การประชุมเพื่อพิจารณาด้านการเงินในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ร่วม ไทย-จีน ถึงกับชะงัก เมื่อทางการจีนเสนอดอกเบี้ยในการกู้เงินสูง 2-4 % ต่างจากที่ไทยเคยกู้จากญี่ปุ่นที่มีดอกเบี้ยเพียง 1.5 % นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการเงินและรูปแบบการลงทุนภายใต้บันทึกความเข้าใจ ไทย-จีน เรื่องโครงการดำเนินงานก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอยมาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทางรวม 873 กิโลเมตร ว่า รัฐบาลจีนเสนอรูปแบบการลงทุนแบบการกู้ร่วมกันผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน โดยฝ่ายจีนเสนออัตราดอกเบี้ย 2-4% ระยะเวลาคืนทุนภายใน 20 ปี นอกจากนี้จีนยังเสนอตัวขอเป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง ก่อสร้างงานโยธา และเดินรถเองด้วย ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าจะเป็นผู้บริหารการเดินรถเอง ทั้งนี้จากการพิจารณา ฝ่ายไทยเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอมายังสูงเกินไป เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินกู้ 1.5% ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(ไจก้า) ที่ไทยกู้มาสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งฝ่ายไทยขอให้จีนกลับไปปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก รวมทั้งขอเพิ่มระยะเวลาปลอดหนี้ให้มากขึ้นด้วย ซึ่งฝ่ายจีนจะต้องนำข้อเสนอของไทยไปเสนอให้รัฐบาลพิจารณาก่อนหากจีนลดอัตราดอกเบี้ยแล้วยังไม่พอใจ ไทยก็อาจจะพิจารณาแหล่งเงินกู้แห่งอื่นที่คิดดอกเบี้ยถูกกว่านี้รูปแบบการลงทุนรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ คาดว่าจะสามารถดำเนินการเจรจาในรายละเอียดและได้ข้อสรุปในการประชุมร่วมกับจีนครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 11-12 ก.พ. 2558 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แต่ยืนยันว่าการดำเนินงานในครั้งนี้จะเป็นรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือ จีทูจี http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423178874
รัฐบาลปูเน่านี่ ต่างชาติคบมากเลยนะ แล้วไปขายข้าวราคาถูกให้จีนทำไมว่ะ ให้จีนมันเอาเปรียบทำไม ไม่ไปขายข้าวราคาแพงให้อเมริกา อียูล่ะ ควายแดงเอ้ย นับวันยิ่งควายมากขึ้นทุกทีนะ
ทักษิณฉวยโอกาสคบจีน หาผลประโยชน์ในจีน ซื้อบ้านอยู่ที่ Reignwood Pine Valley ไมไม่หาซื้อบ้านที่เมกาซักหลังหนึ่งนะ สงสัยเมกาไม่อยากคบด้วย เหอๆ ทักษิณไปเมกาอีกหรือป่าว 555+
อ่านข่าวอื่นนอกจากมติชินบ้างก็ได้ ยังไม่รู้เลยว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ เอาเงินจากไหน แล้วกู้จากใคร ถ้ากู้จีนแล้วดดอกสูง เงินในประเทศก็เหลือพอจะให้กู้อยู่แล้ว ***************************************************** "ประจิน" เล็งกู้เงินในประเทศสร้างรถไฟไทย-จีน ช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวค.เตรียมการสำหรับเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่าง ไทย - จน ครั้งที่ 2 ก่อนที่ พล.อ.อ.ประจิน จะเดินทางไปหารือรอบสุดท้ายที่จีนในวันที่ 11-13 ก.พ.2557 พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า การเดินทางไปประชุมครั้งนี้จะได้ข้อสรุปด้านการเงินและสัดส่วนการลงทุนรถไฟรางคู่มาตรฐานของไทยและจีน และคาดว่าปลายเดือน ก.พ.ถึงต้น มี.ค.