เจ็บนะครับ โครงการคลองด่าน หมายเลขดำ อ.285-286/2556 ที่บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด, บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด, บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด, บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด, บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท สมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้ง จำกัด ยื่นฟ้อง กรมควบคุมมลพิษ
บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด “สี่แสงฯ”หุ้นส่วน“บรรหาร”คู่สัญญารัฐ 20 โครงการหมื่นล้าน http://www.isranews.org/investigative/investigate-procure/item/19455-บรรหาร.html
บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด ของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ http://www.thairath.co.th/content/380201 ส่วนบริษัทอื่นๆหาแบบชื่อตรงไม่เจอ
คดีนี้มันย้อนแย้ง ------------------------------------------------------------------ กรมควบคุมมลพิษ ได้ยื่นฟ้อง บริษัทที่ 1 - 5 กับพวกต่อศาลแขวงดุสิตในปี 2547 ในความผิดฐานฉ้อโกง และศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อปี 2552 ว่า มีการทุจริตของข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ และกิจการร่วมค้า ดังนั้น สัญญาที่เกิดขึ้นดังกล่าว จึงเป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ---------------------------------------------------------------------- คณะอนุญาโตฯ วินิจฉัยข้อเท็จจริงพบว่า บริษัทได้ส่งมอบงานตามสัญญา งวดงานที่ 55 - 58 แล้วจริง เมื่อกรมควบคุมมลพิษไม่จ่ายค่างวดงาน จึงต้องตกเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ส่วนที่บริษัททั้งหก อ้างว่ากรมควบคุมมลพิษผิดสัญญาอีกหลายประการ ก็ไม่ปรากฏว่าบริษัททั้งหกได้พูดถึงรายละเอียดว่าผิดสัญญาเรื่องใดบ้าง จึงรับฟังได้เพียงว่ากรมควบคุมมลพิษ ผิดสัญญาที่ไม่จ่ายค่างวดงาน 55 - 58 เท่านั้น ส่วนที่กรมควบคุมมลพิษ อ้างว่า สำคัญผิดเรื่อง บจก.นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ นั้น คณะอนุญาโตฯ วินิจฉัยว่า จากการไต่สวนพยานระบุว่า กิจการร่วมค้าฯ ไม่ได้มีการจดทะเบียนต่อกระทรวงพาณิชย์ จึงมีผลเท่ากับ ตกลงทำกิจการร่วมค้า ฯ ลักษณะของห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียน ดังนั้นการที่ บจก.นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ ถอนตัวไป จึงไม่ถือว่ากรมควบคุมมลพิษเข้าทำสัญญาโดยสำคัญผิดในตัวบุคคลกิจการร่วมค้า คณะอนุญาโตฯ จึงมีคำชี้ขาดให้กรมควบคุมมลพิษ ต้องชำระเงินค่าจ้างให้บริษัททั้งหกดังกล่าว -------------------------------------------------------------------------- ผมว่าคำตัดสินอนุญาโตขัดแย้งกันศาลนะ ส่วนศาลปกครองแค่ตัดสินว่า กรณีนี้มีการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการตามขั้นตอนของกฎหมาย และชอบด้วย พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 มาตรา 18 แล้ว --------------------------------------------------- สรุป ศาล - ตัดสินว่าเป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย (ตกเป็นโมฆะ) อนุญาโต - ตัดสินว่ารัฐต้องจ่ายเงินให้เอกชนตามสัญยา ศาลปกครอง - ตัดสินว่า การแต่งตั้งอนุญาโตชอบด้วยกฎหมายแล้ว ผมเสนอให้ยุบอนุญาโตตุลาการทิ้งไปเถอะครับ มีแต่โทษไม่มีประโชน์ โดยโครงสร้างของอนุญาโต มันตัดสินยังไงเอกชนก็ชนะ * คดีนี้เขาชนะด้วยเซียนทนายนะ เขาใช้เทคนิคทางกฎหมายชั้นครูเลย
สัญญาที่รัฐทำกับเอกชน คนร่างสัญญามักแกล้งโง่ เป็นข้าราชการผู้เชี่ยวชาญทั้งนั้น แต่ทำไมโง่หนักหนาก็ไม่รู้ ในสัญญามักจะผูกมัดรัฐไม่ให้เบี้ยวเอกชนได้ ถ้าเบี้ยวโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายบานเบิก แต่ให้เอกชนเบี้ยวรัฐได้ ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย หรือถ้าต้องจ่ายก็จ่ายน้อยกว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้น ยิ่งทำกับบริษัทของนักการเมือง ยิ่งต้องโง่ให้มากที่สุด พอเรื่องถึงคณะอนุญาโตฯ รัฐเลยเสียเปรียบ แพ้เป็นประจำ
