@วรยุทธผมไม่มีหรอกเจ๊ แต่อยากลองอภินิหารลูกแก้ว @ทุกวันนี้ก็ยังด่าจานบินอยู่ชีวิตก็รวยกว่าเข้าจานบิน @สอนไม่ให้อวดอุตริแต่ทำเองสอนเองงั้นเหรอเจ๊ @ข้อสำคัญไม่เคยเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาหากินหลอกแด๊กใครครับเจ๊
หลวงพ่อธรรมะไชโยไม่ได้ฟอกเงินย่ะ!! เงินที่ได้มาจากความศรัทธาในพุทธศาสนา ซึ่งในไปทำเป็นพุทธพานิชณ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พระพรมเมธีท่านได้บอกไว้แล้วว่านี่เป็นสมบัติของพุทธศาสนาที่ต้องธำรงค์ไว้ค่ะ ถือเป็นสมมติของพระสงฆ์และพระพุทธเจ้าย่ะ อย่าได้ดูถูกสงครามครูเสดให้มากนัก!! อำนาจของศาสนจักรนั้นสามารถปกครองคนทั้งมวลได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องลงทุนมาก คุณรู้จักอัศวินเทมพลาร์ในยุคกลางไหมคะ กองกำลังพิทักษ์ศาสนจักรขึ้นตรงต่อพระสังฆราช อำนาจของศาสนาคือความศรัทธาล้วนๆ แม้แต่พุทธศาสนาเองก้เคยมีปรากฏอยุ ตอนนี้มีกลุ่มพระสงค์ออกมาต่อต้านองค์กรปฎิรูปทำลายศาสนาแล้ว โดยถึงบัดนี้ได้เวลาพุทธศาสนาเองก็จะต้องลุกขึ้นมาสู้แล้ว แต่สำหรับประเทศไทยนั้นเป้นลักษณะล้าหลังห้ามพระสงฆ์จับอาวุทธไม่เหมือนธิเบต ดังนั้นประชาชนที่หลอมศรัทธารวมเป็น1เดียวกับศาสนาจะอาสาเข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ศาสนจักรเองค่ะ ประชาชนจะออกมาสู้ โดยให้พระทำหน้าที่เป็นสายบัพและัฮีลค่ะ
เอาให้เต็มที่เจ๊ แต่ชอบจริง หัวโล้น นปช.เนี่ย ตกลงเจ๊เอามาประจานใช่ไหมว่า ความเลวเป็นเช่นนี้ ตกลงเจ๊ด่าใครเนี่ย
จับตาคดีนี้ไว้ให้ดีๆ นะครับ ************************************************** ดีเอสไอแฉมีกลุ่มเคลื่อนไหวล็อบบี้ สั่งห้ามทำคดีวัดพระธรรมกาย พร้อมส่ง จนท.สอบมูลนิธิพระครูปลัดวิจารณ์โยงรับเช็คฉาว ความคืบหน้าในการติดตามเส้นทางการเงินยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่โยงใยผ่านคนหลายกลุ่ม โดยการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า กลุ่มผู้ยักยอกได้ตีเช็คโอนเงินจำนวนกว่า 800 ล้านบาทไปให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และพระลูกวัดหลายรูป ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ บอกว่า ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดี นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวกรวม 8 คน ยักยอกทรัพย์สหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น มีมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท หลังจากที่ดีเอสไอได้แบ่งการทำงานออกเป็น 5 ชุด ในการตรวจเช็ค 878 ฉบับ ที่จ่ายโดยนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ไปแล้วกว่า 100 ปาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลสหกรณ์ทั่วประเทศไปแล้ว หลังจากนี้จะสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบบัญชีของสหกรณ์ทั่วประเทศ "เราเตรียมสอบปากคำ พระธัมมชโย และกลุ่มพระในวัดพระธรรมกายที่มีรายชื่อปรากฏรับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 15 ฉบับ เป็นเงินกว่า 800 ล้านบาท โดยจะให้ชี้แจงในประเด็นที่รับเช็คจากสหกรณ์ และที่มาที่ไปของเงินจำนวนนี้ รวมทั้งนำเงินไปใช้วัตถุประสงค์ใด หากไม่มาตามหมายเรียกจะออกหมายเรียกซ้ำอีกครั้ง หากยังไม่มาพบจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่เชื่อว่า พระธัมมชโยน่าจะเข้ามาให้ปากคำตามหมายเรียก โดยมีกำหนดตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังออกหมายเรียกนิติบุคคล บริษัท ห้างร้าน ที่มีชื่อรับเช็คจากสหกรณ์ในช่วงปี 2552-2555 ที่นายศุภชัยเป็นประธานกรรมการบริหารสหกรณ์ และเป็นผู้สั่งจ่ายให้ เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอด้วย" พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าว พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนิดคดีในข้อหาฟอกเงินนั้น พนักงานสอบสวนจะต้องตรวจสอบและดูเจตนาเป็นหลัก เพราะผู้รับเงินต้องรู้ว่าเงินเหล่านี้เป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และฉ้อโกงมาหรือไม่ ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามารื้อคดีนี้ใหม่เพราะเห็นว่า