ผมคิดว่า เรื่องธรรมกลายนี้ น่าจะเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลชุดนี้ไปเสียแล้ว ธรรมกลาย เป็น ลัทธิที่เติบโตขึ้นมาควบคู่ไปกับการรองรับอำนาจและบุญญาบารมีของคนในตระกูลชินวัตร และ แอบอิงกับฝั่งพรรคเพื่อไทย ธรรมกลาย มี เส้นสายและเข้าครอบครององค์ความคิดของมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดของฝ่ายมหานิกาย นั่นคือ จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ธรรมกลาย เป็น สนับสนุนวัดในประเทศไทยมากกว่า 50% โดยเฉพาะสายมหานิกาย ธรรมกลายมีองค์กรพุทธ และ องค์กรนอมินี อีกมากมายที่ดำเนินกิจกรรมของลัทธิิ วัดธรรมกลาย แทบไม่ต้อง กระดุกกระดิกอะไรเลยกับการยกพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชมาจัดการกับนายไชยบูลย์ เพราะ หลังจากนี้ ประชาชนคนไทยจะเห็นว่า ฝ่ายที่ออกมาต่อต้านธรรมกลายรวมถึงรัฐบาลของคุณประยุทธ์ จะถูก องค์กรพุทธ (ปลอมๆ) มากมาย และวัดบริวาร รวมถึงอลัชชีที่มีมากกว่าพระแท้ๆ ออกมาต่อต้าน จนภาพออกมาว่าคนที่ต่อต้านธรรมกลาย คือ คนที่ต่อต้านศาสนาพุทธ หาก รัฐมนตรีที่คุณประยุทธ์ ไม่มีความสามารถพอที่จะจัดการเรื่องดังกล่าว ก็คงเป็นได้แค่ ไม้ที่ปักอยู่บนขี้โคลน โดนอลัชชีพัดไปมา หาหลักธรรมไม่เจอ ผมดูท่าแล้ว นายสุวพันธ์ อะไรคนนี้ ไม่ค่อยมีกึ๋น ดูกล้าๆ กลัวไม่เด็ดขาด เพราะ ขนาดคนมีกึ๋นแบบ นายอาคม เอ่งฉ้วน ยังจัดการไม่ได้ ในสมัยรัฐบาลพรรค ปชป. รัฐบาลท่านมีสองทางเลือก ท่านจะปฏิรูปพระศาสนา หรือ จะปล่อยให้อลัชชีครองเมือง หากท่านเลือกจะปฏิรูปท่านก็จะเจอกับอลัชชีป่วนเมืองแบบที่ พวกเสื้อแดงป่วนเมืิองนั่นแหละ ท่านจะจัดการอย่างไร ท่านสามารถ uproot ความชั่วช้าในวงการสงฆ์ ได้ เหมือนกับวงการตำรวจส่วนหนึ่งที่ท่านเคยทำหรือไม่? ผมจะชี้แนะให้ ขอให้ท่านเลือกคนดีไว้ใจได้มาทำงานที่ ปปง. และ ให้ สตง และ ปปง ช่วยการเล็งตรวจสอบการใช้เงินของกรรมการมหาเถรสมาคมทุกคน รวมถึงวัดดังๆ ที่เกี่ยวข้อง ใครทำผิดก็จัดการกันตามกฎหมาย ไม่ต้องใช้กฎสงฆ์ เพราะในทางกฎหมายรัฐบาลท่านเป็นใหญ่ พระทำไรไม่ได้ ในวงการสงฆ์ ปล่อยให้พระท่านจัดการกันเอง ถ้าพระดียอมอยู่ใต้การปกครองพระเลวๆ ที่มี logic ความคิดว่า ยักยอกทรัพย์ แล้วเอามาคืนไม่ต้องอาบัติปาราชิก และปล่อยให้ธรรมวินัยย่อยยับลงไปพร้อมกับศรัทธาของประชาชนแล้ว มันก็คงเป็นกรรมของประเทศ แต่หากพระดีๆ ยังมีอยู่ ท่านก็คงต้องดำเนินการประชุมสงฆ์ ที่ยังเป็นพระที่ดี ประชุมกันหาทางออกจัดการกับอลัชชีที่แฝงตัวอยู่ในคราบของพระนักปกครอง แต่หากพระดีท่านมัวแต่หลบเข้าป่าเข้าดอย ก็ถือเป็นกรรมของฝ่ายฆราวาสและประเทศไทย เพราะคงพึ่งใครไม่ได้อีกแล้ว
