ความจริงถ้าสังคมออนไลน์ที่เชื่อ เพจนี้ หรือเชื่อ สื่อที่คอย เสี้ยมอยู่ตลอด มีวิจารณญาณสักนิด ก็จะเห็นความบ้องตื้นของเพจนี้ และสื่อจอมเสี้ยมได้ไม่ยากนัก ที่เขาพยายามโต้แย้งการสอบสวนของตำรวจ มีอยู่สองเรื่องคือ ตำรวจจับแพะ และตำรวจจับไม่หมดคนบงการยังไม่ถูกจับ ถามว่า สองกรณีนี้ มันไปกันได้ไหม ถ้าบอกว่าจับแพะ ก็แสดงว่าจับผิดคน แล้วที่บอกว่าคนบงการยังไม่ถูกจับมันแปลว่าอะไร ถ้าบอกว่าคนบงการยังไม่ถูกจับก็แสดงว่าสองคนที่ถูกจับคือตัวจริงนะซีจะเป็นแพะได้อย่างไร ที่บอกว่าพม่าสองคนเป็น แพะ มีหลักฐานอะไรพิสูจน์บ้าง รู้สึกว่าจะไม่มีเลย แต่ที่เขาทำอยู่คือพยายามจับผิดคนที่ไม่ได้ถูกจับ และเล่นจับผิดรูปภาพต่าง ๆ เหมือนเด็กมากกว่า แล้วบอกว่าพม่าสองคนนี้เป็นแพะ ทั้ง ๆ ที่ตำรวจเขามีหลักฐาน DNA ของพม่าสองคนนี้อยู่บนร่างกายของผู้เสียชีวิต ซึ่ง เพจ CSI LA ไม่เคยอธิบายเลยว่ามันไปอยู่ได้อย่างไร แต่ก็บอกว่าเป็นแพะ ที่บอกว่าคนบงการยังไม่โดนจับ มีหลักฐานอะไรพิสูจน์บ้างว่าเขาเป็นผู้บงการ รู้สึกว่าจะมีแค่คำกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้มีอิทธิพลเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นหลักฐานเล่นจับผิดรูปภาพเหมือนเดิม เขาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่า ถ้ามีคนบงการ แล้วทำไมพม่าสองคนจึงไม่ซัดทอดไปถึง แต่กลับไปพูดว่าถูกซ้อมให้รับสารภาพ ทำไมเขาไม่บอกทนายความ นักสิทธิมนุษยชนที่ไปเยี่ยมว่ามี ขาใหญ่บงการ อย่างที่เพจ CSI LA พูด เห็น ผบสตช บอกว่าจะดำเนินการกับ เพจ ที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ก็ควรรีบ ๆ ทำเถอะ ก่อนที่สังคมมันจะวิปริตมากไปกว่านี้
ดีครับจริงๆจะได้เป็นตัวอย่างต่อไป จริง ๆ แค่โฆษณาว่าผู้ต้องหากระทำผิดจริงก็เข้าข่ายแล้วนะ นี่ผู้ต้องหาหรือก็เปล่า
ทีมแพทย์จาก 4 สถาบัน ประกอบด้วย 1. สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ 2. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 3. โรงพยาบาลศิริราช 4. โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอถามในฐานะผู้ชำนาญการ ถ้าขนาดนี้แล้วผลDNA ออกมาไม่ตรง CSI LA จะไปทางไหนต่อครับ
2. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 3. โรงพยาบาลศิริราช 4. โรงพยาบาลรามาธิบดี ----- อีกสามโรงพยาบาลก็ไม่น่าเชื่อถือ? งั้นผมว่าน้องนมสดเดินเข้าคุกเหอะ พี่ไม่รู้พูดไงแล้ว คือDNAมันมีแค่ 2 ต่อให้ตรวจยังไงมันก็ไม่ตรง ไม่ตรง ไม่ตรง
ดูๆจากที่มันโพสต์ มีความรู้สึกเหมือนเด็กเวลางอแง ไม่ได้ดั่งใจก็จะโทษโน่นโทษนี่ ไม่มองว่าตัวเองผิด แล้วก็ลงไปนอนดิ้นกับพื้น
BRITISH GOVERNMENT CONCERNED OVER ALLEGATIONS OF CORRUPTION IN KOH TAO MURDER INVESTIGATION ตามลิงค์ข้างบน ผมไม่เห็นตรงไหนที่บอกเลยว่าอังกฤษมีหลักฐานอะไรแย้งกับไทย มีแต่บอกว่าอังกฤษมีความกังวลใจเลยส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ผมไม่รู้ว่าสำนักน้ำด่างมันเอาข่าวตรงไหนมาถึงได้มั่นใจว่าอังกฤษจะเล่นงานไทยแน่ ๆ แถมมีบอกเพิ่มซะด้วยว่า ไอ้เรื่องผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม "มีพูดถึงเฉพาะใน Social Media เท่านั้น" มีใครตาสว่างบ้างหรือยัง
ผมไม่เห็นว่ามันมีปัญหาอะไรนะ ถ้ามันซุยออกอากาศเรื่องก็จะยิ่งมัดตัวมันหนักขึ้น ผมว่ามันดิ้นเต็มที่แล้วครับ กะเอามวลชนกดดันไม่ให้ตำรวจเล่นมันทีหลัง
