป็น status ทั้งหมดโชว์มั้ย... 2. ถ้ามันได้จริง... มันกล้ากลับมาเหยียบไทย ฐานะคนสัญชาติ(ชั่ว)อื่นมั้ย... เมิงแน่จริงมั้ย... 3. ทั้งข้อ 1. และ 2. ถรุ๊ยยยยยย!!!! มันและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายขอรับ...
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ขนาดโดนหมาหมู่รุม ยังเอาตัวรอดไปได้ ถ้าเป็นพวกสลิ่มสาป ก็หนีไปบวช เอาผ้าเหลืองคุ้มหัวตัวเอง จนสวนโมกข์ทุกวันนี้ เละเทะ ไปหมดแล้ว
ใช่ใครที่ทำผิดต่อประเทศมหาอำนาจ ไม่ว่าจะหนีไปส่วนไหนของโลกโอกาสตายเท่ากันหมด ดูบินลาเดนเป็นตัวอย่างก็ได้ นี้คือสิ่งที่รับประกันว่ากฏของประเทศมหาอำนาจมีอำนาจบังคับใช้เหมือนกันหมดครอบคลุมทั่วผืนโลก
ทาง คสช ไม่ถามทูตคนนี้ดู สืบดูน่าจะรู้ว่าใครออกพาสปอร์ตให้ เอามาจากเพจข่าวฟรีทีวีตายแล้ว 25 พ.ย. ที่ผ่านมาครม.มีมติโยกย้าย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ เดลินิวส์ออนไลน์พาดหัวเรื่องนี้ว่า "ครม.ไฟเขียว อนุมัติโยกย้ายทูตไทยหลายเก้าอี้ เด็กแม้วยังเหนียว ย้ายจากออสเตรเลีย ไปนิวซีแลนด์" นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็นใคร มีคำตอบจากส่วนหนึ่งของบทความของทีมข่าวการเมืองผู้จัดการ ย้อนกลับไปเมื่อ 31 ต.ค. 49 ความว่า "มีคนถามถึง มาริษ เสงี่ยมพงษ์ เจ้าหน้าที่การทูต 9 ที่มีผู้ขนานนามว่าเป็น บัทเลอร์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพราะปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กฤษณ์ กาญจนกุญชร ลงนามในคำสั่งให้เขาไปช่วยราชการที่ อังกฤษ จนเป็นที่ กังขา, ไม่สบายใจ ของคนทั่วไปนั้น “เซี่ยงเส้าหลง” ก็ขอบอกเล่าประวัติของคนคนนี้แต่เพียงย่อๆ ว่าเขามีชื่อเล่นว่า ปู เคยเป็น ข้าราชการนิสัยดีมากคนหนึ่ง ชะตาชีวิตชักนำให้มาพบกับอดีตผู้นำไร้แผ่นดินตั้งแต่ครั้งมาเป็น รมว.ต่างประเทศ ขณะที่เขายังเป็น ซี – 4 แต่ก็ ถูกอกถูกใจเป็นพิเศษ จนเมื่อมีอำนาจวาสนาได้นั่งทำงานที่ ทำเนียบรัฐบาล ก็ขอตัวข้าเก่าคนนี้มา ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี จนกลายเป็น คนสนิท คู่กับ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ข้าเก่าคนนี้จงรักภักดีต่อนายเก่ามากขนาดที่ว่าถ้าไม่ได้ โอนย้ายไปอังกฤษ ก็จะตัดสินใจ ลาออกจากราชการไปรับใช้นายและครอบครัวเอง หนึ่งในบุญคุณของนายเก่าก็คือ ส่งเสียลูกของข้าเก่าให้เรียนที่อังกฤษ เชื่อกันว่าถ้าไม่เกิดเหตุ 19 กันยายน 2549 เสียก่อน ปู – มาริษ เสงี่ยมพงษ์ คนนี้จะได้รับแต่งตั้งให้เป็น เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์" กลิ่นหึ่งๆลอยข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกล ใครเป็นใคร ใครช่วยใคร ใครเด็กใคร ควรหรือไม่ที่จะปล่อยไป พิจารณากันเอาเอง
ลองคิดดูนะ ถ้าเด็กคนนี้ถูกจับกลับมาเมืองไทย เขาจะอยู่อย่างไร? ตอบแทนได้เลยครับ....จมตีนตาย ที่ปล่อยมันไปอยุ่ที่อื่น เพื่อเอาบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ยังได้บุญเลย นี่ชีวิตคนทั้งคน จะให้มันจมตีนตายเหรอครับ ถึงผมจะไม่มีลูก-เมีย แต่ผมรู้ว่า"พ่อ"ไม่ทำร้ายลูกหรอกครับ ท่านคงอยากให้ลูกสำนึกได้เอง
