นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ในรายการนิวหมายข่าว ช่องนิวทีวี เมื่อสัปดาห์ก่อน ยืนยันว่า ผลประกอบการ 9 เดือนแรก ของปี 2558 การบินไทยขาดทุนสุทธิ 18,100 ล้านบาท ถือว่ายังไหว ดีดีการบินไทย เปิดเผยในรายการดังกล่าวด้วยว่า ตามแผนที่กำหนดกันไว้ ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ปี 2558 ทั้งปี การบินไทยสามารถขาดทุนได้สูงสุดถึง 32,000 ล้านบาท!!! นี่คือข้อมูลใหม่ที่สาธารณชนเพิ่งจะมีโอกาสรู้ 1) ดีดีการบินไทย ระบุว่า หากดูเฉพาะผลประกอบการด้านการบินจริงๆ 9 เดือนแรก ขาดทุนแค่ 4 พันกว่าล้านบาท แต่การขาดทุนส่วนใหญ่นั้น เป็นผลขาดทุนจากการขายเครื่องบิน กว่า 12,000 ล้านบาท! ไม่ใช่ขาดทุนเพราะทำธุรกิจการบิน 2) เหตุที่ต้องขายเครื่องบิน เพราะเครื่องบินบางรุ่น ซื้อมาแล้ว ทำการบินแล้วขาดทุน หากใช้บินต่อก็มีแต่ขาดทุน ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินประเภท 4 เครื่องยนต์ กินน้ำมัน ตกรุ่น ราคาตก ขายเลหลังก็ไม่ได้ราคา ซื้อมาแล้ว ใช้ทำการบินได้ยังไม่ถึง 10 ปีดี แต่ต้องขายเสียแล้ว ทั้งๆ ที่ อายุเครื่องบินใช้งานได้กว่า 20 ปี ราคาที่ขายเครื่องบินได้จริง ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของเครื่องบิน เมื่อทำการขายออกไป ก็จึงต้องลงบันทึกรับรู้ผลการขาดทุน กะว่า ขายแล้วก็จะประหยัดค่าจอด ค่าเช่าโรงจอด ค่าบำรุงรักษา ฯลฯ ดีดีการบินไทย ยอมรับกลางรายการดังกล่าว ขายขาดทุนลำละกว่า 2 พันล้านบาท! ลำที่ขาดทุนหนักๆ ก็เช่น A340-600 http://www.naewna.com/politic/columnist/21655 ................................................................................................ ถ้าจำไม่ผิด มีการท้วงติงเรื่องค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อเครื่องบิน เส้นทางบินที่ไม่คุ้มทุน และชนิดของเครื่องบินที่จะซื้อมาแล้ว
เหตุที่ต้องซื้อช่วงนั้น เพราะรัฐต้องแลกกับ eu ให้ GSP กับอาหารทะเลแช่แข็งของไทย(มูลค่า 6-70000 ล/ปี ทักษินต้องบินไปปารีสเอง และGSP ปีนี้ก็จะหมดแล้ว) แต่แอร์บัสช่วงนั้นไม่มีเครื่องรุ่นใหม่ๆ ,a330 กบท ก็สั่งไปแล้ว เลยต้องไปเอาa340 มา ความคุ้มค่าสู้ b777ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ กบท ก็เป็นหนึ่งในหน่วยงานของรัฐ ก็ต้องปฏิบัติตาม โดยผ่านทางบอร์ดและดีดี ซึ่งเป็นคนที่ถูกส่งเข้ามาจากรัฐ
