ทำไมพม่าไม่หนีตั้งแต่เกิดเรื่อง หรือว่าหนีลำบาก ไม่กลัวโดนจับเลยรึ ถ้าพม่าปฎิเสธว่าไม่ได้ฆ่าละ แค่ขมขื่นแล้วก็ปล่อยไว้แบบนั้น อาจจะมีคนมาฆ่าทีหลัง จะหลุดข้อหาฆาตกรรมไหม เพราะดูเหมือนไม่มีหลักฐานโยงเรื่องที่พม่าทำเลย นอกจาก DNA อสุจิแค่นี้
ข้อสังเกต :- - มาเฟียและผู้มีอิทธิพลบนเกาะคงไม่ทุบหม้อข้าวตัวเอง ด้วยการสร้าง สถานการณ์รุนแรงขนาดนี้ ถ้าจะทำก็น่าจะเลือกวิธีที่ง่ายและเงียบ หายไปแบบไม่มีร่องรอย.. - DNA ของลูกประกอบด้วยของแม่และพ่อ ถ้าตรวจ DNA แล้วพบว่า มีรูปแบบเหมือน DNA ของพ่อก็มีโอกาสที่จะเป็น DNA ของลูกได้ ประเด็นคือ..DNA ที่ตรวจพบมีรูปแบบเหมือนของพ่อหรือไม่ ถ้าไม่ โอกาสที่ไม่มี DNA ของลูกก็เป็น 0 - การตรวจ DNA ต้องเป็นไปโดยสมัครใจ หรือไม่ก็ต้องมีคำสั่งศาล ซึ่งต้องมีเหตุอันพึงเชื่อได้ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้น ในประเด็นนี้ ถ้าเจ้าตัวไม่ยอมตรวจเอง ก็ต้องหาหลักฐานเชื่อมโยง ให้ได้ว่า เค้าเกี่ยวข้อง หรือ ถ้าผลตรวจ DNA ของพ่อเทียบกับ DNA ที่เก็บได้จากผู้เสียชีวิต มีรูปแบบที่เข้ากันได้กับของ พ่อ ก็สามารถ ขอให้ศาลออกคำสั่งเรียกมาตรวจ DNA ได้ ที่สำคัญคือ ผลตรวจ DNA ของพ่อมีรูปแบบที่เข้ากันได้กับ DNA จากผู้เสียชีวิตหรือไม่.. ถ้าไม่..ก็จบประเด็น เพราะหาเหตุเชื่อมโยงไม่ได้ - การทำร้ายจนถึงชีวิต น่าจะเกิดขึ้นหลังจากล่วงละเมิดแล้ว
ทำไมพุ่งเป้าไปที่แรงงานต่างด้าว.. - อาวุธที่ใช้ ถ้าเป็นมาเฟียหรือผู้มีอิทธิพล คงไม่ใช้จอบ เพราะระดับนั้นแล้ว คงมีอาวุธที่ดีกว่านี้ ง่ายกว่านี้ - ความรุนแรงที่กระทำ ไม่ใช่วิสัยของมาเฟียหรือผู้อิทธิพล ที่มักจะกระทำ เรื่องให้เงียบที่สุด คงไม่ทำอะไรที่เอิกเกริกขนาดนี้ ถ้าลองเทียบเคียงกับเหตุการณ์ที่ผู้เสียหายหลาย ๆ ท่านทยอยนำมาบอกเล่า จะสังเกตได้ว่า ทุกเรื่องเงียบหาย แม้กระทั่งการล่วงละเมิด ไม่มีเหตุการณ์ รุนแรงอย่างเช่นครั้งนี้ ซึ่งผิดไปจากเหตุที่เคยเกิดขึ้น รอดู สำนวนฟ้อง..ถ้ามีช่อง ก็แสดงว่า ข้อกังขาในการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่มีแรงจูงใจ ก็ น่าจะเป็นไปได้..