ตามแนวทางนั้น ทางเพจก็จะบอกว่านักข่าวโดนข่มขู่ไม่ให้ทำสกู้ปเรื่องนี้ เหมือนอย่างที่เมื่อวานเอารูปของทหารที่ไหนมาโพสต์ไม่รู้ บอกว่าคดีนี้ทางนมสดทำแล้วก็ตามหาคนๆนี้ ตอนแรกทางเพจนึกว่าตำรวจ แต่พอทหารคนนี้โพสต์มาบอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวอะไรเลย ก็มีการมโนต่อว่า ทหารโดนสั่ง โดนห้าม ปิดเฟซหนีไปแล้ว แต่สุดท้าย CSI LA กลับลบโพสต์นั้นเฉยเลย ไม่มีการขอโทษที่เอาข้อมูลผิดๆมาให้คนในเพจมโนและด่าตำรวจทหารเลย
"คดีเกาะเต่า"ยังไม่สิ้นสงสัย คาใจวิชามาร "กวนดีเอ็นเอ" ถ้าทำอย่างที่ว่ามันจะต้อง 1 รีดน้ำจากพม่า 2 เอาออกมาแล้วเก็บอย่างแน่นหนาจนไม่มีอะไรมาปนเปื้อนได้ (เท่ากับมันต้องไปรีดในห้องปลอดเชื้อโรงบาลเท่านั้นถึงจะทำได้) 3 เอาน้ำเชื้อขนส่งมาสำนักงานนิติเวช โดยไม่ให้ใครเห็นและรู้เรื่อง (ถามว่าทำได้ยังไง จะเอาอะไรเข้าสำนักงามันต้องมีบันทึก) 4 หลบนักข่าว กล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่สก๊อตแลนยาร์ต เข้าไปห้องเก็บหลักฐาน 5 เอาน้ำเชื้อออกมาโดยไม่ให้ปนเปื้อนสภาพแวดล้อมอะไรในห้องเลย 6 หลังจากนั้นก็เข้าห้องชัณสูตร เอาน้ำเชื้อเข้าช่องคลอด โดยต้องปลอมให้เห็นว่ามาจากการข่มขืน ผมคิดว่าถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ร่วมมือหลายร้อยคน ตั้งแต่รีดน้ำเชื้อ ขนส่ง มาจนถึงที่เก็บหลักฐาน มันคงทำไม่ได้แน่ ๆ
แล้วสรุปว่าจะเอาแนวทางแพะให้ได้ใช่ไหม ผมถือว่าถ้าพม่าสองคนโดนโทษประหารแบบไม่มีเหตุลดโทษได้ สาเหตุมาจากสำนักข่าว ASTV ครับ ขอให้รู้ด้วยว่าพวกคุณคือฆาตกร
ส่วนตัวผมว่าเรื่องพม่าสองคนนั้นก็ต้องไปสู้กันในกระบวนการศาล แต่ไอ้คนที่โดนเหมาว่าเป็นคนร้ายลงมือบนโลกโซเชียลไปแล้วมากกว่าที่ซวยกว่ามาก สังคมตราหน้าไปเรียบร้อย แค่ไอ้เพจบ้านั่นโพสว่าจองตั๋วจะไปต่างประเทศที ก็มีสเตตัสตั้งเตือนกันแพร่ไปไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนคน เพจบ้านี่จะรับผิดชอบอะไรได้บ้างถ้าไอ้ที่ไปกล่าวหาเค้ามั่วๆเลื่อนลอยมันผิด ตอนนี้กล้าทำนี่ทำนั่นถ้าถึงเวลาต้องรับผิดชอบก็หวังว่าจะไม่หลุบหางไปซ่อนนะ เกลียดมันมากๆ
ผลนิติเวช รพ.ตร.ยัน DNA ลูกชายผู้ใหญ่วอไม่ตรง 2 ศพฝรั่ง นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com ผลนิติเวช รพ.ตำรวจ ยืนยัน DNA ลูกชายผู้ใหญ่วอ ไม่ตรง 2 ศพนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า ขณะ โฆษก สตช. จ่อแถลงข่าว รายงานข่าวจากกลุ่มงานตรวจเลือดและชีวเคมี สถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ ซึ่งเป็นแพทย์ที่เก็บตัวอย่าง DNA บริเวณเหยื่อบุกระพุ้งแก้มและเลือดของ นายวรท ตู้วิเชียร บุตรชาย นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร หรือ ผู้ใหญ่วอ เจ้าของร้าน เอซี บาร์ ผู้เสียหายที่ทางสังคมออนไลน์อ้างเป็นผู้มีอิทธิพลและเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา วานนี้ (30 ต.ค.) ได้มีการตรวจดีเอ็นเอพร้อมกับแพทย์นิติเวชจาก 3 สถาบัน ประกอบด้วย ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ร.พ.รามาธิบดี และ ร.พ.