เราปล่อยให้คนชั่ว ลอยนวลอยู่ในคราบผ้าเหลืองนานมากเกินไป จนถึงขณะนี้มันได้แตกกิ่งก้านสาขา จนใหญ่โตเกินจะโค่นลงในครั้งเดียว ตอนนี้ทำได้แค่ค่อยๆ ตัดกิ่งก้านออกก่อน ผมว่าใช้การบีบเส้นทาง ทางการเงิน แบบที่จขกท.โพสต์ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด คนที่หลงในลาภยศเงินทอง การตรวจสอบเกี่ยวกับการเงิน ลาภที่ไม่ควรได้ เป็นสิ่งที่มันกลัวที่สุด
คนที่จะจัดการได้คงต้องมีความตั้งใจจัดการเรื่องนี้แบบสุดๆ แล้วก็ยอมโดนด่าว่าเป็นเผด็จการด้วยเพราะจะมีเสียงค้านจากเครือข่ายจานบินออกมาตลอดอยู่แล้ว และที่สำคัญต้องมีเวลาในการจัดการเรื่องนี้พอสมควร ซึ่งเรื่องนี้น่าห่วงสุดถ้ารัฐบาลลุงตู่จะให้มีการเลือกตั้งตามเวลาที่ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เพราะรัฐบาลโคตรพ่อโคตรแม่ประชาธิปไตยที่เข้ามาไม่ว่าจากพรรคใหนผมว่าก็คงเงียบเหมือนเดิม
ผมว่าต้องทำเพื่อศาสนาไม่ให้ศาสนาตกต่ำไปมากกว่านี้ครับ จะครั้งใหญ่แค่ไหน คนชั่วต้องถูกปราบราบคาบสิ้นครับ
มหาเถระพยายามบอกว่า ผู้ตัดสินถูกผิดคือมหาเถระ พระพุทธองค์กล่าวว่าพระธรรมคือตัวแทนพระศาสดา การพยายามปกปิดความผิดของชัยบูลย์ ย่อมไม่ใช่เป็นเพื่อส่งเสริมพระศาสนาแน่นอน หากแต่เป็นการทำลาย อย่างแยบยล อาศัยช่องว่างในการทำให้คำสอนผิดเพี้ยนไป นอกจากความผิดเก่าแล้วยังมีความผิดที่เกิดใหม่ อีกหลายกรณี เช่นการไปซื้อที่ที่เพชรบูรณ์เป็นเพราะความโลภอยากได้ทรัพย์ในแผ่นดิน
ก่อนมาบวชเป็นคนยากจน พอบวชแล้ว มีเงินมีทอง สุขสบาย มีรถหรู มีคนใช้ ไม่ต้องบิณฑบาตร มีคนหาข้าวหาปลามาให้กิน กิเลส มันจึงเกิด ศาสนามันเลยเพี้ยน
พวกสลิ่มเอะอะก็ฟ้องศาลอ้างกฎหมาย พวกหัวหมอ แน่จริงให้ประชาชนตัดสิน ลงเลือกตั้งแข่งกับท่านธรรมชโยมั้ยละครับ
เรื่องศาสนาพุทธต้องให้ฆราวาสจัดการครับ เนื่องจากปรัชญาของพุทธศาสนาถือว่าเรื่องทางโลกเป็นสิ่งสมมติ ดังนั้นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบส่วนใหญ่จะมุ่งทางนิพพาน ไม่เข้ามาเอาเป็นเอาตายกับเรื่องกึ่งทางโลกที่เห็นๆกันอยู่ ผมเห็นแย้งกับหลายท่านที่คิดว่าพุทธศาสนาเสื่อมลง ถ้าเสื่อมจริงคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยคงเห็นดีเห็นงามกับการสั่งสอนและวัตรปฏิบัติของบางสำนักที่ผิดเพี้ยนไปในปัจจุบัน แต่นี่พุทธศาสนิกชนจำนวนมากออกมาวิจารณ์ ทักท้วง จนถึงลงมือดำเนินการต่างๆทางกฏหมายกับสำนักเหล่านั้น ผมถือว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังยึดถือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันมั่นคง เราควรปล่อยให้พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมุ่งทางนิพพานให้เราได้กราบไหว้บูชา