เรื่องป้าสังเวียน เผาตัวเอง ความจริงอีกด้านช่างแตกต่างกับที่นักข่าวเสนอลิบลับ # สื่อหนอสื่อ ไม่หาข้อมูลให้รอบด้านก่อนนำเสนอ http://pantip.com/topic/32716337 ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณป้าด้วยครับ ที่ตัดสินปัญหาด้วยวิธีแบบนี้ และใครที่บอกว่ารับจ้างทักษิณมาเผาผมขอบอกไว้เลยครับ เพ้อเจ้อมาก โดยส่วนตัวผม ที่ได้รู้จักกับครอบครัวนี้ รวมทั้งคุณป้าน้อย ต้องขอบอกครับ ว่าถ้าคุณได้รับรู้ความจริงทั้งหมด มันคนละเรื่องกันเลยครับ เจ้าของเงินถูกเอาเปรียบจากลูกหนี้ที่ปั้นน้ำเป็นตัว พี่ชายให้ยืมเงิน 4 แสน น้องสาวให้ยืม 2 ลบ โดยไม่ทำสัญญา ไม่มีการใช้หนี้ จนนำไปสู่กระบวนการยึดที่ และก็ไกล่เกลี่ย สัญญาไกล่เกลี่ย เจ้าหนี้เสียเปรียบทุกประเด็น โฉนดก็ต้องคืน เงินจะใช้หมดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ขายข้าวได้แล้วค่อยให้เงิน ปีไหนขายข้าวไม่ได้ก็ไม่ต้องให้เงิน ดอกก็ไม่ต้องให้ ดอกเบี้ยไม่มึ เจ้านี้เป็นคนดีมาก ชอบช่วยเหลือคน คุณป้าเรียกร้องมาทุกระดับตั้งแต่ อำเภอ จังหวัด จนปัจจุบันระดับประเทศ เพราะต้องการให้ยกหนี้ 2 ลบ ลองตรึกตรองทบทวนดูครับ คนแบบนี้เราควรจะเห็นใจหรือไม่ ผมรู้แต่ว่าตอนนี้เค้าไม่มีที้เดินในตลาดโคกสำโรงแล้ว ความคิดเห็นที่ 13 เท่าที่เราฟังวิทยุเมื่อคืน เหมือนป้าแกมีหน้าที่เก็บดอกเบี้ย ค่าเช่า ส่งให้เจ้าหนี้ (คุณพิษณุ) แต่ปี 52 คุณพิษณุป่วยหนัก ป้าแกก็ยังเก็บดอกเบี้ยอะไรพวกนี้อยู่นะ แต่ไม่ได้ส่งให้คุณพิษณุ แกเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง ตอนหลังคุณธิดารัตน์ที่เป็นน้องสาวคุณพิษณุ ทราบเรื่องเข้า จึงทวงหนี้เอากับแก ความจริงครอบครัวคุณพิษณุ ไว้วางใจและสนิทกับป้าสังเวียนมาก ขนาดให้เงินยืม 7-8 แสนโดยไม่มีสัญญา อันนี้ฟังได้ใจความมาแบบนี้นะคะ แต่พออ่านข่าวจากที่อื่น ยังกะคนละเรื่องกัน ก็ลองพิจารณาดูนะคะ Mrnop Thailand o_O ถ้าจริงนี่โคตรลงทุนเลยนะนั่น...
ความเห็นแรกในpantipลิ้งค์ข้างบน นายแดงคนนี้ไปตั้งกระทู้เห็นด้วยกับสนธิ... http://pantip.com/topic/32720717
อัพเดท http://www.naewna.com/local/126686 สามี 'ป้าสังเวียน' สำนึกผิด 'ปั้นน้ำ' โร่หิ้วกระเช้าขอขมาผู้ว่าฯเมืองลิง วันเสาร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 20.45 น. 18 ต.ค.57 เมื่อเวลา 15.00 น.นายธงชัย รักษาเพ็ชร์ สามีของป้าสังเวียนหญิงชาวนาที่เครียดจากการเป็นหนี้และจุดไฟเผาตัวเองหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อหลายวันก่อน ได้นำนางจันจ๋า ทองอร่าม น้องสาวของป้าสังเวียนเข้าพบ นายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมกระเช้าดอกไม้เพื่อเป็นการขอขมา และขอโทษที่ให้ข่าวใส่ร้ายในตัวท่านผู้ว่าว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่พูดจาไม่ดี กับตนเองและพี่สาว ครั้งที่มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี ว่า ครั้งนั้นมาคนอ้างว่าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีแต่ตนเองนั้นจริงๆแล้วไม่รู้จักท่านผู้ว่ามาก่อนเลย ซึ่งการที่เข้าพบและมาขอโทษผู้ว่าฯในครั้งนี้ เป็นเพราะสำนึกผิดและนึกสงสัยว่า เมื่อวานที่ผ่านมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้ส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นำเงินไปมอบให้และยืนยันเรื่องค่ารักษาพยาบาลของพี่สาว ทำให้ตนเองสงสัยว่า ขนาดให้ข่าวใส่ร้ายท่านแล้วยังส่งรองผู้ว่าฯ มาดูแลพี่สาวอีก จึงทำให้ทราบความจริงว่า ท่านผู้ว่าฯ ไม่เคยพูดจาดูถูก และพูดจาไม่ดีกับชาวบ้านที่เดือดร้อน และมาขอพึ่งความเป็นธรรม ทำให้ตนเองสำนึกผิดและเข้ามาขอโทษผู้ว่าฯในครั้งนี้ พร้อมกับจะหยุดให้ข่าวในทุกเรื่องของพี่สาว พร้อมขอบคุณเถ้าแก่ หรือนายทุนที่ยกหนี้ให้กับพี่สาวในครั้งนี้ เพราะถือเป็นบทเรียนที่พูดอะไรโดยไม่ยั้งคิดจนเกือบทำให้ข้าราชการที่ดี ที่ดูแลเอาใจใส่ประชาชนเกือบได้รับความเดือดร้อน