คดีนี้มีความสำคัญและมีจำนวนเงินสูงมาก และเกี่ยวข้องกับสมาชิกผู้ฝากเงินจำนวนมาก ซึ่งพนักงานสอบสวนชุดเดิมเริ่มทำคดีนี้เป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2556 ในข้อกล่าวหา ยักยอกทรัพย์ พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์ ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่ได้ดำเนินคดี จากนั้นเมื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มอีก 2 คดี ในข้อหา ฉ้อโกงเงินประชาชน ซึ่งมูลหนี้หรือทรัพย์สินที่ฉ้อโกงเชื่อมโยงกับคดีแรก จึงมีประเด็นที่ต้องพิจารณากันใหม่ ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีรายงานว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชุดติดตามร่องรอยการเงินวัดพระธรรมกาย นำโดย พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ได้นำพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เพื่อตรวจสอบมูลนิธิของพระครูปลัดวิจารณ์ ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อรับเช็คบริจาคจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำนวน 119 ล้านบาท โดยการสอบสวนของพนักงานสอบสวนชุดแรกระบุว่าเป็นการบริจาคเพื่อนำไปก่อตั้งมูลนิธิดูแลเด็ก แต่ปัจจุบันไม่พบว่าการดำเนินกิจการ นอกจากนี้ดีเอสไอยังได้แยกชุดพนักงานสอบสวนติดตามความเคลื่อนไหวนายศุภชัย ซึ่งเข้าไปอาศัยอยู่ในอาคารยูทาวเวอร์ที่นายศุภชัยนำเงินที่ยักยอกจากสหกรณ์ไปก่อสร้างอาคารดังกล่าวนั้น ดังนั้น อาคารดังกล่าวถือเป็นทรัพย์สินของสหกรณ์ ขณะเดียวกัน ยังพบความเคลื่อนไหวของบุคคลบางกลุ่มที่ต้องการให้ยุติคดีที่เชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อการชะลอหมายเรียกพระธัมมชโย และพระลูกวัดเข้าให้ปากคำด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า พนักสอบสวนมีมติให้ออกหมายเรียกผู้มีรายชื่อรับเช็คจำนวน 878 ฉบับ มาให้การ โดยขณะนี้เริ่มทยอยส่งหมายเรียกไปยังกลุ่มวัดพระธรรมกาย พระธัมมชโยและพระลูกวัดแล้ว โดยในวันที่ 6 มีนาคม นี้ คณะพนักงานสอบสวนจะประชุมเพื่อกำหนดวันเวลาในการเข้าให้ปากคำอีกครั้ง เบื้องต้นผู้ถูกออกหมายเรียกมีสิทธิตามกฎหมายที่จะมอบให้ทนายความติดต่อกลับมายังพนักงานสอบสวนว่าจะมาพบและให้ปากคำตามหมายเรียกเมื่อใด รวมทั้งมีสิทธิแจ้งขอเลื่อนภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 มีนาคม เวลา 10.00 น. นายกริชธารณ์เพชร ภาดาแดง เจ้าของบริษัทอิมพีเรียลรีชอร์ส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัททำธุรกิจเหมืองแร่ใน ต.หนองบัว จ.นครสวรรค์ มีกำหนดเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในประเด็นที่นายศุภชัยโอนเงินให้แก่บริษัทเอส.ดับบลิว.ฯ ก่อนที่เงินดังกล่าวจะถูกโอนต่อไปยังบริษัทอิมพีเรียลฯ http://www.nationtv.tv/main/content/social/378446990/
-ความประพฤติของภิกษุในกาล.....? เล่ม 53 หน้า 202ในกาลข้างหน้า โทษเป็นอันมากจักเกิดขึ้นในหมู่สัตวโลก ก็เพราะภิกษุทั้งหลายผู้ไร้ปัญญา จักทำธรรม (คำสอน) ที่พระศาสดาทรงแสดงแล้วนี้ให้เศร้าหมอง ทั้งพวกภิกษุที่มีคุณอันเลว โวหารจัด แกล้วกล้า มีกำลังมาก ปากกล้า ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน (ตามพระไตรปิฎก) ก็จักมีขึ้นในสังฆมณฑล ภิกษุทั้งหลายในสังฆมณฑล แม้ที่มีคุณความดี มีโวหารโดยสมควรแก่เนื้อความ มีความละอายบาป ไม่ต้องการอะไรๆ ก็จักมีกำลังน้อย ภิกษุทั้งหลายในอนาคตที่ทรามปัญญา ก็จะพากันยินดีเงินทอง ไร่นา ที่ดิน แพะ แกะ และคนใช้หญิงชาย จักเป็นคนโง่มุ่งแต่จะยกโทษคนอื่น ไม่ดำรงมั่นอยู่ในศีล ถือตัว โหดร้าย เที่ยวยินดีแต่การทะเลาะวิวาท จักมีใจฟุ้งซ่าน นุ่งห่มแต่จีวรที่ย้อมสีเขียว แดง(พระญี่ปุ่น พระจีน) เป็นคนลวงโลก กระด้าง เป็นผู้แส่หาแต่ลาภผล เที่ยวชูเขาคือมานะ ทำตนดั่งพระอริยเจ้าท่องเที่ยวไปอยู่.....จักเป็นผู้มุ่งแต่ลาภผล เป็นคนเกียจคร้าน มีความเพียรเลวทราม เห็นการอยู่ป่าอันสงัดเป็นความลำบาก จักใคร่อยู่ในเสนาสนะที่ใกล้บ้านภิกษุเหล่าใดยินดีมิจฉาชีพ จักได้ลาภเสมอๆ จักพากันประพฤติตามภิกษุเหล่านั้น เที่ยวคบหาราชสกุล (คนที่มีหน้าตาในสังคม) เป็นต้น เพื่อให้เกิดลาภแก่ตน ไม่สำรวมอินทรีย์ อนึ่ง ในอนาคตกาล ภิกษุทั้งหลายจะไม่บูชาพวกภิกษุที่มีลาภน้อย จักไม่สมคบภิกษุที่เป็นนักปราชญ์มีศีลเป็นที่รัก... สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน
-พระมหาเถระนี่แหละเป็นหัวหน้าในการล่วงละเมิดธรรมวินัย เล่ม 36 หน้า 195....อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา ภิกษุผู้เถระก็จักเป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในความล่วงละเมิด ทอดธุระในความสงัด จักไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง ประชุมชนรุ่นหลังก็จักถือเอาภิกษุเหล่านั้นเป็นตัวอย่าง แม้ประชุมชนนั้นก็จักเป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในความล่วงละเมิด ทอดธุระในความสงัด จักไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรมย่อมมี เพราะการลบล้างวินัย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ข้อที่ ๕ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น... พระอรรถกถาจารย์อธิบายความว่า บทว่า ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส ได้แก่ การเสียวินัยย่อมมีเพราะเสียธรรม. ถามว่า ก็เมื่อธรรมเสีย วินัยชื่อว่า เสียอย่างไร ? ตอบว่า เมื่อธรรมคือสมถวิปัสสนาไม่ตั้งท้อง วินัย ๕ อย่างก็ไม่มี. เมื่อธรรมเสียอย่างนี้ วินัยก็ชื่อว่าเสีย ส่วนสำหรับภิกษุผู้ทุศีล ชื่อว่าสังวร (สำรวม) วินัยไม่มี เมื่อสังวรวินัยนั้นไม่มี สมถะและวิปัสสนา ก็ไม่ตั้งท้อง การเสียธรรมแม้เพราะเสียวินัยก็พึงทราบโดยนัยอย่างนี้.
ภากร นครกุลเชษฐ์ @bunshury1 รพ.กรุงเทพ- ด่วน ! เจ้าหน้าที่ กักตัวทีมข่าวTnews พร้อมสั่งให้ลบเทปขณะสัมภาษณ์ นพ.มโน เลาหวณิช กรณีวัดพระธรรมกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกรุงเทพได้กักตัว นายยุคล วิเศษสังข์ ผู้ดำเนินรายการเปิดประเด็นร้อน ในช่องทีนิวส์ หลังไปสัมภาษณ์ นพ.มโน เลาหวณิช ปมวัดพระธรรมกาย ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย สวดยอดเจง ๆ ๆ ๆ
จัดดีเบตแบบพลังงาน เลยดีไม๊ เห็นแต่ละคน ออกรายการนายพุทธ พวก สอจอลอนี่ โง่งมโข่งกันเหลือเกิน อีกคนหลุดทำกลายประเสริฐ อีกคนหลุดว่า ทำกลายไม่ผิดปาราชิกไม่อวดอุตริ เปลี่ยนจากทีมปฎิรูปเอามาดีเบทกันก่อน อย่าลืมไปเชิญ ส. ศิวลักษณ์ไปด้วยนะ คนนี้ทีเด็ด
ภากร นครกุลเชษฐ์ @T-News เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกรุงเทพกักตัว นายยุคล วิเศษสังข์ ผู้ดำเนินรายการเปิดประเด็นร้อน ในช่องทีนิวส์ หลังไปสัมภาษณ์ นพ.มโน ปมวัดพระธรรมกาย เพื่อขอให้ทีมข่าวลบเทปบันทึก แต่ทางทีมข่าวทีนิวส์ ยืนยันที่จะไม่ลบเทปบันทึกบทสัมภาษณ์ และขอใช้สิทธิเสรี ออกจากพื้นที่ดังกล่าว จนล่าสุดเวลา 16.45 น. ทางโรงพยาบาลได้ยอมปล่อยตัวแล้ว และนายยุคล เปิดเผยว่า จะเดินทางไปแจ้งความเพื่อแสดงเจตจำนงค์ของสื่อมวลชนต่อไป
เครดิต:thaipublica.org Date: 2 มีนาคม 2015 หลังจากที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558มีมติรับทราบและรับรอง กรณีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางไปชี้แจงคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา เกี่ยวกับพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเมื่อปี 2542 กรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เบียดบังทรัพย์สินของวัดเมื่อ 15 ปีก่อน ถือว่าต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ประเด็นนี้จึงกลับมาเป็นข่าวร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากรายงานที่สำนักพระพุทธศาสนาบรรจุเป็นวาระที่ประชุมมส. ยืนยันว่าคดีนี้ได้ข้อยุติแล้วตั้งแต่ปี 2542 พระธัมมชโยไม่อาบัติปาราชิก เพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะครอบครองที่ดินของวัด ซึ่งต่อมาพระธัมมชโยได้โอนที่ดินคืนให้กับวัดพระธรรมกายแล้วนพ.มโน เลาหวณิช ที่มาภาพ : http://mpics.manager.co.thที่มาของคดีพระธัมมชโยเบียดบังทรัพย์สินของวัดพระธรรมกาย จนเป็นเหตุให้สมเด็จพระสังฆราชมีพระดำริ “ให้เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ เพราะไม่ยอมส่งคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระ ให้แก่วัด”นพ.