อย่าคาดหวังหรือดึงท่านเข้ามาแปดเปื้อนกับเรื่องกึ่งศาสนากึ่งการเมืองเหล่านี้ ผมว่าเราๆท่านๆที่อยู่แถวต้นทางหรือกลางทางสู่พระนิพพานนี่แหละคือกลุ่มคนที่จะมาแก้ไขความผิดเพี้ยนในปัจจุบัน มาจัดการเรื่องนี้ตามกำลังของแต่ละคนดีกว่า อย่างน้อยก็ทำความเห็นให้ตรง เผยแพร่ความรู้ที่ถูกที่ควร ติติงบรรดาสำนักนอกรีตจนถึงขั้นต่อต้านและดำเนินการทางกฏหมายเพื่อดำรงความบริสุทธิ์ของพุทธปรัชญาให้สืบต่อถึงลูกถึงหลานและรุ่นคนต่อๆไป
ตามความคิดผม แค่สอบเส้นทางเงินโกงสหกรณ์ยูเนี่ยนให้ครบ เข้ากระเป๋าใคร ซื้ออะไร ซื้อใคร จับมาสอบให้หมด อาญัตติทรัพย์ ใครให้ความร่วมมือ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ กันเป็นพยาน ข้าราชการ พระวัดไหน ร่วมมือ ปลดออก. แยกไปตรวจสอบ ผมว่าก็ล้มได้แล้ว
แค่เรื่องเกณฑ์พระ 2 ล้านรูป นี่ก็เห็นช๊าด ชัดแล้วว่า... "เจตนา มุสา ?." อย่างงี้นี่แหล่ะ เป็นเครื่องพิสูจน์ ตรงกับสัจจธรรมของพระพุทธองค์ที่ว่า...
เรื่องยากทุกๆเรื่อง เหมือนปมเงื่อนหลายปมขมวดกันยุ่งเหยิง จริงๆแล้ว มีอยู่ปมเดียวที่แก้แล้ว ทุกปมหลุดหมด อาจช้าหน่อย เป็นไปได้ว่า ทำเรื่องสำคัญอันนั้นเรื่องเดียว ที่เหลือเด๋วก็ง่าย นายสั่งให้อยู่เฉยๆ ลูกน้องดันสลอนหน้ากันออกมา มาฮี่ออกมากันนักๆ เด๋วเข้าทาง เด๋วเฮอะ สมน้ำหน้ามึงแร
ผมกำลังสงสัยกับ ตรรกะควาย ๆ ที่ว่าระดมคนเพื่อกดดันให้กุไม่ผิด ในเมื่อเรื่องนี้ตัดสินกันที่พระวินัย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในหมู่พุทธศาสนิกชน ว่าการปราชิกของชัยบูลย์เกิดจากการกระทำของตน ปัญหาของการกระทำนี้ส่งผลในระดับชาติ การทำผิดฝาผิดตัว ส่วนหนึ่งก็มาจากการกระทำของชัยบูลย์
โชว์จะจะ ภาพเช็คพันล้าน เซ็นจ่ายถึงเครือข่ายวัดธรรมกาย โพสต์เมื่อ : 23 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 10:30:57 ปปง. แสดงหลักฐานเช็คที่ ศุภชัย ศรีศุภอักษร เซ็นจ่ายถึง วัดธรรมกาย-เครือข่าย มีจำนวนแตะพันล้านบาท เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้ออกมาเปิดเผยเส้นทางการเงินของ "ศุภชัย ศรีศุภอักษร" นักการสหกรณ์ดีเด่นระดับประเทศ ซึ่งมีความเชื่อมโยงว่า จำนวนเงิน 1 พันล้านบาทที่ยักยอกมาจากเครดิตยูเนียนคลองจั่น ได้สั่งจ่ายเป็นเช็คถึงวัดพระธรรมกาย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง มากถึง 11 ใบด้วยกัน ซึ่งบางฉบับมีจำนวนวงเงินสูงถึง 100 ล้านบาท เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ทาง ปปง. ได้มีการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว พบว่ามีการสั่งจ่ายเช็คจากนายศุภชัยออกไปจริง หลายครั้ง แต่ไม่สามารถอายัดทรัพย์ได้ เพราะมีกฎหมายที่ชัดเจนว่า ห้ามยึดที่ธรณีและทรัพย์สินของสงฆ์ เพราะถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินอยู่แล้ว สำหรับภาพเช็คที่เซ็นทั้งหมด 11 ใบ แยกออกได้ดังต่อไปนี้ 1. เช็คที่จ่ายถึงวัดธรรมกาย-พระธมมชโย จำนวนถึง 4 ใบ มีจำนวนรวมทั้งหมดถึง 310 กว่าล้านบาท 2. เช็คที่จ่ายให้กับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกาย จำนวน 3 ใบ มีจำนวนรวมทั้งหมดถึง 480 กว่าล้านบาท 3. เช็คที่ไม่ทราบชื่อผู้รับ อีก 4 ใบ มีจำนวนรวมทั้งหมดถึง 310 กว่าล้านบาท ภาพจาก สำนักข่าวอิศรา
ธรรมโกย ใช้หลักวิธีการ แจกเงิน ซื้อใจพระ คล้ายกับวิธีการเดียวกับไอ้แม้วเลย ไอ้แม้วก็แจกเงิน ซื้อใจพวกควายแดง โมเดลเดียวกัน
..จากประสบการณ์ ผมโดยตรง ..ระดับลูกวัดทั่วไป 5.. ระดับเจ้าอาวาสทั่วไป 25.. ระดับตำบล 1.... สูงกว่านั้น ลองคำนวนกันเอง ครัช .. บริการรับส่งฟรี รถบัสจอดตามจุดต่างๆ ปิ๊คอัพจากที่ต่างๆ ทอยส่งขึ้นรถ และรับส่งขากลับ.. ....ปล. อย่าถามหาหลักฐาน.. นะครัช ..เพราะว่า ใครๆก็รู้ ใครๆเขาก็พูดกัน... ..........อิอิอิ
มหาเถรสมาคม กับสำนักพุทธ ร่วมมือกันปกป้องลัทธิจานบิน ถึงขนาดนั้น ต้องเอาคนที่เหนือกว่า อย่างรัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรี สั่งให้จัดการครับ เล่นทางกฎหมายทุกอย่างที่ทำได้ ไม่งั้น มันก็แพร่พันธ์ความเชื่อต่อไปได้เรื่อยๆ ขยายอาณาจักรไปเรื่อยๆ
เดาได้เลยว่า เดี๋ยวต้องมีกลุ่มก๊วนที่มีชื่อพิลึก ๆ แบบ "ชมรมผู้รักประชาธิปไตยปกป้องธรรมกลาย" หรือ "กลุ่มนักศึกษาทำ-มะ-สาดรักประชาธิปไตย(กว่าพ่อแม่)ปกป้องศาสนา" อะไรเพือกนี้ออกมากดดันให้ยุบ กรรมาธิการปฎิรูปศาสนาของ สปช. ไปจนถึงเกณฑ์พวกตาบอด ขาเป๋ ขอทาน ออกมากดดันตามถนัดของพวกนี้
ใครจะว่าไงผมเคารพความคิดนะครับ แต่ความเห็นผมคือ การดิ้น ๆๆๆๆๆ กระเด่ว ๆ ครั้งนี้ของไอ้พวกแดงและลูกศิษย์ไอ้ชัยบูลย์ คือจุดที่โดมิโน่ของระบอบไอ้แม้วมันจะพังทลายอย่างแท้จริงแล้วครับ
อย่าทำให้ฝันสลายนะท่าน ธรรมกายอ่วม! สปช. ชง ปปง. อายัดทรัพย์ "พระธัมมชโย"-ตรวจที่ดินวัด-ฟ้องอาญาพระผู้ช่วย
ก็จัดการไม่ง่ายหรอก ถือว่ายากด้วยซ้ำ แต่ถ้าไม่จัดการ ต่อไปศาสนาพุทธก็จะไม่เหมือนกับเมื่อครั้งที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายเรานับถือ
มีเรื่องเล่าให้ฟังอยู่เรื่อง เป็นเรื่องจริงที่ตัวกระผมประสบมาด้วยตัวเอง เรื่องมีอยู่ว่า ในปี 2550 ผมได้ไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด......... วัดนี้มีพระนอนที่สวยและใหญ่มาก ติดๆกับวัดนี้จะเป็นอาสนวิหาร ของพี่น้องชาวคาทอลิก ในช่วงที่ผมบวชวัดนี้ได้จัดโครงการบรรพชา สามเณรในช่วงปิดเทอม ผมเองก็ได้รับมอบหมายจากผู้ช่วยเจ้าอาวาส ให้เป็นพี่เลี้ยงสามเณรเหล่านั้น พระรูปหนึ่งจะดูลสามเณรประมาณ 4-5 คน ทีนี้ในสามาเณรที่ผมดูแลมีอยู่คนหนึ่งมีกริยาสำรวมและการ นุ่งห่มเรียบร้อยกว่าคนอื่นๆ ซึ่งผมก็ให้การดูแลทุกคนเสมอหน้ากัน แต่สามเณรองค์นี้ผมรู้สึกถูกชะตาเป็นพิเศษ ก็เลยมีการสนทนาธรรม กันมากเป็นพิเศษ ผ่านไปประมาณสัปดาห์กว่า สามเณรตนนี้เดินเข้ามา หาผมแล้วถามผมว่า "หลวงพี่ครับ ถ้าผมจะลาออกจากโรงเรียนเพื่อไป ปฏิบัติธรรมอย่างเดียว หลวงพี่ว่าดีไหมครับ" ผมเลยถามเณรกลับไปว่า "นี่ เรายังเรียนหนังสืออยู่ใช่ไหม" เฌรตอบว่า"ครับ" ผมเลยถามไปอีกว่า "แล้วมีปัญหากับครูหรือเพื่อนๆในชั้นหรือเปล่า" แกก็ตอบว่า"ไม่มีครับ" ผมเลยถามว่า"ถ้างั้น เณรจะไปปฏิบัติธรรมที่ไหน" เณรตอบ"ธรรมกาย" ผมอึ้งไปพักแล้วถามต่อว่า"แล้วเณรต้องการอะไรจากการไปปฏิบัติธรรม ที่นั่น" เณรตอบ"ผมต้องการความหลุดพ้น" ทีนี้ผมเลยถามต่อไปอีกว่า "แล้วพ่อแม่เณรไม่ว่าอะไรหรือ เออ พ่อแม่เณรทำอาชีพอะไร"เณรตอบว่า "ผมไม่ทราบว่่า พ่อแม่จะคิดอย่างไร อ้อพ่อแม่ผมค้าขายอาหารในตลาด" ผมถามต่อ"แล้วเณรเคยช่วยเหลืองานของครอบครัวหรือเปล่า" เณรตอบ "พ่อแม่ให้ผมเรียนอย่างเดียว ท่านหวังในตัวผมมาก" ทีนี้ผมเลยบอกเณร ไปว่า"ฟังให้ดีนะ การที่คนเรามุ่งหวังความหลุดพ้นเป็นสิ่งที่ดี ควรค่าแก่ ความเป็นมนุษย์ การที่เณรจะไปปฏิบัติธรรมที่ไหนก็ตามเป็นสิทธิของเณร เณรรู้อะไรไหม พระพุทธเจ้ากว่าจะบรรลุธรรมหลุดพ้นจากอาสวะกิเลสได้ ต้องบำเพ็ญเพียรสั่งสมบุญบารมีไม่รู้กี่แสนกี่ล้านชาติ เณรเองยังมีหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติอยู่หลายอย่าง เช่น การศึกษาหาความรู้ การทำงานประกอบ สัมมาชีพ การช่วยเหลือกิจการงานของพ่อแม่เณร เหล่านี้ เณรทำหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ทำหรือทำไม่เต็มที่ ก็อย่าเพิ่งไปปฏิบัติธรรมที่ไหนเลย รู้หรือไม่ ธรรมะขั้นแรกของมนุษย์ทุกคนคือความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรา ฉะนั้น เณรต้องทำให้ได้ก่อน" พอผมพูดจบ เณรก็พยักหน้าแล้วตอบว่า"ก็คนของวัดธรรมกายบอกผม ว่าไปปฏิบัติกับพวกเขาสำคัญกว่า พ่อแม่หรือจะสำคัญกว่าธรรมกาย" ผมก็เลยบอกไปว่า"หลวงพี่คิดว่าเณรคงจะฉลาดพอที่จะแยกแยะอะไรดี อะไรไม่ดี อย่าลืมหน้าที่ที่สำคัญของเณรตอนนี้คืออะไร" นี่คือสิ่งที่ผมได้ เจอมา เลยเอามาเล่าให้ฟัง ยอมรับว่าธรรมกายได้บ่อนทำลายชาติและ สังคมอย่างไม่น่าให้อภัย
สั่งจ่ายใน นาม สหกรณ์เลย ???? สหกรณ์ จะเอาเงินมา บริจาค วัดได้อย่างไง??? คิดอะไร ไม่ออก ยกเว้น ฟอกเงิน อย่างเดียว วัด สัญญา จะไปซื้อที่ดิน จาก ศุภชัย ศรีศุภอักษร ด้วย ใช่ไหม?????