ถ้าส่วนที่ขาดทุนเพราะขายเครื่องบินเก่าในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีจริงก็ต้องยอมรับครับ และต้องชมความกล้าหาญของบอร์ดที่ยอม cut loss การบินไทยถูกนักการเมืองบีบให้ซื้อเครื่องบินเพื่อเอาค่าคอมมิสชั่นเป็นจำนวนมาก เครื่องบินเหล่านั้นหลายลำแทบไม่ได้ใช้เลย ไปเช่าที่จอดอยู่อู่ตะเภา ทั้งๆที่รู้ว่าซื้อขยะมาและต้องขายทิ้งแต่บอร์ดชุดเดิมๆก็ไม่ยอมขาย เสียเงินเช่าที่จอดและบำรุงรักษาจนกระทั่งค่าเสื่อมมันถึงจุดที่ขายได้ จึงขายและยังโม้ว่าขายได้กำไร ซื้อมาหมื่นล้านแต่ไม่ใช้ จอดไว้อู่ตะเภาสักสิบปีแล้วขายหนึ่งพันล้าน ขาดทุนเนื้อๆกว่าเก้าพันล้านเพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์เครื่องบิน แต่กำไรทางบัญชีตอนขายเพราะค่าเสื่อมมันเกือบจะถึงจุดที่ต้อง write off ยังมีบ่วงกรรมจาก Airbus A340ที่ไอ้เหลี่ยมบังคับให้ซื้อเพื่อบินตรงไปนิวยอร์ค ใครท้วงก็ไม่ฟัง ผลคือขาดทุนย่อยยับ ต้องยกเลิกเที่ยวบิน ขายทิ้งเครื่องบินก็ได้ราคาแสนต่ำ ที่ต้องท้วงบอร์ดชุดปัจจุบันคือการยกเลิกเส้นทางบินจนไม่มีทางที่กิจการจะถึงจุดคุ้มทุน รายได้ของการบินไทยมาจากการขายตั๋วโดยสาร ถ้าเอาแต่ยกเลิกเส้นทางบินแล้วจะเอารายได้มาจากไหน ยังเอาใจช่วยการบินไทยและพนักงานการบินไทยครับ แต่ก็สงสัยว่าจะไปรอดหรือ
ถ้าเส้นทางที่ไม่ทำกำไร บินไปแล้วไม่มีคนขึ้น ก็ต้องบิน มันเต็มออก เต็มออก เหมือนรถตู้ไม่ได้ มีคนขึ้นเท่าไร ก็ต้องบินเท่านั้น มันก็จะขาดทุนไปเรื่อยๆหน่ะซิครับ เส้นทางบิน เหมือนสินค้าตัวหนึ่งหน่ะครับ สินค้าที่ขายไม่ดี ไม่ทำกำไร ก็ต้องกยกเลิกการผลิตไปก่อน ไปเน้นสินค้าที่ยังพอมีกำไรก่อน ไว้ถ้าพร้อม ค่อยกลับมาทำใหม่ก็ได้
ผมเคยฟังกัปตันโยธิน ภมรมนตรี พูดเรื่องเส้นทางกรุงเทพ-โรม ที่กำลังจะยกเลิกไป ความจริงเราปรับปรุงได้ครับ มันไม่ถึงกับต้องยกเลิกไปเสียทีเดียว กล่าวคือ ณ ปัจจุบัน เส้นทางนี้ใช้เครื่องบิน Boeing 747 ซึ่งมีความจุเยอะ แต่ก็กินน้ำมันเยอะ ผู้โดยสารมีประมาณสองร้อยคนต่อเที่ยว เลยขาดทุน ทางฝ่ายที่ปรึกษาเลยแนะนำว่าให้ยกเลิกเที่ยวบินนี้เสีย แต่ความจริงแล้วทางแก้ไม่ยากเลย แค่เปลี่ยนเอาเครื่องบินรุ่นที่เล็กกว่า และประหยัดน้ำมันกว่าอย่าง 787 dreamliner ที่มีความจุประมาณ 250-290 ที่นั่ง ก็สามารถลดรายจ่ายและทำกำไรได้แล้ว แต่ทางผู้บริหารก็ไม่เห็นว่าอย่างไร