เกลียดมากถึงมากที่สุดก็ไอ้เพจ หยุดดัดจริตประเทศไทย นี่แหละควายอย่างเดียวไม่มีวัวปน Logistic thailand Forum 11 ชม. · กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย · #วางถุงกาวการเมืองก่อนอ่าน อยากให้สังเหตุดูถึง #ตรรกะวิบัติ ในชีวิตประจำวันของเรากันนะครับ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน รองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียนของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) วงเงินลงทุน 143,092 ล้านบาท เพื่อให้สภาพภูมิทัศน์และรักษา สิ่งแวดล้อมให้สวยงาม และเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนรวมทั้งเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าและรองรับความต้องการไฟฟ้าในอนาคต สำหรับโครงการที่จะทำประกอบด้วยโครงการย่อยที่ 1 ปี 57-65 รวม 49 เส้นทาง ระยะทาง 144.6 กิโลเมตร (กม.) แบ่งเป็นในกรุงเทพมหานคร 99.2 กม. นนทบุรี 12.3 กม. สมุทรปราการ 33.1 กม. โครงการย่อยที่ 2 ปี 58-60 รวม 30 เส้นทาง ระยะทาง 117 กม. ในกรุงเทพมหานคร 92.6 กม. และนนทบุรี 24.4 กม. เมื่อรวมทั้งสิ้นมี 79 เส้นทาง ระยะทางรวมทั้งหมด 261.6 กม.แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 191.8 กม. นนทบุรี 36.7 กม. และสมุทรปราการ 33.1 กม. http://www.thairath.co.th/content/522361 สรุปว่าโครงการนี้มีทั้งหมด 2 ระยะ ระยะแรก 144 กม. ระยะที่สอง 117 กม. รวมทั้งหมด 261.6 กม. ฉะนั้นแล้วระยะทางของโครงการจริงๆ ตามข่าวที่ได้จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คือ 261 กิโล ไม่ใช่แค่ 144 กิโลนะเข้าใจเสียใหม่ แล้ววาทะกรรม ที่ว่า กทม ควรรับผิดชอบไหม? ถ้าคุณอ่านให้ดีจะพบว่า ผู้รับผิดชอบโครงการคือ การไฟฟ้านครหลวง ไม่ใช่ กทม. และโครงการมันครอบคลุมไปถึง นนทบุรี และสมุทรปราการด้วย ซึ่งอยู่นอกอำนาจการบริหารของ กทม. เข้าใจตรงนี้ด้วยนะ และวาทกรรมที่เขาประดิษฐ์ "ขุดอุโมงค์ กิโลเมตรละ 1000 กว่าล้าน" ลองเอาข้อเท็จจริงมาคำนวน งบประมาณทั้งหมดประมาณ 143,000 ล้านบาท ขุดอุโมงค์ความยาวโดยประมาณ 260 กม. จะเฉลี่ยได้ กม.ละ 548 ล้าน (ถ้าแอดมินคำนวนผิดก็ขออภัย) ถูกกว่าราคาที่เพจศาสดา #ตอแหล เอาไว้ลงอย่างครึ่งต่อครึ่ง เลยทีเดียว เรื่องนี้สะท้อนว่าคนบางคนอยากเป็นศาสดาแต่มั่วข้อมูลสุดๆ และที่อนาจใจยิ่งกว่าคือ.... สาวกของเขานี่ก็เชือโดยไม่มีเหตุผล (สิ่งที่เขาพิมพ์มานั้นทำให้ตีความได้ว่า ตัวเขาเชื่อตามศาสดาของเขาว่า ราคามันจริงๆคือ กิโลเมตรละ 1000กว่าล้าน) คิดยังไงก็บอกกันมา ส่วนเจ้าพระยานายเวร เจ๊นุ๊ก คนกลาง ถ้าไม่มีข้อมูลที่เป็นจริง อย่ามาโพสต์ให้เสียเวลาเลย เลอะเทอะ
โดยหลักการแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่งบฯแสนสี่หมื่นกว่าล้านบาทเพื่อแลกกับความสวยงามเป็นระเบียบของกทม. เอาไปทำอย่างอื่นจะคุ้มค่ากว่าหรือไม่
กทม น้ำท่วมบ่อย จะช๊อตตายมั๊ยเนี่ย เอาแบบว่า เก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ดูสะอาดตา ก็น่าจะโอเคแล้วครับ ความเจริญของประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้ดูกันแค่วัตุภายนอกเพียงอย่างเดียว
ลพบุรีทำไปแล้ว http://news.mthai.com/hot-news/social-news/476082.html สงสารก็แต่กระรอก ต่อไปนี้จะเปลี่ยนต้นไม้ยังไง
นี่คือส่วนหนึ่งของคำตอบว่าทำไม กทม.ถึงมีต้นทุนที่สูงกว่าที่อื่น นอกจากน้ำท่วมแล้วยังมีปัญหาเรื่องของสภาพดินที่ไม่แน่น เหมือนหาดใหญ่หรือตรัง หรือเชียงใหม่ ทราบไหมครับว่า กทม. ดินทรุดตัวทุกปี ๆ ละ 1-2 ซม.นี่แหละ ถ้าคิดถึงอนาคตเรื่องการท่องเที่ยว หน้าตาของประเทศ ทำเถอะครับ อย่าให้เป็นภาระของลูกหลานในอนาคต
ผมมองว่า มันมีต้นทุนที่สูงไปกว่าจังหวัดอื่นในหลายด้าน เหมือนอ่านผ่านตามาว่า กรุงเทพ จะทำเป็นอุโมงค์ ต่างกับต่างจังหวัดที่ทำเป็นแค่ท่อ อันนี้ไม่ทราบจริงเท็จ ผมอยากให้ทำแค่บางพื้นที่ เท่าที่ทำได้ง่ายและสะดวก แม้ว่าใจจะอยากให้ทำทั้งหมดก็เถอะ เพราะงบประมาณใช้ไปเยอะเกินไปหน่อย คามจริง แก้ปัญหาเป็นจุดๆ ไปก็น่าจะดีกว่า ให้งบไปพัฒนาเฉพาะส่วนจำเป็นจริงๆ เช่น ตรงไหนที่สายไฟเยอะเกินไป ที่อยู่ในตำแหน่งอันตราย ค่อยๆ ย้าย ค่อยๆ ทำ ไม่ต้องมีงบผูกพันไปเป็นแสนล้าน แต่ใช้งบประจำปีได้ น่าจะดีกว่า ส่วนไอ้อีที่คอยแต่จะด่า ช่างหัวมันเถอะ รัฐบาลตดออกมาที ก็รีบวิ่งมาสูด จะได้ออกไปป่าวประกาศ ว่ารัฐบาลนี้ตดเหม็น
ความมั่วซั่วข้อมูลและตรรกะวิบัติ ของเพจลัทธิตาสว่างในโลกออนไลน์ - ช่วงนี้เห็นมีเพจการเมืองสายตาสว่างบางเพจ พยายามปลุกกระแสเรื่องโครงการสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ที่จะทำใน กทม.และปริมณฑล ว่าทำไมถึงมีราคาแพง ถึง 1000 ล้าน/ กม. ซึ่งก็มีคนมารุมถล่มกันมากมาย แต่คนเหล่านี้หารุ็ไม่ว่าข้อมูลของพวกเค้านั้น มันล้วนแต่มั่วซั่วแทบจะทุกอย่างเลย... โดยผมจะแจกแจงให้เห็นเป็นข้อๆเลยนะครับ 1. การมั่วซั่วเรื่องของข้อมูลโครงการ เนื่องจากเพจดังกล่าวนำงบประมาณทั้งหมด ของโครงการที่ 1.4 แสนล้านบาท แต่มาคิด กับระยะทางเฟสแรก ที่อยู่ที่ 144.6 กม.เท่านั้น แท้ที่จริงโครงการนี้มี 2 เฟส เฟสที่สอง 117 กม. รวมทั้งหมด 261.6 กม. ซึ่งเมื่อนำมาคิดกับงบแล้ว จะได้ราคาตกเฉลี่ยกิโลเมตรละ 500 ล้านบาท - แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ใช่วิธีการคำนวณที่ถูกต้องอยุ่ดี เพราะงบประมาณนั้นไม่ได้มีแต่เรื่องนำสายไฟลงใต้ดิน แต่รวมถึง #การปรับปรุงภูมิทัศน์ และ #ระบบไฟส่องสว่าง ดังเช่นที่ก่อนหน้านี้ ที่มีข่าวว่าจะทำแค่ 127.3 กม. โดยใช้งบประมาณ 4.87 