เท่าที่ทราบจากการพูดคุยกับแหล่งข่าว พวกเปรตในคราบลูกศิษย์ธรรมกลายก็หากินกับวัดเยอะมาก บางคนจากไม่มีอะไรกลายเป็นรวยหลายสิบหลายร้อยล้าน ทำเป็นเครือข่ายขายตรงหลอกขายบุญเลี้ยงให้ตัวเอง (ไม่ใช่วัด) ร่ำรวย
พระพุทธเจ้า ละทิ้งความร่ำรวยหรูหราในราชสำนัก เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น และความสุขที่แท้จริง แต่ถูกคนบิดเบือนแปลงเป็นลัทธิ เน้นให้คนร่ำรวย ฟุ้งเฟ้อกับกิเลส
ปัจฉิมโอวาท "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมความสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงบำเพ็ญไตรสิกขา คือ ศิล สมาธิ ปัญญา ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" จะมีกรรมการมหาเถรสมาคม ปธ 9 สักกี่องค์ที่ยังจำคำสอนปัจฉิมโอวาทของสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
จำได้ แต่ปฏิบัติไม่ได้มั้งครับ น่าเสียดายที่ยุคหลังการแต่ตั้งพระผู้ใหญ่เน้นเอาที่เปลือก ไม่ได้ยึดที่แก่นของศาสนา เลยได้มหาเถระชุดที่พิกลพิการอย่างที่เห็น ผมละเคืองจริง ๆ ที่สุดท้ายชัยบูลย์ไม่ปราชิกเพราะมีคำว่า "ถ้า"
หรือเป็นเพราะเราๆ ทำเป็นชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ทอดธุระ ไม่ค่อยจะนำพา จึงทำให้บางลัทธิล้างสมองคนให้กลายเป็นจิตลุ่มหลงได้เนิ่นนาน ยึดติดอัตตา จึงทำให้มีสิ่งด่างพร้อยเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนา ยอมรับเป็นเรื่องที่จัดการไม่ง่ายเลย เราว่าธรรมชโยก็เป็นแค่ตัวล่อเป้า เป้าตัวจริงอยู่ที่สมเด็จช่วงๆ ต่างหาก
สมัยก่อน พระมหาโชว์ ด่าธรรมกายเช้าเย็น หลังจากรับเงินทักษิณ เชียร์เสื้อแดง ตอนนี้กลับมาเข้าข้างธรรมกาย เดินสายด่า คุณไพบูลย์ อลัชชี เต็มบ้าน เต็มเมืองจริงๆ คุณประยุทธ์ ก็อย่านิ่งดูดายปัญหาพวกนี้ เพราะ ตอนนี้ศาสนาการเมือง มันมาเป็น packet ต่อให้ท่านกวาดล้างนักการเมืองชั่วไปหมด แต่มันยังมีศาสนาของอลัชชี ที่จะคอยสนับสนุนนักการเมืองชั่วพวกนี้ให้กลับมาอีกโดยอาศัยความเชื่อทางศาสนา
ถ้าเราแก้ไชใชกฏหมายให้พระสงฆ์มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ มันก็ไม่มีวันเอาชนะบารมีหลวงพ่อธรรมไชโยได้ต่อให้เป็นสุเทพปภากโร
ไม่ผิดกฏหมู่ของคณะสงฆ์นี่คะ ทุกองค์กรขับเคลื่อนด้วยประชาธิปไตย ตอนที่สุวิทย์ไปเข้าร่วมกับพวกกฎเพราะหลงผิดคิดว่าตัวเป็นอาจารย์ธรรมโชติ ตอนนั้นเคนือข่ายวิทบุชุมชนของเราก็มีความคิดว่าควรจัดม๊อบพระสงฆ์มาขับไล่มัน เหมือนโมเดลม๊อบกำนันผู้ใหญ่บ้าน