เรื่องDNAพ่อ-ลูก เคยอ่านเจอผู้(ที่บอกว่าตัว)มีความรู้พูดถึงอยู่หลายคนครับ แต่จำลิ้งไม่ได้ เอาของคนนี้ไปพลางก่อน https://www.facebook.com/jessada.denduangboripant/posts/528746003922705 เช่น ถ้าเอาดีเอ็นเอของพ่อไปใช้ เครื่องหมายดีเอ็นเอของพ่อนั้นจะมีตำแหน่งที่ออกมาเหมือนกับของลูกอยู่ 50% (อีก 50%มาจากแม่) ดังนั้น ถ้าดีเอ็นเอที่พบจากอสุจิในตัวของผู้ตายนั้นเหมือนกับของพ่อถึง 50% ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ว่าเด็กคนนั้นยังมีสิทธิที่จะเป็นเจ้าของอสุจิ ... แต่ก็ฟันธงไม่ได้ว่าไม่ใช่จริงๆ ชัวร์ๆ เพราะต้องถามต่อว่าใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอกี่ตัว ถึง 21 ตัวมั้ยหรือน้อยกว่านั้น ใช้ Y-STR ด้วยหรือเปล่า มีความแม่นยำแค่ไหน หรือมีความคลาดเคลื่อนหรือเปล่า คุณหญิงหมอ http://www.thairath.co.th/content/455501 สำหรับกระบวนการตรวจ DNA ประกอบด้วย 1.การสกัด DNA 3 ชม. 2.การวัด DNA 1 ชม. 3.การเพิ่ม DNA 3 ชม. ในคดีที่เร่งรีบ อาจจะมีการมีข้ามขั้นตอนการเพิ่ม DNA ส่วนการตรวจ DNA ในจอบนั้น หากไม่เจอก็อาจจะเป็นเพราะการตรวจไม่ถูกจุด เพราะคดีเร่งรีบอาจจะไม่ได้ทำการจำลองการจับจอบ ก็อาจะเป็นได้ที่จะตรวจผิดตำแหน่งทำให้ไม่พบ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการสกัด DNA ต้องใช้เวลาในการสกัดพอสมควร หากมีเวลาไม่พอ ประกอบกับถ้ามีน้อย มันก็อาจจะหายไปได้ ทนายNGOอังกฤษ ผมคุ้นๆชื่อ ไม่รู้ว่าคนเดียวกันรึเปล่า http://www.prachatai.com/category/อานดี้-ฮอลล์
เมเนเจอร์...ยิงติดตามแป๊ะลิ้มนานๆยิ่งไม่เข้าใจเขา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000116441
ไขข้อสงสัยคดีเกาะเต่า แพะไม่แพะ ตอน 3...หาจุดต่าง ค้นจุดแปลก! แกะรอยภาพวงจรปิดสุดแคลงใจ หลายคนต่างสงสัย หลายฟากฝ่ายต่างตั้งคำถามถึงคดีสุดฉงน ชวนขบคิดถึงความเป็นมาเป็นไปของเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่ริมหาดทรายรี บนเกาะเต่า อ.พะงัน จ.สุราษฎร์ธานี แต่ปมปริศนาที่ตกเป็นข้อกังขาของคนไทยและคนต่างชาติ นั่นก็คือ ผู้ต้องหาชาวพม่าทั้ง 2 คน...แพะ หรือไม่แพะกันแน่ ? ขณะที่ไขข้อสงสัยคดีเกาะเต่า ได้เดินทางมาถึงตอนที่ 3 แล้ว (ตอน 1 แรงจูงใจ-อาวุธ ไม่แปลกคนตัวเล็กฆ่าคนตัวใหญ่กว่าได้ http://www.thairath.co.th/content/455250) (ตอน 2 จอบอาวุธสังหาร ตรวจ DNA ถุงยาง? http://www.thairath.co.th/content/455501) กระนั้นทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ จะพาคุณไปผ่าปริศนาเรื่องข้อสังเกตจากภาพกล้องวงจรปิดภายในหอพักของชายอีกหนึ่งคน ผู้ซึ่งตกเป็นจำเลยสังคม ณ ขณะนี้! ไทยรัฐออนไลน์ ได้ร่วมพูดคุยกับผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่บุรุษผู้นี้ขอใช้นามแฝงที่มีชื่อว่า MRKAI999 เขาผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิด และเป็นอาจารย์สอนการติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างถูกต้อง เหมาะสมในระดับประเทศ เพราะด้วยประสบการณ์อันโชกโชน และความชำนิชำนาญของอาจารย์ผู้นี้ จึงได้มีการตั้งข้อสังเกตหลายจุด ในภาพที่นำมาปรากฏต่อหน้าสาธารณชน... เรียนรู้หลักการ สืบสาวข้อเท็จจริง! ทว่า อันดับแรก ก่อนเจาะลึกไปถึงพิรุธของภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวนั้น คุณควรจะรู้และเข้าใจถึงหลักการติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างถูกต้อง เหมาะสมและเป็นประโยชน์ เพื่อใช้ประกอบกับการสังเกตด้วยตาของคุณเองได้ง่ายขึ้น โดยหลักการดังกล่าว มีด้วยกัน 3 ประการ ดังต่อไปนี้ 1.ติดสูง --> สูงจากพื้น 3 เมตร ในมุม 45 องศา 2.ติดซ่อน --> ลับตาจากผู้ไม่หวังดี เพื่อป้องกันการเปลี่ยนมุมกล้อง 3.ติดสำรอง --> ติดในมุมที่คาดไม่ถึง เรื่องราวที่กำลังพรั่งพรูต่อจากนี้ คงไม่ต่างอะไรกับการหาจุดต่าง จากภาพที่เราหยิบยกมานี้...