เริ่มกันตั้งแต่ทศวรรษ 2490 หลังการเลือกตั้ง ที่นายควง อภัยวงศ์ พรรคประชาธิปัตย์ได้สร้างบาดแผลไว้กับคนมุสลิมภาคใต้ด้วยการจับกุมตัวหะยี สุหลง อับดุลกาเดร์ ผู้นำศาสนาจังหวัดปัตตานี ในข้อหากบฏ (ตระเตรีมและสมคบคิดการเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครองเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียและเพื่อเกิดเหตุร้ายแก่ประเทศจากภายนอก หลังจากหะยีสุหลง ได้เคลื่อนไหวยื่นข้อเสนอ 7 ข้อให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ โดยการเคลื่อนไหวอย่างสันติ มีข้อเสนอข้อที่ 1 คือ ให้มีผู้นำสูงสุดคนหนึ่งปกครอง 5 จังหวัดที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นแนวทางตามระบบประชาธิปไตย แต่หะยีสุหลง ถูกศาลสั่งจำคุก 4 ปี 8 เดือน ซึ่งในบันทึกของหะยีสุหลง ระบุว่า พระยารัตนภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี คนที่ประชาธิปัตย์ส่งไปเป็น ต้องการจะลงสมัคร ส.ส. และได้มาขอให้หะยีสุหลงช่วย แต่หะยีสุหลง ได้ปฏิเสธเพราะได้รับปากคนอื่นแล้ว จึงทำให้เกิดความโกรธแค้นหาเรื่องจับกุม เข้าสู่ทศวรรษ 2530 สมัยทีนายวีระ มุสิกพงษ์ เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ ได้ดึงมุสลิมทีมีบทบาทโดดเด่นหลายคนเข้ามาอยู่ประชาธิปัตย์ ซึ่งต่อมากลุ่มนี้ได้รวมตัวเป็นกลุ่มวาดะห์ มีนายเด่น โต๊ะมีนา เป็นแกนนำ นายวีระ รับปากว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะให้นายเด่น เป็นรัฐมนตรี แต่แกนนำภายในพรรคประชาธิปัตย์หลายคนคัดค้านการให้นายเด่นเป็นรัฐมนตรี จนล่วงเลยจากปี 2529 ถึงปี 2531 พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ยอมให้นายเด่นเป็นรัฐมนตรี ด้วยความเป็นลูกผู้ชายเมื่อรับปากแล้วทำไมได้ นายวีระ จึงถอนตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ในนามกลุ่ม 10 มกรา ไปตั้งพรรคประชาชน ส่งผู้สมัคร ส.ส.แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาลในช่วงแรก แต่หลังการปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ชาติชาย ดึงพรรคเอกภาพ ซึ่งมีพรรคประชาชนมารวมอยู่ด้วยมาเป็นรัฐบาล นายเด่น ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้น ส.ส.ภาคใต้กลุ่มนี้ ได้รวมกลุ่มเป็นวาดะห์ มีนายเด่น เป็นแกนนำยุคแรก ก่อนสลับให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก้าวสืบแทน กลุ่มนี้ได้รับการส่งเสริมจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาตลอด นอกจากดำเนินนโยบายฮารับบันบารู เพื่อพัฒนาภาคใต้แล้ว ยังสนับสนุนให้คนกลุ่มนี้ เป็นรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง นายเด่น โต๊ะมีนา เป็น รมช.มหาดไทย นายวันมูหะมัดนอรฺ มะทา เป็นรองประธานสภาฯ จนก้างเป็นประธานสภา ตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหาร ที่ได้รับการยกย่องในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นความภาคภูมิใจของมุสลิมทั่วประเทศ ต่อเนื่องถึงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้จะไม่ชอบมุสลิม แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ให้โอกาส ส.ส.มุสลิมเป็นรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่อง นายวันมูหะมัดนอร์ เป็น รมว.ศึกษาธิการ, รมว.คมนาคม และรมว.มหาดไทย นับว่าได้รับการสนับสนุนที่โดดเด่นมาก และนายอารีเพ็ญ ได้เป็น รมช.ศึกษาธิการ กลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ หลังการเลือกตั้ง 2535/2 ได้ตั้ง ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นรมช.การต่างประเทศ และรมว.ต่างประเทศ แต่ดร.สุรินทร์ เป็นมุสลิมที่มีความรู้ ความสามารถ จากดอกเตอร์จากฮาร์วาร์ด ถ้าดร.