ผมว่าควรจะให้ใส่ชื่อข้าราชการที่เป็นคนรับผิดชอบในสัญญาลงไปด้วย ใส่ไปให้หมดในตำราเรียนเอาให้ประจานกันไปให้ถ้วนทั่ว ว่าค่าโง่ที่จ่ายให้นักการเมือง มีตระกูลของใครเป็นคนที่ควรจะต้องแบกรับความเน่าเหม็นนี่ไปด้วย ไม่อยากให้เอาไปลงก็จ่ายค่าความเสียหายซะ อุ๊ย นี่ผมโลกสวยเกินไปสินะฮะ ขออภัย
http://www.thairath.co.th/content/305438 ตัดมาบางตอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการโครงการออกแบบก่อสร้าง ระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท โดยว่าจ้างเอกชน ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี ซึ่งประกอบด้วย เอ็นคือ บริษัทนอร์ธเวส วอเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ของอังกฤษ) วีคือ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (ของนายพิษณุ ชวนะนันท์) พีคือ บริษัทประยูรวิศว์การช่าง จำกัด (ของตระกูลลิปตพัลลภ) เอสคือ บริษัทสี่แสงการโยธา (1979) จำกัด (ของนายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล) เคคือ บริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด (นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล หลานของนายวิจิตร ชวนะนันท์) จีคือ บริษัทเกตเวย์ ดิเวลลอปเมนต์ จำกัด ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่เดือน ส.ค.2540 จนการก่อสร้างเสร็จถึง 98 เปอร์เซ็นต์ แต่กรมควบคุมมลพิษอ้างว่ามีการทุจริตในการจัดซื้อที่ดินและมีการฉ้อโกง สัญญาการก่อสร้างจึงเป็นโมฆะ ทำให้กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี ยื่นข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2546 พร้อมเรียกค่าเสียหายต่างๆแต่กรมควบคุมมลพิษปฏิเสธการเข้าสู่กระบวนการ อนุญาโตตุลาการ ทำให้กลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี ยื่นเรื่องต่อศาลแพ่งให้แต่งตั้งอนุญาโตตุลาการขึ้นมา
ลองเสิร์ช หาชื่อนี้ดู นายรอย อิศราพร ชุตาภา เกี่ยวพันทั้ง บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท สมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้ง จำกัด แล้วก็ข่าวนี้ http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000143949&Html=1&TabID=2& ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.บรมราชชนนี วันนี้ (19 พ.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ2794/2553 ที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี , บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง , บริษัทประยูรวิศว์การช่าง , นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง , บริษัทสี่แสงการโยธา(1979) , นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา ,บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ , นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ , บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ , นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ , บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ , นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ , นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ , บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ , นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ , นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยที่ 1 -19 ในความผิดฐานฉ้อโกงที่ดิน และฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 90, 91 และ 83
