ป๋าเปลว ขึ้นจั่วบทความของแกวันนี้(20 สค.59) ที่มีชื่อและเนื้อความตามนี้ครับ... *** *** *** คนเข้ามายึดการเมืองเป็นอาชีพ นั่น "นักเลือกตั้ง" คนเข้ามาแล้ว ถือการเมืองเป็นหน้าที่ นั่น "นักการเมือง" แล้วนักเลือกตั้งต่างจากนักการเมืองตรงไหน? ก็ตรงที่ รัฐธรรมนูญ ๒๗๐ มาตรา แยกเป็น ๑๕ หมวด แต่นักเลือกตั้งยึดถือรัฐธรรมนูญ ชนิด "เอาเป็น-เอาตาย" เพียง ๒ หมวด เท่านั้น คือ หมวด ๗ รัฐสภา และหมวด ๘ คณะรัฐมนตรี! เพราะนั่น คือ "ทางสะดวก-ไม่สะดวก" ในการเข้าไปประกอบอาชีพ "ขุดทองในระบบรัฐสภา" ของพวกเขาโดยตรง ส่วนนักการเมือง จะดูรัฐธรรมนูญในความเชื่อมโยงทั้งฉบับ เพื่อทำหน้าที่ตามตำแหน่งอำนาจ "ยังประโยชน์สูงสุด" ให้เกิดแก่ชาติ-ประชาชน ตามแม่บทกำหนดทิศ แบบนี้ ดูจะเป็นมาตรฐาน "ทางการ" แข็งๆ ไปนิดนะ แต่ถ้าจะเอาแบบบ้านๆ "ตาเห็น-ใจรับรู้" ละก็ คนไหน คำหนึ่งก็..ประชาชน สองคำก็...ประชาชน โดยเฉพาะที่ท่องติดปาก "ประชาชนเลือกผมมา" ไอ้พวกนี้แหละ "นักเลือกตั้ง" อาชีพ ถีบหัวมันออกไปไกลๆ เลย ส่วนคนไหน "ไม่ประจบสังคม" ทำหน้าที่ยึดประโยชน์ "ประชาชนส่วนรวม" แทนยึดประโยชน์ "ประชาชนเฉพาะราย" นั่น "นักการเมือง" ของแท้ เห็นที่ไหน ช่วยกันรักษาไว้! สังคมโลกวันนี้ เห็นชัดแล้ว คำว่า "ประชาธิปไตย" ก็แค่ตะกั่วกะไหล่ทองไมครอน ฉะนั้น อย่าไปเป็นวัว-ควายให้จักรวรรดินิยมอำนาจตะวันตกสนตะพาย โดยยึดตัวตาย ประชาธิปไตยคือเลือกตั้ง, เลือกตั้งคือประชาธิปไตย อยู่เลย ทองมันลอกแล้ว คือรู้เช่นเห็นชาติกันหมดทั้งโลกแล้ว ว่าประชาธิปไตยคือ "สารพิษตกค้าง" ที่มากับคำว่าสิทธิเสรีภาพ-สิทธิมนุษยชน มีผลให้ "ฉิบหาย" ทั้งสังคมโลก ขณะนี้! โดยเฉพาะจักรวรรดินิยมอำนาจ "สหรัฐฯ-ยุโรป" เอง อาชีพ "นักตกทอง" มันจบแล้ว การเอาทองปลอมคือประชาธิปไตยไปแลกทองแท้คือทรัพยากรธรรมชาติจากชาติเล็ก ไปเป็นความร่ำรวยชาติตัวเอง ผ่านคำโก้ๆ ว่า "การพัฒนา-การลงทุน" นั้น วันนี้ แก๊งตกทอง "ฉิบหาย" เห็นๆ ด้วยกรรมย้อนสนอง! มองโลกให้ดี หายนะใกล้เกิดแล้ว ๓-๕ ปี ไม่น่ารอด ดังนั้น เราควรเดินตามคำสุนทรภู่จะประเสริฐสุด "ประเทศใคร-ประเทศมัน" นั่นคือ "รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"! กำหนดแผนอนาคตประเทศรอด ประชาชน "อยู่ได้-กินได้" ไว้ก่อน ไม่จำเป็นต้องไปบ้าตามโลกประชาธิปไตย ใต้ตีนสหรัฐฯ-ยุโรปไปทุกย่างก้าว กระทั่ง ยูเอ็น......