ทำท่าจะยกเลิกท่าเดียว นอกจากนี้ ข้อเสียของการยกเลิกเที่ยวบินนั้นมีมากกว่าการเสียรายได้ในเส้นทางนั้นๆนะครับ อย่างเส้นทางที่กล่าวถึงนั้น ทำให้เราสูญเสียการเชื่อมต่อจากยุโรปไปเอเชียตะวันออก หรือ ออสเตรเลียผ่านประเทศไทย มันทำให้เราเสียรายได้สองต่อเลยครับ อย่างคนที่เดินทางจากประเทศอิตาลี ไปออสเตรเลีย ก็คงเลือกสายการบินอื่นอย่างเช่น Singapore airline แทนสายการบินไทย ทำให้เราเสียโอกาสไปอีกทางด้วยครับ อยากฝากไว้อีกอย่างด้วยว่า ถ้าอยากให้สุวรรณภูมิเป็น Hub ของการบินในภูมิภาคนี้ ก็ต้องทำให้การบินไทยมีเครือข่ายที่กว้างขวางกว่านี้ การลดเส้นทางการบินควรเป็นสิ่งที่ทำเป็นลำดับสุดท้ายครับ
ผมอาจจะคิดไม่เหมือนคนอื่น ผมอยากให้การบินไทยล้มครับ ปัญหามันฝังรากมาเยอะ ทั้งการเมืองล้วงลูก ทั้งปัญหาพวกสหภาพ ในหลายๆเรื่อง สหภาพ อย่าบอกเลยว่าตัวเองไม่ได้เป็นส่วนนึงของปัญหา สู้ล้มละลายไป แล้วนับหนึ่งใหม่ดีกว่า
ผมต้องไปGaborone/Botswana via Johannesburg ปีละหลายครั้ง เมื่อก่อนบินTGไป Johannesburg แล้วต่อเครื่องเล็กไป Gaborone เที่ยวบิน TG ระหว่าง BKK-Johannesburg แน่นที่เดียว กระทั่งชั้นธุรกิจบางทีก็เต็ม แต่ช่วงหลังๆผู้โดยสารบางตาลง ตอนนี้ยกเลิกเที่ยวบินนี้แล้ว ผมต้องบิน SQ ไปลงสิงคโปร์ก่อนแล้วค่อยต่ออ SQ อีกไฟล์ทไป Johannesburg ผู้โดยสารที่ต่อเครื่องก็เป็นพวกที่บินมาจากกรุงเทพฯ เครื่องSQ แน่นเอี้ยดเลย ผมว่าการบินไทยควรดูจุดบกพร่องด้านอื่นด้วย ไม่ใช่ว่าพอผู้โดยสารน้อยลงก็ยกเลิกเที่ยวบินอย่างเดียว อีกหน่อยจะมีรายได้มาจากไหน ความจริงแล้วปัญหาอาจมาจากการขาย เอเย่นต์ตั๋ว ฯลฯ ก็เป็นได้ คนที่รูีจักกันที่ใช้เส้นทางนี้ต่างเสียดาย TG ยกเลิกเที่ยวบินนี้ทั้งนั้น ก็แค่บ่นละครับ ไม่รู้จะบ่นที่ไหนก็เลยต้องบ่นในนี้ เพราะผู้บริหาร TG คงไม่สนใจฟัง
ผมงงจริงๆ เรื่องการยกเลิกเส้นทางการบิน น่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจทางธุรกิจ ซึ่ง CEO หรือ DD น่าจะเป็นคนตัดสินใจสั่งการมากกว่า กลายเป็นกลุ่มบอร์ดตัดสินใจ แค่นี้ผมว่าควรยกเลิกการบินไทยไปเลยดีกว่า บริหารอย่างนี้ยังไงก็เจ๊ง ไม่คล่องตัว ไม่มีวิสัยทัศน์
ชี้ปัญหาได้ถูกต้องเลยครับ ได้ยินมาเหมือนกันว่าเส้นทางที่ยกเลิกไปนี่คนเต็มเครื่องทั้งนั้น แมร่งดันขาดทุน และที่ขาดทุนส่วนมากมาจากเรื่องเอเย่นต์ตั๋ว