เรื่องนี้ กรมควบคุมมลพิษ น่าจะไม่รัดกุมเอง ทำเหมือนกลัวเข้าตัวเองยังงั้นแหละ เพราะตนเองเป็นคู่สัญญาจ้างก่อสร้างบ่อบำบัด และเป็นผู้ซื้อที่ดินที่จะสร้างบ่อบำบัด แล้วมาบอกเลิกสัญญาโดยอ้างว่าที่ดินที่นำมาขายนั้นมันไม่ถูกต้อง ทั้งที่คนขายที่ดิน กับคนที่รับก่อสร้าง มันคนละคนกัน แม้จะมีส่วนโยงใยกันก็ตาม แต่กรมควบคุมมลพิษอ้างคล้าย ๆ ตนเองถูกหลอกให้ซื้อที่ซึ่งได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และบริษัทร่วมค้าที่รับก่อสร้างก็ไม่แจ้งว่า บริษัทฝรั่งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องบ่อบำบัดถอนตัวไป พูดง่าย ๆ ก็คือ เหมือนถูกหลอกทั้งสองเรื่องนั่นแหละ การอ้างแบบนี้มันจะมีน้ำหนักมีเหตุผลแค่ไหน จะทำสัญญาอะไรกับใครไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนเลยหรือ หรือว่าโดยแท้จริงแล้วมันมีอิทธิพลการเมืองเข้าไปบีบแต่คุณไม่กล้าพูดเพราะพูดแล้วอาจเข้าตัวเอง โครงการนี้มันเสียค่าโง่ตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้สร้างแล้ว เพราะโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยน้ำเสีย มันจะต้องมีบ่อบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงแม่น้ำอยู่แล้ว แต่คณะรัฐมนตรีชุดนี้ซึ่งดูเหมือนโง่ หรือแกล้งโง่ซ้ำซ้อน ดันมีมติให้เอาภาษีประชาชนไปสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียให้โรงงานอุตสาหกรรม แถมยังให้ลากท่อยาวร่วม 20 กิโลเมตร มาโผล่ที่คลองด่านบนพื้นที่ ๆ ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายอีกต่างหาก แบบนี้มันเป็นการใช้อิทธิพลทางการเมืองทำโครงการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บรรดาพวกพ้องที่มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และเป็นนายหน้าค้าที่ โดยหาผลประโยชน์จากภาษีประชาชนหรือเปล่า ส่วนบริษัทไหน หรือใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้บ้าง มันก็คุ้น ๆ หน้ากันอยู่ เพราะเลือกตั้งกี่ครั้งก็นอนมากันทุกครั้ง ไม่รู้ว่า สนช ได้สนใจเรื่องเหล่านี้บ้างหรือเปล่า จะปฎิรูปประเทศไทย เอาแค่กำจัด อิทธิพลการเมือง ให้ได้ก็พอ ไม่ต้องไปเพ้อฝันเรื่องระบบอุปถัมภ์หรอก เพราะมันใหญ่เกินไป
จุดประสงค์ เจตนาต้องการให้เสียค่าโง่ชัดๆ ได้ไปหลายเลย ผู้รับเหมาแต่ละราย เปิดหน้ามา บริษัทนักการเมืองทั้งนั้น ได้เงินไปใช้ฟรีๆ แบบไม่ผิดกฎหมาย ส่วนคนไทย เสียค่าโง่ให้พวกมัน
เรื่องนี้ไม่รู้ละเอียดมากแต่ที่เห็นผ่านๆ ตา ก่อนจะยกเลิกสัญญาแม้วไปดูด้วยตัวเอง และที่แปลกคือสุวัจน์เป็นรมว.ยุติธรรม ตลกดี มีใครจะกรุณาย่อยให้ฟังหน่อยได้มั๊ยครับ อยากเผือกบ้าง
เรื่องนี้มันมีคดีฟ้องร้องกันหลายศาลครับ ดูแล้ว งง เพราะมีทั้งติดคุกมีทั้งยกฟ้อง อย่างกรณีกรมควบคุมมลพิษที่ไปฟ้องศาลแขวงดุสิต นี่ เขาฟ้องคดีอาญา คล้าย ๆ กับว่ากลุ่มบริษัทเหล่านี้มีเจตนาเอาที่ดินที่ได้มาโดยมิชอบไปขายให้เขาทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าได้มาโดยมิชอบเป็นการฉ้อโกงกรมควบคุมมลพิษ มีบริษัทร่วมค้า ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นจำเลยที่ 1 แต่ปรากฎว่าศาลชั้นต้นตัดออกไป ไม่รับฟ้องรายนี้ นอกนั้นสั่งติดคุกเรียบ แต่พอบริษัทเหล่านี้ยื่นอุทธรณ์ ปรากฎว่าศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้องเรียบเหมือนกัน บริษัทที่ขายที่ดินเขาอุทธรณ์ว่าเขาไม่ได้ฉ้อโกง เพราะที่ดินพืนนี้เขาซื้อมาแต่แรกเพื่อจะทำสนามกอล์ฟ มีหลักฐานยืนยันเพราะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ มีโบว์ชัวแจก แต่ที่ไม่ได้ทำสนามกอล์ฟเพราะปรากฎว่าดินมันมีการยุบตัวไม่เหมาะที่จะทำสนามกอล์ฟ (มันก็น่ายุบอยู่หรอก เพราะมันไปทับที่คลองสาธารณะบ้าง ที่ป่าชายเลนบ้าง) ต่อมาเมื่อกรมควบคุมมลพิษจะสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียตรงนี้ เขาก็เลยเสนอขายที่ดินให้เท่านั้น ศาลท่านเห็นว่าอุทธรณ์มีเหตุผลฟังได้เพราะที่ผืนนี้มันมีการซื้อขายกันมาก่อนมีวัติถุประสงค์เพื่อทำสนามกอล์ฟ ส่วนโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียมันมาทีหลัง จะบอกว่าเขาเจตนาซื้อที่มาหลอกขายคุณคงไม่ได้ เลยยกฟ้องเรียบ ตอนนี้อยู่ระหว่าง ฎีกา เพราะฉะนั้น เราจะเห็นว่า บริษัทค้าร่วมซึ่งเป็นคู่สัญญาสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียนั้น ศาลชั้นต้นท่านตัดออกไปแต่แรกแล้ว ส่วนที่ตัดสินติดคุกติดตารางจนหนีไปต่างประเทศนั้น เป็น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่ง ปปช สอบ แล้วยื่นฟ้อง เรื่องการใช้อำนาจอิทธิพลไปซื้อที่ ไปยึดเอาที่สาธารณะมา ซึ่งเป็นคนละคดีกับที่กรมควบคุมมลพิษฟ้อง ส่วนศาลปกครองนี่ กรมควบคุมมลพิษก็ไปยื่นฟ้องเหมือนกัน ไปฟ้องศาลปกครองเพราะอนุญาโตตุลาการสั่งให้กรมควบคุมมลพิษจ่ายค่าเสียหายให้บริษัทร่วมค้าที่รับเหมาก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียนั่นแหละ พูดง่าย ๆ ก็คือไปฟ้องเพื่อขอให้ศาลปกครองระงับคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ ก็ปรากฎว่าศาลท่านไม่เห็นด้วย คงเพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไประงับนั่นแหละ เพราะเขาก่อสร้างให้คุณมาจนจะเสร็จอยู่แล้ว เขาต้องลงทุนไปเยอะเหมือนกันแล้วคุณไปบอกว่าสัญญามันไม่ถูกต้องเพราะคุณเข้าใจผิดในตัวบุคคลหรืออะไรเนี่ยะ ดู ๆ แล้วมันไม่น่าเป็นเหตุผล มันเหมือนเลี่ยงที่จะพูดอะไรตรง ๆ เพราะกลัวเข้าตัวเองมากกว่า เรื่องนี้ผมมองว่ามันปลายเหตุแล้ว คุณค้างค่างวดเขามา 4 งวด ถึงคุณไม่บอกเลิกสัญญาเขาก็ฟ้องคุณอยู่ดีที่ไม่จ่ายค่างวดเขา และถ้าเขาฟ้องเขาก็คงชนะนั่นแหละเพราะส่งมอบงานแล้วแต่ไม่จ่ายค่างวดเพราะจะบอกเลิกสัญญา แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าก็คือ โครงการนี้มันสร้างมาจะเสร็จอยู่แล้ว แล้วจะทำกันยังไง จะปล่อยให้เป็นซาก หรือมีความคิดจะทำอะไรยังไงต่อ น่าจะเป็นเรื่องใหญ่กว่า ใครทำผิดประพฤติมิชอบก็ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ไอ้ที่สร้างไปแล้วนี้ต่างหาก จะปล่อยทิ้งหรือจะทำอะไรต่อน่าจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าเยอะ
ASTVผู้จัดการ - บริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้รับเหมาเอ็นวีพีเอสเคจี โดย N คือ บริษัทนอร์ธเวส วอเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (อังกฤษ), V คือ บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (ของนายพิษณุ ชวนะนันท์) , P คือ บริษัทประยูรวิศว์การช่าง จำกัด(ของตระกูลลิปตพัลลภ) , S คือ บริษัทสี่แสงการโยธา (1979) จำกัด (ของนายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล ซึ่งแนบแน่นกับ นายบรรหาร ศิลปอาชา) , K คือ บริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด(นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล หลานของนายวิจิตร ชวนะนันท์) , G คือบริษัทเกตเวย์ ดิเวลลอปเมนต์ จำกัด (คนอยู่ในบริษัทคลองด่านมารีน แอนด์ ฟีชเชอร์รี จำกัด) ผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ จึงรวบรวมชื่อบริษัทร่วมค้าดังกล่าว ที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะต้องจ่ายเงินมหาศาลกว่า 1หมื่นล้านบาทให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ส่วนใหญ่ใกล้ชิดกับนักการเมือง แถมยังมีอดีตข้าราชการกรมควบคุมมลพิษระดับสูงลาออกมาเป็นที่ปรึกษา แถมบางบริษัทยังบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองด้วย • วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง มี นายพิษณุ ชวนะนันท์ เป็นประธานกรรมการ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิจิตรภัณฑ์ ก่อตั้ง พ.ศ. 2501 ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,360 ล้านบาท ดำเนินกิจการตั้งแต่ งานสร้างทางและสะพาน ทางยกระดับ งานชลประทาน งานอาคาร งานทางระบายน้ำ งานบำบัดน้ำเสีย งานประปา อุโมงค์และทางลอด เคยงานเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบพร้อมส่วนงานอื่น ในโครงการเขื่อนคลองท่าด่านฯ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ของ กรมชลประทาน ขณะที่บริษัทในกลุ่ม วิจิตรภัณฑ์ แบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจน้ำมันปาล์ม และธุรกิจด้านพลังงาน กลุ่มวิจิตรภัณฑ์ ยังมีการร่วมลงทุนกับตระกูล “ลิปตพัลลภ” ส่วนกลุ่มวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง ยังมีธุรกิจร่วมกับตระกูล “สะสมทรัพย์” เนื่องจากคนในตระกูล เคยเป็นที่ปรึกษาพิเศษนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ สมัยเป็น รมช.