หมื่นล้านบาท ซึ่งเฉลี่ย ได้ที่กิโลเมตรละประมาณ 350 ล้านบาท - ความมั่วซั่วประการแรกแสดงให้เห็นว่า คนเหล่านี้ไม่ยอมอ่านเนื้อหาข่าวให้ครบ พวกเค้าแค่อ่านผ่านๆ และพอเห็นตัวเลขเยอะๆ ก็ไม่อ่านต่อ.. เลยมองหาแต่ตัวเลขเฟสแรก แต่ลืมอ่านว่ามันเขียนว่า "เฟสแรก" รวมถึง ยังมีเขียนว่า "เฟสสอง" ต่ออีกในบรรทัดติดกัน - ความมั่วซั่วประการแรกแสดงให้เห็นว่ารายๆคน ไม่ยอมอ่านรายละเอียดแต่ตั้งธงด้วยอคติไว้แล้ว แล้วก็แค่ชายตาเพื่อหา คำสำคัญ (keyword) ที่จะมาตอบสนองต่ออคติที่ตัวเองตั้งธงไว้เท่านั้น ป.ล.นี่ยังไม่นับที่บางคนเที่ยวบอกว่าให้ กทม.รับผิดชอบ ทั้งที่โครงการมันเป็นของการไฟฟ้านครหลวงด้วยนะครับ http://www.thairath.co.th/content/522361 http://news.tlcthai.com/news/621192.html http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1441604987 --------------------------------
2. ความมั่วซั่วประการแรกว่าแย่แล้ว แต่ประการที่สองนั้นยิ่งหนักกว่าเสียอีก นั่นก็คือ หลายๆคนเริ่มยอมรับว่าตัวเองมั่วข้อมูล ก็เริ่มมาเล่นประเด็นว่า ถึงจะแค่ 350-500 ล้าน/กม. ก็ยังแพงมากเมื่อเทียบกับในต่างจังหวัดอย่าง หาดใหญ่ หรือ ตรัง ที่ตกอยู่แค่ 30-50 ล้าน/กม. - ซึ่งนี่คือความมั่วซั่วประการที่สอง และเป็นความมั่วซั่วในลักษณะ #ตรรกะวิบัติ เพราะเป็นการเอาของสองอย่างที่ต่างกันมาเทียบ ใน กทม.นั้นจำนวนประชากรมากกว่าหาดใหญ่มาก แถมยังมีสายเคเบิ้ล และสายไฟมากมายมหาศาล กทม.มีห้างสรรพสินค้า มีตึกสูง สำนักงาน ฯลฯ ที่ต้องการปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าจังหวัดอื่น หลายสิบ-หลายร้อยเท่า!!!! ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐาน ที่ต้องมารองรับปริมาณสายไฟฟ้าจึงเป็นคนละเรื่อง - นี่ยังไม่นับเรื่องระบบที่มีขนาดต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในหาดใหญ่นั้นใช้วิธีการ #ขุดเจาะหน้าดินแล้ววางท่อ (กรุณาดูรูปที่ผมแนบมาด้วย) ซึ่งสามารถใช้รถขุดธรรมดา http://www.hatyaicity.go.th/news/detail/605 แต่ใน กทม.นั้นระบบเยอะและซับซ้อนกว่ามหาศาล!! โดยผมขอแจกแจงรายละเอียดให้ดูด้านล่างนะครับ เพราะรายละเอียกมันก็มีในเอกสารของการไฟฟ้าแล้ว -------------------------------- - เมื่อลองดูจากเอกสารของการไฟฟ้านครหลวง จะพบว่ารายละเอียดโครงการนั้นมีแจกแจงไว้ครบ http://www.mea.or.th/download-file/index.php… คือ จะใช้วิธี #Pipe_Jacking หรือการใช้เครื่องขุดเจาะ ที่มีลักษณะเหมือนรถขุดที่คนนั่งแล้วก็ดันเนื้อดินออกมา การจะทำการขุดเจาะลักษณะนี้ได้ต้องมีการทำ #Shaft หรือ "อุโมงค์ทางตั้ง" ที่มีขนาดลึกลงไปหลายสิบเมตร (บางแห่งทำลึกลงไปเป็นกิโลเมตรเลย เช่นในลอนดอน) - โดยชื่ออย่างเป็นทางการของเทคนิคนี้ก็คือ Tunnel