อย่ารอช้า ปลุกสัญชาตญาณนักสืบในตัวคุณ แล้วเริ่มโฟกัสภาพต่อจากนี้ไปพร้อมกัน! ปริศนา! ตัวเลขคนละสีในกล้องวงจรปิดเป็นไปได้หรือ? ผู้คร่ำหวอดในวงการกล้องวงจรปิด ตอบข้อสงสัยของสังคมว่า ในส่วนของตัวเลขและวันที่บนกล้องวงจรปิดนั้น สามารถเป็นไปได้ 2 กรณี โดยกรณีแรก คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถมีตัวอักษรสีขาวสลับสีดำได้ โดยสีของตัวอักษรจากกล้องวงจรปิดมีเงื่อนไขที่ว่า หากภาพพื้นหลังเป็นสีดำ ตัวอักษรจะเป็นสีขาว แต่ถ้าภาพพื้นหลังเป็นสีขาว ตัวอักษรจะเป็นสีดำทันที ส่วนในกรณีที่สอง ภาพจากกล้องวงจรปิด จะสามารถเป็นสีขาวยกชุด หรือสีดำยกชุดก็เป็นได้ สแกนทีละจุด วิเคราะห์ทีละแห่ง! กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิด ได้พิจารณาภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดอย่างถี่ถ้วน จึงพบจุดข้อสงสัยจากภาพดังกล่าวอยู่หลายแห่ง ดังต่อไปนี้ ข้อสงสัยจุดที่ 1 -- เลข 1 ตามหลักการของกล้องวงจรปิดแล้วจะต้องเป็นสีดำ ข้อสงสัยจุดที่ 2 -- เลข 5 เดิมทีอาจจะเป็นเลข 8 หรือ 9 โดยอาจมีการนำสีดำมาแต่งแต้ม ข้อสงสัยจุดที่ 3 -- เลข 0 ต้องเป็นสีดำ ตามเงื่อนไขเดิมคือ พื้นหลังสีขาว อักษรต้องสีดำ ข้อสงสัยจุดที่ 4 -- เลข 9 ต้องเป็นสีดำ และมีฟรอนต์ที่ประหลาดออกไป ต่างจากเลข 9 ตัวหลัง เดิมทีคาดว่า จะเป็นเลข 8 ข้อสงสัยจุดที่ 5 -- กรอบของกระจก หรือหน้าต่างที่เป็นสีดำหายไป ข้อสงสัยจุดที่ 6 -- เลข 9 มีฟรอนต์ที่ประหลาดออกไป เดิมทีคาดว่า จะเป็นเลข 1 หรือ 4 ข้อสงสัยจุดที่ 7 -- หากประตูหอพักปิด กล้องวงจรปิดก็จะต้องจับภาพเส้นสีขาวที่เป็นแนวยาวได้ มิใช่เป็นเพียงเส้นสั้นๆ เพียงเท่านี้ หากประตูเปิดเส้นสีแดงจะต้องเว้าลงไป ไม่ใช่เป็นเส้นตรงยาวต่อกันเช่นนี้ ข้อสงสัยจุดที่ 8 -- ส่วนใหญ่กล้องวงจรปิดจะไม่ติดที่ระดับเดียวกับในภาพ ซึ่งในภาพเป็นระดับไม่เกิน 1.5 เมตร ซึ่งสวนทางกับหลักการของกล้องวงจรปิดที่จะต้องติดในระดับที่สูง ชำแหละกระบวนการ วิเคราะห์ความเป็นไป...กว่าจะได้ “หลักฐานโชว์บริสุทธิ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิด ได้วิเคราะห์ความน่าจะเป็นถึงกระบวนการผลิตหลักฐานพิสูจน์ความจริงไว้ ดังต่อไปนี้ 1.ดึงกล้องวงจรปิดลงมา โดยปกติกล้องวงจรปิดจะอยู่มุมบน ไม่ใช่อยู่ในระดับหน้าอกเหมือนในภาพ ซึ่งในกรณีอาจดึงลงมาให้เห็นใบหน้าชัดเจนมากขึ้น 2.บันทึกภาพจากฮาร์ดดิสก์ ดึงไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดออกมาตรวจดูและเลือกจังหวะภาพที่ชัดเจน เหมาะสมแล้วครอป (crop) ภาพจังหวะนั้นๆ ออกมา 3.ตัดต่อ ในกระบวนการนี้ อาจารย์สอนการติดตั้งกล้องวงจรปิด เชื่อว่า มีการตัดต่อตัวเลขและตัวอักษรบนภาพจากกล้องวงจรปิด หากเพราะการวิเคราะห์ที่ร่ายยาวมาข้างต้นนั้น ก็เป็นเพียงข้อสังเกตที่เรียกความแคลงใจจากสังคมไปแล้วมิใช่น้อย ฉะนั้น เครื่องมือที่จะช่วยหยุดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ปิดความคิดจิตมโนให้หยุดลงได้ ก็คือ เหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหลายต้องทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว! http://www.thairath.co.th/content/455496
สื่ออังกฤษตีข่าว หลังจากมีคนยื่นมือเข้าไปช่วย สองพม่าถอนคำรับสารภาพ http://www.telegraph.co.uk/news/wor...Thai-murder-suspects-retract-confessions.html
น่าจะได้นะ โดยเฉพาะถ้าพิสูจน์ให้ศาลเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาไม่ได้รับสิทธิตามสมควรในขั้นตอนการทำงานของตำรวจ หรือขั้นตอนการเก็บดีเอ็นเอจากศพมีปัญหา
prison chief นี่ ผบ. เรือนจำ รึเปล่าหว่า แต่พูดแบบนี้ผมเสียวแทนสองพม่าจริง ๆ http://www.khaosodenglish.com/detail.php?newsid=1412859323&typecate=06§ion
เอาละโว้ย ผู้ต้องหาอาจฆ่าตัวตายในเรือนจำได้เนื่องจากมีอาการเครียดมาก และอาจรู้สึกผิดกับการกระทำ อะ จะ บะ ฮู้ววว์
เรื่องคำสัมภาษณ์ของ ผบ.เรือนจำอำเภอเกาะสมุย คงต้องหาคลิปครับ... 2 สื่อลงไม่ตรงกัน Sanook (INN) บอกว่าไม่เครียด นายชนินทร์ เลี้ยงสุวรรณ ผบ.เรือนจำอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สำหรับมาตรการการดูแล 2 นักโทษชาย ได้แก่ นายเวพิว หรือ วิน (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 21 ปี และ นายซอลิน หรือ โซเรน อายุ 21 ปี (ไม่ทราบนามสกุล) สัญชาติเมียนมาร์ (ยะไข่) ผู้ซึ่งก่อเหตุฆาตกรรม นายเดวิด วิลเลียม อายุ 24 ปี และ น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุด ทางกรมราชทัณฑ์ได้สั่งให้ทางเรือนจำดูแล 2 นักโทษคดีอุกฉกรรจ์นี้เป็นพิเศษ เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและมีหลายฝ่ายได้จับตาดูอยู่ ทั้งนี้ ทางเรือนจำยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราดูแล 2 นักโทษ ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเกรงว่าจะมีเหตุการณ์การฆ่าตัวตายในเรือนจำเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาวะอารมณ์ของนักโทษทั้ง 2 คน ไม่มีภาวะตึงเครียดหรือกังวลแต่อย่างใด http://news.sanook.com/1679989/อธิบดีอัยการภ.8ยันสำนวนเกาะเต่าถึงมือวันนี้-เร่งสรุปสั่งฟ้อง-/ ประชาชาติ (มติชน) บอกว่าเครียด นายชนินทร์ เลี้ยงสุวรรณ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยว่า นายวินและนายซอ ถูกคุมขังรวมกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ แต่ให้ผู้ต้องขังช่วยกันดูแลทั้ง 2 คน เนื่องจากมีอาการเครียดเพราะสำนึกกับความผิดที่ทำลงไป อาจคิดสั้นได้ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1412837859
