เจ๊ อย่าลิงโลดดีใจจัดงานเลี้ยงฉลองล่ะ วันนี้ได้เห็นข่าวแล้วรู้สึกว่าไม่มีการนิ่งเฉยของหย่วยงานบางหน่วย ปปง.ได้ประกาศยึดทรัพย์อายัดทรัพย์ นายศุภชัย พร้อมพวกแล้วนะเจ๊ ปปง.เปิดก่อนแล้วไม่รู้หน่วยงานไหนจะตามมาอีก มาแนวเดียวกับเดอะกิ๊กเลยนะเจ๊ นี่ถ้า DSI ลงเล่นฐานฉ้อโกงธัมมี่โดนด้วยนะเจ๊ รับของโจร อย่างที่พระพุทธอิสระบอกไว้ คุณไพศาลบอกไว้ ธัมมี่ตอนนี้มันก็ลุ้นเหงื่อแตกแล้วสมรู้ร่วมคิดรับของโจร แถมมีเอกสารยอมรับในการใช้หนี้ด้วย มัดตราสังข์ตัวเองเพราะเท่ากับว่ายอมรับว่ารับเงินส่วนนั้นจริง ๆ แล้วนี่ยังไม่เข้าไปให้ปากคำกับ DSI ด้วยเพราะเลื่อนนัด ดีที่ ปปง.จัดการก่อนไม่งั้นหนักกว่านี้ และก็กำลังตรวจสอบว่าเงินมันเดินไปไหนต่ออีก ใจเย็นนะเจ๊นะ เรื่องมันชักยาวแล้วล่ะ ส่วนพวกผมคงนั่งรอดูผู้เล่นทีม DSI ว่าจะเล่นแบบไหนต่อไป
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาทประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงความคืบหน้าการยึดและอายัดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง นายศุภชัย ศรีอักษรอดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน จำกัด ว่าจากการติดตามเส้นทางการเงินพบว่า นายศุภชัยนำเงินที่ได้จากการยักยอกทรัพย์สหกรณ์ไปซื้อทรัพย์สินหลายรายการที่มีการปกปิดด้วยการใช้ชื่อบุคคลอื่น โดยล่าสุดคณะกรรมการธุรกรรมมียึดและอายัดทรัพย์เพิ่มเติม 192 รายการ คิดเป็นมูลกว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นทรัพย์ของบุคคล 8 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับโอนทรัพย์สินจากนายศุภชัย ประกอบด้วย นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล นางรินนาวัฒนาศิรินุกุล นายกิตติธัช วัฒนาศิรินุกุล นายวัฒชานนท์นวอิสรารักษ์ นางสิริกร นวอิสรารักษ์ น.ส.อริสรา นวอิสรารักษ์ นายอภิชัย ศรีม่วงงาม และนายธวัช ฮ่วนสกุล สำหรับรายการทรัพย์สินที่ยึดและอายัดมีดังนี้ 1.หุ้นในบริษัทเอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอส.ดับบลิว.ภูเก็ตกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอส.ดับบลิว.ลันตากรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 11 รายการ มูลค่า 6,600 ล้านบาท 2.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างใน จ.ปทุมธานี 7 รายการ 3.รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 4 รายการ 3.บัญชีเงินฝากธนาคาร 18 บัญชี 194,205 บาท 4.หุ้นในบริษัท จีแอลโอดับบลิว ดีเวลล็อปเม้นท์จำกัด 3 รายการ มูลค่า 500 ล้านบาท 6.ที่ดินตามโฉนด 24 รายการ และ 7.ทองรูปพรรณ พระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องประดับ อาวุธปืน กรมธรรม์ บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 125 รายการเลขาธิการ ปปง. กล่าวต่อว่า ปปง. ยังคงติดตามตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว หากพบว่าเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็ต้องยึดและอายัดไว้เพื่อนำไปชดใช้ให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด โดยก่อนหน้านี้ ปปง. มีมติยึดและอายัดทรัพย์นายศุภชัยคิดเป็นมูลค่าเกือบ 4,000 ล้านบาท รวมกับครั้งนี้ทำให้มีทรัพย์ที่สามารถเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายประมาณ 10,000 ล้านบาทยืนยันว่าผู้เสียหายในคดีดังกล่าวจะไม่สูญเงินทั้งหมด แต่จะได้รับเงินคืนมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการทรัพย์สิน ซึ่ง ปปง. ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหลังจากนี้จะส่งทรัพย์สินที่ยึดและอายัดได้ทั้งหมดกลับไปให้พนักงานสอบสวนเพื่อส่งต่อไปบริหารจัดการเลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่สหกรณ์ฯ ได้รับคืนเงินค่าเช็คสั่งจ่ายบริจาคเข้าวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยเป็นเงิน 684 ล้านบาท นั้นเป็นการคืนเงินตามจำนวนเช็ค 13 ฉบับที่วัดและพระยอมรับว่าได้รับบริจาคเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การสอบสวนความผิดในคดีอาญาเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ต้องพิสูจน์เจตนาของผู้รับแต่ย้ำว่าเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สิน ปปง. ยังคงต้องตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีเช็คที่สั่งจ่ายให้กับพระวัดพระธรรมกายรูปอื่นที่ยังไม่มีการคืนเงินทั้งพระมนตรี พระครูปลัดวิจารย์ รวมถึงบางส่วนที่บริจาคให้กับมูลนิธิด้วย..http://dailynews.co.th/Content/crime/308408/ปปง.+ยึดทรัพย์โกงคลองจั่นเพิ่ม+7+พันล้าน
2พระครูวัดพระธรรมกายเข้าพบพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อชี้แจงกรณีเงินบริจาคสหกรณ์ฯคลองจั่น วันนี้(20 มี.ค.58) พระครูปลัดวิจารณ์ ธีรังกุโร อดีตพระเลขาเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและพระมนตรี สุดาภาโส พระลูกวัดพระธรรมกาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตามหมายเรียก เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ปรากฏชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กว่า 100 ล้านบาท
ลัทธินี้เข้าวัดไหน เสื่อม ก็ว่าแล้วพฤติกรรมทุบโบราณสถาน กระทั้งอัฐิเจ้าจอมต้นตระกูลผู้สร้างวัดยังทุบ ชาวบ้านรอบวัดก็ไล่ที่เขา นึกแล้วไม่ผิด สาวกธรรมกาย ราชสกุลประวิตรโวยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรสั่งทุบเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่ม พระชายาในรัชกาล ที่ 5 สร้างศาลารอบอุโบสถไว้ขายของแทน เผยวัตถุโบราณถูกทำลายอื้อ นักวิชาการชี้ความสัมพันธ์กับชุมชนเข้าขั้นวิกฤต เหตุเพราะวัดเน้นพาณิชย์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=2166 ไปย้อนดูประวัดวัดธรรมกายได้ครับ ผู้บริจาคที่ดินสร้างวัดยังโดนไล่ แม่งมาแนวเดียวกันเลย
สั่งทุบเจดีย์ ยึดเอาของในเจดีย์ ปาราชิกมั๊ยครับ http://board.palungjit.org/f128/ถามเรื่อง-พระสมเด็จแตกกรุวัดกัลยาณมิตร-515012.html
แล้วอย่าหาว่าสอน(รักษาการ)สังฆราชเลย เลิกซะเถอะ กติกาที่ว่ายิ่งสร้างวัตถุในวัด ตำแหน่งและบรรดาศักดิ์ยิ่งเลื่อนเร็ว ดูอย่างวัดกัลยาณมิตรสิ มาเป็นเจ้าอาวาสปุ๊บ เฮียสั่งทุบทันที่ เอาเกณฑ์ เขียนหนังสือดีๆ เป็นที่พึ่งประชาชนได้มาก ประชาชนรักมากๆ ทำกุศลกับประชาชนเช่นสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน เป็นเกณฑ์ เลื่อนสมณศักดิ์เถอะ เลิกซะที่ เพราะบางวัดสร้างจนไม่มีต้นไม้แล้ว มีแต่ลานปูน ปล. ถ้าผมเป็นรัฐบาล จะดัดหลังโดยการ เจ้าอาวาสต้องมาจากการเลือกตั้งของชุมชน