เอาเลยเจ๊ ผมเห็นด้วยอย่างแรง ธรรมะพารวย เห็นป้าธัมมี่บอกว่า โยมเอ๋ย ถ้าทำบุญกับวัด ทำมะกลายวันนี้แค่สิบบาท วันข้างหน้าโยม จะมีเงินร้อยบาท โอ้โห สิบเท่าตัวเลยนะนั่นน เจ๊ไปทำบุญกับทำมะกลายสักสิบล้านหรือทำบุญ ร้อยล้านไปเลยนะ วันข้างหน้าเจ๊จะมีเงินถึง ร้อยล้านหรือพันล้านเลยทีเดียว รีบๆหน่อยนะจ๊ะ อย่าลืม ธรรมะพารวย ธรมมะพารวย
เรากำลังจะโพสแบบนี้พอดี เน้นย้ำว่า ปัจจุบัน การฟุ้งเฟ้อเห่อยศ มีให้เห็นกันทั่วไป ได้สัญญาบัตรพัดยศ ก็มีการอวยยศกัน แห่แหนกันไปรอบตำบล อำเภอ หรือไม่ก็จัดงานกันยิ่งใหญ่มโหฬาร การจะได้ตำแหน่งมา จะมีการระบุว่าทำอะไรบ้าง สร้างถาวรวัตถุ เป็นเงินเท่าไร กี่ล้าน สนับสนุนองค์กรอะไรเท่าไร กี่ล้าน เน้นถาวรวัตถุกันมาก ทำให้แต่ละอาราม แข่งขันกันสร้างตึกสร้างอาคารกันใหญ่โต
เรื่องเหล่านี้เริ่มต้นเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว โดยหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งสมัยนั้นอยากวัดรอยเท้า"ไทยรัฐ" แต่สู้ไม่ได้เลยอาศัยข่าวเกี่ยวกับพระเป็นจุดขาย พอเริ่มมีชื่อเสียงกับข่าว"ยันตระ" ก็เริ่มหากินกับขายพื้นที่โฆษณาขายพระเครื่อง และเริ่มโปรโมทหลวงพ่อคูณ โดยอาศัยเหตุการณ์ตึกถล่มที่โคราชและมีผู้หญิงรอดชีวิตคนหนึ่งแขวนเหรียญหลวงพ่อคูณ สมัยนั้น"เหรียญ"หลวงพ่อคูณขายดีมาก แต่ที่ผมชอบคือ เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่น"ขี่เฮลิคอ๊ปเตอร์"มาโปรด สื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆเห็นว่าหากินกับพระเงินดี ก็เริ่มเเข่งกันเสนอข่าวอภินิหาร งมงาย ยกเอา"พระสงฆ์" หลวงพ่อ หลวงพี่ ออกมาหากิน อ้างว่าหาเงินสร้างโบสถ์ สร้างพระประทาน ยกลูกนิมิตร จากพระป่าเดินตีนเปล่า ก็หันมาใส่รองเท้าแตะหนัง เปลี่ยนมานอนห้องแอร์ อวดอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ เข้าฌาณดูดวง ทำมนตร์เสน่ห์
ปัญหาผมว่าถ้าจะแก้จริง ๆ มันแก้ได้ แต่นี่เตะถ่วงกันเองในหน่วยงานของรัฐ คนนึงให้ข่าวอย่างนึง ออกมา 10 คน ก็ 10 อย่าง ทั้ง ๆ ทั่นั่งประชุมก็คุยเรื่องเดียวกัน คนนึงบอกได้ อีกคนบอกไม่ได้ ดึงจนเรื่องซาเงียบหายไป จานบินก็บินต่อไป จะว่าไป วัด สำนักสงฆ์ พระสงฆ์ ประชาชนสามารถ ตรวจสอบได้ไม่ใช่อ้างว่าเป็นเรื่องของพระของเจ้า ถ้าเป็นเช่นนั้นยุบสำนักพุทธไปซะ อย่าลืม วัดคือที่สาธารณะที่เราชาวพุทธสามารถเข้าไปกราบไหว้สักการะได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ปิดประตูแล้วแลกบัตรผ่านซะ ก่อนเข้าพบเจ้าอาวาสก็ไปแลกเบอร์รอเรียก สำนักพุทธเอย มส.เอย และคนใหญ่คนโตห้ามเราประชาชนวุ่นวายยุ่งเกี่ยวกับสงฆ์ เพื่ออะไร