…. รวมถึงพวกองค์กรหลอกกินตับเด็ก อย่าง ฮิวแมนไรต์วอตช์ แอมเนสตี ขี้ข้ารับออร์เดอร์จากไอ้กันมาไล่บี้ประเทศที่ไม่ยอมมัน ก็ให้มันเป็นหมาไล่งับหางตัวมันเองไป อย่าไปให้ราคามัน! ที่วางแผน สร้างเหตุ ยั่วยุให้จับ เพื่อเข้าคุก แล้วไม่ประกัน ทำอดข้าว-อดน้ำ เพื่อองค์กรขี้เรื้อน จะได้ตีเกราะ-เคาะโลก "เจ้าข้าเอ๊ยยย....ที่นี่มีเผด็จการ..ที่นี่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน" นั่นน่ะ หมาวัดเห่ายังมีราคากว่าหมาองค์กรยูเอ็นเห่าเป็นร้อยเท่า มีแรงก็ให้มันเห่าไป......... ให้มันเห่าจนหงายท้องร้องเอ๋งๆ ไปเอง ไม่ต้องไปสนใจมัน เรียกหาสิทธิเสรีภาพมิใช่หรือ? ก็นี่ไง เอาไปซี มีสิทธิเสรีภาพในการไม่ประกัน ทางการก็เคารพสิทธิเสรีภาพนั้น เมื่อต้องการอยู่ในคุก ก็ขังไปเรื่อยๆ ไม่กินข้าว ทางเรือนจำก็เคารพสิทธิเสรีภาพในการไม่กิน ต้องการอด ก็อดไปเรื่อยๆ แล้วกัน อยากประกันวันไหน อยากกินข้าวเวลาไหน ก็มีสิทธิเสรีภาพ "ประกันได้-กินได้" วันนั้น-เวลานั้น No Problem! แล้วแบบนี้ จะว่าเผด็จการจำกัดสิทธิเสรีภาพ หรือพวกกวนบาทจำกัดกันเอง มองให้ชอบ แล้วตอบให้ชัดทีซิ? สถานการณ์บ้านเมืองไทย ณ ขณะนี้ มาถึงจุดเหมือนคนเหวี่ยงแหลงไปในแม่น้ำ เมื่อตะกั่วตีนแหค่อยๆ ถ่วงตัวตาข่ายล้อมลงลึกแล้ว คนทอดก็สาวแหขึ้นจากน้ำ แหถูกรวบและลากขึ้นมาทีละน้อย .......... ปลาเล็ก-ปลาใหญ่ ติดในแหดิ้นไม่ไหวก็มี ที่ดิ้นตะกายขึ้นมาตรงกระโจมแห ปริ่มน้ำไหวๆ ก็มาก ผมสังเกต "นายกฯ ประยุทธ์" ใจเย็นแล้ว! ท่านจะไป "ใช้หน้าที่" นักการเมืองเผด็จการคุณธรรม ด้วยไปพบปะ-ดูแลทุกข์สุขชาวบ้านให้เห็นด้วยตาตัวท่านเองตามต่างจังหวัดแล้ว เรียกว่า "สถานการณ์รวม" อินแหแล้ว ........... ก็ใช้หลักการที่ว่า "คนเป็นนาย อย่าเสือกลงไปแย่งงานลูกน้องทำเองในทุกเรื่อง"! ในเมื่อ "ประชามติ" ในร่างรัฐธรรมนูญก็ผ่านแล้ว เรื่อง "กฎหมายลูก" เป็นหน้าที่ของอาจารย์มีชัยกับ สนช.เขา เรื่องบทเฉพาะกาล การเสนอตัวนายกฯ กรอบของ ส.ว.อยู่ตรงไหน-มีแค่ไหน ก็เป็นหน้าที่ กรธ.เขา และทั้งหมด จะผ่านความเห็นชอบจากศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเขา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล คสช.และไม่ใช่หน้าที่คนเป็นนายกฯ จะไปจุ้นจ้าน! ไอ้ที่บึ้มๆ ที่เดินใต้ดินเป็นปฏิปักษ์รัฐ นั่นแหละ หน้าที่รัฐบาลและหน้าที่นายกฯ โดยตรง ต้องคัดท้ายให้อยู่.......... มัน "เอาแน่" และยังเอาไม่หยุดด้วย ช่วงกันยา-ตุลา มรสุมจะมาอีกลูก แต่ผมดูแล้ว กัปตันประยุทธ์เก๋าขึ้นทุกวัน รับประกัน "เอาอยู่"....... ไม่ "ล่มปากอ่าว" ก่อนแน่ๆ! ในความเป็นรัฐนาวาอย่างที่เรียกกัน แกนของมันก็อยู่ที่ "ประชาชน" รัฐบาล คสช.