มโน เลาหวณิช อดีตผู้อำนวยการสำนักการศึกษาและสำนักวิเทศสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2542 มีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรชื่อสีกาตุ๊ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีมาขอเข้าพบพระธัมมชโย โดยแจ้งว่าพบแร่ทองคำจำนวนมากอยู่ในที่ดินแปลงใหญ่ จังหวัดพิจิตร ตอนแรกพระธัมมชโยไม่เชื่อ จึงสั่งให้ลูกศิษย์ไปทำการพิสูจน์ โดยตักดินจากที่ดินแปลงนี้ 1 ลูกบาศก์เมตร นำมาละลายน้ำที่วัดพระธรรมกาย ปรากฏว่าได้ทองคำหนัก 1 บาท ดังนั้นพระธัมมชโย มอบหมายให้ลูกศิษย์ที่ชื่อ “ถาวร” ซึ่งมีชื่ออยู่ในสำนวนคดีนี้ด้วย เดินทางไปจังหวัดพิจิตร เพื่อเจรจาขอซื้อที่ดินเนื้อที่ 1,000 ไร่จากชาวบ้าน 2 รายนพ.มโน กล่าวว่า ผลการเจรจาได้ข้อสรุปว่าชาวบ้าน 2 รายตกลงขายที่ดินแปลงนี้เป็นเงินสดไร่ละ 3 ล้านบาท ไม่รับเป็นเช็ค พระธัมมชโย จึงสั่งจ่ายเงินของวัดพระธรรมกาย 3,000 ล้านบาท ขนเงินสดขึ้นเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำไปจ่ายให้เจ้าของที่ดินที่จังหวัดพิจิตร โดยพระธัมมชโยใส่ชื่อตนเองลงบนโฉนดที่ดิน ที่ชี้ว่าพระธัมมชโยนำเงินของวัดมาซื้อที่ดินมาเป็นของตนเอง ทำให้ต้องอาบัติปาราชิกตามดำริของสหเด็จพระสังฆราช ต่อมาพระธัมมชโยโอนที่ดินที่ตนครอบครองคืนให้วัดพระธรรมกาย จึงไม่มีความผิด ซึ่งปัจจุบันที่ดินจังหวัดพิจิตรแปลงนี้เป็นของวัดพระธรรมกาย แต่ยังไม่ได้ทำเหมืองทองคำแต่อย่างใดนอกที่ดินจังหวัดพิจิตรแล้ว นพ.มโน กล่าวว่าในปี 2530 ยังได้ซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากชาวบ้านอีกหลายแปลง อาทิ ที่ดิน 4,000 ไร่ บริเวณอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมูลนิธิศึกษาธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่มีสีกานัทเป็นผู้บริหารมูลนิธิฯ,ที่ดินจังหวัดศรีสะเกษอีก 6,000 ไร่และที่ดินอำเภอวังน้ำเขียวก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิร์ลพีซ วัลเลย์ เขาใหญ่ เป็นต้น
ไอ้กี้ติดคุก ส่วนยึดสนามบิน ยังลอยหน้าสลอน ไม่อายชาวโลกบ้างหรือ ว่าแล้วเด็กสมัยนี้ ทำไมชอบหนีออกจากบ้าน
ติดคุกไปตั้งหลายคดีแล้ว ไม่รู้เหรอ หัดตามข่าวสารบ้างนะ จะได้ไม่โง่ ป่าช้าหนีออกจากบ้านเหรอ ก๊ากกกกกกกกกก
ดีเอสไอ ตรวจสอบเส้นทางการเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น พบผู้เกี่ยวข้อง 6 กลุ่มใหญ่ เตรียมอายัดเงินกว่าหมื่นล้านบาท อดีตผู้ประธานสหกรณ์ฯ ออกโรงยันพระธัมมชโย ไม่เกี่ยวข้องกับเงินสหกรณ์ นาย ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แถลงข่าวเป็นครั้งแรก กรณีบริจาคเงินให้พระธัมมชโย 248 ล้านบาท และวัดพระธรรมกาย 386 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2552 และ 2553 ซึ่งเป็นเงินที่ยืมจากสหกรณ์ฯ แต่ได้ส่งคืนครบแล้ว สามารถตรวจสอบได้ ยืนยันว่าวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย ไม่เกี่ยวข้องกับเงินของสหกรณ์ พัน ตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลประชุมคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ครั้งที่ 4 ว่า จากการตรวจสอบเส้นทางเงิน ตั้งแต่ปี 2552 - 2555 พบความเชื่อมโยงกับก่อนหน้าปี 2552 โดยแบ่งสั่งจ่ายเช็ค 878 ฉบับ เป็นเงิน 11,367 ล้านบาท แบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 วัดพระธรรมกาย กลุ่มที่ 2 ญาติธรรมและบุคคลใกล้ชิด นายศุภขัย ศรีศุภอักษร กลุ่มที่ 3 บจก.เอสดับบลิวโฮลดิ้ง และนายสถาพร วัฒนาศิริกุล กลุ่มที่ 4 สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน มงคลเศรษฐี กลุ่มที่ 5 นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ และนายจีรเดช วรเพียรกุล และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา กลุ่มที่ 6 นิติบุคคล เงินโอนภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่ง ประสาน ป.ป.ง.เตรียมอายัดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการแถลงข่าวของนายศุภชัย ไม่มีผลกระทบต่อคดี โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายศุภชัย และหมายเรียกพระธัมมชโย มาให้ปากคำเพื่อสอบเพิ่มเติม ********************************************************** กรุงเทพฯ 6 มี.ค.-สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นถูกอดีตผู้บริหารทุจริตเงินออกไปนับหมื่นล้าน จนสหกรณ์ขาดสภาพคล่อง สมาชิกมากกว่า 50,000 คนเดือดร้อน ร้อยละ 96 มีเงินฝากไม่ถึง 1 ล้านบาท เป็นผู้หาเช้ากินค่ำ 12 ปีแล้วที่คุณยายรุ่งรัตน์ วัย 64 ปี เป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ตัวเลขในสมุดประจำตัวสมาชิกตอนนี้มีทุนเรือนหุ้นอยู่ 120,000 กว่าบาท ทุกปีจะได้เงินปันผลร้อยละ 10 หรือหมื่นกว่าบาท แต่ตอนนี้ไม่ได้รับมา 2 ปีแล้ว จะลาออกหรือถอนหุ้นก็ทำไม่ได้ คุณยายยังกู้เงินสหกรณ์มาอีก 100,000 กว่าบาท เพื่อส่งลูกชายเรียนปริญญาตรี และรักษาอาการป่วยทั้งโรคหัวใจและโรคมะเร็งปอดที่เพิ่งผ่าตัดไป ต้องจ่ายหนี้และดอกเบี้ยให้สหกรณ์อีกเดือนละ 1,200 บาท เศรษฐกิจไม่ดีทำให้อาชีพขายกับข้าวใส่บาตรย่ำแย่ไปด้วย อย่างวันนี้ขายได้เพียง 300 บาท ทางออกจึงหนีไม่พ้นหนี้นอกระบบ ยอดหนี้ที่ยังเป็นหนี้อยู่อีก 45,000 บาท ความหวังตอนนี้คืออยากได้เงินจากสหกรณ์มาบรรเทาความทุกข์ยาก แม้จะมีการชะลอการจ่ายเงินปันผลและดอกเบี้ยเงินฝาก แต่สมาชิกก็ยังต้องจ่ายเงินขั้นต่ำเดือนละ 100 บาท เพื่อรักษาสถานภาพไว้ เพราะถ้าหากไม่จ่ายติดต่อกัน 3 เดือน จะขาดจากความเป็นสมาชิก และจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ หลายคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุยังคงยอมจ่ายเงิน เพราะหวังว่าถ้าปัญหาสหกรณ์คลี่คลายพวกเขาจะได้ปันผลกลับมา ส่วนคุณยายวัย 67 ปีคนนี้เป็นสมาชิกสมทบที่ฝากเงินเท่านั้น ไม่มีค่ารักษาสถานภาพ เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับสหกรณ์ตั้งแต่ปี 51 ยอดเงินฝากโชว์ในสมุดบัญชี 1.6 ล้านกว่าบาท เป็นเงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต หวังฝากไว้กินดอกเบี้ยเลี้ยงตัวเองยามชรา เพราะตอนนี้ไม่มีรายได้ อยู่คนเดียว และยังเป็นโรคหัวใจอีกด้วย ปกติเคยได้ดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ครั้งสุดท้ายสิ้นปี 57 มีตัวเลขในบัญชี 23,000 กว่าบาท แต่กลับไม่มีตัวเงินจริงที่เบิกมาใช้ได้ ประธานคณะกรรมการฯ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ให้ข้อมูลว่าสหกรณ์มีสมาชิกสามัญและสมทบรวมกว่า 56,000 คน มีตั้งแต่ระดับรากหญ้า ข้าราชการเงินบำนาญ และนักธุรกิจร้อยล้าน ภาวะขาดสภาพคล่องของสหกรณ์ รวมทั้งการเบิกจ่ายที่ไม่สามารถทำได้ระหว่างรอคำสั่งจากศาลล้มละลายกลางที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 มีนาคมนี้ ทำให้สมาชิกที่มีรายได้น้อยที่มีอยู่ถึง 30,000 คน เดือดร้อนหนัก หากศาลมีคำสั่งให้จัดทำแผนฟื้นฟู สมาชิกมีโอกาสได้เงินคืน แต่ต้องใช้เวลานาน แต่หากศาลสั่งให้เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ทรัพย์สินจะถูกขายทอดตลาด แต่ไม่เป็นผลดีกับสมาชิกรายย่อย เพราะอาจได้รับเงินคืนเพียงร้อยละ 5-8 เท่านั้น ฐานข้อมูลการฝากเงินของสมาชิกรายย่อยที่มีเงินฝากไม่ถึง 1 ล้านบาท มีอยู่ 54,000 กว่าราย หรือร้อยละ 96 ของผู้ฝากเงินทั้งหมด กลุ่มนี้มีเงินฝากรวมกัน 593 ล้านบาท ทางออกอีกทางที่หลายคนมองไว้คือ หากวัดพระธรรมกายคืนเงินที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯ คลองจั่น บริจาคไว้ 937 ล้านบาท ก็จะสามารถนำมาเยียวยาสมาชิกรายย่อยที่ได้ทันที.-สำนักข่าวไทย
ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการป้องกันพิทักษ์กิจการพระพุทธ ศาสนา แถลงยุติการดำเนินงานของ คกก.ปฏิรูปศาสนา พร้อมสรุป 4 ประเด็นที่ต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน เสนอต่อ ประธาน สปช. **************************************************** DSI ออกหมายเรียกเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้เข้าชี้แจงเช็คจากสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นกว่า8ร้อยล้านบาท ในวันที่10 มี.ค **************************************************** กรุงเทพฯ 6 มี.ค.-คณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาประกาศยุติบทบาท และส่งแนวทางปฏิรูปเร่งด่วนให้ประธาน สปช.