กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อสาวกชาวเดอะค็อปทุกคนรวมถึงแฟนของทีมอื่นๆ เข้ามาสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น ความรู้สึก
หงส์หมายตา “คล็อปป์” หากขับ “ร็อดเจอร์ส” พ้นเก้าอี้ หงส์หมายตา “คล็อปป์” หากขับ “ร็อดเจอร์ส” พ้นเก้าอี้ ลิ เวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งเกาะอังกฤษ ตกเป็นข่าวลือเตรียมทาบทาม เจอร์เกน คล็อปป์ เทรนเนอร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เข้ามารับหน้าที่แทน แบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ หลังทำผลงานน่าผิดหวัง นับตั้งแต่เปิดฉาก พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2014-15 พล พรรค “หงส์แดง” เพิ่งปราชัยแก่ คริสตัล พาเลซ อย่างยับเยิน 1-3 ที่สนามเซลเฮิร์สต ปาร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จากประตูของ ดไวท์ เกย์ล, โจ เลดลีย์ และ ไมล์ เยดินัก ถึงแม้ ริคกี แลมเบิร์ต ซัดประตูแรกของตัวเองกับต้นสังกัดใหม่ ช่วงต้นเกม ทำ ให้ ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ พ่ายมา 3 เกมรวด และเก็บชัยเพียง 2 ตลอด 9 เกมล่าสุด (นับเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก) จนเหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” รวมถึงนักวิเคราะห์วิจารณ์เริ่มตั้งข้อสงสัยถึงแท็กติกของ อดีตผู้จัดการทีม สวอนซี ซิตี ขณะเดียวกัน ก็ยังมีแนวโน้มว่า คล็อปป์ วัย 47 ปี อาจมาสวมบทนายใหญ่แห่งถิ่นแอนฟิลด์ หากบอร์ดบริหารแยกทางกับ ร็อดเจอร์ส โดย อดีตบิ๊กบอส ไมน์ซ 05 ซึ่งมีข่าวพัวพันกับ อาร์เซนอล เช่นกัน ออกมาเผยสนใจโยกมาเผชิญความท้าทายบนสังเวียน ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี “ผมคิดว่า อังกฤษ เป็นประเทศเดียวที่ผมคิดว่า ผมสามารถทำงานได้ มันอยู่ติดกับ เยอรมนี และเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ผมพอจะเข้าใจภาษานิดหน่อย หากมีบางสโมสรติดต่อมา เราน่าจะได้หารือกัน”
พี่สาวของเราที่อยู่เยอรมันกระดี๊กระด๊ากับข่าวนี้มาก บอกว่า คล็อปป์ เก่งจริงๆ พร้อมกับบอกว่าให้บีร็อดพาบาโลไปด้วย 5555
ทีคาราเกอร์ยังให้อยู่จนแขวนสตั๊ด ทำไมทำกะเจิดแบบนี้ >_< ถ่ายเลือด? บีร็อดรับสัญญาใหม่พี่ขิงยังไม่คืบหน้า ส่อแววว่าจะยังไงยังไงอยู่สำหรับข่าวนี้ เมื่อ เบรนดัน ร็อดเจอร์ส บอสใหญ่ของลิเวอร์พูลยอมรับว่าสัญญาใหม่ของ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กับทีมนั้นยังไม่คืบหน้าเลย เจอร์ราร์ดจะหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าทางลิเวอร์พูลกำลังพิจารณาที่จะยื่นสัญญาฉบับ ใหม่ให้กัปตันทีมวัย 34 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อนักข่าวสอบถามถึงความคืบหน้าล่าสุด บีร็อดกลับไม่ตอบเรื่องนี้อย่างเต็มปากเต็มคำเหมือนเคย จนทำให้เกิดข่าวลือว่าลิเวอร์พูลเปลี่ยนใจไม่ต่อสัญญากับสตีวี่ จี เพราะไม่มั่นใจในศักยภาพซะแล้ว "ไม่ ผมไม่รู้เรื่องนั้น" ร็อดเจอร์สตอบนักข่าว ซึ่งในเกมล่าสุดเจ้าตัวก็ดร็อปเจอร์ราร์ดเป็นแค่ตัวสำรองด้วย "ผมคิดว่าสโมสรกำลังคุยกับตัวแทนเขาอยู่นะ ดังนั้นตอนนี้ผมไม่มีอะไรจะอัพเดท" ข่าวจาก Tribalfootball เวอร์ชั่นไทยโดย นายน้อยแห่งแอนฟิลด์ : www.liverpool.in.th
Liverpool FC ภาพการฉลองประตูของสตีเวน เจอร์ราร์ด ในเกมที่ลิเวอร์พูลชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 จากการทำประตูของ อดัม ลัลลานา. สตีเวน เจอร์ราร์ด และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ชมอัลบั้มภาพการแข่งขัน ได้ที่ http://thailand.liverpoolfc.com/photos/lfc-lei #LFCThailand
คืนนี้ ... น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของ ร๊อดเจอร์ .... ซึ่งสำหรับตัวผมเอง ... โอกาสของเค้าน่าจะหมดไปแล้ว ... อยู่ที่ว่าจะรอให้จบฤดูกาลก่อนหรือเปล่าเท่านั้น ...
วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม 2557 [แดงเดือดพรีวิว] แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล Posted by พี่หลุยส์กากเสีย , ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นศึกแดงเดือดระหว่างคู่รักคู่แค้นตลอดกาลอย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งอาจจะมาเจอกันไม่ค่อยถูกเวลาเท่าไหร่เพราะว่าเจ้าบ้านฟอร์มกำลังร้อนแรง มากในขณะที่ลิเวอร์พูลกำลังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ฟอร์มไม่ค่อยคงที่เท่าที่ควร แดงเดือดเกมนี้เจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่อนข้างประสบปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักโดยเฉพาะกองหลังตัว หลักที่เจ็บไปถึง 4 ตัว ทั้ง คริส สมอลลิ่ง, ราฟาเอล, ลุค ชอว์ และ ฟิล โจนส์ ส่วนในรายของนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีกอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ก็ยังคงไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ เช่นเดียวกับ ดาลี่ย์ บลินด์ ที่เปิดเทอมยาวไปล่วงหน้าก่อนเรียบร้อยแล้ว ส่วนด้านเกมรุกยังคงอยู่ กันพร้อมหน้า ทั้ง 3 ประสาน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวย์น รูนี่ย์ และ ฆวน มาต้า พร้อมลงล่าตาข่ายแน่นอนในเกมนี้เหมือนเดิม ทางด้านทีมผู้มาเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล นัดนี้ถือว่าขุมกำลังนักเตะค่อนข้างพร้อม ไม่มีเรื่องอาการบาดเจ็บรบกวนมากนัก จะมีก็แต่ปัญหาเรื่องอาการล้าของนักเตะจากเกมกลางสัปดาห์ เกมรับอาจจะต้องเช็คความฟิตของ โคโล่ ตูเร่ ที่สอดแทรกขึ้นมาโชว์ฟอร์มโดดเด่นจนเบียด เดยัน ลอฟเรน หลุดไปเป็นสำรองได้ ส่วนเกมรุกตัวที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วอย่าง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ มาริโอ บาโลเตลลี ก็ยังคงไม่สามารถใช้บริการได้ในนัดนี้เช่นเดิม รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เด วิด เด เกอา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, จอนนี่ อีแวนส์, มากอส โรโฮ, แอชลี่ย์ ยัง, ไมเคิ่ล คาร์ริค, มารูยาน เฟลไลนี, อันแดร์ เอร์เรร่า, ฆวน มาต้า, เวย์น รูนี่ย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลิเวอร์พูล : :ซิ มง มิโญเล่ต์, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, โคโล่ ตูเร่, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, ลูคัส เลว่า, สตีเวน เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ริคกี้ แลมเบิร์ต ผลการแข่งขันที่คาด โดย BKK999 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1ลิเวอร์พูล ที่มา: http://www.oknation.net/blog/pluisgagsia/2014/12/12/entry-1
