กาฬสินธุ์ 23 ก.ค.-ญาติพอใจคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ฆ่าแขวนคอวัยรุ่น 17 ปี ช่วงประกาศสงครามยาเสพติดเมื่อปี 2547 ขณะที่ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์คนปัจจุบัน เตรียมยกคดีนี้เป็นอุทาหรณ์ กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้ก้าวพลาดซ้ำรอยอดีต.-สำนักข่าวไทย ************************************************ ข่าว 7 สี - ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่ม และลดโทษ 6 อดีตตำรวจกาฬสินธุ์ ที่ร่วมฆ่าแขวนคอนักเรียนชายอายุ 17 ปี เมื่อ 11 ปีก่อน วันนี้ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษา คดีที่ ดาบตำรวจอังคาร คำมูลนา, ดาบตำรวจสุดธินันท์ โนนทิง, ดาบตำรวจพรรณศิลป์ อุปนันท์, พันตำรวจโทสำเภา อินดี, พันตำรวจเอกมนตรี ศรีบุญลือ และ พันตำรวจโทสุมิตร นันสถิตย์ ตำรวจสังกัด สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ถูกฟ้องในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เคลื่อนย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากกรณีที่จำเลยได้จับกุมตัวเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ก่อนจะมีผู้ไปพบร่างของเยาวชนดังกล่าว ถูกฆ่าแขวนคอที่กระท่อมกลางทุ่งนา ในจังหวัดร้อยเอ็ด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2547 คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตดาบตำรวจทั้ง 3 นาย และให้จำคุกตลอดชีวิต และจำคุก 7 ปี ตำรวจ 2 นาย และยกฟ้อง 1 นาย ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งหมดทำผิดจริง พิพากษายืนให้ประหารชีวิตดาบตำรวจอังคาร และดาบตำรวจพรรณศิลป์, แก้โทษดาบตำรวจสุดธินันท์ เหลือจำคุก 50 ปี, แก้โทษพันตำรวจโทสำเภา จากเดิมที่ศาลยกฟ้องเป็นจำคุกตลอดชีวิต และแก้โทษพันตำรวจเอกมนตรี และพันตำรวจโทสุมิตร โดยให้จำคุกคนละ 5 ปี ******************************************** ศพนี้ยังพอได้รับความเป็นธรรม แม้ว่าจะช้าไปถึง 11 ปี และไม่รู้ว่ายังมีอีกกี่ศพที่ตายไปโดยไม่มีโอกาสได้รับความเป็นธรรมกลับมาเลยแบบศพนี้ ปล. ยังมีอีกคดีที่รออยู่นะครับ และมีอีกหลายรายที่ตายอย่างน่าสงสัยในกรณีฆ่าตัดตอน 2500 ศพ ตามรายงานของ HRW https://www.hrw.org/sites/default/files/reports/thailand0704thwebwcover.pdf ส่วนใครที่ต้องการทราบเพิ่มเติมก็ไปหาอ่านได้นะ เล่มนี้แนะนำ เพราะเป็นผลการวิเคราะห์เรื่องนโยบายปราบปรามยาเสพติด 2500 ศพ จาก คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษาและวิเคราะห์การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) หาซื้อได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ นะ http://www.chulabook.com/description.asp?barcode=9786162692796
เคยคุยกับตำรวจบุรีรัมย์ ช่วงนั้นก็ฆ่าคนขายยากันอย่างเอิกเกริก ตำรวจรายนั้นเล่าว่าลูกพี่ที่เป็นตำรวจจับมัดคนขายยาลงนอนที่พื้น จากนั้นเอาเชือกผูกคอแล้วค่อยๆเอาเท้าขันเฉนาะเชือกรัดคอจนขาดอากาศหายใจตาย(อธิบายด้วยคำพูดยากต้องขออภัย)
ถ้าไปถามพวกฝั่งนั้น มันจะตอบว่า 2500 ศพ โจรฆ่ากันเอง แม้วไม่ได้ออกคำสั่งให้ลิ่วล้อไปฆ่าโจรโดยตรง แม้วไม่ผิด เป็นเรื่องของ nature selection
คิดเรื่องฆ่าตัดตอนนี่ทีไรแล้วรันทดกับการลุแก่อำนาจของผู้นำเลวจริงๆ การใช้ศาลเตี้ยโดยคนไม่มีอำนาจตัดสินคดีความแบบศาลเข้าไปจัดทำบัญชีหมู่บ้าน ต้องสังเวยคนบริสุทธิ์ที่ถูกยัดไส้เข้าไปในบัญชีตั้งเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ยอดที่แท้จริงเลย
ยิ่งนึกถึงยิ่งโกรธค่ะ ยายผึ้งโดนยัดเข้าบัญชีผู้มีอิทธิพลเพราะตำรวจไม่ชอบลูกชายแก ทั้งๆ ที่แกเป็นแค่ครูแก่ๆ ขาพิการ ยังดีว่าไม่มีใครมาทำอะไรแก
การใช้อำนาจอย่างบ้าคลั้ง มัวเมาในอำนาจ ระวังไว้ว่าสักวันอำนาจที่มันหอมหวานมันอาจจะเป็นรสเป็นขม ต้องทนฝืนกิน อยู่ในที่สมควรอยู่ (คุก)
จากที่เพื่อนๆ ลงความเห็นกันมา นี่แสดงว่า นโยบายกวาดล้างยาเสพติด กับ กวาดล้างผู้มีอิทธิพล กลายเป็นเครื่องมือไล่ล่าฝ่ายตรงข้าม ล่าแม่มด ไปซะงั้น ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีแล้ว สิทธงสิทธิมนุษยชน ขนาดเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยเลือกตั้งนะ
ด้านมืดเบื้องหลังฆ่าตัดตอน กวาดล้าง พ่อค้ายาเสพติด กวาดล้าง เฉพาะพ่อค้ายาเสพติดที่เป็นคู่แข่ง ของกลางที่จับได้ 50% ส่ง ปปส. อีก 50% เก็บไว้ เตรียมไว้ วนของกลาง ทำผลงาน หลอกรายเล็กๆให้ขนส่งยา แล้วดักจับ โชว์ผลงาน รับโล่ห์รางวัล รับเงินเปอร์เซ็นต์จากมูลค่าของกลาง วนของกลาง หลอกให้รายใหม่ๆ ขนส่งยา แล้วดักจับต่อไปเรื่อยๆ รับเงินรางวัล ไปเรื่อยๆ จัดฉากจับรถขนส่งยา 1 คัน มาแถลงผลงานใหญ่โต ... แต่ปล่อยให้อีก10คัน ของพ่อค้าที่เลี้ยงไว้ ผ่านด่านไปได้อย่างสบาย เมื่อพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ๆที่เลี้ยงไว้ มีเงินมากพอแล้ว ก็ไปจับกุม ยึดเงินสดเข้ากระเป๋า 90% ... ส่ง ปปส 10% ใช้สถานการณ์การกวาดล้างยาเสพติด มาปิดบัญชีคดีอื่นๆ หรือข่มขู่เรียกรับผลประโยชน์