อย่าลืมนะครับ ยิ่งสมณศักดิ์สูง มีชื่อเสียงไม่ว่าทางดีทางไม่ดี เวลารับงานนิมนต์ หรือไปอีเว้นท์ต่าง ๆ ซองมันจะหนาตามฐานะและชื่อเสียงนะครับ ยิ่งวัดไหนมีการสร้างเหรียญแล้วเชิญผู้โด่งดังไปทำพิธีจุดเทียน หรือดับเทียนเฉย ๆ นี่ก็ซองหนา เพราะอะไรครับ เพียงเพื่อความเชื่อถือของคนที่จะเช่าเหรียญนั่นเองสมัยเฟื่อง ๆ แค่เดินสายไปจุดเทียนชัย หรือนั่งเป็นประธานถ่ายรูปเหรียญขายดีนักล่ะ
ไอเอสทุบโบราณสถานเพื่อยกอุดมการณ์และศาสนาตัวเอง ข่มทำลายศาสนาอื่น วัดไทยบางแห่งทุบโบราณสถานเพื่อหาผลประโยชน์ ผิดทั้งคู่
22 มี.ค. 58 - กรรมการปฏิรูปศาสนา เสนอ 4 แนวทางปฏิรูป-พิทักษ์กิจการพุทธศาสนา ชี้ วัดธรรมกาย ทำหลักธรรมเพี้ยน ต้องตั้งกรรมการชำระการปฏิบัติ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่าทางคณะกรรมการฯ ได้ส่งรายงาน เรื่อง รายงานผลการพิจารณาศึกษาการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสตร์ ต่อ สปช. แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสปช. ได้ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ สำหรับประเด็นสำคัญคือการศึกษาของคณะกรรมการฯ เป็นไปตามกรอบความเห็นปฏิรูปประเทศไทย ด้านอื่นๆ ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ระบุว่าต้องมีการส่งเสริมให้ศาสนาเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาคน สังคมและประเทศชาติให้มีความมั่นคง จากการประชุมหารือกันจำนวน 5 ครั้ง พบ 4 ปัญหาสำคัญ คือ 1.ทรัพย์สินของวัดหรือของพระสงฆ์ที่ไม่มีการตรวจสอบ หรือ การเปิดเผยทรัพย์สิน จนทำให้พระสงฆ์จำนวนมากมุ่งแสวงประโยชน์เข้าสู่ตนเองมากกว่าศึกธรรมและปฏิบัติธรรมตามแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า 2.ปัญหาของสงฆ์ที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย จนกลายเป็นความเสื่อมศรัทธา ทั้งนี้มีสาเหตุจากปัญหาการปกครองของคณะสงฆ์ที่เป็นแบบรวมศูนย์ และ การศึกษาคณะสงฆ์ 3.การทำให้พระธรรมวินัยให้วิปริต และการประพฤติปฏิบัติวิปริตจากพระธรรมวินัย เช่น กรณีของวัดพระธรรมกายที่มีแนวทางคำสอนที่ขัดแย้งกับพระธรรมวินัยที่ร้ายแรง โดยชักจูงประชาชนให้เชื่อว่า บุญ คือ สินค้า รวมถึงยังมีพฤติกรรมรับเงินบริจาคที่มาโดยมิชอบ ดังนั้นประเด็นที่เกิดขึ้นต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อชำระการปฏิบัติที่เพี้ยนจากพระธรรมวินัย และ 4.ฝ่ายอาณาจักรต้องสนับสนุน ปกป้อง คุ้มครองกิจการของฝ่ายศาสจักร โดยการจัดโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ที่มีความคล่องตัว นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ทางคณะกรรมการฯ ยังได้เสนอข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสตร์ ต่อ สปช. ดังนี้ คือ 1.