จบป.ตรีเพราะญาติโยม จบป.โทเพราะชายนุ่งผ้าขาวม้าตอนเป็นนายก สมัย เนวินอยู่ด้วย เป็นผู้ที่มีฝีปากจัดจ้านด่าเก่ง บางกระแส show นี่แหละมีส่วนในการเลื่อนสมณศักดิ์สงฆ์ และทำไม show มากางปีกอุ้มธัมมี่ ตกลงมันคือ monk mafia หรือเปล่า
เอ๊ะ หรือ มหาโชว์ เชียร์ รัฐมนตรีเหล่านี้ว่าเป็นคนดี ได้ยิน บอกว่า วันวัน ไม่ได้ทำห่า อะไรเลย แล้วจะเป็นคนเลว ได้ไง จริงมั้ย The great SHOW!!!
เมื่อศาสนจักรกำหนดให้เงินซื้อความถูกต้องได้ความวิบัติฉิบหายจะเต็มเมือง เหตุการณ์ของธรรมกายในปัจจุบันก็เช่นกัน จะเรียกว่าศาสนาพุทธยิ่งทำใจได้ยากยิ่ง แม้ว่าจะห่มเหลืองและมีโอกาสจะส่งตัวแทนเข้าสู่อำนาจเป็นพระสังคราชแล้วก็เถอะ แต่ทว่าแล้วทางการปฏิบัตินั้นไม่ไช่ศาสนาพุทธ …และแท้ที่จริงแล้วนั้นไม่ไช่แม้แต่ “ศาสนา” แต่เป็นเพียงลัทธิที่แอบอ้างและบิดเบือนพระไตรปิฎกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง …บูชาเงินแบบชนิดที่ว่า”คนมีเงินเท่านั้นที่สามารถซื้อสวรรค์ชั้นฟ้า คนไร้เงินทำได้แค่ตกลงนรก” ซึ่งพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) และวัดธรรมกายมีแนวทาง”สังคยานาคำสอนของพระพุทธเจ้า”และสร้างความเชื่อว่าเป็นพระ”ต้นธาตุต้นธรรม”(หมายความว่าเป็นพระเจ้าผู้สร้างโลก) อันเป็นการหมิ่นพระพุทธเจ้าและพระไตรปิฏกอย่างชัดเจน (พระพุทธเจ้า ในศาสนาพุทธ คือพระผู้ตรัสรู้) เพราะเหตุการกระทำวิบัติฉิบหายหลายๆครั้งจึงทำให้ พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสของวัดธรรมกาย นั้นถูกพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช กล่าวชัดแล้วว่า อาบัติขาดจากการเป็นพระนานแล้ว แต่ก็ดูเหมือนการกลับหลังหันของฝ่าย สงฆ์บางกลุ่มโดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดปากน้ำที่มีโอกาส เป็นพระสังฆราชใหม่ และ พระเถระสมาคม จะยังคงทำหน้าทำตาทำเป็นมองไม่เห็น …สงฆ์ใดไม่สนใจพระวินัย นั่นมิใช่สงฆ์ สงฆ์ใดทำผิดจากพระวินัยถือว่าขาดจากความเป็นสงฆ์ แล้วทำไมพระเถระสมาคมยังคงอุ้มธัมมชโยเช่นนี้ด้วยการ “เลิกพูดถึงความชั่วในอดีต” หรือว่าแท้ที่จริงแล้ว เพราะ ยังคาดหวังอำนาจการปกครองชาวพุทธจำนวนมากอันเป็นหนทางสู่ความมั่งคั่งในสังคมสงฆ์ การกระทำเช่นนี้ล้วน สร้างความแตกแยก และความฉิบหาย เหมือนอีนางตนนึงที่ปราศรัยบนเวทีการเมืองว่า “เราจะมาสังคยานาคำสอนของพระพุทธเจ้าร่วมกัน” ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ดันกฏหมายนิโทษกรรมพี่ชายตนเองนั้นแล http://chaoprayanews.com/blog/socialtalk/2015/03/08/2216/ ยิ่งลักษณ์ ปราศรัย จะสังคยานาคำสอนของพระพุทธเจ้า