คมนาคม รวมถึงเป็นอดีตที่ปรึกษนายอนันต์ ฉายแสง อดีตรมช.อุตสาหกรรม ภาพจากสำนักข่าวอิศรา • สี่แสงการโยธาฯ เป็นธุรกิจก่อสร้างของตระกูล “วงศ์สิโรจน์กุล” ซึ่งเคยทำธุรกิจร่วมกับตระกูล “ศิลปอาชา” บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด มีหุ้นส่วนในบริษัท คอสติกไทย จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท สหศรีชัยเคมิคอลส์ จำกัด) ประกอบธุรกิจขายเคมีภัณฑ์ ของนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้รับว่าจ้างรับเหมาก่อสร้างจากหน่วยงานรัฐมานานหลายปี ในจำนวนนี้เป็นโครงการรับเหมาในกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หลายโครงการ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท สี่แสงการโยธา(1979) จำกัด จดทะเบียนวันที่ 31 สิงหาคม 2522 ทุนเริ่มแรก 200 ล้านบาท ปัจจุบัน 560 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 56/7 หมู่ที่ 5 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีนายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล เป็นเจ้าของ ทั้งนี้ นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล เจ้าของบริษัท สี่แสงฯ มี บริษัทในเครือ 12 แห่ง อาทิ บริษัท นนทบุรี เอ็นจิเนีย จำกัด บริษัท ไทยเรืองอุตสาหกรรม จำกัดบริษัท ไทยไล้ท์บล๊อคแอนด์แพเนล จำกัด บริษัท คลาสสิคคลาส คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นต้นปัจจุบันเป็นหุ้นส่วนสำคัญกับทีมฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี ด้วย • ประยูรวิศว์การช่าง บริษัท ประยูรวิศว์การช่าง จำกัด ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2507 โดยมีจุดประสงค์ที่จะผลิตงานด้านก่อสร้าง ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี จนถึงปัจจุบัน มี “สังวรณ์ ลิปตพัลลภ” พี่ชาย “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ประยูรวิศว์การช่าง จำกัด บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด ก่อตั้งครั้งแรกภายใต้ชื่อ หจก.ขจรวิศว์ ดำเนินธุรกิจด้านการขายส่งวัสดุก่อสร้างให้กับบริษัทรับเหมาทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้ารายใหญ่ คือ กรมทางหลวง จากนั้นได้มีการจดทะเบียนบริษัทขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท ประยูรวิศว์การช่าง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท บริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างทั้งถนน, สะพาน, สนามบินนานาชาติพร้อมอาคารผู้โดยสาร และอาคารสำนักงานแก่หน่วยราชการหลายแห่ง • กรุงธนเอนยิเนียร์ มี “นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล” เป็น กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ บริษัทมีชื่อเป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับงานจากกทม.หลายงาน ขณะเดียวกัน ยังเข้ามาร่วมเป็นกิจกรรมร่วมค้ากับบริษัทรับเหมาต่างๆ ที่เข้ามาร่วมก่อสร้างในงานของรัฐหลายงาน และเป็นบริษัทในเครือของ บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง ด้วย • เกตเวย์ ดีเวลลอปเมนท์ มี “นายรอยอิศราพร ชุตาภา” เป็น กรรมการบริษัท เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ เข้ามากิจการร่วมค้ากับโครงการฯ บริษัททำหน้าที่ที่ปรึกษา ขณะที่ N คือ บริษัทนอร์ธเวส วอเตอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ของอังกฤษ) ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าถอนตัวจากโครงการ แต่ทางกรมควบคุมมลพิษระบุจากคำพิพากษาพบว่าบริษัทฯ ไม่ได้ถอนตัวแต่อย่างใด จึงเป็นที่มาของการเสียค่าโง่ 9,000ล้านบาท ก.