ให้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ โดยอย่างน้อยต้องมีกลไกหลักในการดำเนินงาน คือ การจัดทำงบบัญชีทรัพย์สินของวัด ทรัพย์สิน เงินทอง รายได้ รวมถึงผลประโยชน์อื่นที่ได้มาจากการดำเนินงานภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ย่อมตกเป็นของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของบุคคล พระสงฆ์ หรือวัดใด การบริหารจัดการทรัพย์สิน เงินทอง รายได้ ของวัดและพระ ควรให้พุทธบริษัท4 ได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และ อุบาสิกา มีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และแก้ไขประมลกฎหมายแพ่งแลพาณิชย์ มาตรา 1623 ที่กำหนดให้ทรัพย์สินของพระภิกษะที่ได้มาระหว่างอยู่ในสมณเพศนั้น เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น เว้นแต่พระภิกษุนั้นจะจำหน่ายไปในระหว่างมีชีวิตหรือโดยพินัยกรรม เพื่ออุดช่องว่างทางกฎหมาย และให้เป็นไปตามธรรมวินัย โดยให้ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างเป็นพระภิกษะให้ตกเป็นของวัดนับตังแต่ที่ได้มา และไม่สามารถจำหน่าย โอน หรือ ทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นได้ นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า 2.เสนอให้แก้กฎหมายมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 พ.ศ.2541 ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ หรือ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ในสาระสำคัญ คือ การกระจายอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์ แทนการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจ โดยคณะสงฆ์ที่อยู่ในวัดและพุทธศาสนิกชนรอบวัดร่วมกันดูแลและกิจการพุทธศาสนา รวมถึงปฏิรูปให้พระสงฆ์ทั่วประเทศมีส่วนร่วมแสดงความเห็นและร่วมกำหนดนโยบายบริหารและกระจายอำนาจจากระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ขณะที่การแต่งตั้งถอดถอนเจ้าอาวาส ต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัย, 3.ต้องมีกลไกนำหลักปฏิบัติตามพุทธบัญญัติที่ทรงไว้ซึ่งความดี ถูกต้อง และบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนามาปฏิบัติ เพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนหรือแอบอ้างพระธรรมวินัย และ 4.ปฏิรูปการศึกษาของคณะสงฆ์ให้ทันเหตุการณ์ โดยราชการต้องให้ความสำคัญด้านการศึกษาของคณะสงฆ์ด้วย ทั้งนี้พบว่าการศึกษาของคณะสงฆ์ โดยเฉพาะศึกษาปริยัติธรรม, แผนกบาลี และแผนกธรรมไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขทำให้ค่านิยมในหมู่พระภิกษุ สามเณร และเยาวชนลดลง ************************************************** คณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาสภาปฏิรูปแห่งชาติ จัดทำ ข้อเสนอปฏิรูปพุทธศาสนาให้ สปช.พิจารณา 24 มี.ค. ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาสภาปฏิรูปแห่งชาติ ไพบูลย์ นิติตะวัน บอกทางคณะกรรมการฯ ได้ส่งรายงานเรื่อง รายงานผลการพิจารณาศึกษาการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสตร์ ต่อ สปช. แล้วคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของ สปช.ได้ในวันที่ 24 มี.