เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลเข้ากันพื้นที่บริเวณด้านนอกอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารเอชเอสบีซีบนถนนนาธานในเขตมงก๊กของเกาะฮ่องกง หลังจากเข้าเคลียร์สิ่งกีดขวางในพื้นที่บางส่วนของที่ชุมนุม วันที่ 26 พ.ย. 2557 (ภาพรอยเตอร์ส) เอเจนซี/รอยเตอร์ส - ตำรวจฮ่องกงหิ้วปีก “โจซัว หว่อง” แกนนำนักศึกษาชื่อดัง และเพื่อนร่วมอุดมการณ์คนอื่นๆ ระหว่างเข้าเคลียร์สิ่งกีดขวางในพื้นที่การประท้วงเขตมงก๊กตามคำสั่งศาลในช่วงเช้าวันนี้ รายงานข่าว (26 พ.ย.) อ้างผู้สังเกตการณ์ของรอยเตอร์สระบุเหตุต่อสู้ชุลมุนระหว่างตำรวจหน่วยปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในเขตมงก๊กของฮ่องกง ซึ่งปะทุขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้ารื้อถอนสิ่งกีดขวางภายในที่ชุมนุมหลัก ช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เจ้าพนักงานฝ่ายยึดทรัพย์สินได้อ้างคำสั่งศาลสูง ตักเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้ละออกจากพื้นที่ ก่อนที่คนงานสวมหมวกแดงและเสื้อ “เรารักฮ่องกง” (I love HK) ราว 80 คน จะเข้ารื้อรั้วเหล็กและไม้ รวมถึงเต็นท์ของผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ “หากพวกคุณต่อต้าน นั่นหมายถึงอาจโดนโทษจำคุกก็เป็นได้ ดังนั้นเราขอเตือนให้หยุดขัดขวางในทันที” ตำรวจกล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ดี หลังจากเวลาล่วงพ้นราวสองชั่วโมง กลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนยังคงปักหลักบนถนนนาธาน (Nathan Road) แกว่งไกลสัญลักษณ์การประท้วงสีเหลืองสดและป่าวร้อง “ประชาธิปไตยเต็มใบ” ให้กับอดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ต่อไป “คุณเอาชนะจิตใจของพวกเราเหล่าผู้ประท้วงไม่ได้หรอก!” หลิว ยัก-หลิน วัย 52 ปี ตะโกนพร้อมชูร่มสีเหลืองซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ขณะประจัญหน้ากับตำรวจที่ยืนประจำการพร้อมอาวุธกระบองในมือ โจซัว หว่อง แกนนำนักศึกษาวัย 18 ปี ถูกตำรวจฮ่องกงหิ้วปีกออกจากพื้นที่ชุมนุมในเขตมงก๊กเมื่อช่วงเช้าวันพุธ (26 พ.ย.) ที่ผ่านมา (ภาพเอเจนซี) ขณะที่บนหน้าเฟซบุ๊กของสหพันธ์นักศึกษาฮ่องกง (Hong Kong Federation of Students) ระบุว่า นายโจซัว หว่อง และนายเลสเตอร์ ซัม สองแกนนำนักศึกษาผู้เป็นหัวหอกของการประท้วงที่สั่นสะเทือนศูนย์กลางการเงินเอเชียมานานกว่าสองเดือน ถูกตำรวจจับกุมตัวไปด้วย ด้านเฟซบุ๊กของกลุ่มสกอลาริซึม (Scholarism) ก็โพสต์ข้อความว่า นาย Szeto Tze-long จากองค์การนักศึกษาฮ่องกงแห่งมหาวิทยาลัยจีน และนายราฟาเอล หว่อง โฮ-มิง จากสหพันธ์นักประชาธิปไตยสังคม ถูกจับตัวเช่นกัน ทั้งนี้ ช่วงคืนวานตำรวจฮ่องกงจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 116 ราย ในเหตุปะทะระหว่างเคลียร์พื้นที่บางส่วนตามที่ศาลฯ สั่งเปิดใช้ถนนในเขตมงก๊ก ซึ่งถูกบล็อกปิดโดยการเคลื่อนไหว “อ็อกคิวพาย