ชาวเมียนมาร์ในญี่ปุ่นประท้วงไทยเรื่องเกาะเต่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 ต.ค. อ้างข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ "ดิ อิรวดี" ว่าชาวเมียนมาร์ซึ่งอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นหลายร้อยคน เดินทางไปรวมตัวกันชุมนุมประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโตเกียว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยไต่สวนคดีการสังหารโหดนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนที่เกาะเต่าอย่างเป็นธรรมที่สุด ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ก่อนที่ตำรวจไทยจะจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างน้อย 2 คนเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยเป็นแรงงานชาวเมียนมาร์ซึ่งมีอาชีพรับจ้างอยู่ในพื้นที่ คือนายเวพิว หรือวิน และนายซอ ลิน หรือโซเรน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศของการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ โดยปราศจากการปะทะรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ซึ่งอารักขาสถานที่ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยส่งเจ้าหน้าที่ออกมารับฟังข้อเรียกร้องและชี้แจงสถานการณ์ ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของชาวเมียนมาร์ในต่างแดนเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องรัฐบาลไทยอาจ "จับแพะ" หรือชาวเมียนมาร์ทั้งสองคนไม่ใช่ผู้กระทำผิดตัวจริง ซึ่้งรัฐบาลไทยยืนกรานปฏิเสธ http://www.dailynews.co.th/Content/foreign/272875/ชาวเมียนมาร์ในญี่ปุ่นประท้วงไทยเรื่องเกาะเต่า
ตอนนี้ถ้าจะสรุปสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย ๆ สิ่งที่ตำรวจมี - DNA ตรงกับที่พบในผู้ตาย + อาวุธสังหารที่น่าจะยุติแล้วว่าใช้สร้างบาดแผลตามรูปได้จริง สิ่งที่ฝั่งสงสัยมี - คำให้การแบบไม่ค่อยจะเคลียร์ของฝรั่งที่ก็ไม่อยู่เมืองไทย + ข้อสังเกตภาพวงจรปิด + คุณหญิงหมอ + ดราม่าต่างประเทศ + สาวกน้ำด่างและแก๊งค์แดงประสานเสียงเหมือนกันเป๊ะในหน้าเวปผู้จัดการ เทียบกันแล้วผมว่าพม่าหลุดคดีแน่นอนครับ เพราะหลักฐานตำรวจมีแค่ 2 อย่างเอง แต่ฝั่งจำเลยมีนับไม่ถ้วนเลย
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000116778 ทูตพม่ายัน 2 ผู้ต้องหาฆ่านักท่องเที่ยวอังกฤษ ยังยืนคำให้การเดิม คณะทำงานสถานทูตเมียนมาร์ประจำประเทศไทยที่ได้รับการแต่งตั้งจากสถานทูตให้เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ ในเรือนจำเกาะสมุย หลังก่อเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ กล่าวถึงกระแสข่าวกรณี 2 ผู้ต้องหากลับคำให้การว่า จากการพูดคุยกับคณะทำงานและทีมทนายความของไทยและเมียนมาร์ ยืนยันผู้ต้องหาไม่มีการกลับคำให้การ และไม่มีการถอนคำให้การเดิม แต่ผู้ต้องหายอมรับว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายจริง โดยภายหลังจากที่มีการลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ต้องหา และตรวจสอบที่เกิดเหตุในพื้นที่เกาะเต่า ทางคณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งไปยังรัฐบาลเมียนมาร์เรียบร้อยแล้ว ทางรัฐบาลเมียนมาร์ยังไม่มีคำสั่งใดๆ กลับมา ดังนั้น ทางทีมคณะทำงานจะต้องรอคำสั่งก่อนจึงจะดำเนินการขั้นต่อไปได้ ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ต้องหาและการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงสอบพยานแวดล้อม เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เชื่อว่ากระแสเรื่องการกลับคำให้การอาจเป็นการเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนในการสื่อสารคนละภาษา
อย่าเพิ่งด่วนสรุป..คดีนี้ยังอีกยาว.. เพื่อนผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ยืนยันชื่อผู้เสียชีวิต กับ คนที่โพสว่าโดนมาเฟียตามล่า คนละคนกันน่ะค่ะ.. ข้อสงสัย..ทำไมคนที่ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เงียบจัง มีแต่ คนที่หนีมาเฟีย ตืนตูมอยู่คนเดียว...