Boring Machine หรือ TBM ซึ่งแปลว่า "เครื่องขุดเจาะอุโมงค์แบบดันลอด" (แค่ตัวเครื่องขุดเจาะที่ต้องเอาไปตั้งใน Shaft นั้น ก็มีขนาดใหญ่กว่ารถขุดเจาะที่ใช้วิธีเปิดหน้าดินแล้ว) https://en.wikipedia.org/wiki/Pipe_ramming https://www.youtube.com/watch?v=XWU8qaHdNYI - นอกจาก #วิธีการ ที่แตกต่างกันแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ก็คนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิงเลย ในกทม.นั้นจะมี Tunnel หรืออุโมงค์ขนาด 2.6 m ระยะ 18 กม. เพื่อเชื่อมจุดสำคัญต่างๆ ไม่ใช่แค่ เพียงท่อขนาดเดินสายธรรมดาๆแบบหาดใหญ่ ที่เพียงแค่ขุดเจาะหน้าดินก็วางท่อได้แล้วเท่านั้น โดยที่อุโมงค์ขนาด 2.6 m นี้เป็นขนาดเดียวกัน กับเมืองลอนดอนใช้เลย (ของเค้าขุดลงไป 1.1 กิโเมตร) http://tunnellingjournal.com/news/london-cable-breakthrough/ https://www.youtube.com/watch?v=vhIWjwBwhKE
- นอกจากอุโมงค์แล้วสายไฟฟ้าแรงสูง ต้องมีจุดติดตั้งระบบจ่าย/ตัด/ปรับขนาดไฟ (รวมถึงยังต้องมีระบบหล่อเย็นในแต่ละช่วงด้วย) โดยในรายละเอียดข้อ 3.2 ระบุว่าสายไฟฟ้าแรงสูง จะมีจุดตั้งระบบ Gas-Insulated Switchgear (GIS) (ระบบที่ใช้ก๊าสเป็นชนวน) ซึ่งมีทั้งหมด 19 จุด และระบบที่ว่านี้ก็จะต้องมาพร้อมกันกับ #อาคาร ที่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปใช้ทำงานได้อีกด้วย!!! http://www.electrical4u.com/gis-or-gas-insulated-switchgear/ http://www.energy.siemens.com/…/h…/gas-insulated-switchgear/ https://en.wikipedia.org/wiki/Switchgear https://en.wikipedia.org/wiki/Electrical_substation - ในรายละเอียดยังแจกแจงไปถึงระบบไฟส่องสว่าง รวมถึงค่ารื้อถอนเสาไฟฟ้าและสายต่างๆของบริษัทมากมาย รวมถึงการวางระบบให้รองรับกับผู้ใช้งานทั้งไฟฟ้าและเคเบิ้ล ที่ในกทม.นั้นมีจำนวนผู้ใช้มากกว่า ในต่างจังหวัดเป็นร้อยๆเท่า!!! *** ดังนั้นแล้วการนำเอาของสองสิ่ง ที่มีรายละเอียดเนื้องานต่างกันคนละเรื่อง มาเปรียบเทียบกันโดยสนแค่ว่าของที่หนึ่ง ทำแค่ 50 ล้าน อีกที่ทำไม 300-500 ล้าน มันก็ไม่ต่างอะไรกับการเอารถอีโคของญี่ปุ่น ไปเทียบกับรถแบบ BMW หรือรถกันกระสุน หรือก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาการขุดท่อระบายน้ำ (เทียบได้กับการเดินสาย/ฝังท่อด้วยการเปิดหน้าดิน) ไปเทียบกับการทำรถไฟฟ้าใต้ดินที่ใช้ระบบ TBM *** ก็นั่นแหละครับ สาเหตุที่ผมเรียกพฤิตกรรมนี้ ว่า "ตรรกะวิบัติ" เพราะมันชัดเจนซะขนาดนี้ ก่อนที่คนพวกนี้จะออกตัวแรงๆด้วยอคติแบบนี้ พวกเค้าควรจะตั้งคำถามและค้นหาข้อมูลก่อน ไม่ใช่เอาของสองอย่างที่มีรายละเอียดตา่งกัน มาเทียบกันแล้วก็อ้างว่า "แพง เพราะมีการทุจริต" แบบนี้เค้าเรียกว่า #บิดเบือนข้อเท็จจริง ครับ!!!!
