แสดงว่าตกเลขหรือไม่ก็อ่านโจทย์ไม่ครบ เอายอดทั้งหมด หักออกด้วย ตัวเลขเห็นชอบ+ไม่เห็นชอบ+บัตรเสีย แล้วหายไป 1.3 ล้าน คำว่าบัตรเสียเกิดได้ จากหลายเหตุ เช่นกาแค่เห็นชอบ แต่ลืมกาคำถามพ่วง ก็ไม่ได้นับเป็นบัตรเสียทั้งหมด การเล่นตรรกะกับตัวเลขมันพิสูจน์ได้ไม่ยาก การรวมตัวเลขแบบนี้ในเมื่อเป็นคนละฐาน การนับแล้ว ผลรวมไงก็ไม่ถูก
เจ้าของกระทู้ ไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่ามีบางคนเค้า " ไม่กาสักช่อง " จะว่าเป็นบัตรเสีย ก็ไม่ได้ จะว่า เห็นชอบ ก็ไม่ได้ จะว่า ไม่เห็นชอบ ก็ไม่ได้ ผมไม่รู้เหตุผลนะ ว่าทำไม แต่บางคน ก็ไม่กาแค่บางข้อ บางคนไม่กาทั้งสองข้อ อย่าถามผมนะว่าทำไมเค้าไม่กา ไปรอถามเจ้าตัวโน่น ประเทศประชาธิปไตย แต่ทำไมบางคนยังสงสัยว่า สิทธิ เสรีภาพ ในการไม่กาช่องไหนเลย ทำไม่ได้ มามัวสงสัยอะไรแบบนี้ ทำไมไม่ไปถามคนไม่กาก่อนเล่า ว่าเค้ามีเหตุผลอะไร
จขกท. Poor loser จะแปลเป็นไทยว่ากระไรหนอ จะไปถามไอ้ปึ้งก่อนก็ได้นะ ขานั้นเคยเป็นรมต.ต่างประเทศเชียวหนา
ฝากนายพลตัดแปะ ไปถามคนที่เอาตัวเลขนี้มาวิเคราะห์หน่อย ว่า ประเด็นคำถามพ่วง คะแนนหายไป 2.7 ล้าน เขาตั้งสมมุติฐานเชิงเป็นไปได้ว่า เพราะผู้ลงประชามติเลือกเฉพาะ รับ หรือไม่รับรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่ตั้งสมมุติฐานประเด็นร่างรัฐธรรมนูญที่คะแนนหายไป 1.9 ล้าน ว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้ลงประชามติเขาเลือกเฉพาะคำถามพ่วง เพราะมันก็ ตรรกะ เดียวกันนั่นแหละ ไม่ตั้งสมมุติฐานแล้วยังมาถามอีกว่า คะแนนตั้งมากมาย หายไปไหน ทั้ง ๆ ที่ คะแนนหาย 2.7 ล้าน บอกรับได้ แต่ คะแนนหาย 1.9 ล้าน กลับมาถามหาว่าหายไปไหน คืออยากถามว่า แบบนี้เขาเรียกว่า วิเคราะห์แบบมีอคติ หรือเปล่าครับ