โดย...กรกิจ ดิษฐาน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่สู้ดีหลายๆ ครั้งในพุทธจักร ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะนึกถึง “กฎพระสงฆ์” ซึ่งตราขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก กฎเหล่านี้มีทั้งหมด 10 ฉบับ มีลักษณะคล้ายกับพระราชกำหนด เพราะประกาศขึ้นเมื่อเกิดคดีร้ายแรงในพระศาสนาหรือทรงปรารภว่าบรรยากาศในพระศาสนจักรมัวหมองลง สมควรจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน บทลงโทษในกฎพระสงฆ์นั้นรุนแรงมาก หากปาราชิกไม่เพียงถูกสึกแต่เสี่ยงที่จะตายยกครัว ในทางศาสนาแล้วไม่เป็นที่สงสัยว่าเหตุใดจึงทรงกล้าที่จะลงโทษพระสงฆ์และแทรกแซงศาสนจักร เพราะเห็นว่าให้สึกจากปาราชิกคงไม่พอ ต้องลงโทษทางโลกมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง หาไม่แล้วพวกอลัชชีจะเหิมเกริม แม้จะต้องทรงตกนรกหมกไหม้เพราะทำเช่นนี้ก็ทรงยอม http://www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/351799/ปาราชิกแล้ว-โทษถึงสิ้นชีวิต-
เป็นไงล่ะตรวจสอบพระ เหมือนตรวจสอบศรัทธาประชาชน แล้วยังนัดประท้วงอีก มันเลยมีคนเหี้ย ๆ โกนหัวห่มเหลืองแล้วเรียกตัวเองว่าพระเกลื่อนบ้านเมืองแบบนี้ไง ตำรวจเมืองชลบุรี ขยายผลทำการจับกุม มารศาสนาอาศัยผ้าเหลืองค้ายาไอซ์คากุฏิ สารภาพลักลอบค้ายาเสพติดมาแล้วกว่า 6 เดือน เนื่องจากเจ้าตัวก็เสพด้วย ตร.ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี...เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 มี.ค.58 พ.ต.ต.บรรเจิด รัตนยุวกร สวป.สภ.เมืองชลบุรี ร.ต.ท.สนอง เทศสวัสดิ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ทำการจับกุมผู้ต้องหาเสพยาเสพติดแล้วขยายผลผู้ต้องหารับสารภาพว่า ซื้อยาไอซ์จาก พระภิกษุลูกวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.หนองข้างคอก จึงวางแผนให้สายลับนำธนบัตรชนิดใบละ 500 จำนวน 1 ใบ และใบละ 100 จำนวน 7 ใบ เป็นเงิน 1,200 บาท ล่อซื้อยาไอซ์ 1 ถุง น้ำหนัก 0.68 กรัม จาก พระภิกษุอำพล โพธิ์ศรี หรือ พระเบิร์ด ฉายา (สุทธิญาโน) อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 / 2 หมู่ 1 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรีอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากได้รับสัญญาณจากสายลับก็จู่โจมเข้าจับกุมตัวพระอำพลได้พร้อมค้นภายในกุฏิพระอำพล พบยาไอซ์อีก 1 ถุง น้ำหรัก 0.58 กรัม เงินสด ที่เจ้าหน้าที่ใช้ล่อซื้อ 1,200 บาท อุปกรณ์การเสพอีกจำนวนหนึ่งพ.ต.ต.บรรเจิด เปิดเผยว่า หลังจากจับผู้ต้องหาเสพยาไอซ์รายย่อยได้ก็ขยายผลรับว่าซื้อยาจาก พระอำพล จึงวางแผนให้สายลับล่อซื้อและจู่โจมเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง จากการสอบสวน พระอำพล สารภาพว่า บวชมาได้ 2 พรรษา และแอบขายยาเสพติดมานาน 6 เดือนแล้ว เพราะตัวเองก็เสพด้วย สำหรับยาไอซ์ที่ขายจะมี นายเอก ไม่ทราบนามสกุล บ้านอยู่ อ.ศรีราชา นำมาส่ง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นในพื้นที่ หลังสอบสวนได้คุมตัวพระอำพล ไปให้เจ้าอาวาสวัดทำการสึก ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
