ตามเข้าไปอ่านแล้วงง เหมือนกับว่า มีการปิดสถานีวิทยุของหลวงตา แล้วอ้างว่า ส่งจม.ร้องเรียนแล้ว กว่า 50 ฉบับ ? ไม่คืบหน้า เลยจะคว่ำบาตรลุงตู่ ?
อัพเดทข่าวครับ 28 เม.ย.59 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะสงฆ์ และมูลนิธิสถานีวิทยุเสียงธรรมหลวงตาฯ ประกาศเตรียมคว่ำบาตร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากเพิกเฉยต่อการร้องทุกข์ กรณี กสทช.สั่งปิดสถานีวิทยุเสียงธรรมของกลุ่มลูกศิษย์หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ว่า มูลนิธิเสียงธรรมได้รับใบอนุญาต และทำข้อตกลง (MOU) กับ กสทช.แล้วสามารถออกอากาศได้ทั้งสิ้น 119 สถานี ซึ่งเต็มจำนวนตามสิทธิที่มีอยู่ตามกฎหมาย แต่มูลนิธิฯ ยื่นคำขอเกินสิทธิอีก 15 สถานี และร้องขอให้สามารถออกอากาศด้วยสัญญาณแรงเทียบเท่าคลื่นหลัก ซึ่งไม่สามารถอนุญาตได้ ทั้งนี้ รัฐบาลได้รับรายงานจาก กสทช.ถึงมูลเหตุที่ต้องสั่งปิดสถานีวิทยุเสียงธรรม เนื่องจากสถานีวิทยุใช้เสาส่งสัญญาณที่มีความสูง และมีกำลังส่งไกลเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ส่งผลกระทบต่อคลื่นวิทยุการบิน และสถานีวิทยุอื่นๆ ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือถึงทางออกร่วมกันหลายครั้งแต่ไม่สัมฤทธิ์ผล จนกระทั่งมหาเถรสมาคมได้มอบให้ท่านเจ้าคุณพระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ เป็นผู้รับผิดชอบในการเจรจา และได้ข้อสรุปว่า มูลนิธิฯ จะต้องยึดหลักดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด นายกฯ เข้าใจเจตนารมณ์ของกลุ่มคณะสงฆ์ และลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัวบางส่วนที่ออกมาเคลื่อนไหว ว่าต้องการให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสฟังธรรมะจากครูบาอาจารย์ผ่านวิทยุเสียงธรรม และเห็นว่ายิ่งสามารถส่งสัญญาณออกอากาศได้แรงได้ไกลยิ่งเป็นการดี แต่อยากให้คำนึงถึงสถานีวิทยุอื่นๆ อีกหลายพันแห่งที่ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย แต่ไม่สามารถออกอากาศได้ เพราะถูกคลื่นที่มีกำลังแรงกว่ารบกวน ทั้งนี้ นายกฯ มิได้เพิกเฉยหรือหลบเลี่ยงการร้องทุกข์ และยิ่งไม่เคยคิดเป็นปฏิปักษ์กับคณะสงฆ์ และพุทธศาสนา รวมถึงสนับสนุนให้ประชาชนได้รับความรู้และยกระดับจิตใจผ่านรายการวิทยุธรรมะ แต่ทุกวันนี้มีวิทยุชุมชนเป็นพันๆ สถานี หากทุกที่ส่งสัญญาณแรงแข่งกัน จะไม่มีสถานีไหนสามารถฟังได้ กสทช.จึงต้องกำหนดกติกาและควบคุมให้ทุกสถานีปฏิบัติตามกฎหมาย จึงอยากให้คณะสงฆ์ และมูลนิธิเสียงธรรม เข้าใจกติกาส่วนรวม พร้อมทั้งหันหน้ามาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน และดำเนินการทุกอย่างภายใต้กฎหมายที่เท่าเทียมกับผู้อื่น เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม http://www.naewna.com/politic/213451 ....................................................................................... เทียบคำกล่าวหา กับคำชี้แจงแล้ว คำชี้แจงค่อนข้างชัดเจนกว่านะครับ
กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว แม้แต่พระสงฆ์องคเจ้าก็เป็นไปกับเขาด้วย กล่าวหาให้แรงๆไว้ก่อน แล้วค่อยแก้ปัญหากันทีหลัง ที่กล่าวหาลุงตู่แบบมั่วๆนี่เข้าข่ายโกหกนะครับพระ ผิดศีลนะ
ปัญหาหลักของประเทศไทยที่เป็นพื้นฐานของทุกๆเรื่องคือการเคารพกฎหมายของประชาชนและการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ครับ หากทั้ง 2 เรื่องนี้สำเร็จได้ ( ต้องใช้เวลา ) เรื่องอื่นๆที่ต้องการจะปฎิรูปก็เป็นเรื่องง่าย ที่สำคัญก็คือส่วนหัว นายกฯต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ทุกคนเห็นจึงจะสำเร็จ