ช่วงนี้รู้สึกกลับมาสนใจคดีนี้เป็นพิเศษ เลยอยากจะเปิดกระทู้คุยกับเพื่อนๆในนี้เลยดีกว่า ในเฟซมันตกเร็วไป หุหุ หลังจากที่ตำรวจจับผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 ฝรั่งที่เกาะเต่าได้แล้ว ซึ่งเป็นแรงงานเถื่อนชาวพม่า ในโลกโซเชี่ยลทั้งหลายได้จับประเด็นว่าเป็นการจับแพะ โดยเฉพาะเพจ CSI LA ซึ่งมีการวิเคราะห์หลายอย่างมาก(แต่ส่วนใหญ่จะวิเคราะห์จากข่าว และรูปภาพ) ค่อนข้างจะชี้ชัดไปแนวทางที่เค้ามีธงอยู่แล้วคือ "จับแพะ" จากที่ผมลองอ่านๆดู มีหลายส่วนมีเหตุผล แต่หลายส่วนก็อยู่ในสิ่งที่เรียกว่าจินตาการ แต่ยอดไลค์ของเพจนี้เพิ่มขึ้นเร็วมาก จากการที่มีการเสนอข่าวออกไป ทำให้คนหลายคนติดตามเรื่องนี้(รวมทั้งผม) แต่สิ่งนึงที่ถ้าสังเกตุดูดีๆ จะมีการ "ด่าตามน้ำ" กระทบชิ่งไปถึงรัฐบาลเหมือน เพราะเป็นคดีที่ต่างประเทศให้ความสนใจ และเป็นคดีที่จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะมาเที่ยวไทย พอดีดันอยากตั้งกระทู้ตอนที่จะออกไปทำธุระ เลยยังไม่ได้เอารายละเอียดต่างๆมาลงได้มาก จึงขอรับฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆในนี้ครับ ว่าคิดอย่างไรกับคดีนี้ ส่วนตัวผมอยากจะให้นำคนที่ทำผิดจริงๆมาลงโทษ แต่ไม่ค่อยชอบที่จะมีคนที่จะเอาเรื่องนี้มาโยนให้รัฐบาลมากเกินไป(เช่นนักข่าวช่อง 3 ที่ออกมาว่าๆไม่ช่วยหาเฮลิคอปเตอร์ที่หายไปในพม่า) ปล. ไม่เคยตั้งกระทู้อย่างจริงจังอย่างนี้ บอร์ดเก่าไม่เคยตั้งเลยสักครั้ง ถ้าพิมพ์ผิดขออภัยครับ
Csi laอ้าปากก็เห็นลิ้นแดงๆ แถมกลิ่นลิเบอร่านเล็กน้อย ตลกดี ทำโพลตัดสินว่าคดีนี้ตำรวจจับแพะ เสียงส่วนใหณ่คือความถูกต้องสินะ https://www.facebook.com/CSILA90210/photos/p.708913522519709/708913522519709/?type=1&theater
CSI LA เรื่องชอน ฉอนโกหกเรื่องรถล้ม ฉอนอยู่ในสถานที่เกิดเหตุวันนั้นเเน่ๆ เพราะบาดเเผลที่ฉอนมีนั้นเหมือนกับของ David เลยที่เเขนขวาเเละขาขวาเขา ฉอนอาจพยายามหยุดการต่อสู้เเต่เขาทำไมสำเร็จ เเต่ฉอนต้องรู้เเน่ๆคนฆ่า David คือใคร เเล้วทำไมตำรวจถึงปล่อยให้นายฉอนออกนอกประเทศ? อันนี้เป็นเรื่องที่เค้าวิเคราะห์เรื่องสาเหตุการตายและเรื่องคำให้การของผู้ตายครับ แต่ตัวสีแดงทางเพจเค้าจินตนาการไปนิดนึง ถ้าในเมื่อเพื่อนของผู้ตายมีบาดแผลขนาดนี้และรู้ว่าใครฆ่าผู้ตาย ทำไมเพื่อนของผู้ตายถึงไม่ให้ข้อมูลกับสื่อของอังกฤษไปล่ะว่าเรื่องจริงเป็นยังไง ในเมื่อออกจากเกาะเต่าแล้ว
แต่เรื่องมือถือของผู้ตาย ทางตำรวจคงต้องชี้แจงอีกครั้งครับ เพราะในข่าวทางเพื่อนของผู้หญิงที่ตายได้นำมือถือส่งให้ตำรวจ(ตามภาพ) แต่ทางตำรวจแถลงว่าเจอใกล้กับที่พักของผู้ต้องหาครับ
o_O ฟามเหนกระพ๊ม... กระพ๊มไม่เชื่อขอรับ... เพราะสันดานตะกวดมันทำให้คนระแวงเอง... ก่อนหน้าวกวน ยอกย้อน ข้อมูลก็มั่วไปมั่วมา... พอโดนฝรั่งด่า, กดดัน... แม่มไวทันควัน... ตามดูข้อมูลโต้แย้งอยู่ขอรับ... ไม่อยากฟันธงเหมือนกัล... แต่โดยสันดานเหียกๆของพวกแม่ม... เลยไม่เชื่อขอรับ...
