ในเบื้องต้น ดร.โสภณ ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ได้ประเมินว่า พึงจ่ายเงินแก่ "ครูแพะ" เป็นเงิน 3.1 ล้านบาท และในกรณีมีการบริจาคช่วย ก็ควรบริจาคเงินให้ราชการไป "เยียวยา" แก่ "ครูแพะ" เพื่อว่าทางราชการจะได้ไม่ใช้เงินภาษีของประชาชนมาจ่าย ส่วนผู้เกี่ยวข้องก็ควรจ่ายค่าเสียหายเช่นกัน เสียดายที่ประเทศไทยไม่มีระบบประกันวิชาชีพ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ได้ประเมินค่าทดแทนความเสียหายที่ "ครูแพะ (รับบาป)" (ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร) ได้รับตามมาตรฐานในต่างประเทศไว้ดังนี้: 1. เงินทดแทนเป็นเงินสดตามจำนวนวัน/ปีที่ต้องติดคุก 2. การจัดหาบริการเฉพาะหน้า ได้แก่: 2.1 เงินช่วยเหลือในการดำรงชีพที่เปลี่ยนไปจากเดิม อาหาร และค่าเดินทาง 2.2 การจัดหาที่อยู่อาศัย 2.3 การจัดการด้านสุขภาพ ความเจ็บป่วยทางจิตใจ และบริการให้คำปรึกษา 2.4 การศึกษาและการพัฒนาทักษะการทำงาน 2.5 ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย เช่น การได้รับสิทธิต่าง ๆ คืน การลบทะเบียนประวัติอาชญากร 2.6 ค่าการศึกษาของบุตร เป็นต้น (http://bit.ly/2iB1MIF) ในด้านการจ่ายค่าทดแทนสามารถคำนวณได้ดังนี้: 1. กรณีเงินทดแทน 1.1 ตามจำนวนเดือนและปีที่สูญเสียอิสรภาพ (1.5 ปี: http://bit.ly/2iYoqrT) ทั้งนี้คิดจากเงินเดือนของครู โดยสมมติให้มีรายได้เดือนละ 50,000 บาท ในระยะเวลา 1.5 ปี เป็นเงิน 900,000 บาท 1.2 ในกรณีที่อยู่ในเรือนจำ สภาวะแวดล้อมมีคุณภาพต่ำกว่าปกติ ลำบากกว่าการรับเบี้ยกันดาร/เบี้ยพื้นที่เสี่ยงภัย (ความมั่นคง) ที่ต้องไปอยู่ในสภาวะเช่นนี้ การอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากนี้ จึงอาจประมาณการเป็นอีก 1 เท่าหรือเท่ากับเป็นเงิน 900,000 บาท (อยู่ในสภาวะ "คนคุก" เช่นนี้โดยไม่ต้องทำงานตามปกติ กรณีนี้อาจประเมินเป็น 2-4 เท่าตัวก็ได้เพราะไม่มีใครอยากจะเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้) ค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นเงิน 1,800,000 บาท หรือประมาณ 50,000 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริกา มีเกือบ 20 รัฐจาก 50 รัฐที่ไม่มีระบบการจ่ายค่าทดแทนเลย แต่ในส่วนที่มีการจ่ายนั้น กลุ่มใหญ่ที่สุดจ่ายประมาณ 50,000 เหรียญสหรัฐ (http://n.pr/2is7SMS) 2. การจัดหาบริการเฉพาะหน้า 2.1 เงินช่วยเหลือในการดำรงชีพที่ไม่ได้เป็นครู โดยสมมติเช่นเดือนละ 35,000 บาท (60% ของรายได้) หลังพ้นโทษออกจากเรือนจำเป็นเวลาอีก 1.5 ปี รวมเป็นเงิน 630,000 บาท 2.2 ที่อยู่อาศัย (ไม่มีปัญหา ยังอยู่บ้านหลังเดิม) 2.3 สุขภาพ โดยควรได้รับค่าบริการการให้คำปรึกษาความเจ็บป่วยทางจิตใจ จากผู้เชี่ยวชาญเดือนละ โดยสมมติเป็นเงิน 100,000 บาท เป็นเวลา 1 เดือนทำงานของผู้เชี่ยวชาญ 2.4 ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย โดยเฉพาะค่าทนาย ค่าเสียเวลาในการขึ้นศาล โดยสมมติมีค่าใช้จ่ายจริง ในระยะเวลา 8 ปีเช่น เป็นเงินประมาณ 300,000 บาท (ส่วนหนึ่งได้จากการขายทรัพย์เพื่อการสู้คดี) 2.5 ค่าการศึกษาของบุตรที่ไม่ได้รับการศึกษาไประยะหนึ่ง เช่น 1.5 ปี เมื่อกลับมาศึกษาใหม่ ย่อมทำให้โอกาสการทำงานช้าลง สามารถติดตามค่าแรงของบัณฑิตปริญญาตรีเดือนละ 15,000 บาท รวม 270,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 3,100,000 