เซ็นทรัล” โดยกำลังตำรวจกว่า 7,000 นาย เข้ารื้อถอนสิ่งกีดขวางบนถนน Argyle เป็นผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมโยกย้ายไปยังถนนพอร์ตแลนด์แทน ก่อนจะถูกผลักดันกลับถนนนาธานและเกิดเหตุวุ่นวายดังกล่าวขึ้นมา คนงานสวมหมวกแดงและเสื้อ "เรารักฮ่องกง" เข้ารื้อถอนรั้วเหล็กบนถนนนาธาน (ภาพเอเจนซี) กลุ่มผู้ชุมนุมเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจบนสี่แยกถนนนาธานตัดกับถนนซานตง ขณะคนงานดำเนินการรื้อถอนสิ่งกีดขวาง (ภาพเอเจนซี) ภาพมุมสูงขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารื้อทำลายสิ่งกีดขวางที่ผู้ชุมนุมสร้างขึ้นบนถนนนาธาน (ภาพรอยเตอร์ส) กลุ่มคนงานในนามเจ้าพนักงานยึดทรัพย์สินเข้ารื้อรั้วกั้นและสิ่งของต่างๆ ในพื้นที่ชุมนุมถนนนาธาน (ภาพรอยเตอร์ส) ปล จากที่ติดตามข่าวสารนี้มาตลอด สงสารมากที่สุด คือ คนที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง เพราะพวกเขาคือคนที่สูญเสีย เพราะที่ผ่านมาฮ่องกง เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ สำคัญที่สุด แห่งหนึ่งของโลก แต่พอเจอเหตุการณ์นี้เข้าไป .......... ปล 2 อีกกลุ่ม คือเหล่าคนดังในการประท้วง ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาลจีน โดยเฉพาะเหล่าแกนนำ หลังจากนี้จะอยู่ยังไง? หางานทำอย่างไร? แต่ทั้งหมดนี้ก็มาจากต้นเหตุที่อยากถามเหล่าแกนนำเหลือเกินว่า ทำไปทำไม? ทำไปแล้วได้อะไร?
คนที่คิดว่าตัวเองเสรี ตั้งคำถามกับสิ่งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่คนที่ความคิดเสรีกว่านั้น ตั้งคำถามกับแม้กระทั่งกับประชาธิปไตย
ก็ไม่รู้น่ะทุกครั้งที่เห็นการประท้วงที่จีน ภาพของเทียนอันเหมินก็ปรากฎขึ้นมา ผมว่าที่ฮ่องกงเนี๊ยะละมุนละม่อมแล้ว สุดท้ายแล้วผมว่าไม่สำคัญหรอกว่าผูปกครองจะมาในแบบไหนขอให้ทำดีก็พอ มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับที่ใครซักคนจะกอดประชาธิปไตยไว้แต่ชั่วแค่ไหนก็ไม่ว่า
ถ้าจำไม่ผิด รัฐบาลกลางของจีนแดงและผู้ปกครองของเขตปกครองเกาะฮ่องกงมองข้ามช็อตตั้งนานแล้วว่าเรื่องนี้มากกว่าการเรียกร้องประชาธิปไตย
ถ้าเป็น ปชต. แล้วแดร๊กกันชิหายวายวอดแบบบ้านกรู เมิงยังจะแหกตูดดม ปชต. มันอีกมั้ย??? ไอ้ตัว อีตัวแดร๊กบ้านกรูส่วนใหญ่... ก็ลูกหลานแบบพวกเมิงเหมือนกันทั้งนั้นแร๊ะ... ให้มันชื่อระบอบทรราชย์สามานย์ก็ได้ แต่ผู่นำกะผู้ตามไม่อับP ต่อแผ่นดินก็พอ...
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เหล่าควายแดงหน้าโง่หลงคิดว่าได้ปลดโซ่ตรวนแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าโซ่ตรวนยังคงอยู่เช่นแต่ถูกสนตะพายอีกต่อหนึ่ง วอลแตร์ ผู้เผยแพร่แนวคิดที่พาฝรั่งเศสสู่ความวุ่นวายและนำพาสงครามนโปเลียนมาสู่ยุโรป ไม่ได้ว่าไว้
ขอให้มีคำว่าประชาธิปไตย พวกนี้ก็ฟินไปสามโรคละ ส่วนเนื้อแท้จะเป็นยังไงก็อีกเรื่อง เพราะแค่ว่า "ประธิปไตรย" คืออะไรก็คงไม่รู้ ไม่เข้าใจ เหมือนๆกับตอนที่มาชุมนุมไล่นาย "ประสิทธิ์"