CSI LA ช่วยออกความเห็น เเละ ช่วย vote ด้วยครับ (I need your opinion and your vote) Money talks in Thailand. What do you think I make a fundraising campaign to hire the best lawyers and private investigators to work in this case? เงินซื้อได้ทุกอย่างที่เมืองไทย คุณคิดอย่างไรถ้าผมจะระดมเงินบริจาก เพื่อจะจ้างทนายที่ดีที่สุด เเละ นักสืบที่ดีที่สุดมาช่วย ผู้ต้องหาชาวพม่า เเละ นำคนทำผิดมาลงโทษ http://bit.ly/1sTNbIW ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เหมือนจะแปลกๆ จากที่ติดตามข้อมูลเพจนี้ในวันนี้ เกี่ยวกับหลักฐานมีนิดหน่อย จินตนาการซะเยอะ แต่นี้ดันจะมีการบริจาคซะงั้น จากเท่าที่อ่านคอมเม้นต่างๆในเพจนี้ เค้าเชื่อกันว่าตำรวจเปลี่ยนหลักฐานต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่เป็นอย่างนี้ คนทำเพจก็ยังอยากจะรับบริจาคซะงั้น กลัวมันจะกลายเป็น แพ้คดีเพราะตำรวจ แต่เงินบริจาคหายเงียบอ่ะสิ
คดีเกาะเต่า ตำรวจแจงข้อสงสัยเรื่องโทรศัพท์ผู้ตาย ยืนยันไม่มีจับแพะ พล.ต.ท. ปัญญา มาเม่น เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ข่าวฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า ตำรวจแจงข้อสงสัยเรื่องโทรศัพท์ผู้ตาย ยืนยันคนร้ายขโมยไปจริง ไม่มีจับแพะ หลังชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคดีเพียบ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกมาแถลงข่าวจับกุม นายเวพิว หรือ วิน และ นายซอลิน หรือ โซเรน ชาวยะไข่ ว่าเป็นผู้ต้องหาก่อคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ชาวเน็ต นักสืบโซเชียล รวมถึงสื่อต่างประเทศ ก็ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งที่เชื่อว่าเป็นการจับแพะ หรือมีการปกปิดข้อมูลบางส่วนเพื่อปกป้องคนร้ายตัวจริง สำหรับประเด็นที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยกันตอนนี้ คือเรื่องโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ที่มีข้อมูลในโลกโซเชียลว่า ผู้ตายได้ฝากไว้กับเพื่อน โดยหลังเกิดเหตุเพื่อนของผู้ตายก็เป็นคนมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของตำรวจ ที่ระบุว่า โทรศัพท์มือถือของผู้ตายได้ถูกคนร้ายได้ขโมยไป ก่อนจะพบที่ป่าหญ้าข้างทางและกลายมาเป็นหลักฐานของคดี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากเกี่ยวกับคดีดังกล่าว (อ่านข่าว คดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า ชาวเน็ตสงสัยจับแพะ คลิก) ล่าสุด (4 ตุลาคม 2557) พล.ต.ท. ปัญญา มาเม่น รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า โทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าว พบบริเวณห้องเช่าของผู้ต้องหาจริง ๆ ไม่ได้มีการนำมาคืนก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจสอบอีมี่ของเครื่องแล้ว ซึ่งก็ตรงกับของผู้เสียชีวิตจริง ทางด้าน พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากที่นำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย มาตรวจดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ไปค้นบ้านพักของนายซอ และได้เจอโทรศัพท์ของผู้ตาย ซึ่งนายซอตั้งใจเอาไปใช้ แต่ไม่สามารถใช้ในประเทศไทยได้ เพราะมาจากประเทศอังกฤษ จึงได้ทุบให้เสียหายแล้วนำไปทิ้งบริเวณหลังห้องเช่าดังกล่าวนั่นเอง นอกจากนี้ พล.ต.อ. สมยศ ยังเผยอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า ไม่ได้มีการจับแพะอย่างแน่นอน และมั่นใจว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นผู้ลงมือฆ่า 2 นักท่องเที่ยว เนื่องจากกระบวนการสืบสวนของรูปคดีล้วนแล้วแต่มีคำตอบให้สังคมได้รับรู้อย่างกระจ่าง ส่วนเหตุผลที่การติดตามหาตัวคนร้ายเกิดความล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นนั้น เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจ DNA ถึง 200 คน และต้องใช้เวลาในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดกว่า 300 ตัว ซึ่งต้องอาศัยความรอบคอบและแม่นยำในการดำเนินการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ ให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้รับรู้แล้ว ซึ่งทั้งสองคนก็มีความเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี http://hilight.kapook.com/view/109116 -------------------------------------------------------------------------------------------------- ผมว่าตำรวจยังตอบไม่ตรงคำถามกับที่ในโซเชี่ยลตั้งคำถามไว้ น่าจะเจาะจงบอกไปว่า มือถือเครื่องที่เป็นข่าวในโซเชี่ยลใช่เครื่องของผู้ตายหรือไม่?