ค. เนื้อหาสำคัญ ในรายงานของคณะกรรมการฯ เป็นไปตามกรอบความเห็นปฏิรูปประเทศไทย ที่ระบุว่าต้องมีการส่งเสริมให้ศานาเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาคน สังคมและประเทศชาติให้มีความมั่นคง ซึ่งการศึกษาที่ผ่านมาพบปัญหาสำคัญ คือทรัพย์สินของวัด หรือของพระสงฆ์ ที่ไม่มีการตรวจสอบ หรือการเปิดเผยทรัพย์สิน จนทำให้พระสงฆ์จำนวนมากมุ่งแสวงประโยชน์ ปัญหาของสงฆ์ที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย จนกลายเป็นความเสื่อมศรัทธา การทำให้พระธรรมวินัย วิปริต และการประพฤติปฏิบัติวิปริตจากพระธรรมวินัย รวมถึงยังมีพฤติกรรมรับเงินบริจาคที่มาโดยมิชอบ ซึ่งมีข้อเสนอให้ ตั้งคณะกรรมการเพื่อชำระการปฏิบัติที่เพี้ยนจากพระธรรมวินัย ข้อเสนอ ของกรรมการฯ คือ ให้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ โดยอย่างน้อยต้องมี การจัดทำงบบัญชีทรัพย์สินของวัด,ทรัพย์สิน เงินทอง รายได้ รวมถึงผลประโยชน์อื่นที่ได้มาจากการดำเนินงานภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ซึ่งเป็นของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของบุคคล พระสงฆ์ หรือวัดใดให้แก้ไขประมลกฎหมายแพ่งแลพาณิชย์ มาตรา 1623 ที่กำหนดให้ทรัพย์สินของพระภิกษะ ที่ได้มาระหว่างอยู่ในสมณเพศ ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุ เมื่อพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพ เพื่ออุดช่องว่างทางกฎหมาย ไม่สามารถจำหน่าย โอน หรือ ทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่น อีก 1 ข้อเสนอ คือ แก้กฎหมายมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ หรือ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 กระจายอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์ แทนการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจ รวมถึงปฏิรูปให้พระสงฆ์ทั่วประเทศมีส่วนร่วมแสดงความเห็นและร่วมกำหนดนโยบายบริหารและกระจายอำนาจจากระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ขณะที่การแต่งตั้งถอดถอนเจ้าอาวาส
http://thaipublica.org/2015/03/credit-unions-klongchan_54/ เปิดธุรกรรม “ธรรมกายคอนเนกชัน” ศุภชัย ศรีศุภอักษร ใช้เงินสหกรณ์ฯ คลองจั่น 1,000 ล้าน ซื้อที่ดินใกล้วัดพระธรรมกาย พบ “อัศวโภคิน” รับซื้อต่อเกือบ 100 ไร่ ยิ่งค้นหา ก็ยิ่งหลงไหล
หลัง พระพุทธะอิสระ เขียนในเฟสบุ๊ค เผย เห็นข่าวพระมหารัชมังคลาจารย์ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ซึ่งเป็นตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ งานพระธรรมทูต และตำแหน่งประธานพระธรรมจาริกภายในประเทศ ด้วยวาจาเป็นสิ่งที่ไม่เกินคาด เพราะพวกตระกูลธรรมกายมักจะใช้มุกนี้เป็นยุทธศาสตร์ในการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด และเพื่อลดแรงเสียดทานจากสังคมที่รุมกระหน่ำบีบคั้น เริ่มจากนายธัมมชโยหรือนายไชยบูลย์ อดีตเจ้าสำนักวัดธรรมกาย ต้องยอมจ่ายคืนเงิน ที่ดินและทรัพย์สิน ที่ยักยอกจากวัดนำมาเป็นสมบัติของตน
Suwit Kotasin ทายซิ มันไปสุมหัวทำอะไรกันอีก...ชีวิตก็ผ่านอะไรๆมามากมาย ยังหวังอะไรอยู่อีกน้อ... อนาถหนอ...มนุษย์
จะเผ่นแร้วหราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ภากร นครกุลเชษฐ์ 'ธัมมชโย' บอกว่าในวันที่ 3 เมษายน จะเดินทางไป สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อติดตามการก่อสร้างเจดีย์วัดหลวงพ่อสุวรรณคำ