ศิริราช ไปตรวจพิสูจน์ เปิดเผยผลการตรวจพิสูจน์ DNA ในส่วนของนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ว่า ผลการตรวจเทียบเคียงดีเอ็นเอของนายวรท กับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุพบว่า DNA ไม่ตรงกันกับวัตถุพยานใด ๆ รวมถึง ดีเอ็นเอ ในน้ำเชื้ออสุจิในศพของเหยื่อสาวชาวอังกฤษด้วย ได้รายงานผลให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแถลงให้สื่อมวลชนและสังคมรับทราบต่อไป ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังรอผลการตรวจอีก 3 สถาบัน หากทราบทั้ง 4 สถาบันแล้วจะมีการแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง โดยคาดว่าอย่างช้าจะทราบผลในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) http://news.sanook.com/1691617/ผลนิติเวช-รพ.ตร.ยัน-dna-ลูกชายผู้ใหญ่วอไม่ตรง-2-ศพฝรั่ง/ --------------------------------------------------- เห็นป่ะ เหมือนที่ CSI LA วิเคราะห์ไว้เป้ะๆ อิอิ
ถ้าเขาจะเล่นอ่ะ ให้มันนั่ง Fab อยู่กับบ้านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาก็หาเจอ ไม่ต้องดิ้นหรอก รีบ ๆ ไปหานักข่าวที่โม้ไว้ซะนะ เวลาศาลตัดสินเขาจะได้จัดเต็ม ๆ ให้หน่อย
เรื่อง DNA เผื่อใครจะลืมไป(แต่ที่แน่ๆ CSI LA แกล้งลืมแน่ๆ) ก่อนหน้านี้พ่อของผู้ต้องสงสัยได้ทำการตรวจ DNA ไปแล้วรอบนึง ซึ่งก็ไม่ตรงกับที่เจอในศพ ซึ่งตามที่คุณหญิงหมอบอกก็คือ ประมาณว่าถ้าของพ่อตรง ของลูกก็ตรงเพราะจะมีส่วนที่ใกล้เคียงกัน(หรืออย่างไรนี่แหล่ะ ผมลืมคำนิยามไปแล้ว ) ถ้าจะเป็นการเปลี่ยน DNA คงต้องทำตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ
นี่มันน... นี่มันนน... ห๊ะ...หรือว่าเรามี The Machine สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าผมหมายถึงอะไรลองหา Person of Interest ดูนะครับ ก็สนุกใช้ได้อยู่ ฮิฮิ
เรื่อง DNA จะไม่มีใครกังขา ถ้าตำรวจไม่เคยทำเรื่องเลว ๆ ไว้ในอดีต สำหรับคนที่ไม่รู้ ตำรวจจับคนกลุ่มน้อยมาชักว่าว เตรียมยัดข้อหาฆ่าข่มขืน ก็เคยเป็นข่าวมาแล้ว ที่ขำไม่ออกคือ คดีนั้นเป็นผู้หญิงอังกฤษเหมือนกันอีก คนอังกฤษจำนวนหนึ่งจึงยังไม่ลืม ใครอยากนวดกะปู๋แบบไม่เสียตัง ปรึกษาตำรวจได้ หึหึหึ ป.ล. ใครอยากรู้ว่าใครทำลายเครดิตตำรวจไทย ลองเซิร์ชคำว่า Kirsty Jones ดู
อย่างที ถ้าอย่างนั้น พม่าเนี่ย ทำไมไม่บอกว่าตำรวจนวดกระปู๋ให้ล่ะครับ ไปบอกทำไมว่าตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ ถ้าบอกว่าตำรวจนวดกระปู๋ให้ ตอนนี้รอดคดีแล้ว
มุกรีไซเคิล https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/729510403793354 ปรกติ DNA TEST ต้องใช้เวลา 3 วันไม่ใช่หรือครับ ทำไมผลออกมาเร็วจัง รีไซเคิลมั่ง (จากหน้า4) http://www.thairath.co.th/content/455501 คุณหญิงหมอ เผยต่อว่า สำหรับกระบวนการตรวจ DNA ประกอบด้วย 1.การสกัด DNA 3 ชม. 2.การวัด DNA 1 ชม. 3.การเพิ่ม DNA 3 ชม. ในคดีที่เร่งรีบ อาจจะมีการมีข้ามขั้นตอนการเพิ่ม DNA เก๋กู๊ด กรูรูกรูรู้ แคปจากfbคุณปอง (ขอใช้ภาพของคุณเผด็จการฯ จากหน้า2 ครับ)
ถ้าแบบนี้คงต้องเตรียมการตั้งแต่ที่สถานที่เกิดเหตุ.... พม่า 2 คนนี้ต้องถูกปลุกมาตั้งแต่เช้ามืดก่อนใครมาพบศพ เพื่อทำให้ DNA มาอยู่ในที่เกิดเหตุ... จากนั้นปล่อยให้หายไป 1 เดือนซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็โดนด่าว่าทำคดีช้า จากนั้น 1 เดือนก็ตามตัวพม่ามารับข้อกล่าวหาและตรวจ DNA เพื่อให้ตรงกับในที่เกิดเหตุหรอครับ?
ยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ผิด... กล่าวหาใครก็ได้ เริ่มออกอาการหาพวกแล้วช่วงนี้... เวลาโดนคดีเผื่อจะได้ใช้ลูกเพจมาช่วย
ผมว่าเราควรจะเผยแพร่ชุดความคิด "แล้วถ้าสิ่งที่มันโพสต์เนี่ยมันผิด แล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง" เพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ไอ้บ้านี่พูดอยู่ทุกวันๆ "ถ้าสิ่งที่ผมโพสต์เป็นเรื่องจริงผมก็ไม่มีความผิด" เผื่อพวกตามน้ำมั่วๆซั่วๆมันอาจจะมีได้ฉุกคิดกันบ้างว่ากำลังละเมิดสิทธิ์ของคนที่พวกมันกำลังจับบูชายัญอย่างร้ายกาจอยู่
เฝ้าดูมานานแล้ว สรุปงานนี้และคดีนี้ เป็นเพียงสมรภูมิหนึ่งของกลุ่มที่รับงานมาจาก.......... ตั้งแต่กลุ่มไอ้หมาลายด่างแปลงร่างเป็นนักสืบ กับศาสดาแป๊ะลิ้ม ผู้มีทิฏฐิ(โง่ๆ)เป็นหลัก พยายามปั่นกระแส เพื่อบ่อนทำลาย คสช. และรัฐบาล รวมไปถึงการปฏิรูปครั้งนี้ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า
ใครที่ยังหลงเชื่อแก๊งค์หมาลายด่างกับศาสดาแป๊ะลิ้ม อ่านซะจะได้หายโง่ วันที่ 31 ต.ค.57 แฉ..หมดกัน ตำรวจสั่งล่าหัว แก็งค์พิน็อคคิโอเกาะเต่าแล้ว ใครแชร์ กดไลด์ คุกทุกคน จากกรณี ที่แก็งค์แบ่งงานกันทำ คือ พิน็อคคิโอ พิราบแดงกระป๋อง , แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ และ แดงแฝงกาย ผสานงานกันมโนโซเชียล ใส่ร้าย ชายหนุ่มคนไทย ว่า เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า นั้น อธิบดีอัยการภาค 8 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพนักงานอัยการในคดีเกาะเต่า ระบุว่า คณะทำงานอัยการ ได้พิจารณาสำนวนคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวที่เกาะเต่าแล้ว และมีความเห็นตรงกันว่าสำนวนมีความพร้อมกว่าร้อยละ 95 ถือว่าสำนวนมีความครบถ้วนถูกต้องดีทุกอย่างไม่ได้เป็นตามข่าวลือ แต่เมื่อพ่อแม่และญาติของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการให้มีการสอบสวนเพิ่ม เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงได้มีคำสั่งไปยังตำรวจให้สอบสวนปากคำเพิ่มเติมนิดหน่อยเฉพาะในส่วนนี้ จึงคาดว่าเมื่อตำรวจส่งสำนวนสอบสวนเพิ่มเติม กลับมายังอัยการก็จะส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย (เรียกตามระบบกฎหมายไทย) ได้ทันที ไม่รออะไรอีกแล้ว สำนวนการสอบสวน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถนำออกเผยแพร่สู่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องได้ จนกว่าสำนวนคดีจะได้รับการประทับรับฟ้องจากศาล เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อต่อสู้กันทางคดี "สังคมอาจจะมองว่าคดีมีความล่าช้าจนเลยเถิดไปคิดว่า สำนวนไม่สมบูรณ์ หรือผู้ต้องหาเป็นแพะ จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนถึงกระบวนการพิจาณาของอัยการด้วย " กระทรวงต่างประเทศไทย ได้ แจ้งญาติผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษทั้ง 2 ราย ให้เป็นโจทก์ร่วมกัน กับอัยการ ตามกฎหมายประเทศไทย เพื่อฟ้องพม่า 2 คนต่อศาล ด้วย แก็งค์พิน็อคคิโอ พิราบแดงกระป๋อง ดิ้นๆๆ อัยการการันตี ว่า สำนวนมีความครบถ้วนถูกต้องดีทุกอย่างไม่ได้เป็นตามข่าวลือใดๆ แถมมีฝ่ายเจ้าหน้าที่อังกฤษ ที่ส่งเจ้าหน้าที่มาการันตี ขั้นตอนของไทย ว่าโปร่งใส่ มาตรฐานสากล ตอกย้ำอีก ความยุติธรรมไปสู้คดีกันในศาล ศาลไทยจะให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แล้ว โดยใช้หลักฐานสำคัญจาก DNA อสุจิในช่องคลอดผู้ตาย ที่ตรงเป๊ะกับ DNA พม่า 2 คนนี่แหละเป็นหลักฐานสำคัญ ให้ความยุติธรรมในชั้นศาลกับทั้ง 2 ฝ่าย กองเชียร์ทำลายชาติไทยไม่เกี่ยวถอยไป คดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชายหญิงชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี นี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2557 แม้ว่า ตำรวจจะจับกุม 2 ผู้ต้องหาชาวพม่า เชื้อสายยะไข่ได้แล้ว แต่ยังมีแก็งค์พิน็คคิโอ นกพิราบแดงกระป๋อง ผู้ยงประชาชน