6 ก.พ.59 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคสนับสนุนและมีหลักการในการป้องกันและปราบปรามแก้ไขการทุจริต แต่ปรากฏว่าขณะนี้มีร่างกฎหมายที่รอการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือ ร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งมีเนื้อหาที่ร้ายแรงกระทบต่อการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ โดยหลักการในการจัดซื้อจัดจ้างที่จะต้องตรวจสอบได้ มีการประกาศราคากลาง แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้มีหลายมาตรา โดยเฉพาะมาตรา 7 ได้ยกเว้นไม่ให้บังคับหลายกรณี เช่น การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง การจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์และการบริการทางทหารโดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือการจัดซื้อจัดจ้างจากต่างประเทศที่กฎหมายของต่างประเทศกำหนด การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อการวิจัยและพัฒนาหรือการจ้างที่ปรึกษา และการดำเนินการโดยใช้เงินกู้หรือช่วยเหลือ ดังนั้น หากมีการผ่านกฎหมายฉบับนี้ออกไปจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้มีการทุจริตอย่างมโหฬาร "กฎหมายฉบับนี้เหมือนเตรียมกันมาเพื่อให้มีการโกงกินประเทศ การใช้งบประมาณแผ่นดินที่ต้องเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้กลับยกเว้นไม่มีการเปิดเผยสิงเหล่านี้ แล้วหากร่างกฎหมายปกปิดแบบนี้เหมือนเป็นการเอาผ้ามาปิดตาประชาชน และให้โจรมาขโมยของในประเทศอย่างนี้หรือ นายกรัฐมนตรีจะบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล เพราะฉะนั้นจึงมีข้อเสนอ 2 ทางเลือก คือ 1.รัฐบาลต้องถอนกฎหมายบับนี้ออกไปก่อนแล้วไปแก้ไข และ 2.ให้ สนช.คว่ำร่างกฎหมายนี้ในวาระที่ 1 คือ วาระรับหลักการ" นายราเมศ กล่าว http://www.naewna.com/politic/201063
สองทางเลือกที่เสนอไป เขาคงไม่สนหรอก เพราะคุณใส่วาทกรรมโจมตีเขามากมายราวกับว่าถ้าไม่ใช่คุณทำแล้ว มันต้องโกงกินกันแหลกไปเลย จะท้วงติง ตั้งข้อสังเกตุอะไรไม่มีใครเขาว่าหรอก แต่นักการเมืองนี่มีนิสัยชอบใช้วาทกรรมกล่าวหาคนอื่นจนคนเขาฟังแล้วเบื่อหน่ายเต็มทนมันน่าจะเลิกได้แล้ว กฎหมายยังไม่เข้าสภาก็บอกให้เขาถอนร่าง ถ้าเขาไม่ถอนร่างบอกให้ สนช คว่ำไปเลย แล้วเขาจะมีสภาไว้ทำไมครับแบบนี้ ถ้าพรรคคุณเข้าไปเป็นรัฐบาล เจอแบบคุณนี่ จะไปไม่เป็นนะ ผมฟัง สนช ชุดนี้อภิปรายกฎหมายในสภา บอกตรง ๆ ว่าเนื้อหาเยอะกว่าฟังนักการเมืองอภิปราย เพราะเขาไม่ค่อยมีวาทกรรมบ้า ๆ บอ ๆ แบบนักการเมือง ผมว่าเขาไว้ใจได้นะ ถ้ามันไม่ดี เขาไม่ผ่านหรอก
ครับ รอบรรจุ ยังไม่ได้พิจารณาเลยนะครับ หายโง่มั้ยครับ ผมว่าดีที่ท้วงติงซะก่อนนะครับ เขาอาจตีตกไปเลย อ้อ เกี่ยวไรกับรธน. เอามาแปะนี่อ่านหรือเปล่า
กฎหมายลักษณะนี้ น่าจะผ่านในยุคนี้ ดีที่สุด เพราะผลประโยชน์ที่จะเข้าไปแอบแฝงมันน้อย แต่ถ้าปล่อยไปถึงยุค นักการเมืองกลับเข้ามาครองประเทศแล้ว แทบไม่หลักประกันอะไรเลยว่ามันจะโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เพราะมันมีตัวอย่างการโกงเชิงนโยบายให้เห็นมาแล้ว ถ้ากฎหมายผ่านไปในยุคนี้ คนที่จะนำไปใช้ก็คือ นักการเมือง เขาไม่ได้เป็นคนใช้ แล้วเขาจะไปปิดหูปิดตาประชาชนเพื่ออะไร การมีข้อยกเว้นบางเรื่องบางอย่าง มันอยู่ที่เหตุผลความจำเป็นว่ามันควรหรือไม่ เมื่อมันเข้าสภาไป ทาง สนช เขาก็ไปซักถามเหตุผล ถ้ามันไม่สมควรเขาก็ไม่ผ่าน จะไปตัดตอนเขาเพื่ออะไร ถ้าปล่อยไปถึงยุคนักการเมืองครองประเทศ แล้วคุณไปเป็นฝ่ายค้าน คุณเห็นว่ามันไม่มีเหตุผลที่จะยกเว้น คุณก็ระงับกฎหมายนี้ไม่ได้เพราะเสียงคุณน้อยกว่า แต่ถ้าคุณไปเป็นรัฐบาลแล้วเกิดมองเห็นว่ามันมีเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องยกเว้น คุณจะทำยังไง เพราะด่าเขาไปแล้ว ดูแล้วการพูดแบบนี้ มันไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับตนเองหรือพรรคของตนเองเท่าไร