เปลี่ยนคำขอใหม่ค่ะ รณรงค์ขอให้ รบ. นิวซีแลนด์ ช่วยรับคนประเภทนี้ที่ยังอยู่เมืองไทย ไปอยู่ที่โน่นให้หมด
ทำไมพวกนี้มันเดินเกมส์คล้ายกันหมด ใช้ภาษาหยาบ ยียวน ต่ำ ลูกน้องยังสถุลขนาดนี้ ลูกพี่จะขนาดไหนเนี่ยะ แล้วจะเอาคนแบบนี้เหรอมาเป็นผู้นำ พวกควายมันเอาอะไรคิดกันฟ่ะ
บางครั้งเห็นคนทำผิดกฏหมายแต่ยังออกมาท้าทาย เยาะเย้ย ก็ทนไม่ได้ อีกอย่าง บางครั้งรู้สึกว่าต่งชาติมันก็ให้การสนับสนุน ปกป้องคนทำผิด ต่อไปก็จะเกิดวัฒนธรรมเลียนแบบ ผมว่าไม่นานกลุ่มดาวดิน และกระเทย"สามนิ้ว" ก็คงจะตามไปติดๆ “ตั้ง อาชีวะ” เตือนรัฐบาลไทย ยิ่งไล่ล่าเท่ากับประจานตัวเองทั่วโลก มั่นใจ นิวส์ซีแลนด์ ไม่ส่งตัวกลับไทย ตั้ง อาชีวะ หรือ นายเอกภพ เหลือรา ผู้ต้องหาคดี 112 นักศึกษาอาชีวะที่เคลื่อนไหวทางการเมือง จนต้องลี้ภัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ขณะนี้ และอยู่ระหว่างการติดตามตัวของรัฐบาลเผด็จการทหารไทย ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณีที่รัฐบาลทหารไทยให้ กระทรวงการต่างประเทศ ติดต่อกับรัฐบาลนิวส์ซีแลดน์เพื่อนำมาดำเนินดดีในประเทศไทยว่า เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ นิวส์ซีแลนด์จะส่งตัวกลับประเทศไทยเพราะขณะนี้ รัฐบาลนิวส์ซีแลนด์ได้รับรองสถานะการขอลี้ภัยให้กับตนแล้ว ถึงถือเป็นพลเมืองของนิวส์ซีแลนด์แล้วด้วย “สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เป็นผู้ส่งตัวผมมาที่นิวส์ซีแลนด์ หลังจากที่ผมทำเรื่องขอลี้ภัย เพราะเขาเห็นว่ากรณีของผมนั้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง แค่การแสดงความคิดทางการเมือง แต่ถูกตามไล่ล่าเป็นคดีอาชญากรรมระดับชาติ แต่สำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะยิ่งรัฐบาลไทยทำรุนแรงในสิทธิความเป็นคนของผมมากเท่าใด ยูเอ็น จะเห็นใจและให้ความช่วยเหลือมากขึ้นเท่านั้น และ นิวส์ซีแลนด์ก็เป็นประเทศประชาธิปไตยที่เห็นความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชนมากที่สุดประเทศหนึ่ง ดังนั้น ผมเชื่อว่าเขาไม่ฟังรัฐบาลเผด็จการไทยหรอก เขาฟังยูเอ็นมากกว่า” นายตั้ง กล่าว นายตั้งกล่าวต่อไปว่า ส่วน กลุ่มกปปส.ในนิวส์ซีแลนด์ ที่รวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอให้ นายกรัฐมนตรีนิวส์ซีแลนด์ ไล่ผมออกนอกประเทศ หรือยกเลิกการรับรองสถานะการเป็นพลเมืองในนิวส์ซีแลนด์นั้น ไม่ได้สร้างความกังวลแต่อย่างใด แต่ผมรู้สึกรำคาญมากกว่า และมีคนไทยที่เขารักความยุติธรรม รักความเป็นประชาธิปไตย ที่อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ ก็มาให้กำลังใจ เป็นจำนวนมากด้วยเช่นเดียวกัน นายตั้งกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลนิวส์ซีแลนด์ดูแลความปลอดภัยให้มากน้อยแค่ไหน นายตั้งกล่าวว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์กังวลว่า จะมีคนมาทำร้ายมากกว่า และเตือนไม่ให้เคลื่อนไหวอะไรในขณะนี้ แต่รัฐบาลนิวส์ซีแลนด์ไม่กลัวการเคลื่อนไหวของ กลุ่ม กปปส.