สมัยก่อนไม่เห็นมีร่านบ่น... วันที่ 05 สิงหาคม 2556 รัฐบาลสั่งกฟน. เร่งทำแผนลงทุนเก็บสายส่งไฟฟ้าลงใต้ดิน คาดมุดสายลงดินทั่วประเทศภายใน 10 ปี ใช้เงินลงทุนกว่า 1.3 แสนล้านบาท http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/521436
ไม่รู้ว่าชาวพันทิบ จะยังชื่นชมเหมือนเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้วอยู่หรือเปล่า... http://pantip.com/topic/31116983
ถ้าอีโง่ทำ ร่านจะบอกว่าฉลาด มองการณ์ไกล แต่ถ้าลุงตู่ทำ ไอ้ร่านก็จะบอกว่ามันโง่ เปลืองงบประมาณ หรือกะจะโกงกิน สมัยนี้ ร่านเขาปรับตัวเก่ง ขนาดจิ้งจกยังอาย
เดี๋ยวพอทำ ก็ด่า ว่า ทุ่มงบให้แต่กทม. เอาเปรียบคนตจว. แบ่งแยก ไม่เท่าเทียม บลาๆๆๆ https://www.google.co.th/search?q=ส...96jKAhWIPo4KHcrgBxMQ_AUIBygB&biw=1366&bih=658 แต่ก็อยากให้จัดระเบียบหรือตกแต่งบ้าง เฉพาะจุดที่ยุ่งเหยิงหนักๆน่ะ เอาแค่ที่อันตรายก่อนละกันครับ เช่น พาดทะลุบันไดสะพานลอยหรือห้อยตกท้องช้างจนต้องก้มลอดน่ะ แต่ผมว่ามันเป็นสายสื่อสารซะเยอะกว่านะ http://www.komchadluek.net/detail/2...2%C2%E4%BF%C3%A1%B7%D1%E8%C7%A1%C3%D8%A7.html
คิดว่าไอ้ศาสDor กับ สาวกของมันโคดโง่ และดักดานมากครับ ไม่ควรไปเถียงอะไรกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านตั้งแต่แรกแล้ว ขนาดข่าวสั่ว กับมติชิน มันยังไม่กล้าเล่น แล้วโง่ ๆ อย่างมันจะไปตั้งประเด็นได้ไง
มันงานของท้องถิ่นครับ ปล่อยพื้นที่เค้าจัดการกันไป รัฐบาลมะเกี่ยว แต่น่าคิดค่าธรรมเนียมการพาดสาย เอามาใช้จัดการเพื่อความสะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย
"ภูเก็ต" ถ้าทุกโครงการเดินหน้าได้ครบหมด เสร็จสิ้น คิดว่า สิงคโปก์ จะหลับหรือตื่น? รัฐบาลกำลังจะพิจารณาภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ? เร็วๆนี้ครับ! อู้หู โอ้โห ได้อย่างนั้นก้อไปโลดซิคร๊าบบ ภูเก็ตสุดยอดครับ ความเจริญกำลังถาโถมเข้าสู่เกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นแค่เกาะ จะปรับสภาพรับไหวไหมนะ เกาะจะรับสภาพกับความเจริญอย่างยิ่งยวดได้ยังไง รวมโครงการในภูเก็ตทั้งอยู่ระหว่างก่อสร้างและอนาคต 1.ขยายสนามบิน 5700 ล้านจะเสร็จแล้ว 2.