เรียนตามตรง... ชักเริ่มจะสงสัย คน ๆ นี้ขึ้นมาตะหงิด ๆ ... พฤติกรรมชักน่าสงสัย..ตั้งแต่วิธีการออกจากพื่้นที่.. จนถึง..การโพสโน่นนู้นนี่นั่น.. ชักน่าสนใจ...
คดีเพิ่มเติมในเกาะเต่า ที่น่าจะชี้เป้าไปที่ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นและตำรวจ ------------------------------------------------------------------------------------------ สื่อนอกแฉอีก หนุ่มฝรั่งตายเกาะเต่าเมื่อต้นปี ตำรวจสรุปคดีไม่ดูแม้ที่เกิดเหตุ นายนิค แพร์สัน เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก derbytelegraph.co.uk สื่ออังกฤษแฉฉาวเกาะเต่าเพิ่ม หนุ่มฝรั่งตายเมื่อต้นปี ตำรวจสรุปตกจากที่สูงทั้งที่ไม่ไปดูที่เกิดเหตุ แถมร่างผู้ตายไม่มีแม้กระดูกหัก ครอบครัวเหยื่อชี้ ตำรวจชุ่ยรีบปิดคดีเพื่อรักษาการท่องเที่ยว ในขณะที่การคลี่คลายคดีสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ไปเสียชีวิตที่เกาะเต่ายังคงเป็นที่เคลือบแคลงกังขาในหลาย ๆ ประเด็น จากทั้งชาวไทยเองและสื่อต่างประเทศที่คอยติดตาม โดยเฉพาะสื่อจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของเหยื่อผู้เสียชีวิต ล่าสุดในวันที่ 9 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์มิร์เรอร์ สื่อเมืองอังกฤษ ก็ได้แฉคดีฝรั่งตายบนเกาะเต่าอีกกรณีหนึ่ง ชี้ตำรวจไทยทำงานชุ่ย จ้องแต่จะสรุปคดีให้จบไปเพื่อไม่ให้กระทบการท่องเที่ยว สำหรับกรณีดังกล่าวคือการตายของ นายนิค แพร์สัน หนุ่มอังกฤษวัย 25 ปี ที่เสียชีวิตในวันปีใหม่ 2557 ขณะเดินทางมาเที่ยวกับครอบครัว ร่างของเขาถูกพบอยู่ในทะเลใกล้ชายหาด โดยตำรวจสรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าตกลงมาจากที่สูงราว 15 เมตร นายเกรแฮมและนางเทรซี่ พ่อและแม่ของเหยื่อให้รายละเอียดกับมิร์เรอร์ว่า ครอบครัวของตนพร้อมนิคและลูกชายอีกหนึ่งคน ได้เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่เกาะเต่าในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยในคืนวันสิ้นปีครอบครัวได้ไปกินข้าวและนั่งดื่มกันที่ร้านอาหาร ช็อปเปอร์ บาร์ แอนด์ กริลล์ ซึ่งเป็นร้านเดียวกับที่ฮันนาห์และมิลเลอร์ เหยื่อเกาะเต่า 2 รายล่าสุดได้ไปนั่งกินกับเพื่อนก่อนเกิดเหตุ หลังกินข้าวแล้วทั้งหมดก็เดินมายังหาดทรายรี เพื่อดูพลุและร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ จากนั้นราวตีหนึ่งครอบครัวจึงเดินทางกลับรีสอร์ทซึ่งเป็นบังกะโลบนผาที่หันหน้าออกสู่ทะเล นายแกรแฮมเดินไปส่งนิคถึงที่ห้องและอยู่ดูจนเขาข้านอน จากนั้นก็กลับมายังบังกะโลของตนเอง แต่ในเช้าวันรุ่งขึ้นปรากฏผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วนิคก็ยังไม่ออกมาจากห้อง จนมีเพื่อนนักท่องเที่ยวเข้ามาบอกว่า มีพนักงานบอกว่าพบศพนิคอยู่ในทะเล ครอบครัวเกรแฮมถูกพาไปยังวัดเพื่อยืนยันศพ พ่อและแม่ของเหยื่อเผยว่า เห็นบาดแผลที่ศีรษะลูกชาย ร่างของเขาดูไม่เหมือนคนที่แช่อยู่ในน้ำมานานหลายชั่วโมง ทั้งยังมีรอยเลือดแห้ง ๆ อยู่ที่ใบหน้า ซึ่งผิดธรรมชาติของศพที่อยู่ในน้ำ อีกทั้งนายและนางเกรแฮมต่างมั่นใจว่าลูกชายไม่มีทางออกมาว่ายน้ำเล่นในยามกลางคืนแน่ และถ้าหากตกลงมาจากที่สูงจริง ร่างของเขาก็น่าจะติดอยู่ตามโขดหินและคงมีบาดแผลฉกรรจ์กว่านี้ นางแกรแฮมยังเผยว่า ในคืนนั้นนิคดูจะถูกใจกับหญิงไทยคนหนึ่ง และเธอสงสัยว่าจะเป็นสาเหตุของการฆาตกรรมได้หรือไม่ ลูกชายอาจโดนตามรอยมาถึงที่พัก แล้วก็ถูกทำร้าย อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่แม้แต่จะไปดูที่พักของนิคหรือไปสำรวจบริเวณจุดที่พบศพเลย เจ้าหน้าที่เอาแต่คุยและหัวเราะกันขณะที่เธอกับครอบครัวพยายามถามคำถาม ด้านแมตต์ ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต ยังถูกเตือนว่าบนเกาะมีผู้มีอิทธิพล ให้รีบ ๆ ออกจากเกาะไปเสียแทนที่จะมาสร้างความยุ่งยากที่นี่ นอกจากนี้ยังได้ยินจากคนอื่น ๆ ว่า มีนักท่องเที่ยวรายอื่นที่เสียชีวิตที่นี่ แล้วถูกนำศพไปโยนทะเลเพื่อให้น้ำซัดศพออกไปด้วย เมื่อครอบครัวเกรแฮมเดินทางกลับถึงประเทศอังกฤษ ร่างของนิคก็ถูกส่งตามมาในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง และถูกนำไปชันสูตรศพอีกครั้ง ซึ่งผลการชันสูตรในประเทศอังกฤษชี้ว่า เขาเสียชีวิตจากการจมน้ำ ไม่พบว่ามีกระตูกชิ้นไหนแตกหักอันผิดวิสัยการตายที่ระบุว่าตกจากที่สูง นอกจากนี้รายงานการชันสูตรยังระบุว่า อาจเป็นไปได้ว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นก่อนเหยื่อจะเสียชีวิต จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้ครอบครัวเกรแฮมยังค้างคาใจกับการสรุปคดีของตำรวจไทย ยิ่งเมื่อได้ทราบข่าวของการเสียชีวิตอย่างปริศนาของนายมิลเลอร์และนางสาวฮันนาห์ ชาวอังกฤษ ที่ไปท่องเที่ยวเกาะเต่า ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกสะเทือนใจมากยิ่งขึ้น นางเกรแฮมเผยว่า เมื่อเธอได้เห็นข่าวนี้ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นที่หาดเดียวกัน ตำรวจชุดเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้รู้สึกทุกข์ทรมานมาก เธอรู้สึกเสียใจแทนพ่อแม่ของพวกเขา เพราะรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะได้ทราบเรื่องราวที่แท้จริงที่เกิดขึ้นบนเกาะ เช่นเดียวกับเธอที่จนถึงทุกวันนี้ก็คงยังไม่รู้ว่าลูกชายตายด้วยสาเหตุใด "เราไม่เชื่อว่าพวกคนที่เขาจับมาได้จะเป็นคนฆ่าฮันนาห์และมิลเลอร์ มันก็แค่แผนการที่ทำให้เห็นเหมือนตำรวจได้ทำงานแล้ว เพื่อที่จะรักษาการท่องเที่ยวของเกาะไว้" นางเทรซี่ เกรแฮม กล่าว ทั้งนี้ครอบครัวเกรแฮมได้เรียกร้องให้ทางการไทยให้คำตอบที่แท้จริงเรื่องการตายของลูกชาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของอังกฤษเป็นตัวแทนดำเนินเรื่องผ่านกระทรวงการต่างประเทศให้ และยังคงรอคอย "คำตอบที่แท้จริง" อยู่ http://hilight.kapook.com/view/109439
“ประยุทธ์” วอนสื่อหุบปาก จับแพะพม่าฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า เตรียมตั้งทีมส่องโซเชียล http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000116922&Html=1&#Comment ______________ อ่านหลายเที่ยวก็ไม่พบคำว่าหุบปาก ความเห็นจากผู้อ่านก็ตามคาด คืออ่านหัวข่าวแล้วด่าเลยo_O
http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000116753 ถ้าใช่ก็เชื่อว่าใหญ่จริง!? ชาวเน็ตให้เรื่องราวแก๊งฆ่าข่มขืน 2 ฝรั่งหนุ่ม-สาวบนเกาะเต่า ______________________________ แหล่งข่าวคือความเห็นที่ขึ้นจอเหลือง แล้ว พธมและเสื้อแดงก็โพสด่ารัฐบาลรั่วๆๆๆๆๆๆ
ผมว่านี่มันทำข่าวแบบอัปปรีย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์การทำข่าวแล้วมั้งครับ เอาข้อความคนโพสหน้าเวบมาเป็นข่าว แถมโยงกันเป็นตุเป็นตะ ถ้าไอ้แป๊ะมันไม่บ้าไปแล้ว ก็น่าจะเป็นลูกไอ้แป๊ะคุมกองข่าวแหง ๆ