สงสัยแค่ว่ามีใครพูดถึงทักษิณเรื่องนี้กันบ้างฮะ มีใครแถวนี้พูดหรือเปล่าครับ นายความเห็น 12 ถึงโยงไปได้
จากการติดตามข่าว ผมพอจะสรุปเหตุการณ์ได้ตามนี้ 1. ป้าไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบพร้อมเผาตัว 2. เป็นข่าวฮือฮา ผู้คนสนใจ เห็นใจ ประณามเจ้าหนี้(นอกระบบ) ที่ขูดรีดขูดเนื้อ เอาเปรียบ 3. เริ่มมีคำชี้แจง+แก้ข่าวจากฝั่งเจ้าหนี้ เนื้อหากลับตรงข้ามกับสิ่งที่ลูกหนี้+ญาติของลูกหนี้ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ที่ว่า "ถูกโกง" 4. กระแสสังคม (บางส่วน) เริ่มชะงักแล้วหันกลับมาตั้งข้อสงสัยถึงข้อมูลที่ฝ่ายลูกหนี้ที่ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ 5. ข่าว+ข้อมูลจากฝ่ายเจ้าหนี้เริ่มมีแพร่ออกไปทั้งทางสื่อหลัก สื่อโซเชียล พร้อมกันอย่างเป็นระบบ มีการแชร์ต่อกันไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งการใช้ภาษาในการถ่ายทอดเรื่องราวสื่อความหมายชัดเจน ตรงนี้เห็นได้ชัดว่า การศึกษาและสังคมของฝ่ายเจ้าหนี้เหนือกว่าฝ่ายลูกหนี้ จนบัดนี้ ผมว่าผู้ติดตามอาจจะตั้งข้อสงสัยในข้อมูลของฝ่ายลูกหนี้ ยิ่งญาติฝ่ายลูกหนี้รีบเข้าขอโทษผู้ว่า นายอำเภอ และเลิกการให้สัมภาษณ์ใด ๆ ยังทำให้ฝ่ายลูกหนี้ดูน่าสงสัยขึ้นไปอีก แต่เมื่อ 2-3 วันก่อน อดีต สว. เสรี ให้สัมภาษณ์ทาง FM. 101 ก็ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจหลายเรื่อง คุณเสรีไม่ชี้เรื่องใครถูกใครผิด แต่ได้ตั้งข้อสังเกตุไว้หลายประการเช่น 1. เดิมทั้งฝ่ายเจ้าหนี้ ลูกหนี้ ต่างกล่าวเหมือนกันว่าเป็นการกู้ยืมปากเปล่า ไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้ไว้ (ส่วนจะมีการเซ็นรับเงินในสมุดโน้ตหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบ) โดยมีการกู้ยืมหลายครั้ง ต่อเนื่องกันมาหลายปี 2. จนต่อมาภายหลังฝ่ายลูกหนี้เริ่มร้อนใจ เพราะเงินกู้เริ่มเป็นดินพอกหางหมู และฝ่ายเจ้าหนี้อาจจะบังคับยึดทรัพย์สินที่ดิน จึงได้ร้องไปยังหน่วยงานราชการ ตั้งแต่ช่วงที่รัฐบาล 2-3 ชุดมีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จนกลายมาเป็นหนังสือที่แสดงยอดหนี้ (ที่ฝ่ายเจ้าหนี้บอกว่าจากเดิม 3 ล้าน ลดให้เหมือน 1.5 ล้าน) โดยลูกหนี้ตกลงยินยอมจะชำระหนี้ก้อนนี้ แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงิน งวดชำระ ระยะเวลาไว้ * ตรงนี้ อดีต สว. เสรี ในฐานะนักกฏหมายได้ตั้งข้อสังเกตุว่า จากหนี้ที่เดิมไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่ กู้ไปกี่ครั้ง ผ่อนใช้กี่งวด ไม่มีหนังสือสัญญากู้ แต่หนังสือที่เจ้าหนี้+ลูกหนี้+ส่วนราชการร่วมกันทำขึ้นมา กลายเป็นว่า ลูกหนี้ตกลงยอมรับสภาพหนี้ที่ 1.5 ล้าน เสมือนจับลูกหนี้มามัดมือและเย็บปากห้ามปฏิเสธ ซึ่งข้อสังเกตุนี้ก็นับว่าน่าคิดอยู่เหมือนกัน ยังไม่ชี้ว่าใครผิดใครถูกเพราะเรื่องนี้สื่อ คงต้องไปขุดคุ้ยมาตีแผ่ให้สังคมได้ทราบต่อไป แต่จากการประเมินแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องการออกมาให้ข่าว ชี้แจง การประกาศงดให้สัมภาษณ์สื่อ ดูแล้วไม่ค่อยจะเป็นผลดีต่อฝ่ายลูกหนี้สักเท่าไหร่