หลักการค้ามีที่ไหน ตัดเส้นทางทำกิน ลูกค้าไม่ซื้อของ แทนที่จะปรับปรุงตัวว่าทำไมตั๋วแพง เสือกไปตัดเส้นทางการบิน "เส้นทางนั้น ทำไมสายการบินอื่นบินแล้วกำไร การบินไทยมันเป็นยังไงถึงขาดทุน?" ผมเคยนั่ง ไทยสมายล์ (เป็นโลว์คอสของการบินไทย) รู้เลยว่าผู้บริหารแม่งทำงานไม่เป็น ของกินทำไมต้องหรูเกินไป - คนนั่งโลว์คอสเขาตั้งใจมาเอาของถูกจะจัดอาหารแพงเพื่อ? น้ำแจก2รอบ ขอได้ไม่อั่น มีทั้งน้ำผลไม้ น้ำอัดลม - โลว์คอสอื่นเขาน้ำเปล่าครับ ถุงใส่อาหารที่แจกสุดหรู พลาสติกอย่างดีพิมพ์ลายสวยงาม - นกแอร์แจกถุงกระดาษถูกๆ เครื่องบินใหม่มาก - โลว์คอสอื่นเครื่องเก่า แต่เครื่องใหม่แลกมากับต้นทุนที่สูง... ผมถามพนักงานการบินไทยว่า การบินไทยต่างกับไทยสมายล์ยังไง เขาตอบผมว่าต่างกันแค่สีชุด(เขาประชด) นี่แหละผลงานDDคนนี้ ปลดเถอะครับ อย่าทิ้งไว้เป็นภาระลูกหลานเลย
ทุก airlines ที่ขาดทุน อย่างแรกที่จะทำคือเอาคนออก(lay off) JAL ช่วงเข้าแผนฟื้นฟู เอาคนออก 15,000 คน ตัดรูท บินแต่รูทที่ทำเงิน,ขายเครื่องใหม่ๆหมด บินแต่b767 กบท รัฐบาลยังไม่อยากทำถึงขนาดนั้น ใช้วิธีอะลุ้มอล่วยประคองกันไป วิธีแบบJAL เป็นขั้นตอนสุดท้าย อันที่จริง ศักยภาพในการหาเงินของการบินไทยยังมีอยู่สูง 200,000ล/ปี แต่รายจ่ายมีเยอะกว่า ฝ่ายบริหารปัจจุบัน ก็พยายามทำเท่าที่จะทำได้ตามกฏหมาย ทุกๆวิธีที่เสนอกันมา ผมว่าเค้าคิดกันหมดแล้ว และแพลนในปัจจุบันก็เป็นวิธีที่สรุปกันมาว่าดีที่สุดในทางเลือกที่มี ถ้าแปรรูปให้เอกชน อย่างแรกที่เอกชนจะทำคือเอาคนออก15,000คน ตัดรูทที่ไม่ทำกำไร ตัดหัวคิวในการจัดซื้อ แค่นี้ กบท ก็มีกำไรแล้ว เราอาจคิดได้แบบหนึ่ง แต่ถ้าเราเป็นรัฐบาล ก็คงจะทำวิธีเดียวกับที่ทำอยู่ในปัจจุบันเหมือนกัน
ไม่ทราบว่าจะจริงสักกี่% มีหลายคนบอกว่าบรรดาเอเย่นต์ตั๋วล้วนแต่เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่กันทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่สายการเมืองก็สายกองทัพอากาศ เอาโควต้าตั๋วไปกักตุนไว้ ตั้งราคาขายแพงกว่าสายการบินอื่น พอใกล้จะถึงกำหนดบินตั๋วขายไม่หมด เหลืออยู่บานตะไทจึงต้องคายออกมา ถึงเวลานั้นก็ขายไม่ทันแล้ว ที่นั่งบนเครื่องจึงว่างมากมาย ผู้บริหารTGคนไหนบอกว่าบินไปแอฟริกาขาดทุน ให้ไปบินSQดูแล้วจะรู้ บริหารห่วยแล้วอย่าไปชี้นิ้วโทษโน่นนี่นั่น พนักงานเขาชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