ก็ทำให้เห็นถึงว่า ทำเพื่อประชาชนส่วนรวมให้สำเร็จหลายเรื่อง เช่นเรื่องประมง เรื่องบุกรุกป่า เรื่องอาชีพทำกิน เรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องปากท้องเฉพาะหน้า เรื่องการบิน เรื่องเสถียรภาพและภาพลักษณ์ประเทศในเวทีโลก และที่กำลังทำ แต่ยังไม่สำเร็จก็หลายเรื่อง เช่นการปฏิรูปตำรวจ แต่รวมๆ แล้ว ๒ ปีในหน้าที่ผู้นำบริหารประเทศ พลเอกประยุทธ์สอบผ่าน "ความตั้งใจ-จริงใจ" เด่นชัด และมีศักยภาพเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยากนักการเมืองคนไหนๆ เลียนแบบ โดยเฉพาะ "ด่านักข่าวได้ฟรีรายวัน รับประกันไม่มีโกรธ"! เป็นนักการเมืองคนอื่น ลองใช้นักข่าวเป็นกระโถนระบายอารมณ์แบบนี้ ป่นปี้กันไปข้างหนึ่งแล้ว แต่เพราะ "ด่าโดยสุจริต" หรืออีกนัยหนึ่ง "ด่าเพื่อชาติ" หรอก บรรดานักข่าวทำเนียบฯ ซึ่งปกติ "สูงศักดิ์ สูงนัก สูงหนา" มองเห็นความจริงใจที่เร่าร้อนของนายกฯ ต่อปัญหา "มหึมา" ของบ้านเมือง จึงยอมเป็น "อีเย็น" ให้นายกฯ โขกสับ ดีกว่าให้ท่านไปว้ากใส่คนที่ทำให้ท่านอึดอัด-ขัดใจในระบบราชการงานเมือง ที่เกียร์ว่าง ตาจ้อง รอแต่ "อำนาจเก่า" กลับคืน แบบนั้น มันจะยุ่ง! ได้ข่าวว่านายกฯ จะพาตัวเป็นๆ ไปพบปะพี่น้องแถบภาคอีสานสัปดาห์หน้า ผมก็ว่าดีนะ ๒ ปี ท่านยุ่งอยู่กับงานเฉพาะหน้าในทำเนียบฯ พี่น้องประชาชนตามชนบท-ต่างจังหวัด ชะเง้อรอท่านอยู่ ใคร "จะรัก-จะชัง" เป็นเรื่องหนึ่ง แต่คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ ไม่มีสิทธิ์ใช้ "ความรัก-ความชัง" นั้น เป็นตัวหารแบ่งในการทำหน้าที่แก้ทุกข์-สร้างสุขให้แก่ทุกคน ผมอยากให้นายกฯ เจียดเวลาตะลอนไปพบปะชาวบ้านตามต่างจังหวัดบ่อยๆ การเห็นสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ วิถีสังคม และรับรู้-รับเห็นปัญหาจากพื้นที่จริงๆ มันสำคัญต่อการวินิจฉัย เพื่อตัดสินใจในนโยบายใด-นโยบายหนึ่งตามเปเปอร์ที่เสนอมา! เป็นนายกฯ "เพื่อประชาชนที่ทุกข์ยาก" มันมีน้อยกว่า....... เป็นนายกฯ "เพื่อประชาชนของผม" บ้านเมืองยามนี้ ต้องการประเภท "มีน้อย" ครับ! *** *** *** อ่านแล้ว คิดเห็นกันเช่นไร เชิญได้ครัช... สำหรับผม ขอบอกว่า...โดน..
นักเลือกตั้ง จะเป็นได้ก็ต้องมีหมารับใช้ดีๆ อย่างมือดีๆเป็นได้แค่หมาเห่าแค่หมาหอนก็แดกแค่หมื่นห้าต่อเดือนต่อไปนะจ๊ะ
แค่เดือนละหมื่นห้าแลกกับการถูกจิกหัวด่าทุกเมื่อเชื่อวัน ไปถีบสามล้อเก็บขยะมาแยกขายไม่ดีกว่าหรือ มือดีฯ