แมทช์เจอกะเบิร์นลีย์เมื่อคืน ดูไปถอนหายใจไป ทำไมถึงได้ห่วยขนาดนี้ เล่นยังกะไล่โค๊ช ถึงเกมส์จะจบลงด้วยชัยชนะ แต่เล่นได้แค่นี้ จบซีซั่นของลิเวอร์พูลคงอยู่อันดับที่10กว่า หมดสิทธิ์ลุ้นถ้วยยุโรปแหงมๆ
หงส์กลับมาแล้วววว ที่มา: liverpooltalk.com : หงส์แดง ลิเวอร์พูล The Kop [LFC Supporters] YNWA 8 ชม. ·
''เกมสุดท้ายตามโปรแกรมสิ้นปี2014 คือคืนแห่งความสุขสำหรับ ''เดอะ ค็อป'' ลิเวอร์พูลเอ็คโค่ โปรยไว้อย่างนั้นครับ อนุญาตตัวเองให้เห็นด้วย คาดหวังถึงชัยชนะ ... ใช่ครับ เจอสวอนซีในบ้านตัวเอง รูปลักษณ์ไม่แตกต่าง ผู้จัดการทีมผ่านจุดนั้นมาแล้ว รู้อะไรเป็นอะไร สองเกมหลังเจอกันที่แอนฟิลด์เฉพาะเกมลีกยิงหงส์ขาว 9 ดอกเน้นๆ เพียงแค่รูปเกมที่ออกมา โดดเด่นกว่านั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มีรอยยิ้มมากขึ้น แม้กระท่อนกระแท่นอยู่บ้างแต่ความจริงคือก่อนโม่แข้งนัดนี้ 8 เกมหลังสุดทุกรายการพวกเขาแพ้แค่นัดเดียว ทีมชีทโผล่หน้าจอ หลายจุดชวนเสวนา ซิมง มิโญเลต์ กลับมายืนตัวจริงในรอบสี่เกม แนวรับเปลี่ยน เอ็มเร่ ชาน แทน โคลู่ ตูเร่ เหมือนครึ่งหลังนัดก่อนบุกชนะเบิร์นลีย์ กลางสนามพัก สตีเว่น เจอร์ราร์ด,ลาซาร์ มาร์โควิช ขยับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เล่นคู่ ลูคัส เลว่า ส่วนวิงแบ็คขวาซ้าย ฆาบี มานกีโย่, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ รับสัมประทาน จุดสำคัญคือริมเส้นสองข้าง ไม่ต้องรอบทวิเคราะห์สำนักก็เห็นคล้ายกันครับ การใช้วิงแบ็คแบบธรรมชาติมีผลบวกมากกว่า มานกีโย่,โมเรโน่ คือผลผลิตเพื่อตำแหน่งนี้โดยเฉพาะ ยืนฟูลแบ็คโดยตรงยังเคอะเขิน,เก้ๆกังๆ จังหวะไหนควรเติม,จังหวะไหนควรอยู่ แต่วิงแบ็ค คุณคือเจ้าของพื้นที่ทั้งหมด ฉะนั้นทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่ใกล้บอลมากสุด เงื่อนไขชิ้นโตคือความฟิตและพลังงาน หากวัดเรื่องนี้ ดูโอสแปนิช สอบผ่านฉลุย รอว่าช่วงไหนควรเติม รู้ว่าช่วงไหนควรนิ่ง ตลอดครึ่งแรกด้านซ้ายมีทางผ่านมากกว่า โมเรโน่ ไล่บี้วิ่งห้อเต็มพื้นที่ มานกีโย่ เตรียมสมาธิได้ดี เพ่งมองตลอด ยืนตำแหน่งมิดชิดตลอด เกมขึ้นด้านซ้าย มามาดู ซาโก้ ต้องขยับชิดริมเส้นเพื่อคอยซ้อนวิงแบ็ค ระบบมันจะขยับด้วยตัวมันเองครับ ชาน-สเคอร์เทล ขยับตามด้วย ฉะนั้น มานกีโย่ ต้องขยับเช่นกัน