และพยายามดึงต่างประเทศมายุ่งกับอำนาจอธิปไตยของไทย ต่อมาแก็งค์แบ่งงานกันทำ พิน็อคคิโอ พิราบแดงกระป๋อง ได้ " พิพากษาทางเฟสบุ๊ก" ไปเรียบร้อยแล้วว่า ลูกชายของผู้ใหญ่วอ เจ้าของเอซีบาร์ ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีนี้ และมีการเต้าข่าว มโนสร้างเรื่องราว ออกมาไม่ซ้ำกันทุกวัน ถ้าอันไหนถ้าถูกจับได้ ก็จะเงียบ และเปลี่ยนเรื่องไปมโนไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ใหญ่วอ จึงได้รับการประสานงานจากตำรวจ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อนำตัวลูกชาย ตรวจดีเอ็นเอ ต่อหน้าสักขีพยานนักข่าว และผู้สังเกตุการณ์จากอังกฤษ เขาระบุว่า การนำตัวลูกชายออกมาครั้งนี้ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่ง " เป็นการทำเพื่อประเทศชาติ" และผลพิสูจน์ DNA ออกมาว่า ลูกชายไม่ใช่คนร้าย จะมีใครรับประกัน หรือ ยืนยันหรือไม่ว่า จะหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ร้ายครอบครัวของตัวเองเสียหายอีก จะมีคนไทยสักกี่คนที่รู้ว่า เขาตรวจ DNA ผู้ใหญ่วอ ไปตั้งนานแต่แรกแล้ว เทียบกับ DNA อสุจิในช่องคลอดผู้ตายหญิงชาวอังกฤษ แต่มันไม่ตรงกัน และคนละเรื่องกันเลย และ DNA พ่อ กับ DNA ลูกชาย มันสามารถหาความสัมพันธ์กันได้ ตรวจลูกไป ผลก็ออกมาลักษณะเดียวกับพ่อ ว่ามันไม่ตรงกับอสุจิในช่องคลอด ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้น แม้ DNA พ่อจะยืนยันความบริสุทธิ์ลุกไม่ได้ นั่นคือกรณีเขาต้อง "เป็นผู้ต้องหา " แต่กรณีนี้พยานแวดล้อมมต่างๆ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะมีหลักฐานเด็กหนุ่ม เขาอยู่ที่กรุงเทพ ฯ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องตรวจให้เปลืองงบภาษีหลวง เด็กหนุ่มคนนี้มีทั้งพยาน และหลักฐานพิสูจน์ตัวตนอยู่ กรุงเทพฯ ในช่วงเกิดเหตุ ดังนั้นตำรวจเขาจึงตรวจ DNA เฉพาะคนอยู่บนเกาะเต่าแต่แรก ในรัศมีเกิดเหตุเท่านั้น...ถ้าจะตรวจเด็กหนุ่มคนนี้ที่อยู่ กรุงเทพ ก็ต้องตรวจผู้ชายทุกคนที่อาศัยอยู่ใน กทม.วันเกิดเหตุ วันที่ 15 ก.ย.2557 ด้วย เพราะต้องมาตรฐานเดียวกัน..แล้วจะตรวจผู้ชาย 4 ล้านคน ในกรุงเทพไหวรึ ? เขายกครอบครัวมากันครั้งนี้ก็ไม่ใช่ในฐานะผู้ต้องหาใดๆ เขาแค่ "จิตอาสา" มาเสียสละ "ทำเพื่อประเทศไทย" ของเราเท่านั้น...คนอื่นล่ะ ถามตัวเองว่าทำเพื่อประเทศไทยหรือยัง ?? แก็งค์พิน็อคคิโอ พิราบแดงกระป๋อง พิพากษาเด็กคนนี้ทางเฟสบุ๊กไปแล้ว ว่าเขาร่วมด้วย สร้างความเกลียดชังให้คนไทยแบบนี้ มนุษย์ดาวอังคารยังไม่ยอมรับเลย ตอนนี้แก็งค์พิน็คคิโอ เปิดประเด็นใหม่อีกแล้ว อ้างมั่วๆ ว่าไม่เชื่อผล DNA นี้บ้าง , เชื่อภาพจากกล้องวงจรปิดมากกว่าหลักฐาน DNA บ้าง , หรือแถประเด็นใหม่ว่า มีการใช้ปืนยิงหัวผู้ตาย แล้วเอาจอบขุดรอยแผลออกบ้าง โอ้ย..พวกมโนโซเชี่ยล..ไม่ได้คิดถึงหลักวิทยาศาสตร์เล้ย จะเอาแต่หลักไสยศาสตร์ และมโนศาสตร์ อย่างเดียวเลย บ่ายวันที่ 30 ต.ค.57 บิ๊กอ็อด ผบ.ตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ และผู้ใหญ่วอ เจ้าของเอซีบาร์ ต.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมลูกชาย ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจ DNA เด็กหนุ่มลูกผูใหญ่วอ โดยมีทีมแพทย์จาก 4 สถาบัน ประกอบด้วย 1. สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ 2. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 3. โรงพยาบาลศิริราช 4. โรงพยาบาลรามาธิบดี ( จะใช้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ จะต้องจัดเป็นคดีพิเศษ ในอำนาจของ DSI เท่านั้น เช่น คดีกองกำลังก่อการร้ายชายชุดดดำ นปช.