สุรินทร์ เป็น ส.ส.ธรรมดาๆ ก็ไม่แน่ใจว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะให้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เหมือนที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ปี 2551 มีส.ส.มุสลิมอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ 12 คน เป็น ส.ส.กทม. 3 คน ที่เหลือเป็น ส.ส.จากภาคใต้ ไล่ไปตั้งแต่สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล ในจำนวนนี้ มี ส.ส.ที่มีบทบาทโดดเด่นและมีอาวุโสที่จะได้เป็นรัฐมนตรี ได้เติบโตทางการเมืองมาพร้อมกับนายอภิสิทธิ์ แต่บางคนจะสอบตกบ้าง ก็เพียงครั้ง 2 ครั้ง อาทิ นายเจะอามิง โตะตาหยง แต่ได้รับตำแหน่งเพียงประธานคณะกรรมาธิการ หรือนายสมัย เจริญช่าง ซึ่งเป็น ส.ส.มาหลายสมัย ก็ได้เป็นแค่ประธานคณะกรรมาธิการ แม้จะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบจาก ส.ส.มุสลิม เหมือนที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กระทำ แต่ความไม่พอใจได้เกิดขึ้นลึกๆในกลุ่ม ส.ส.มุสลิมของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะตำแหน่งรมช.มหาดไทย ที่รับผิดชอบดูแลปัญหาภาคใต้ ซึ่งนายถาวร เสนเนียม เป็นอยู่นั้น โดยหลักแล้ว ต้องเป็นตำแหน่งที่ให้ ส.ส.มุสลิม มาเป็น เพราะนายถาวร ไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจปัญหา ทำแค่หยิบโหย่ง เป็นรัฐมนตรีแค่เปิดงานเท่านั้นเอง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ สร้างความอึดอัดให้กับ ส.ส.มุสลิมของประชาธิปัตย์ เป็นอย่างมาก เพียงแต่ความเป็นมุสลิมที่ดี เขาจึงไม่ออกมาพูดออกมาโวยวาย เพราแค่ ส.ส. ยะลา 2-3 คนของพรรคออกมาแถลงข่าวเรื่องระเบิดในยะลา ก็ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาด่าแล้ว
น่าเปลี่ยนหัวข้อเป็นความจริงใจของ Anurid ต่อคนไทยมากกว่า ทักกี้จริงใจ ขำ เครือแซะ โจรกระจอก ทนายสมชาย ผู้บริสุทธิที่ตายจากสงครามยาเสพติด ปากอ้างปชต. สุดท้ายก็วนมาทักกี้กับปชป.จนได้ พูดไม่ถึงวันความใจดำมันก็โผล่
ที่ไม่เอาแหล่งที่อยู่มา เพราะกลัวบทความนี้ซินะ เอามาด้านเดียว Anurid ร่างบริสุทธินี้โสโครกกว่าที่คิดซะอีก จากไทยรักไทย-เพื่อไทย ทำไมมุสลิมถึงปฏิเสธพรรคนี้...
แสดงว่าถ้าจริงใจคือจะทำอะไรก็ได้ งั้นเหรอ??? ว่ากันที่รายละเอียดดีกว่ามั๊ย ผิดถูกยังไงว่ากันไป นี่ว่ากันเป็นศาสนาเลย
อ่านผ่านๆนะครับ สรุป ทักษิณจริงใจกับชาวมุสลิมมากกว่า ปชป. เพราะให้เป็นรัฐมนตรี ถึงแม้ว่าตัวทักษิณเองไม่ชอบมุสลิม เพราะฉะนั้น การให้เป็นรัฐมนตรีคือความจริงใจ
คลาดเคลื่อนนะครับ กลุ่ม วาดะ อยู่ยะลา สังกัดนายใหญ่มาตั้งแต่ไทยรักไทยแล้วครับ และเป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ที่ เลือกพรรคนายใหญ่คุณมาทุกยุคทุกสมัยครับ
แปลก ถ้างั้นทำไมเลือกตั้ง 48 หลังเกิดเหตุมัสยิดกรือเซะ ทำไมภาคใต้ 54 ที่นั่ง ปชป.ได้ไปตั้ง 52 เลยล่ะ ขาดไปแค่ 2 คือ พังงา จากเหตุสึนามิ ซึ่งก็แพ้ไปเฉียดฉิวเท่านั้นเอง กะอีกพื้นที่นึงคือ นราธิวาส อำเภอเมือง ถ้าจำไม่ผิด นั่นก็เสียให้แก่ชาติไทยด้วย ไม่ใช่ทักษิณ นอกนั้นไม่ว่ายะลา ปัตตานี สตูล อะไร ๆ ปชป.ได้หมดเลยล่ะ ทั้งที่พื้นท่ี่มุสลิมพวกนี้ ปชป.จะเว้า ๆ แหว่ง ๆ มาตลอด แต่ครั้งนี้เป็นประวัติการณ์เลยนะ แม้แต่วาดะห์ก็สอบตก หือออออออออ
เพิ่มเติมนะครับ เดือนมกราคม พ.ศ. 2545 กลุ่มวาดะห์ ย้ายมาสังกัด พรรคไทยรักไทย วันที่ 31 ตุลาคมพ.ศ. 2550 กลุ่มวาดะห์ประชุมกันและมีมติว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ในนามพรรคพลังประชาชน ต่อมาภายหลังการยุบพรรคพลังประชาชน ในปี พ.ศ. 2551 สมาชิกกลุ่มวาดะห์ จึงย้ายมาสังกัดพรรคมาตุภูมิ(พรรคร่วมรัฐบาลสมัย ยิ่งลักษณ์)กระทั่งปัจจุบัน