ความคิดเห็นที่ 18+45 ครอบครัวคนร้ายตัวจริงเป็นหัวคะแนนให้นกม.ใหญ่และขนคนมาร่วมชุมนุมกปปส. ปูทางให้ทห.ยึดอำนาจ แฉความลับ เสธน้ำเงิน อีปอง ฟ้าวันใหม่ ทีนิวส์ จึงร่วมมือบิดเบือนเข้าทางตร. โดยโยนให้เพจ csi. La เป็นพวกเสื้อแดง ต้องการล้มรบ. วันที่ 16 ต.ค. พระจะเดินทางไปให้กำลังใจคนเกาะเต่าหรือ ปกป้องครอบครัวฆาตรกรกันแน่ ทำนองว่าคนของข้าใครอย่าแตะ ประยุทธเอาปทท.ทั้งปท.ไปรับรองคนเลวๆเพียงไม่กี่คน เรื่องนี้มีผปย.ต่างตอบแทนกันหลายอย่าง ต้องให้ทางตร.อังกฤษมาสืบสอน จึงจะจับคนร้ายตัวจริงได้ เข้าใจตรงกันน่ะ http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000117997 ---------------------------------------------- ความเห็นที่มวลมหาประชาชนกดให้ขึ้นจอเหลือง
กรณีข่าวนี้ ไม่เป็นความจริง เพราะ DailyMailUK โดนบล็อค มาตั่งเเต่เดือน พ.ค. (เท่าทีค้นหาหลักฐานมาอ้างอิงได้) อ้างอิงหลักฐานจาก twitter นักข่าวไทยรัฐทีวี เมื่อ 28 พ.ค. 2557
เปิดเหลิมคอนเฟิร์ม พม่าฆาตกรตัวจริง ตำรวจทำดีแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000117906
ตอบโจทย์ : “แพะ” เงามืดวงการตำรวจ วิกฤตสีกากี ศรัทธาประชาชน (13 ต.ค. 57) ผู้ร่วมรายการ : ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข ภาควิชาจิตวิทยา คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ จากการทำงานของตำรวจในการคลี่คลายคดีคนร้ายที่ฆาตกรรม 2 นักท่อเที่ยว (เกาะเต่า) ได้ถูกวิพากษ์วิจารย์ถึงการทำงานของตำรวจว่าจับคนร้ายถูกตัวหรือไม่ ยังมีคนร้ายอีกหรือไม่ที่ตำรวจยังไปไม่ถึง และทำไมตำรวจจึงไปไม่ถึงคนร้ายตัวจริงที่เหลือ อะไรคือมูลเหตุให้เกิดกรณีเช่นนี้ ----------------------------- คดีนี้มันมีพิรุธหลายจุดที่ตำรวจเองก็ตอบคำถามได้ไม่เคลียร์ คดีนี้คนส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เชื่อ ส่วนตัวผม ขนาด DNA ผมยังไม่เชื่อเลยครับ ที่ไม่เชื่อเพราะไม่เชื่อตั้งแต่ระบบการเก็บหลักฐานของจนท.ตั้งแต่ในชั้นต้นเลย คือมันเหมือนกับเอาใบปริญญาของเหลิมมาอ้างว่าจบปริญญาจริง ต้องเชื่อใบปริญญา ซึ่งคนที่เชื่อก็มี คนที่ไม่เชื่อก็มี และเรื่องนี้ต้องแยกจากการเมืองนะครับ ถ้าเรื่องการเมือง ผมไม่ได้อวยหรือมองว่าประยุทธ์ดีเลิศอยู่แล้ว หึ! มีที่ผมไม่เห็นด้วยกับประยุทธ์อีกเยอะ แต่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับประยุทธ์อ่ะดิ (ในแง่ของการใช้เรื่องนี้โยงไปโจมตีรบ.) ถ้าจะพูดเรื่องคดีนี้ต้องตัดเรื่องเหลือง-แดงออกไป เรื่องนี้ถ้าจะพูดในแง่การเมืองมันเกี่ยวแค่เรื่องโครงสร้าง ตำรวจส่วนกลาง (ที่รบ.สั่งให้ลงไป) ตำรวจในพื้นที่ และก็เรื่องผู้มีอิทธิพล เรื่องปัญหาต่างตอบแทนในพื้นที่ แบบที่ผศ.ดร.ปนัดดา ชำนาญสุข ให้สัมภาษณ์
ความคิดเห็นที่ 39 คดีฆ่านักท่องเที่ยวก็คงเหมือนคดีชายชุดดำที่ถูกจับ ถูกตำรวจซ่้อม แล้วศาลก็ปล่อยตัวไป ตำรวจไทยรับผิดชอบไหวไหม พลเอกประยุทธ จะรับผิดชอบอะไรไหมถ้าเกิดเหตุการ์อย่างนี้เกิดขึ้น พวกคุณอย่าคิดว่าการกระทำของพวกคุณมันดีแล้วนะ ประชาชนเตือนด้วยความหวังดี หัดพูดจาไพเราะกับประชาชนบ้างได้ไหม หัดไปดูผู้นำต่างประเทศบ้างเขาพูดจาไพเราะและเรียบร้อยมากเลย เช่น อังกฤษ เป็นต้น คนใหญ่โตทำไมปัญญาอ่อนจังเลย ----------------------- เห็นเสื้อแดงหลายๆกลุ่มพยายามพูดทำนองนี้ อ้อมโลกตั้งนาน อยากได้อย่างนี้ละซิ
วันนี้ลองเข้าไปดูข้อมูลในเพจ CSI LA จับแพะชนแกะเหมือนเดิม โยงไปโน่นไปนยี่ เรื่อง DNA มีโยงไปคดีเณรคำซะงั้น เหมือนเริ่มจะหาตัวละครใหม่ขึ้นมาอีก