ยิงเสื้อแดง 6 ศพวัดปทุมฯ , คดีนายห้างทอง ฯลฯ คดีธรรมดาแบบนี้ไม่ใช่คดีพิเศษ ) แพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า เก็บตัวอย่างเลือด และ เยื่อบุกระพุ้งแก้ม เพื่อนำไปตรวจตามกระบวนการทางมาตรฐานสากลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งโรงพยาบาลรามา ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 15189 และ ISO 17025 การตรวจครั้งนี้ จึงกระทำหลายหน่วยงาน ไม่ใช่ของตำรวจอย่างเดียว ตามที่แก็งค์พิน็อคคิโอ ต้มตุ๋นประชาชน ทั้ง 4 หน่วยงาน ที่เชื่อได้และมาตรฐานสูงสุดของไทย มาเก็บตัวอย่าง DNA โดยทีมแพทย์ทั้งหมด ได้เก็บตัวอย่าง DNA ของเด็กชาย ลูกผู้ใหญ่ ด้วยวิธีการขูดเนื้อเยื่อ จากกระพุ้งแก้ม และเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ DNA กับวัตถุพยาน และที่พบบนร่างผู้เสียชีวิต คือ คราบอสุจิในช่องคลอดผู้ตาย วัตถุพยานในคดีไม่มีถุงยางอนามัย ตามที่โพสภาพต้มตุ๋นกันมั่วๆ (วัตถุพยาน หมายถึง ใน สำนวนคดีเอกสารที่ฟ้องไม่ใช่คำสัมภาษณ์สื่อ) ตามที่เคยบอกไปนานแล้ว เพราะภาพถุงยางนั้นไปก็อบปี้เอามาจากอินเตอร์เน็ต จากแค็ตตาล็อคบริษัทขายถุงยางอนามัย ของเมืองนอก ไม่เกี่ยวกับวัตถุพยานอะไรในสำนวนคดีทั้งสิ้น บิ๊กอ็อด ผบ.ตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การตรวจ DNA ในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวน เนื่องจากสำนวนอยู่ในชั้นอัยการ จะทราบผลภายใน 24-48 ชั่วโมง เหตุผล ที่ครั้งแรกไม่ได้ตรวจ DNA เด็กหนุ่มคนนี้ เนื่องจาก ตำรวจพิสูจน์ทราบแล้วว่า เขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุที่เกาะเต่า จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวน และตรวจพิสูจน์ (เด็กอยู่ที่ กทม.) บิ๊กอ็อด สั่งการเฉียบขาดให้ ผู้บังคับการปราบปราม การกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไปดำเนินการ “ ตรวจสอบเจ้าของเพจ ผู้โพสต์ข้อความ และ ผู้ที่ส่งต่อข้อความ “ ใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรมไทย ซึ่งขณะนี้ ตำรวจทราบถึงเป้าหมาย ของผู้กระทำ ว่ามีเจตนาลดความน่าเชื่อถือ การทำงานของตำรวจ , ผบ.ตำรวจ , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงรัฐบาล โดย “ จะดำเนินคดีกับเจ้าของเพจ ซึ่งตำรวจทราบแล้วว่าใครเป็นเจ้าของ “..(คริ คริ) พร้อมเตือนผู้ที่ส่งต่อ (แชร์ , กดไลด์ ) ข้อความและภาพว่า “ มีความผิดเท่ากับผู้โพสต์ ” ทั้งนี้ฝากไปถึงประชาชน องค์กร หรือ สถาบันต่างๆ ที่นิยมเอากระแสจากสื่อสังคมออนไลน์ มาใช้ในการใส่ร้าย ควรคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่น ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายด้วย ผู้ใหญ่วอ ระบุว่า บางเพจ ลงข้อมูลเกินความเป็นจริง ทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบ รวมถึงการท่องเที่ยวในเกาะเต่า และประเทศชาติด้วย ไม่ทราบเจตนาของผู้ที่พยายามโจมตี ส่วนการฟ้องร้อง ได้ “ มอบหมายให้ทีมทนายความไปดำเนินการฟ้องแล้ว “..(คริ คริ) ขณะที่ เด็กหนุ่ม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่คนไทยไปเชื่อบุคคลที่ไม่มีตัวตน ใครก็ไม่รู้ ไม่มีใครเข้ามาถามความจริงกับตัวเองเลย มีเพียงแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น ----------------> ก็าก..เสธ บอกมาเป็นเดือนแล้ว ว่าแก็งค์นี้เขาแบ่งงานกันทำ เอาหลักฐานวิทยาศาสตร์อะไรมาพิสูจน์ ก็ว่าเทียม เช่น DNA เทียม , พม่าเทียม, ภาพวงจรปิดเทียม, ตัวเลขเวลาเทียม, ผู้ใหญ่บ้านเทียม, ลูกผู้ใหญ่บ้านเทียม, ศพฝรั่งเทียม, อาวุธเทียม พยานเด็กคนนี้ ที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เพื่อนๆ นักศึกษา ที่นั่งเรียนห้องเดียวกันกว่า 40 คนเทียม เทียมๆๆ หมด ยกเว้นข้อมูลมโนทางเน็ตที่เป็นจริง ?? กรรมแท้ๆ เชื่อกันเป็นตุเป็นตะ ทำปายด้ายย ที่ต้องการสร้างกระแสคดีนี้ เพื่อเชื่อมโยงไปหาพระกำนัน และทำลายเศรษฐไทยช่วงฤดูท่องเที่ยว ต้องการบล็อคนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะได้โยนขี้ให้รัฐบาลได้ พวกพิน็อคคิโอ ลายด่าง พิราบกระป๋อง พวกนี้ไม่เคยมีจิตสำนึกคำนึงคำว่า "ชื่อเสียงของประเทศไทย" ท่าน หรือ เพื่อนๆ ญาติ ที่เคยแชร์ข้อความ หรือภาพ ของแก็งค์พิน็อคคิโอ ไปรีบไปลบออกทุกจุดที่ท่านแชร์ไปซะ..