ทรัพย์-คลัง ปัดฝุ่นหาคนรับผิดทางละเมิดกับนักการเมืองและข้าราชการจ่าย ในกรณีคำพิพากษาของศาลปกครองมีรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จะสอบถามไปยังกระทรวงการคลัง อีกครั้ง ถึงเรื่องผลการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดกับนักการเมืองและข้าราชการของกรมควบคุมมลพิษ กรมที่ดิน และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองด่าน รวม 14 ราย ที่อาศัยการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาประโยชน์ ทำให้รัฐเสียหาย ที่จะต้องให้ชดใช้สินไหมทดแทน รวมถึงการต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีการจ่ายเงินค่างวดงานให้แก่ผู้รับเหมา สามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เช่น การให้ทายาทเป็นผู้จ่ายค่าสินไหมทดแทน แทนที่รัฐจะเป็นผู้จ่าย
กรุงเทพฯ 6 มี.ค.-วันนี้ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ เหตุสัญญาการก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้รัฐไม่ต้องจ่ายค่าปรับเกือบหมื่นล้านบาท การบอกเลิกสัญญาว่าจ้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน สมุทรปราการ หลังพบมีการให้ซื้อที่ดินโดยมิชอบเมื่อ 15 ปีก่อน เป็นที่มาให้กรมควบคุมมลพิษต้องจ่ายค่าชดเชยให้ผู้รับเหมาโครงการกลุ่มกิจการร่วมค้ากว่า 9,600 ล้านบาท ตามคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการ ล่าสุด ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดดังกล่าว ทำให้รัฐไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเกือบหมื่นล้านบาท เนื่องจากมีหลักฐานใหม่ เป็นคำพิพากษาของศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเมื่อปี 58 ที่สั่งจำคุกนายปกิต กิระวานิช อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ อดีตรองอธิบดี และนางยุวรี อินนา อดีต ผอ.ในกรมควบคุมมลพิษ คนละ 20 ปี ฐานใช้อำนาจโดยทุจริต ร่วมกันเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับคัดเลือกเข้าทำสัญญา และเพิ่มวงเงินงบประมาณก่อสร้างโครงการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่กระทรวงการคลังและกรมควบคุมมลพิษยื่นขอรื้อคดีใหม่เมื่อกลางปี 59 ชาวบ้านที่เคยคัดค้านโครงการนี้ต่างดีใจ ที่คำตัดสินของศาลเป็นชัยชนะของรัฐและประชาชน ไม่ต้องนำเงินภาษีไปจ่ายให้เอกชน และเรียกร้องให้รัฐยกเลิกมติ ครม.ที่เคยอนุมัติจ่ายค่าชดเชยให้กลุ่มกิจการร่วมค้าโดยเร็ว ด้านอดีตที่ปรึกษากฎหมายและทนายความของกรมควบคุมมลพิษขอบคุณที่ศาลวินิจฉัยอย่างละเอียด มองในมุมกว้าง และนำหลักฐานในคดีอาญาไปประกอบการพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยถูกให้ความสำคัญ ขณะที่ นายประวิตร บุญเทียม โฆษกศาลปกครอง บอกว่า ผู้คัดค้านสามารถร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน และแนะให้กรมควบคุมมลพิษยื่นคำร้ององค์คณะคดีเดิมว่า มีข้อเท็จจริงใหม่ตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เพื่อให้วินิจฉัยว่าจะงดการบังคับคดีต่อไปหรือไม่ ซึ่งหากคู่ความไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีจะถือว่าสิ้นสุดรัฐไม่ต้องจ่ายค่าโง่เกือบหมื่นล้าน บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งเจตนาจะให้เป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอาเซียน มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาท ต้องยุติการก่อสร้างไปตั้งแต่ปี 46 วันนี้ที่นี่ถูกปล่อยทิ้งร้าง ท่ามกลางป่าชายเลนที่ขึ้นสลับกับสิ่งก่อสร้างบนเนื้อที่เกือบ 2,000 ไร่ และดำเนินการต่อไม่ได้ จากการฟ้องร้องเป็นคดีความทุจริตของนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน มากกว่า 10 คดี.-สำนักข่าวไทย http://admincourt.go.th/admincourt/upload/webcms/News/News_060318_131640.pdf