อาจเป็นเรื่องเล็กน้อย กระนั้นทำให้สมดุลคงอยู่ วิงแบ็ครายอื่นบางทีมีเผลอลอยเผื่อบอลข้ามฝากแล้วขอลุ้นบุกต่อเนื่อง มานกีโย่ใช้ความอดทนเข้าสู้ เน้นยืนตำแหน่งก่อนแล้วค่อยว่ากัน มุมเล็กๆนี้เกื้อหนุนให้ โมเรโน่ ขับพลังเต็มเหนี่ยว นึกภาพ ลาซาร์ มาร์โควิช อาจได้เปรียบช็อตทะลุทะลวงมากกว่า ตะลุยเลี้ยงหลบได้มากกว่า แต่ถ้าคุณอยากได้วิงแบ็คอาชีพที่รู้ว่าควรเล่นแบบไหน,จังหวะไหนต้องทำอะไร โมเรโน่ ดูสมบูรณ์แบบกว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีเสียงปรบมือไล่หลังเช่นกัน โดนจับไปยืนวิงแบ็คขวาสามสี่นัดทำเอา "ท่านรอง" ของแม่ยกหลายคนกลายเป็นแข้งดาดๆดื้อๆ กลับมายืนตำแหน่งคุ้นเคย เหมือนปล่อยนกบินในป่าปล่อยปลาลงว่ายน้ำ - ทำอะไรถูกต้องไปหมด จับบอล,เล่นสั้น,เคาะตามช่อง,สอดเข้าเขตโทษ,มองหาที่ว่าง...แล้ววาง ไม่ใช่วางพร่ำเพรื่อ ทำเมื่อถึงเวลาควรทำ ประตูแรกตอบโจทย์ทั้งหมด โมเรโน่ ทะลุจากตำแหน่งตัวเองจี้เข้ากลางฝากถึง อดัม ลัลลาน่า แทงต่อให้ เฮนเดอร์สัน เข้าเขตโทษแล้วตบเข้ากลาง โมเรโน่ ตามมาปิดบัญชี สภาวะซีซั่นอึมครึม การเห็นนอะไรแบบนี้เหมือนยาชูกำลังครับ ขนาดบอลเตะตีสามยังตาสว่างขึ้นมาบัดดล เหนือสิ่งอื่นใดคำชื่นชมทั้งหมดทั้งมวล ผมรู้สึกว่าควรคารวะแนวรุกสามประสานด้วย ไม่มีหน้าเป้า...ไม่เป็นไร ถ้าสามคนนี้เล่นได้ตามมาตรฐานต่อไป พอเห็นอนาคตอยู่บ้าง แท็คติคข้างสนาม ร็อดเจอร์ส พยายามใช้ความคล่องตัว คูตินโญ่,ลัลลาน่า,สเตอร์ลิง ไล่บี้ตั้งแต่แดนหลังเพราะสอวนซีเป็นประเภทเกิดมาเพื่อต่อบอลสั้น .... ก็บีร็อดเป็นคนให้กำเนิดเอง ทำไมจะไม่รู้ สามคนวิ่งไม่มีหยุด โดยเฉพาะ ลัลลาน่ากับคูตินโญ่ มีส่วนร่วมเกมรับมากกว่านัดอื่น บีบตั้งแต่แดนหลังแนบชิด แจ๊ซซ์ ริชาร์ดส และ นีล เทย์เลอร์ จนปิดการขึ้นเกมริมเส้นไปเลย ต่อให้เล็ดลอดขึ้นมาตรงกลาง ลี บริตตัน, จอนโจ เชลวีย์ เจออีกด่าน ลูคัส เลวา ยืนเท้าสะเอวพร้อมรอยยิ้มหิวกระหาย โผล่มา...จิ้ม,โผล่มา..ปะทะ โดยมี เฮนเดอร์สัน เก็บตกรอพลิกรับเป็นรุกให้เร็วที่สุด เช่นกันจากแดนหลัง เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้ ตื่นตัวตลอดเวลา ครึ่งแรก เกมด้านกว้าง เวย์น เราท์เลดจ์, เนธาน ดายเออร์ มีใบประกาศตามหาคนหาย ต้องยกนิ้วให้ ชาน และ ซาโก้ กว่าทีมเยือนเซ็ตเกมผ่านมาถึง กิลฟี่ ซิเกิร์ดสันได้ ก็ลำบากพออยู่แล้ว เตรียมจ่ายขึ้นหน้า .... ชาน ขยับหา เราห์เลดจ์, ซาโก้ ขยับหา ดายเออร์ ปล่อย สเคอร์เทลแนบชิดโบนี่ ไม่เหลือช่องแล้วครับ ทุกขุมกำลังยอดเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้น...