เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้หน่วยงานราชการศึกษาแนวทางในการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือลานกว้าง (โซลาร์เซลล์) ในหน่วยงานราชการ โดยให้กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพในการประสานงาน เนื่องจากงบประมาณจากภาครัฐในกลุ่มสาธารณูปโภค โดยเฉพาะอัตราค่าไฟฟ้าของหน่วยงานราชการมีค่าใช้จ่ายสูง และบางหน่วยงานมีภาระติดหนี้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จึงต้องการให้พลังงานโซลาร์เซลล์เข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวซึ่งเป็นงบประมาณภาครัฐ นายสราวุธกล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าว ล่าสุดนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงานได้สั่งการกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เป็นหน่วยงานกลางในการประสานข้อมูลกับหน่วยราชการทั้งหมด นอกจากนี้ กระทรวงจะประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อหาแนวทางความเป็นไปได้ในการกำหนดให้งบของหน่วยงานที่ให้ลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาและลานกว้าง นอกเหนือจากงบอุดหนุนที่มาจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน วงเงินรวม 12,000 ล้านบาทซึ่งกระทรวงพลังงานดูแลอยู่ สำหรับต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ 42.2 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์ ลดลงจากปี 2557 ที่ต้นทุนอยู่ที่ 54 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 35 บาท/เหรียญสหรัฐ เนื่องจากไทยยังไม่สามารถผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในไทยได้ มีเพียงการนำเข้าวัตถุดิบมาประกอบในไทยเท่านั้น โดยผู้ผลิตโซลาร์รายสำคัญของโลก อาทิ จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี รายงานข่าวจาก กฟภ.กล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานทหารเป็นหน่วยงานที่ติดค้างหนี้ค่าไฟฟ้ามากที่สุด http://www.matichon.co.th/news/345884
หน่วยงายทหารแต่ละกรมกอง เจ้าหน้าที่การเงินมีหน้าที่จัดเก็บค่าไฟฟ้า จากบ้านพักทหารและเบิกจ่ายงบค่าไฟฟ้า แล้วนำส่งการเงินใหญ่ของแต่ละค่าย แต่มีหลายที่ไปไม่ถึง ขนาดกองพันอยู่ตรงข้าม การเงินค่าย ยังไปไม่ถึงเพราะ เจ้าหน้าที่การเงินระดับล่างที่รับผิดชอบทุจริต กว่าจะรู่ก็ผ่านไป เกิน 3 เดือนแล้วการเงินใหญ่ทวงมา จับขังคุกแต่ไม่มีเงินจ่าย เป็นแบบนี้เยอะหลายแห่ง เท่าที่เคยสัมผัสมานะ นี่อาจจะเป็นสาเหตุการค้างค่าไฟฟ้า ส่วนหนึ่งก็ได้
แปลกใจอะไรละ งบประมาณมากกว่านี้ตั้ง 12 เท่า ยังค้างค่าใบประทวนได้เลย งบประมาณปี 2556 : 2.4 ล้านล้านบาท แต่ค้างค่าใบประทวนจำนำข้าว ??? เผยแพร่เมื่อ 18 พ.ย. 2013 นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการรับเรื่อง ร้องเรียนมาจากชาวนาจำนวนมาก ในหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี อยุธยา ชัยนาท พิจิตร อุตรดิตถ์ และเขตมีนบุรี ในกรุงเทพฯ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน จากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งยังไม่ได้รับเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส. ) ทั้งๆที่ชาวนานำข้าวไปจำนำตามขั้นตอนปกติ ดังนั้นต้องการให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินให้ชาวนา เพื่อลดความเดือดร้อน เนื่องจากบางคน ถูกเจ้าของที่นาทวงค่าเช่าที่นา จึงเกรงว่าหากไม่มีเงินจ่ายค่าเช่านา นายทุนที่ดิน อาจจะนำที่นาให้คนอื่น ที่เสนอค่าเช่านาสูงกว่าไปเช่าแทน ทั้งนี้ ชาวนาจำนวนมากเริ่มทนไม่ไหว บางรายเริ่มคับแค้นใจ เพราะเดือดร้อนจากการไม่มีเงินใช้ ขณะที่บางรายแจ้งว่า ได้นำใบประทวนไปขอขึ้นเงินกับ ธกส. แต่ก็ไม่ได้เงิน แถม ยังถูกเจ้าหน้าที่ ธกส. ทวงค่าดอกเบี้ยที่กู้ไปอีก ทำให้ เกษตรกรรู้สึกเสียกำลังใจมากเพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายในการดำรงชีวิต และจ่ายหนี้ นายประสิทธิ์กล่าวต่อไปอีกว่า "ชาวนาจำนวนมากเริ่มทนไม่ไหว กับปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพราะมีปัญหาเยอะมากขึ้น เมื่อเขามีใบรับรองเกษตรกร และนำข้าวไปจำนำกับโรงสีข้าว แล้วเมื่อได้รับใบประทวนภายใน 3 วัน และ ภายใน 7 วันจะต้องได้รับเงินจากธกส. แต่สุดท้ายหลายรายก็ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งเป็นเวลาผ่านมาเดือนกว่าแล้ว" กระทู้ถามสด จากลูกชาวนาที่พ่อแม่เข้าโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล ที่เวทีปราศรัยของพรรคหนึ่ง เรามาฟังคำตอบจากคนบนเวทีกันครับ (ชะอำ)
ทำไมจขกท.ไม่ไปถาม ทักษิณ,สมัคร,สมชาย,บิ่งลักษ์,พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ.และอดีตผบ.สส.ดูล่ะว่าทำไมถึงจ่ายช้า หรือว่าเพิ่งมาตกใจตื่นในรัฐบาลนี้