เพราะตามกฎหมายไทย ถิือว่าเป็นการกระทำความผิดซ้ำ ในการเผยแพร่ ข้อนี้ตำรวจเตือนมานานหลายหนแล้ว ความผิดจึงเท่ากันกับผู้โพสคนแรก หลักการคล้ายแชร์พวกภาพ หรือ ข้อความหมิ่นเบื้องสูงต่างนั่นแหละ รวมถึงผู้ที่เผลอ ไปกดไลด์หน้าเพจนั้นๆ และไปคอมเม็นท์ให้ร้ายเจ้าหน้าที่ๆ นั่น และที่เพจ หรือเว็ปไซต์อื่นๆ จะต้องมีความผิดด้วย เพราะถือเป็นการสมรู้ร่วมคิด การกระทำความผิด และดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายไทย (สงสัยได้แต่ต้องไม่แชร์หรือกดไลด์เพราะทำแบบนี้ คือ การเผยแพร่ ไม่ใช่สงสัย) เจ้าหน้าที่เขาอดทนมานาน เพื่อทะยอยแคปเจอร์ภาพหลักฐาน และติดตามทุกคน ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ภาพถ่าย จนรู้ตัวไว้หมดแล้ว เขาหลอกเก็บข้อมูลทุกคน และรู้ตัวมานานแล้วจร้า ว่าเป็นใคร อยู่มูลนิธิกระจกมืดไหน บก.ลายด่าง เป็นประธานมูลนิธิ มีภาระกิจเดิมคือตามคนหาย ตอนนี้ภาระกิจเปลี่ยนเป็นทำลายชาติแทน โดนคดีอาญาคุกตารางเท่านั้นยังไม่พอ ยังแถมด้วยการถูกทนายของผู้เสียหาย ฟ้องในคดีแพ่ง ขึ้นโรงขึ้นศาลเรียกค่าเสียหาย ต่อชื่อเสียง และการค้า ของครอบครัวเด็กหนุ่มนี้อีกด้วย จะโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายกี่คนๆ ละเท่าไร ไม่นานนี้คงได้รู้กัน..ใครแชร์ภาพหรือข้อความไป ก็เตรียมเงินค่าเสียหายไว้จ่ายเขาละกัน เตือนด้วยความหวังดี รีบด่วนไปยกเลิกเพจนั้น ที่แก็งค์พิน็อคคิโอ พิราบแดงกระป๋อง , แก็งค์สภาท่าพระจันทร์ และเว็ปไซต์ต่างๆ พร้อมกระจายข่าว บอกญาติ และเพื่อนๆ ที่หลงผิดให้รู้ความจริงด้วย ก่อน ยกเลิกท่านควรล้างบาป โดยโพสด่าประณามพวก “ พิน็อคคิโอ ผสมพันธ์ เด็กเลี้ยงแกะ" นี้เสียก่อน ที่ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทย ท่านมีเวลาไม่กี่ชั่วโมงมากนัก ก่อนที่ตำรวจจะตามรอยท่านไป จากหน้าเพจ หรือเว็ปไซต์ต่างๆ..ของแก็งค์พิน็อคคิโอ และสภาท่าพระจันทร์ คริๆ พวกไม่เชื่อคำเตือน..แถวววว ตรง ปรี๊ด ปรี้ ปริ๊ด เดินเรียงแถวเข้าคุกแดนแรกรับ แล้วหันหลังมา ให้ขาใหญ่ในคุกเป็น “สามีตีตรวน“ เหมือนเจ๊เพ็ญ เสรีเทย และ บก.ลายด่าง เสียดีๆ..ฮา @ เสธ น้ำเงิน1 https://www.facebook.com/topsecretthai
สาวกน้ำด่างสามารถมโนให้ใครก็ได้เป็นคนร้าย แต่คนอื่นเอาหลักฐานมาแสดงว่าเขาบริสุทธิ์ คงเป็นกระบวนการยุติธรรมประเทศล้านนา ความคิดเห็นที่ 22 มันไม่ใช่หน้าที่ผมต้องไปหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าเค้าผิด เพราะผมไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นหน้าที่ตำรวจที่ต้องหาหลักฐานมาลบล้างข้อสงสัยของสังคมให้ได้ต่างหาก แยกแยะแค่นี้ก็ไม่เข้าใจแล้วยังเจือกมาดูถูกสมองคนอื่น
ประจำครับช่องนี้ ลายด่าง มันดังก็ช่องนี้แหละครับ ขนาดโกหกในรายการ ว่าแดงโดนทหารยิงตายที่พัทยา กำลังแห่ศพอยู่ ทางช่องก็รู้ในตอนหลังว่าลายด่างมันโกหก ช่องนี้มันก็ยังเอาไปออกรายการต่อได้ จริยธรรมของสื่อก็ไม่เหลือแล้วล่ะครับ
ประเด็นของผมคือความน่าเชื่อถือของตำรวจไทยนั้นสูงมากครับ แต่ถ้าพูดถึงวิธีช่วยผู้ร้าย (ไม่เจาะจงกรณีนะ) ตำรวจมีวิธีเป็นร้อยละมั้งครับ ไม่ต้องจับแพะเสมอไป ทำให้คดีพัง เอาผิดใครซักคนไม่ได้ก็เป็นอีกวิธี อย่างคดีเคิร์สตี โจนส์นั่น เอาผิดใครไม่ได้ซัก คดีดาบยิ้มนั่นอีกเป็นไร หรือคดีเอกยุทธ ก็ไปลุ้นเอาละกันว่าจะจบแบบไหน
ทั้งสามคดี ไม่มีคดีไหนที่ตำรวจอ้างหลักฐาน DNA เลยนะครับ ตำรวจงัด DNA มาเป็นหลักฐานคดี ผมว่าเราตัดประเด็นซุยคดีมั่วไปเลยดีกว่า DNA ซุยกันไม่ได้ครับ และที่สำคัญ ไม่ว่าตำรวจมันจะเคยทำอะไรมาก่อน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพิสูจน์ว่าตำรวจจะทำในครั้งนี้ด้วย ตรรกะมันก็ง่าย ๆ มีแรงจูงใจ มีหลักฐานเชื่อมโยง หลักฐานไม่สามารถแย้งได้ ก็จบครับ ไอ้คนนั้นมันคนร้ายแน่นอน