นี้ จะเริ่มออกแบบละสำรวจพื้นที่ก่อสร้างได้ รวมทั้งจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าการกู้เงินหรือการลงนามที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้จะต้องเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือไม่ ทั้งนี้ จีนเสนออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 2-4 % ระยะปลอดหนี้ 4 ปี ถือว่าอัตราสูงเมื่อเทียบกับการกู้เงินจากญี่ปุ่นเพื่อก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงค์ที่อยู่ระดับ 1% ไทยต้องการอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า 2 % แต่ถ้าเจรจาไม่ได้ก็จะกู้เงินในประเทศแทน ซึ่งเชื่อว่าสภาพคล่องในประเทศมีเพียงพอที่รัฐจะกู้เงินเพื่อลงทุนโครงการนี้ ตามแผนงานจะแบ่งก่อสร้างเป็น 4 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร ช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 246.5 กิโลเมตร จะก่อสร้างได้เดือนกันยายนหรือต้นเดือนต.ค. 2558 ส่วนช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 กิโลเมตร และช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร จะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนธ.ค.2558 หรือต้นปี 2559
ไทยขาดดุลจีนมหาศาล แล้วจะสร้างทางรถไฟรางคู่ขนสินค้าจีนมาตีตลาดไทยเพื่อ? ไทยได้ดุลยุโรป-อเมริกา ฝรั่งจึงใช้ตรงนี้มากดดันไทยในเรื่องที่เขาต้องการ แล้วไทยละ? กู้เงินดอกสูง แล้วให้จีนเก็บค่าตั๋ว เพื่อขนสินค้าจีนมาถล่มตลาดไทย คือ ผมงงกับความคิดรัฐบาลไทยทุกยุค
ผมว่าเรื่องรถไฟทางคู่เพื่อขนสินค้า มันไม่เกี่ยวกับสินค้าจีนโดยตรงนะครับ เพราะปัจจุบันแค่มีท่าเรือเชียงแสน ก็ขนส่งสินค้าเรื่องผลไม้จนไทยขาดดุลอยู่แล้ว เรื่องการค้าขายแล้วขาดดุล เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกำแพงภาษีเป็นหลักมากกว่าครับ เหมือนที่ไทยโดนตัด GSP ไงละครับ ส่งออกฮวบเลย อย่าลืมว่าปลายปี 58 AEC จะเปิดเสรี กำแพงภาษีใน AEC เป็น 0 แต่กับจีน ไม่ใช่ 0 นะครับ ดังนั้นการเชื่อมคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านรอบตัวเรา ทำให้เราสามารถเข้าถึงทรัพยากรของประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็วในอัตราภาษีที่เป็น 0 นอกจากนี้ รัฐบาลนี้ยังไปตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ชายแดน อันนี้ละครับไม้เด็ด สามารถใช้แรงงานต่างชาติได้แบบเช้าไปเย็นกลับ ไม่ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานแบบปกติ ค่าจ้างต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ โรงงานตั้งฝั่งไทยเพราะสาธารณูปโภคพร้อมกว่า สามารถเก็บภาษีเข้าประเทศได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมไม่ต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีไปให้ประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้แรงงานต่างชาติเข้าสู่หัวเมืองชั้นในด้วย ปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำจีนแพงกว่าไทยนะครับ ดังนั้นถ้าเราลดค่าใช้จ่ายจากเรื่องค่าจ้างและการขนส่งได้ สินค้าไทยก็มีโอกาสแข่งกับสินค้าจีนได้มากขึ้นนะครับ
FTAไทยจีน หอมกระเทียมไทยเจ๊ง ส่วนลำไย จีนมาตั้งบริษัทในไทยเป็นยี้ปั้วแข่งกับคนไทย ทำไมไทยไปทำข้อตกลงกับประเทศอะไรก็ตาม...เจ๊งตลอด http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000058318
อันนั้นว่าเค้าไม่ได้ครับ ต้องโทษนักการเมืองเราเองแล้วละครับ ออกกฏหมายไม่รอบคอบเอง เรื่องยี่ปั้ว เค้าก็เล่นตามกฏ แทนที่เราส่งออกไปกินค่าหัวคิวค้าส่ง เค้าก็แก้เกมมาตั้งบริษัทเองไม่ต้องเสียค่าหัวคิวซะงั้น แต่การสร้างรถไฟทางคู่ ไทย-จีน ก็มีประโยชน์อีกอย่างนะครับ กำแพงภาษีไม่เป็น 0 สินค้าเข้า-ออกก็ไม่เปลี่ยนแปลง แต่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวนี่ไม่เกี่ยวกับกำแพงภาษีนะครับ ยิ่งนักท่องเที่ยวมาได้ง่าย รายได้ก็เข้าไทยโดยไม่เกี่ยวกับกำแพงภาษีเหมือนกัน แล้วอีกอย่างสินค้าที่ไทยนำเข้าจากจีน 10 อันดับแรก ส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าที่ไทยผลิตไม่ได้หรือได้แบบไม่ครบส่วนนะครับ http://www.apecthai.org/apec/th/pro...าราง 2: สินค้า 10 อันดับแรกที่ไทยนำเข้าจากจีน
จีนเอาเปรียบไทยยังไงหว๋า.......นั่นมันข้อเสนอของจีน ไม่ใช่ข้อบังคับของจีน จีนเสนอมายังไงก็ได้ ไทยจะรับหรือไม่รับ ขึ้นอยู่กับเรา อย่าโง่