นิวซีแลนด์แน่นอน “รัฐบาลนิวซีแลนด์ เขารับไม่ได้กับการทำรัฐประหารในประเทศไทยอยู่แล้ว เขายืนหยัดในเรื่องนี้มาตลอด ดังนั้น กปปส.นิวซีแลนด์ เคลื่อนไหวอย่างไรก็ไม่มีผล ผมก็ไม่กลัวด้วย แต่มันรำคาญมากกว่า” นายตั้งกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับความช่วยเหลือจาก ยูเอ็น ในลักษณะไหนอย่างไร ก่อนที่จะมาอยู่ในนิวส์ซีแลนด์ นายตั้งกล่าวว่า ได้รับการช่วยเหลือจาก ยูเอ็น เป็นอย่างดีทั้งจะให้เงินช่วยเหลือเป็นรายเดือนด้วยแต่ได้ปฎิเสธไป เห็นว่าควรจะเอาเงินไปช่วยผู้ลี้ภัยคนอื่นดีกว่า เพราะเมื่อเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์แล้ว ก็สามารถทำงานได้ ตอนนี้มีทำงานเป็นช่างเครื่องกล อยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในนิวส์ซีแลนด์ ซึ่งได้ใช้ความรู้ ตามวิชาชีพที่เรียนมา มีรายได้ และเลี้ยงชีพได้แล้วขณะนี้
รุ่นพี่เค้าเตือนไอ้ตั้งด้วยความหวังดี ผมหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงการลี้ภัยของตัวเองหรือคนอื่น (ด้วยเหตุผลที่กำลังจะบอก) แต่ขอถือโอกาสครั้งนี้ครั้งเดียว พูดเรื่องนี้และจะไม่พูดอีก (มีคนแชร์ข่าวนี้กันแล้ว และคงจะมีการพูดกันต่ออีก ตามข่าวคือ รมต.ต่างประเทศนิวซีแลนด์ปฏิเสธจะพูดเรื่องการลี้ภัยของ "ตั้ง อาชีวะ" ในนิวซีแลนด์ บอกว่าขัดกับหลักความเป็นส่วนตัว (privacy) และกฎหมาย http://www.3news.co.nz/…/nz-quiet-on-thai-request-to-track-… ) ................ ในความเห็นผม (ที่มาจากการศึกษาเรื่องนี้อย่างมาก) ผู้ลี้ภัยทุกคนควรพูดถึงเรื่องการลี้ภัยของตัวเอง รวมถึงเรื่องประเทศที่ให้การลี้ภัย #ให้น้อยที่สุด #ไม่พูดได้เลยยิ่งดี ไม่เพียงแต่ไม่มีประโยชน์ใดๆ แล้ว ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีผลเสีย ไม่เพียงต่อตัวเองและประเทศที่ให้การลี้ภัย ทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีผลเสียต่อคนลี้ภัยคนอื่นๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตด้วย (ตอนที่มีข่าว "ตั้ง" แล้วกษิต ภิรมย์ ออกมาให้ความเห็น จุดที่กษิตพูดเรื่องที่ว่าปกติคนลี้ภัยเขาไม่เอาการลี้ภัยมา "คุยอวด" กัน เป็นอะไรที่ถูก กษิตยังไงก็มี expertise หรือความเชี่ยวชาญเรื่องพิธีการและระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่) การที่คิดว่าเป็นเรื่อง "เยาะเย้ย" "อีกฝ่าย" เพื่อความ "สะใจ" เป็นอะไรที่ "เด็ก" (childish) นอกจากไม่มีประโยชน์อะไรเลยแล้ว ยังมีแต่มีโอกาสทำให้เกิดปัญหากับตัวเอง ประเทศที่ตัวเองพัก และคนลี้ภัยอื่นๆ ดังกล่าว ("กองเชียร์" หรือ "แฟนคลับ" ในไทยจำนวนไม่น้อย ที่ไม่เข้าใจปัญหาละเอียดอ่อนซับซ้อนของการลี้ภัย ก็พลอย "เชียร์" หรือ แสดงความ "สะใจ" อะไรไปด้วย) ป.ล. อันที่จริง ไม่ใช่เฉพาะกรณี"ตั้ง" เท่านั้น (แน่นอนกรณีนั้นอาจจะ"มาก"กว่าใคร) แต่แม้แต่คนที่ "อาวุโส" หน่อยบางคน ก็พูดอะไรในลักษณะที๋ผม (หรือหลายคนที่ผมพูดคุยเรื่องนี้ด้วย) เห็นว่า ไม่น่าจะพูด