อดีตประธานกรรมการชุดนี้ได้เปิดใจถึงเหตุผลในการยุติการทำหน้าที่ หลังประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่คณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานกรรมการชุดนี้ เปิดใจกับสำนักข่าวไทยว่า แม้ทำงานมาได้เพียง 1 เดือนกว่า แต่ก็ทำให้สังคมตื่นตัวลุกขึ้นมาช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาอย่างกว้างขวาง แม้จะมีแรงเสียดทานจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย กระทั่งเรียกร้องให้ยุบคณะกรรมการชุดนี้ก็ตาม การตัดสินใจในครั้งนี้เพื่อลดแรงเสียดทาน สร้างความสบายใจให้กับประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ การประชุม 5 ครั้งที่ผ่านมามีการเชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เกี่ยวข้องจากหลายฝ่ายเข้ามาให้ข้อมูล พบว่ามีปัญหาที่สั่งสมมานานและต้องเสนอให้ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ปฏิรูปอย่างเร่งด่วนใน 3-4 เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการบิดเบือนพระธรรมวินัย เป็นวัดที่หาประโยชน์ในเชิงพุทธพาณิชย์ รวมถึงความไม่ชัดเจนและไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด ซึ่งมีการเสนอให้วัดบริหารเงินในรูปแบบของมูลนิธิ มีผู้ตรวจสอบบัญชี และเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบได้ ส่วนการสะสมทรัพย์สินของพระภิกษุสงฆ์ต้องไม่ขัดกับพระธรรมวินัย หากสะสมทรัพย์เกินความจำเป็นเห็นว่าควรจะต้องเสียภาษีเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป อดีตคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนายังเชื่อว่าการยุติบทบาทครั้งนี้จะทำให้ตนทำหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมได้มากขึ้น โดยเฉพาะกรณีผู้เดือดร้อนจากปัญหาการยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไปให้วัดพระธรรมกาย และลดอำนาจการผูกขาดเจ้าคณะปกครองในทุกระดับ เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย
ถึงแม้คณะกรรมการปฏิรูปแนวทางมาตรการป้องกันพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา จะประกาศยุติบทบาทไปแล้ว หลังนำเสนอแนวทางปฏิรูปให้กับประธานสปช.แต่คุณไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการชุดนี้ ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าเกาะติดเรื่องนี้ต่อ ร่วมกับภาคประชาชน รวมถึงกรณีที่วัดพระธรรมกาย เข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหายักยอกเงินของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ************************************************* 7 มี.ค.-สำนักข่าวไทย อสมท มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษอดีตคนเคยอยู่วัดพระธรรมกายและใกล้ชิดพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย 2 คน คนหนึ่งปัจจุบันเป็นพระภิกษุสงฆ์อยู่ในวัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. อีกคนเคยบวชอยู่วัดพระธรรมกาย แต่ปัจจุบันสึกเป็นฆราวาสแล้ว ทั้งสองได้ลำดับเรื่องราวที่น่าสนใจในครั้งก่อน โดยเฉพาะแนวคิดอุตสาหกรรมบุญแบบขายตรง.-สำนักข่าวไทย ************************************************* กรุงเทพฯ 7 มี.ค.-คณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเรียกประชุมสมาชิกเพื่อชี้แจงแนวทางการเยียวยาช่วยเหลือ หลังศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งในวันที่ 20 มี.ค.นี้ว่าจะให้ฟื้นฟูกิจการหรือยกคำร้อง สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกว่า 300 คน ที่เดือดร้อนเพราะไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ จากปัญหาฉ้อโกงภายในสหกรณ์ฯ จนทำให้ขาดสภาพคล่อง เข้ารับฟังการชี้แจงจากคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดปัจจุบัน ถึงแนวทางช่วยเหลือสมาชิก หากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งช่วงกลางเดือนนี้ โดยมี 3 แนวทางที่เป็นไปได้คือ แนวทางแรก หากศาลมีคำสั่งให้สหกรณ์ฯ เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ โดยให้คณะกรรมการชุดปัจจุบันเป็นผู้จัดทำแผน ซึ่งประธานกรรมการชุดนี้ยืนยันว่าเตรียมแผนไว้แล้ว โดยจะนำเงินที่สหกรณ์ฯ มีอยู่ขณะนี้ 253 ล้านบาท มาปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 