ปมสงสัยที่ยังไม่มีคำตอบ? คดีเกาะเต่าฆาตกรรมฝรั่ง นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com (31 ต.ค.) คดีเกาะเต่า เหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมริมหาดชื่อดังบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีปมปริศนาแคลงใจต่างๆ ที่ยังไม่คำตอบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกรณีข้อสงสัยในตัวลูกชายของผู้ใหญ่วอ นายวรท ตู้วิเชียร ที่มีผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอในเบื้องต้นระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ถึงแม้เหตุดังกล่าวจะเกิดขึ้นแล้วกว่า 45 วัน แต่ยังมีประเด็นบางอย่างที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด เช่น ผลตรวจดีเอ็นเอที่ถุงยางอนามัย พบเพียงดีเอ็นเอของ นางสาวฮานนาห์ อยู่ที่ด้านนอกของถุงยางอนามัยเท่านั้น และยังเป็นปมสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยอมรับ ก่อนจะส่งสำนวนฟ้องให้อัยการ ว่า ยังสรุปข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ไม่ได้ ส่วนภาพชายชาวเมียนมาร์ 3 คน นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ในช่วงคืนวันที่เกิดเหตุ พบชายคนที่นั่งตรงกลางสวมใส่กางเกงขาสั้นสีดำ แต่ไม่สอดคล้องกับหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ที่พบเห็นชายสวมกางเกงขาสั้นสีอ่อนวิ่งผ่านหน้ากล้อง ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ในประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่า นายวิน นายซอ หรือ นายเมา นั่งอยู่ในตำแหน่งใดจากภาพซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และใครคือคนที่วิ่งผ่านกล้องวงจรปิด ซึ่งประเด็นนี้อาจจะได้รับการเปิดเผยข้อมูลในชั้นศาล นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า ล่ามภาษาชาวโรฮิงญาได้เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาคนหนึ่งใช้ขวดไวน์ทำร้าย นายเดวิด แต่หลักฐานเรื่องขวดไวน์ ไม่เคยถูกเปิดเผยว่าเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุดังกล่าว ส่วนเฟซบุ๊กชื่อดัง CSI LA ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่หอพักลูกชายผู้ใหญ่วอ ที่อาจจะเป็นภาพที่มีการแก้ไขและผลิตซ้ำหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบภาพหลักฐานชิ้นนี้พบว่า เมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงของวันที่ 14 กันยายน พบชายลักษณะคล้ายกับ นายวรท เดินเข้าหอพักและขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพัก ภาพนี้เป็นภาพก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรมราวๆ 12-14 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ไม่พบเห็นชายลักษณะคล้ายกับ นายวรท ปรากฏตัวอีกเลย จนกระทั่งเวลาประมาณ 9 โมงเช้าของวันที่ 15 กันยายน จึงพบเห็น นายวรท เดินทางออกจากหอพัก ขณะที่หอพักดังกล่าวพบกล้องวงจรปิด 3 ตัว ที่สามารถบันทึกภาพความเคลื่อนไหวของ นายวรท เอาไว้ และหอพักแห่งนี้มีทางเข้า-ออกเพียงจุดเดียว แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่า หอพักน่าจะมีเส้นทางเข้า-ออกอีกหลายจุด โดยเฉพาะบันไดหนีไฟ ที่รอดพ้นจากการตรวจจับภาพจากกล้องวงจรปิด ขอบคุณเนื้อหาและรายงานข่าวจาก ไทยพีบีเอส http://news.sanook.com/1691797/ปมสงสัยที่ยังไม่มีคำตอบ-คดีเกาะเต่าฆาตกรรมฝรั่ง/ -------------------------------------------------------------------------------------------------- ตอนนีเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด ทาง CSI LA คงจะมโนได้อย่างเดียวคือ มีการแก้ไขวันเวลา เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว นายนมสดหลุดแน่ๆจากหลักฐานกล้องวงจรปิดและ DNA
ไอ้ขี้ซุยมันต้องตอบให้ได้ด้วยว่า ตำรวจทำยังไงถึงลบ DNA นมสดจนหมดไม่มีเหลือบนตัวผู้ตายได้ เพราะถ้าจะเอากันแบบนั้นมันต้องเป็นว่านมสดสวมชุดกันเชื้อโรคแบบเจ้าหน้าที่รักษาอีโบล่าระหว่างฆ่าและข่มขืน
ที่มาตรวจ ดีเอ็นเอ ช้า เพราะผู้เป็นพ่อ มัวไปจ้างคนมาทำศัลยกรรมให้เหมือนลูกชาย แล้วจึงนำให้ตรวจ ดีเอ็นเอ พิสูจน์ในภายหลัง ทำให้ผลตรวจไม่ตรง ส่วนลูกชายตัวจริง หลับซ่อนตัวอยู่....บลา บลา บลาา ผมเป็น CSI LA ได้ยัง