+++ เฉลยแล้ว ตั้งอาชีวะ ได้สัญชาติ นิวซีแลนด์ เพราะ องค์การสหประชาชาติ เป็นผู้ช่วยเหลือ +++ กระทู้สนทนา รัฐบาลการเมืองประเทศนิวซีแลนด์ ***เผยยูเอ็นให้สถานะผู้ลี้ภัย ‘ตั้ง อาชีวะ’*** สื่อนิวซีแลนด์เผยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่ ‘ตั้ง อาชีวะ’ หลังผู้ต้องสงสัยละเมิดกฎหมายหมิ่นสถาบันฯผู้นี้หลบหนีผ่านกัมพูชา หนังสือพิมพ์ The New Zealand Herald รายงานในวันพฤหัสบดี ว่า รัฐบาลไทยต้องการให้ทางการนิวซีแลนด์ยกเลิกหนังสือเดินทางของนายเอกภพ เหลือรา หรือที่รู้จักกันในชื่อ ตั้ง อาชีวะ อายุ 23 ปี ซึ่งได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากสหประชาชาติ และไปพำนักอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์เมื่อปีที่แล้ว รายงานข่าวระบุว่า “ตั้ง อาชีวะ” ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าละเมิดกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ของไทย เมื่อไม่นานมานี้ เขาโพสต์ภาพของตนเองอวดหนังสือเดินทางของนิวซีแลนด์ เพื่อเย้ยหยันความพยายามของรัฐบาลทหารไทย ที่จะนำเขากลับไปดำเนินคดีในประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของนิวซีแลนด์ ยืนยันข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตได้พบกับเจ้าหน้าที่ไทยในกรุงเทพ เพื่อ “อธิบายนโยบายให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยของประเทศนิวซีแลนด์” โดยชี้แจงว่า บุคคลที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ มีสิทธิ์ที่จะพำนักในนิวซีแลนด์ได้ตามระบบโควตาผู้ลี้ภัย ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศของนิวซีแลนด์ กล่าวถึงกรณีตั้ง อาชีวะ ว่า ไม่ขอออกความเห็นใดๆด้วย “เหตุผลทางกฎหมายและความเป็นส่วนตัว” ขณะรัฐมนตรีต่างประเทศ เมอร์เรย์ แม็กคัลลี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามที่ว่า กรณีนี้จะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศไทยหรือไม่ ทั้งนี้ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของนิวซีแลนด์ ในตอนท้าย รายงานข่าวให้ข้อมูลภูมิหลังเกี่ยวกับนายเอกภพ เหลือรา ว่า เขาถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ระหว่างการปราศรัยในการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปลายปี 2556 นับแต่เกิดรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 รัฐบาลทหารได้กวดขันเอาผิดผู้มีความคิดแตกต่าง รายงานระบุว่า นายเอกภพได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากยูเอ็นเอชซีอาร์เมื่อปีที่แล้ว เขาหลบหนีผ่านกัมพูชาเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีในประเทศบ้านเกิด กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี. http://news.voicetv.co.th/thailand/152460.html http://hilight.kapook.com/view/113844 แก้ไขข้อความเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
นักล้างป่าช้าไม่ไปเหรอครับ ผมว่าดีนะ ไปตั้งชุมชนสวะที่โน่นไปเลยนะครับ ประเทศไทยจะได้เหลือแต่คนที่มีคุณภาพ แต่ขอเตือนนะ ภัยธรรมชาติรุนแรงกว่าบ้านเราเยอะ