ครึ่งหลังเล่นดีกว่าเดิมอีก ธรรมดาหลายครั้งนำแล้วถอยมารับต่ำจนเป็นเหตุให้เสียประตู นัดนี้ลิเวอร์พูลเล่นเหมือนเดิม...ดุดันกว่าครึ่งแรกด้วยซ้ำ ลัลลานา,คูตินโญ่ ไล่กวดตั้งแต่หน้าเขตโทษคู่แข่ง สเตอร์ลิง ปั่นป่วน หลุดถึงแดนกลางขยับเข้าเต็มเหนี่ยว แดนหลังจ้องปะทะเหมือนเดิม ประตูสองคือตัวอย่างชัดเจน สเตอร์ลิงบีบวิลเลียมส์ตั้งแต่ได้บอล คืนหลังไปถึง ฟาเบียนสกี้ มอบของขวัญก้อนโตให้ ลัลลาน่า ห้วงเดียวชวนเสียวคือโดนตีไข่แตก รวมถึงหลังเขี่ยบอล มามาดู จ่ายบอลเข้าทาง โบนี่ ดื้อๆ เกือบโดนสองตุงในหนึ่งนาที สมาธิสำคัญครับ บางครั้งมีช็อตหลุดแค่เสี้ยววินาทีเกือบโดนสองตุง .... บทเรียนไว้แก้ไขต่อไป ส่วนพื้นที่อื่นเพียบพร้อมด้วยคำชม ประตูสามตอกย้ำอีกครั้งกับทีมเวิร์กแดนหน้า รวมถึง จอนโจ เชลวีย์ ส่งความสุขปิดกล่อง ให้ความเป็นธรรมต่อร็อดเจอร์ส เราอาจพูดได้ว่าเจอระบบลงตัวสักที ใช้เวลาปรับเปลี่ยนครึ่งซีซั่นจากหลุมดำคู่กองหน้า ซัวเรซ-สเตอร์ริดจ์ ปัญหาคือ อนาคตอันใกล้กล้าวางชุดเดิมนานแค่ไหน ไม่ต้องมองไกลครับวันปีใหม่เจอ เลสเตอร์ ผมเชื่อว่าเราได้เห็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด คัมแบ็คแน่ ....คำถามคือร็อดเจอร์สจะทำอย่างไร? กัปตันคืนตัวจริง ระหว่าง เฮนเดอร์สัน-ลูคัส ต้องมีใครโดนถอด หรือจับเฮนโด้ไปยืนวิงแบ็คอีก แล้วมานกีโย่ล่ะ...เอาไปไว้ไหน หากยึดระบบนี้ยาวๆ ปราการหลังมีครบแล้วครับ ชาน-สเคอร์เทล-ซาโก้ ส่วน ลอฟเรน รอโอกาสไปก่อน แดนหน้าสามคนปล่อยให้เล่นด้วยกันยาวๆเลย ลัลลาน่า,คูตินโญ่,สเตอร์ลิง มี มาร์โควิช เตรียมขยี้ช่วงท้ายเกม จากนั้นรอแค่ สเตอร์ริดจ์ หายเดี้ยง และ บาโลเตลลี่ นับหนึ่งในเกมลีกได้หรือไม่ แผงมิดฟิลด์นี่แหละ น่าสนใจ วิงแบ็คซ้ายไม่ต้องคิดมากแล้วครับ ไม่ต้องทดสอบอะไรแล้ว ถ้ายึดระบบนี้ต้อง อัลเบร์โต้ โมเรโน่ เท่านั้น ชิ้นส่วนอื่น มีเครื่องหมายคำถามอยู่บ้าง ผมหมายถึงหากมีเจอร์ราร์ดอยู่ในสนาม ทุกอย่างจะเหมือนเดิมหรือไม่? หรือต้องเดินเครื่องเหมือนเดิม ถอยไปรับบอลจากแดนหลัง ใช่ครับ...ระยะห่างตรงนั้นห้าหลา-สิบหลาไม่มีผลเท่าไหร่ รับบอลมามองไกลมากกว่าใกล้ บางครั้งวิงแบ็คตีรถเปล่าหลายเที่ยว ลิเวอร์พูลไม่มีหัวหอกประเภทโฉบเฉี่ยวอย่างซัวเรซแล้ว วางยาวจากแดนหลังคงไม่ต้องใช้บ่อย เทียบกับนัดนี้ ลูคัส-เฮนโด้ ไม่มีใครถอยต่ำขนาดนั้น ไม่ต้องเสียเวลาเซ็ตเกม ส่วนหนึ่งเพราะแดนหน้าวิ่งไล่ให้ได้เปรียบ แต่ต้องให้เครดิตคู่กลางที่ทำงานเป็นมิดฟิลด์จริงๆด้วย ไม่ได้อคติอะไร ระดับแข้งตำนานทุกคนพร้อมยกขึ้นหิ้ง โจทย์ใหญ่คือบีร็อดจะทำอย่างไรให้เจอร์ราร์ดรู้สถานะตัวเอง แล้วขับพลังจุดนั้นช่วยทีมมากสุด ทั้งหมดคือที่มาของหัวเรื่อง ในเมื่อทำดีอยู่แล้ว จงทำต่อไป .... แต่จะทำได้รึเปล่า? ยักษ์ ดอยแดง ที่มา:http://www.siamsport.co.th/Column/141230_421.html