6 ต่อปี ให้สมาชิกรายย่อยที่ต้องเป็นหนี้นอกระบบเอาไปใช้หนี้ก่อน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ทันทีในเดือนหน้า แนวทางที่ 2 ให้สหกรณ์ฯ เข้าสู่แผนฟื้นฟูเช่นกัน แต่ให้กรรมการชุดนี้บริหารชั่วคราว และร่วมกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดเพื่อจัดทำแผนฟื้นฟู ส่วนแนวทางที่ 3 ศาลยกคำร้อง นั่นหมายความว่าสหกรณ์ฯ อาจต้องเข้าสู่ภาวะล้มละลาย ทรัพย์สินต้องถูกขายทอดตลาดเพื่อนำมาชำระหนี้คืนให้สมาชิก ใช้เวลานับสิบปี และเป็นไปได้ที่สมาชิกจะได้เงินคืนเพียงร้อยละ 5-8 เท่านั้น นอกจากนี้รัฐบาลยังเตรียมอนุมัติงบ 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูสหกรณ์ฯ แต่ยังมีสมาชิกบางส่วนไม่เห็นด้วย และยื่นคัดค้านการขอฟื้นฟูกิจการ เพราะไม่เชื่อว่าจะปลดหนี้ที่มีอยู่ถึง 12,000 ล้านบาทได้ ไม่มั่นใจในคณะกรรมการชุดปัจจุบัน รวมทั้งไม่แน่ใจว่ารัฐจะเข้ามาช่วยเหลือจริงหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดก่อน อ้างว่าคืนเงิน 900 กว่าล้านบาท ที่นำไปบริจาคให้กับวัดพระธรรมกายแล้ว ประธานกรรมการชุดนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการคืนเงินตามที่กล่าวอ้าง.-สำนักข่าวไทย
พ.ต.อ.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การสอบสวนคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นมีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้ความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อีกทั้งการสอบสวนคดี ยังข้องเกี่ยวกับหลายหน่วยงาน ดีเอสไอ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ช่วยงานเฉพาะคดีสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ทั้ง 3 คดีคือ คดียักยอกทรัพย์ 2 คดี และฉ้อโกงประชาชนอีก 1 คดี เนื่องจากทั้ง 3 คดี จำเป็นต้องใช้ความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อีกทั้งการสอบสวนคดี ยังข้องเกี่ยวกับหลายหน่วยงาน ที่ปรึกษาคดีพิเศษมีทั้งหมด 5 คน ส่วนความคืบหน้าของคดี ด้านการสอบปากคำพยานที่รับเช็คจากนาย ศุภชัย ศรีศุภอักษร ในช่วงปี 2552 - 2555 จำนวน 878 ใบรวมมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท ล่าสุดสอบปากคำไปได้ 15 ราย จากพยานทั้งสิ้น 43 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นนิติบุคคลที่รับเหมาก่อสร้าง อาคาร u- tower. ที่เป็นทรัพย์สินมูลค่าสูงที่สุดของสหกรณ์ ขณะที่พยานส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งดีเอสไอออกหมายเรียกให้มารายงานตัว ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ขอเลื่อนให้ปากคำ รวมทั้งพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ส่วนการสอบสวนถึงความบกพร่อง ของการดำเนินงานสหกรณ์ฯคลองจั่น ในช่วงที่นายศุภชัยเป็นประธาน ได้เชิญกรมส่งเสริมสหกรณ์มาให้ข้อมูล เกี่ยวกับ พรบ.สหกรณ์ และกฎระเบียบสหกรณ์ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ขอเลื่อนการให้ข้อมูลเป็นวันที่ 17 มีนาคมนี้
ในที่สุดคำที่ว่า "ลูกศิษย์คิดล้างครู" เราก็ได้เห็นและประจักษ์แล้วว่าเป็นอย่างไร ดูจากการกระทำของธัมมี่ ดูจากการสอนของธัมมี่ บ้านผมเรียกว่า "เณรคุณครู"
สหกรณ์ฯ คลองจั่น ถอนฟ้องวัดพระธรรมกาย-พระธัมมชโย หลังคืนเงิน ดีเอสไอ 16 มี.ค.-ทนายความสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นยื่นดีเอสไอ และ ปปง.ถอนฟ้องวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย หลังวัดคืนเงิน 684 ล้านบาท ด้านดีเอสไอระบุยื่นถอนฟ้องไม่มีผลต่อการสอบสวนคดี ผู้รับเช็ค รวมทั้งพระธัมมชโย ยังต้องมาให้ปากคำฐานะพยานตามนัดหมาย นายฐปณวัชร์ สระสม ทนายที่ปรึกษากฎหมายสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมีนายพงศ์ศักดิ์ ฐิติวรรณ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือแจ้งเรื่องการประสงค์ไม่ดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญากับวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย หลังมีการไกล่เกลี่ยคืนเงินจากศิษย์วัดพระธรรมกายเป็นเงิน 684 ล้านบาท โดยเห็นว่าสหกรณ์ฯ ได้รับการชดใช้เงินแล้ว จึงไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีกับทั้งวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโยอีกไม่ว่าในส่วนของคดีแพ่งหรือคดีอาญา ทั้งนี้ ยืนยันว่าสหกรณ์ฯ ในฐานะเป็นผู้เสียหายเมื่อได้รับการคืนเงินก็จะนำเงินไปรวบรวมไว้สำหรับเยียวยาความเดือดร้อนของสมาชิก ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในส่วนที่ยอมความได้ยอมความกันไป อย่างไรก็ตาม การที่สหกรณ์ไม่ติดใจดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยถือเป็นการดำเนินการที่อยู่ในขอบข่ายอำนาจของคณะกรรมการ หลังยื่นหนังสือให้ดีเอสไอทีมทนายสหกรณ์ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อแสดงความประสงค์ไม่ดำเนินคดีแพ่งและอาญากับวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยเช่นกัน ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือไม่ประสงค์เอาผิดกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายของสหกรณ์ไม่มีผลต่อการสอบสอนดำเนินคดีของดีเอสไอขณะนี้ เพราะดีเอสไอยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหากับพระธัมมชโยเป็นเพียงการออกหมายเรียกเพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งยืนยันว่าพระธัมมชโยยังต้องเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอตามกำหนดนัดในวันที่ 26 มีนาคมนี้.-สำนักข่าวไทย
รัฐบาลปล่อยให้คณะกรรมการตัดสินใจเองมันก็กล่อมกันง่ายสิครับ เลยก็ยังต้องรอส่วนของคดีอาญาต่อ แต่ว่าหลักฐานคงแน่นหนาพออยู่แล้ว
ถ้าดูแล้วที่ทำอยู่นี่ไม่ได้เรื่องจริงๆผมอยากให้มีการนัดกันออกมาชุมนุมกดดันรัฐบาลเรื่องนี้ไปเลย ขนาดคุณไพบูลย์ที่ทีแรกออกตัวอย่างแรงสุดท้ายก็ดีแต่ปาก ถ้าประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับธรรมกายไม่ออกมาก็คงหวังไปพึ่งคนอื่นยากแล้ว
จริงอยู่ครับที่ DSIยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา หรือสอบปากคำอะไรเลย เราลืมกันไปหรือเปล่าว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของธัมมี่และทุกครั้งก็รอดเพราะว่าธัมมี่สร้างบรรทัดฐานไว้ให้กับตัวเอง คืนทรัพย์ไม่ผิดเพราะไม่มีเจตนากี่ครั้ง ๆ ก็ยังไม่หลาบจำกับการแก้ตัวแบบนี้ แรก ๆ ดูแล้ว DSIกระฉับกระเฉงน่าดู คนดูก็แทงเต็มที่ว่าธัมมี่ไม่รอดงานนี้ หลักฐานเยอะ ขุดคุ้ยกันน่าดู ก่อนหน้านี้ข่าวก็ออกมาแล้วว่าถ้าธัมมี่คืนเงิน ยูเนี่ยนก็ถอนฟ้องไม่เอาเรื่อง ผลข่าวมันก็ซาลงอะไร ๆ มันก็ดูอืด ๆ เหมือนมาม่าลวกน้ำ 10 นาที สิ่งเดียวที่รอคือรอให้ธัมมี่ตายไปเอง เพราะคนหมดตัวไม่ใช่เรางั้นรึ
คราวที่แล้วยักยอกที่ดิน ... คืนแล้วนะจ๊ะจร้าาาาา .... ผ่านมือรัฐบาลประชาธิปไตย ... รอด .... คราวนี้รับของโจร ... คืนแล้วนะจ๊ะจร้าาาาา .... ผ่านมือรัฐบาลทหาร .... รอด ? ..... มารอดูกัน ...
รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย วิษณุ เครืองาม พูดถึงกรณีวัดพระธรรมกาย ยอมคืนเงินให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น 684 ล้านบาท หลังศาลจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นัดไกล่เกลี่ย โดยสหกรณ์ยอมถอนความจากดีเอสไอ ว่า เรื่องนี้ประกอบด้วย คดีอาญา มีข้อหาฉ้อโกงประชาชน ยักยอกเงิน ความผิดที่เกิดขึ้นจะยอมความไม่ได้ จึงต้องเดินหน้าต่อไป
โฮะๆๆๆ ดิชั้นเห็นแล้วนึกถึงหนังสือเรื่องพระพุทธเจ้าชนะมารจริงๆค่ะ พยายามจะจัดการกับหลวงพ่อท่านแต่สู้บารมีท่านไม่ได้ ไม่แปลกหรอกจ่ะ ธรรมะย่อมชนะอธรรม หลวงพ่อท่านเป็นอวตารปางปราบมารทีนี้เชื่อรึยังคะ
คนชั่วที่สุดจะแพ้ภัยตนเอง ประชาชนที่รักประชาธิปไตยส่วนใหญ่ศรัทธาในองค์หลวงพ่อ ที่มันคิดจะจัดการท่านเพราะริษยาที่วัดธรรมกายมีเงินร่วมหมื่นล้าน ดิชั้นเชื่อว่าญาติโยมทีศรัทธาสามารถรวมเงินพันล้านยัดเป็นค่าไถ่พวกเผด็จการทหารเรื่องนี้จบแน่นอนค่ะ เพราะพวกมันสองมาตรฐานอยู่แล้ว ตั้งใจเข้ามาโกงกิน
นี่คือความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของเผด็จการในยุครัฐบาลของมันเอง ยอมรับวะเถอะค่ะ และดิชั้นอยากให้ขบวนการของ นปช กลุ่มอื่นๆเอากรณีของหลวงพ่อนี้เป็นเยี่ยงอย่าง สร้างความฮึกเหิมเพื่อเป้นแนวทางต่อสู้กับพวกเผด็จการในกรณีอื่นๆต่อไปจนมันพังทลายในที่สุด