ทางลอดสามกอง 850ล้าน 3.ทางลอดห้าแยกฉลอง 680ล้าน 4.ทางลอดบางคู 750ล้าน 5.สะพานกลับรถต่างระดับ 2 จุด 6.ปรับปรุงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต 3แห่ง สามารถรับเรือยอช์ขนาดใหญ่พิเศษได้ 7.สะพานท่าเทียบเรือยอช์ทที่ป่าหลาย 8.สะพานยกระดับคลองเกาะผี 150ล้าน 9.อุโมงค์ป่าตอง 1 หมื่นกว่าล้าน อนุมัติผ่านแล้ว 10.รถไฟฟ้ารางเบา 2 หมื่นกว่าล้าน 60กม 11.บลูเพิร์ล 2 หมื่นล้าน 150 ไร่ 6.5 แสนตาราเมตร 12.เซ็นทรัล 2 หมื่นล้าน 111ไร่ 13.Bukis Walking Street 1000 กว่าล้าน 14.King Power Phuket Complex 35 ไร่ 2 พันล้าน 15.Duty Free หน้าทางเข้าโรงเรียนขจรเกียรติฯ 16.สวนน้ำ Phuket Aquapark 800 ล้าน 40 ไร่ 17.สวนสนุก +Aquarium 1440 ล้าน 78ไร่ 16.Ikea Phuket 18.ก่อสร้างโรงพยาบาลฉลอง 19.อาคารพักผู้ป่วยหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ๑๐๐ ปี รพ วชิระ 7 ชั้น 20.อาคารบริการและจอดรถ รพ วชิระ 10ชั้น 21.อาคารพัก แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ รพ วชิระ 8 ชั้น 22.อาคารพักจนท 7 ชั้น รพ ป่าตอง 23.อาคารเอนกประสงค์วิทยาการ สไตล์ชิโน 24.ขยายอาคาร รพ สิริโรจน์ 25.ขยายพื้นที่โรงเรียนเฮทสตาร์ท 26.โรงแรม Novotel Phuket City 27.จีนเวลรี่ขนาดใหญ่อนุสาวรีย์ถลาง 28.ภูเก็ตโกรเชอรี่ 29.ศูนย์ขับขี่รถปลอดภัยใหญ่สุดในภาคใต้ของ Honda ที่ติด ปตท บ้านพอน 30.โรงเรียนไทหัวอินเตอร์และโรงเรียน 2ภาษาขนาดใหญ่อีก 2 โรงเรียน 31.สร้างตึกเพิ่มขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 32.สร้างตึกเพิ่มขนาดใหญ่ของ ว.ค. พยายามรวบรวมข้อมูลให้ทุกท่านทราบให้มากที่สุดครับ ทอม ภูเก็ต
เรื่องปรับปรุงภูมิทัศน์ ผมติดตามในบอร์ด skyscraper อยู่เรื่อยๆ http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=130863&page=211 โครงการนำสายไฟฟ้าลงดินนั้นทำต่อเนื่องมาหลายปีแล้วครับ โดยรวมแล้วผมมองว่าเป็นประโยชน์ เพราะสามารถซ่อมบำรุงและปรับปรุงได้โดยง่ายกว่าระบบเก่าเยอะ ตอนนี้กรุงเทพฯกำลังใช้ไฟฟ้ามากขึนเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าการนำสายไฟลงดินจะสามารถเพิ่มกำลังไฟฟ้าได้มากกว่าแบบเก่า และปลอดภัยกว่าด้วยครับ