หมดหวังที่จะเห็นเจิดชูโทรฟี่แชมป์พรีเมียร์ลีกในฐานะกัปตันทีม แต่ยังมีความหวังที่จะเห็นเจิดกลับมาพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมพรีเมียร์ลีกในฐานะผู้จัดการทีม T_T
ปืนประเดิมไปแล้วสวย ๆ มะคืน 2-0 ผีก็บุกชนะ 0-2 เหมือนกันนน เกมคืนนี้ วิมเบิลดัน VS ลิเวอร์พูล 04 ม.ค. 2558 Read 491 times วิเคราะห์บอลย้อนหลัง วิมเบิลดัน ลิเวอร์พูล ทัศนคติวิเคราะห์บอล - วิมเบิลดัน เล่นเกมนี้ด้วยกำลังใจดีหลังยำ เอ็กเซอร์เตอร์ 4-1 ชัยชนะทำให้พวกเขาขึ้นส่วนบนของตาราง - หงส์แดง ทำได้เพียงเสมอ เลสเตอร์ 2-2 และนี่น่าเป็นโอกาสของ เบรนดัน ร็อดเจอร์ส ในการพาลูกทีมกลับเข้าสู่เส้นทางสายชัยชนะอีกครั้ง - วิมเบิลดัน หวังใช้ความได้เปรียบในบ้าน แต่ไม่น่าเกินกำลังทีมจากพรีเมียร์ลีก วิเคราะห์ผลบอล: วิมเบิลดัน 1-3 ลิเวอร์พูล รอดูการลงสนามของโอ้
ง่ะ พอจะย้ายออกที เหมาคนเดรียว 2 เรย อิอิ FT AFC Wimbledon 1 - 2 Liverpool half-time: (1 - 1) match details : 12' 0 - 1 Steven Gerrard 36' Adebayo Akinfenwa 1 - 1 62' 1 - 2 Steven Gerrard © 1998-2015 LiveScore
เจอร์ราด เหมาะกับตำแหน่ง กลางรุก ที่ยืน กลางรับตอนปลายฤดูกาลที่แล้ว แล้วได้ผลดีนั้น เพราะมีกองหน้าช่วยไล่ และเก็บบอล ปีนี้กองหน้ากับกองกลาง โดน รอดเจอร์ ยำซะ...... คิดถึง คิงเคนนี่
ขาดคู่หน้าอย่าง S&S ไปแทบจะขาดใจ สเตอริงคนเดียว ช่วยทีมได้ไม่มากเท่าที่ควร หน้าตัวอื่นก็ดีมั่งร้ายมั่ง ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ คิดถึง คิงเคนนี่เหมือนกันค่ะ
คืนนี้ เจอสเปอร์ เวลา 03.00 น. ในบ้านด้วย ต้องชนะครับ หากอยากลุ้นอันดับ 4 แต่แย่หน่อย เทพลูคัส เจ็บ ลงไม่ได้
นาทีที่ 83 ... เทพ มาริโอ้ บาโลเตลี่ ยิงประตู ให้หงส์ ขึ้นนำไก่ 3-2 แล้วครับ... ... หมดเวลา ... ... ชนะแล้วครับ ดีใจด้วยครับ
ไฮไลต์เต็มครับ ชนะแบบเหนื่อยๆ แต่ก็ชนะ บาโล ยิงได้ซะที อาจจะเรียกความมั่นใจมาได้บ้าง ลุ้นกันยาวๆ ครับ ปล. เห็นกัปตันยิงจุดโทษแล้วดีใจ ลูกทีมมากอด แต่ลึกๆ ก็คิดนะ ปีหน้าใครจะยิงจุดโทษได้เยี่ยมอย่างกัปตันบ้างนะ เฮ้อ
ชนะอีกแล้วครับ 1 : 2 สเตอริดจ์กับลัลลานา คนละเม็ด หริดแดนซ์กับโมเรโน่ด้วย บรรยากาศในทีมตอนนี้เยี่ยมมากครับ นัดต่อไปยูโรปา เจอเบซิคตัสในบ้าน เชียร์กันต่อไปครับ