วาทกรรมอันตราย : ตรวจสอบพระ เหมือนตรวจสอบศรัทธาประชาชน พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า พระองค์จะปรินิพพานต่อเมื่อพุทธบริษัท๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลายทั้งปวง คือ พระภิกษุทั้งเถระ ทั้งมัชฌิมะ ทั้งนวกะ ภิกษุณีก็เช่นเดียวกัน พร้อมทั้งอุบาสกอุบาสิกา ทั้งที่ถือพรหมจรรย์ และที่เป็นผู้ครองเรือนทั้งหมด ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะรักษาพระศาสนาได้ คือ (๑) ต้องเป็นผู้มีความรู้ เข้าใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ดี และประพฤติปฏิบัติได้ถูกต้องตามคำสอน (๒) นอกจากรู้เข้าใจเอง และปฏิบัติได้ดีแล้ว ยังสามารถบอกกล่าวแนะนำสั่งสอนผู้อื่นได้ด้วย (๓) เมื่อมีปรัปวาทเกิดขึ้น คือ คำจ้วงจาบสอนคลาดเคลื่อนผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัย ก็สามารถชี้แจงแก้ไขได้ด้วย
ตรวจสอบพระ เหมือนตรวจสอบศรัทธาประชาชน มองอีกมุม ศรัทธาของประชาชนจะเกิดขึ้นได้จากการตรวจสอบพระนี่แหละ อย่าวิ่งเข้าไปหลบหลังประชาชน บางทีศรัทธาประชาชนก็น่าตรวจสอบอยู่หรอก แต่ให้ประชาชนแต่ละคนตรวจสอบในตัวเอง คือพิจารณาว่า ที่ผ่านมา หลงผิดอะไรกับลัทธินอกรีตผิดจากพระธรรม และ พระสงฆ์นอกรีตผิดศีล หรือเปล่า ?? คิดได้ก็ดีนะ
สมัยพุทธกาลพระภิกษุทำไม่ถูกต้องประชาชนก็บอกกล่าวกับพระพุทธเจ้า และ พระภิกษุ และเมื่อทราบเรื่อง หน้าที่ของสงฆ์จะตรวจสอบและตัดสินด้วยหลักฐาน ยุติธรรมตามพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่คณะสงฆ์ ไม่ได้อยู่ที่มหาเถรสมาคม ไม่ได้อยู่ที่องค์กรทางพระพุทธศาสนาแต่อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง ท่านมีชีวิตอยู่ได้ด้วยข้าวสุกของประชาชน แล้วยังห้ามไม่ให้มีการตรวจสอบ ท่านสำนึกถึงข้าวแต่ละเมล็ดที่ทำให้ท่านมีชีวิตรอดอยู่ได้ บ้างไหม??? วันนี้มาสร้างวาทกรรม เพื่ออะไร ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน
โฮะๆๆๆ ดิชั้นไอ้พวกสลิ่มหน้าโง่ยอมรับความจริงไม่ได้ ขะบอกให้เอาบุญนะคะ ศาสนากับการเมืองแยกออกจากกันไม่ได้หรอกค่ะ และตอนนี้พระสงค์กว่า70%ของประเทศ ยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว
หายากสิคะ นี่เป็นตัวอย่างวัดที่ปฎิบัตินอกกฏของสงฆ์ส่วนใหญ่ค่ะ เข้าข่ายนอกรีตแบบสันติอโศกรึเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ
googling สลิ่มหน้าโง่ มีแต่ ซ่าหริ่มหน้ากะทิ แดงเทียมก็อย่างนี้แหละ โง่ไม่มีชิ้นดี สู้แดงแท้ก็ไม่ได้ “The Real Red Never Die”
ใครปากพล่อยไปวิจารณ์สมเด็จวัดปากน้ำ รู้หรือเปล่า หลวงพ่อจรัล แห่งวัดอัมพวัน ท่านมารับชั้นยศ ถึงมือสมเด็จวัดปากน้ำ