แป๊ะ เล่นแล้ว มโนสุดๆ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์เกาะเต่า ไม่เสียแรง CSI LA แอบปลื้มนะ จากคุยทุกเรื่องกับเหี้ยตอน10
คลิปสนธิ ที่เสื้อแดงไปโพสในpantipลากดำนา...แล้วบอกว่าเห็นด้วยกับสนธิ http://pantip.com/topic/32720717
สวัสดีครับสมาชิกที่น่ารักทุกท่าน พอดีว่าเพิ่งทราบว่าเปิดบอร์ดใหม่เลยเพิ่งเข้ามา งั้นขอรายงานตัวที่กระทู้นี้ละกันนะครับ เรื่องประเด็นเกาะเต่าได้ติดตามบ้างแต่ไม่ลงลึกเท่าไหร่ แต่โดยรวมในความเห็นผมสำหรับเพจ CSI LA ไม่ได้มีเจตนาในเรื่องคดีอย่างเดียวแน่นอน เพียงแค่อาศัยสิ่งที่คนส่วนหนึ่งรู้สึกเหมือนกันคือ 1. ความรู้สึกที่คนบางส่วนรู้สึกว่ามาตรฐานในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่แตกต่างจากคนมีเงิน มีอำนาจ 2. รู้สึกไม่ดีกับตำรวจเป็นพื้น เลยทำให้ไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจ 3. ต้องยอมรับว่าขั้นตอนและรูปแบบการทำงานของตำรวจในคดีนี้หลายๆ เรื่องทำให้เกิดข้อสงสัย ผมไม่ลงเนื้อหานะครับแต่ผมจะตั้งข้อสังเกตกับเพจนี้นะครับ 1. เพจ CSI LA ที่เห็นโพสส่วนใหญ่ไม่ใช่การวิเคราะห์แต่ใช้วิธีชี้นำความคิด หลังๆ เริ่มมีการล่าแม่มด เช่น ชวนลูกเพจไปโพสโจมตีในหน้าเวบธุรกิจของคนที่เพจตั้งธงเอาไว้ จนถึงล่าสุดพ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง 2. เพจ CSI LA เลือกนำเสนอข้อมูลเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับธงที่เพจตั้งเอาไว้ เช่น - มีข่าวผู้ต้องหาพม่า 2 คนปฏิเสธข้อกล่าวหาก็นำมาเล่นแต่พอทางสถานทูตพม่าออกมาชี้แจงว่ายังไม่ได้ปฏิเสธเพจก็ปล่อยเงียบ - กรณีหมอพรทิพย์ออกมาให้ความเห็นครั้งแรกเรื่องความสมบูรณ์ในการเก็บหลักฐานเพจก็เอามาเล่น แต่พอความเห็นของหมอครั้งที่ 2 ที่พิจารณาบาดแผลมีความเป็นไปได้ว่าใช้จอบเพราะรูปแบบของบาดแผลและกระโหลกยุบซึ่งขัดกับที่เพจตั้งธงว่าเป็นสนับมีดเพจก็ปล่อยเงียบ - ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ส่วนใหญ่เป็นลักษณะมีคนให้ข้อมูล เขาเล่าว่า แต่ไม่มีที่มาที่ชัดเจน รวมถึงการนำเสนอในบางเรื่อง เช่น การนำรูปถุงยางที่ไม่ใช่วัตถุพยานในคดีมาใช้ประกอบข้อมูล สรุป โดยรวมในความเห็นผมเพจ CSI LA มีความน่าเชื่อถือในเรื่องคดีเกาะเต่านี้ไม่มากเท่าไหร่ ยังไม่รวมถึงการพิจารณาการโพสต่างๆ ก่อนหน้าที่จะมีคดีเกาะเต่าแล้วยิ่งไปใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่เห็นด้วยกับข้อสงสัยหลายๆ อย่างที่ดูแล้วมีความเป็นไปได้นะครับ รอติดตามกันต่อไปแล้วปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเค้าทำงานเถอะครับ มันเป็นอาชีพของเค้า เราก็ทำอาชีพของเราไป ยินดีที่ได้เสวนากับทุกท่านอีกครั้งครับ
ผมว่ามันก็เหมือนนะครับ แต่จริงๆแล้วน่าจะมีการเทียบกับวีดีโอการเดินของผู้ต้องสงสัย ดีกว่าจะเทียบกับรูปนิ่งครับ
เอ้า หนังสืบสวนระดับไทยแลนด์โกอินเตอร์ ต้องดูกันยาว ๆ บางกอกโพสต์: สองพม่ากลับคำให้การ คราวนี้บอกว่าไม่ได้ฆ่า ไม่เกี่ยว โดนซ้อม โดนบังคับให้สารภาพ http://www.bangkokpost.com/news/cri...recant-confessions-claim-abuse-by-interpreter
โถก็มีคนให้ท้ายเยอะขนาดนั้น เป็นผมถ้าทำจริงผมก็เสี่ยงไปทางนี้ละ คนจะโดนโทษตายมีอะไรให้เสียมากกว่านี้อีก
ตอนนี้คงต้องอยู่ที่หลักฐานที่ตำรวจมีล่ะครับ ถ้าหลักฐานไม่แน่น ผู้ต้องหาหลุดไปก็งามหน้าล่ะครับงานนี้ ฝั่งจ้องล้มรัฐบาลได้เอาเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นหัวข้อหลักแน่ๆ