บาท อย่างไรก็ตามในด้านการสูญเสียชีวิตคู่นั้น อาจไม่สามารถนำมาพิจารณาได้ว่าเป็นเพราะสาเหตุการติดคุกเป็นสำคัญ เพราะยังมีปรากฏการณ์ที่คู่ครองอื่นก็ยังรักษาสถานะของตนรอจนผู้เสียหายพ้นโทษ และในกรณีนี้โทษก็มีอายุไม่มากนัก (3 ปี 2 เดือน) ความผิดพลาดของทางราชการก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในกรณีประเทศไทยและต่างประเทศ ในกรณีการบริจาคเงินช่วยเหลือนั้น ในแง่หนึ่งผู้เกี่ยวข้องในวงราชการควรมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ราชการพึงจ่ายค่าทดแทนให้ "ครูแพะ" แต่โดยที่เงินส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดที่ทางราชการอาจต้องจ่ายแก่ "ครูแพะ" นั้นมาจากภาษีของประชาชนโดยตรง ประชาชนจึงอาจพิจารณาบริจาคเงินให้ทางราชการ นำเงินไป "เยียวยา" แก่ "ครูแพะ" เพื่อที่เงินหลวง หรือเงินของประชาชนจะได้เก็บไว้ใช้พัฒนาประเทศในทางอื่นต่อไป อีกประเด็นหนึ่งก็คือ กรณีข้าราชการในส่วนงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการเองเช่นนี้ ชี้ให้เห็นว่า 1. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรมีระบบประกันทางวิชาชีพ เพื่อที่จะได้มีเงินทดแทนเพื่อชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และยังเป็นการพัฒนาวิชาชีพทางหนึ่งเพราะจะเกี่ยวข้องกับการสอบจัดระดับวิชาชีพและใบอนุญาตทางวิชาชีพ 2. ควรมีการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในสหรัฐอเมริกา หัวหน้าตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษาในแต่ละท้องถิ่นตั้งแต่ศาลชั้นต้นยันศาลฎีกา (ยกเว้นคดีปกครอง) ล้วนมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง (โปรดดูเพิ่มเติม ประชาธิปไตยที่แท้จากสหรัฐฯ: เลือกตั้งทุกอย่างรวมทั้งผู้พิพากษา (http://bit.ly/2c8Dksc) และ ทั่วโลกประชาชนเป็นคนแต่งตั้งผู้พิพากษา?!? (http://bit.ly/2ck3lVN) กรณี "ครูแพะ" เป็นเรื่องที่น่าสงสาร (ถ้าไม่มีอะไรพลิก) แต่ก็ให้อุทาหรณ์หลายประการ ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1772.htm
ได้เงินจากปูตั้ง 15,000 มา 2-3ปี ได้ประมาณ 500,000 ประกันได้ตั้ง 4-5 คน ตามคุณธรรมถึงไหนถึงกันของมือด้วน กระทู้ละ 20 บาท แค่มือด้วนก็ 700 กระทู้ เจ้าพระยาใจดำ 1,866 กับอีกประมาณสิบไอดีใช้แล้วทิ้ง คิดเป็นเงินประมาณ 180,000 ประกันได้อีกคน ตามสมควรที่แอบอ้างชื่อและผลงาน แต่คิดไปคิดมา หยามไว้เลยดีกว่า ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ impossible
บาปบริสุทธิ์ ติดคุกฟรี! นอนกรงแรมปี จ่าย 'แพะ' ทีแค่ 200 จริงหรือ? โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ก.ค. 2559 05:30 ผู้บริสุทธิ์...ลาจากมุ้งสีขาวที่เคยโอบล้อมเต อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/659286
เก็บภาษี 35 % แบบประเทศเจริญแล้วไหมครับ เงินชดเชย สวัสดิการจะได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะ ผู้มีรายได้ มีทรัพย์สินที่มาก ต้องเสียให้มาก
ด็อกวิเคราะห์เก่งทำไม่ถึงสมัครผู้ว่ากทม.ไม่ติด ถ้าด็อกเก่งทำไมพรรคการเมืองอื่นไม่ซื้อตัวไปเป็นรัฐมนตรี แค่ส.ส.ซักสมัยก็ไม่เคยได้เป็นคุยจังทำงานที่ปรึกษา ว่ายนํ้าจนตายคาเจ้าพระยาแหล๊ะด็อก ให้ว่ายข้ามเจ้าพระยาชาติหน้าอีกชาติก็คงไม่ได้เป็นผู้ว่ากทม. ดีสุดอยากเป็นส.ส.ก็แค่ไปกราบตีนไอ้แม้วขอเข้าพรรคก็เท่านั้น