CSI LA David สุง190cm เป็นไปได้หรือที่คนร้ายสองคนนี้เอาเขาอยุ่ เเละต่อยหน้า ขมับ เเละหลังหัว David ด้วยมีดชก สงสัยต้องขี่คอกัน CSI LAเหมือนมีเเรงนันดาลใจ บางอย่างเเบบเเปลก ผมถึงสามารถเล่าเรื่องการตายของเขาด้วยมีดชกได้ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผมว่าความเห็นหลังๆนี่เริ่มจะออกจากฝั่งล่ะ o_O
ขออนุญาตตั้งข้อสังเกตเรื่องโทรศัพท์นิดเดียวค่ะ.. จากภาพที่นำมาเทียบกัน คิดว่าไม่น่าจะเป็นเครื่องเดียวกัน เพราะ ภาพซ้ายจะมองไม่เห็นขอบโทรศัพท์จากด้านข้าง แต่ภาพขวา มองเห็นชัดเจน หรือว่า จะหยิบโทรศัพท์ ออกมาจากซอง (เคส) แล้ววางบนโต๊ะ.. แต่จะว่าไป...มั่นใจหรือว่าเป็นโทรศัพท์ เพราะดูจากลักษณะ การวางแล้ว..มันแปลก ๆ.. ลองมโนดู..ปกติถ้าเราจะวางโทรศัพท์บนโต๊ะ..จะวาง บนพื้นราบ หรือ จะวางเอียงทำมุมไว้บนอะไรสักอย่าง ... ถ้าเป็นเรา...เราคงเลือกที่จะวางโทรศัพท์บนพื้นราบมากกว่า
ส่วนบาดแผลที่บอกว่ามีลักษณะคล้ายกัน..ถ้าสังเกตให้ดี... ลักษณะบาดแผลของเพื่อนผู้เสียชีวิต จะเป็นลักษณะขอบเรียบ ขอบแผลจะสวยกว่าของผู้เสียชีวิต ที่ดูเหมือนจะกว้างกว่า.. แต่ก็อาจจะเป็นเพราะ อยู่ตรงกระดูกไหปลาร้าก็เลยทำให้ แผลไม่เรียบตรง และกว้างกว่า... ที่สำคัญ..หาอาวุธเทียบเคียงกับบาดแผลได้อย่างเพอร์เฟ็ค คงคิดไปเองมั้งเรา....
บาดแผลคุณเดวิด อยู่บริเวณท้ายทอย ถ้าลองมโนดู - คุณเดวิด กำลังนั่งอยู่บนพื้นทราย แล้วโดนตีจากด้านหลัง ล้มไปด้านหน้าตามแรงโน้มถ่วง (ใช่ปะ) ถ้าตีไม่แรงพอ คุณเดวิดอาจจะยังพอมีแรง แต่คงมึนน่าดู แต่ว่า.. ด้ามจอบก็มีเหล็กอยู่ด้วย...คงไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นเต็มที่ ยืดตัวตรง...หรือ ถ้าแรงก็คงหมดสติทันที แต่..บริเวณนั้นมีร่องรอยการต่อสู้... แน่ใจหรือว่าเป็นการต่อสู้ ระหว่าง คุณเดวิด กับผู้ไม่หวังดี ไม่ใช่ คุณฮันนา ต่อสู้เพื่อป้องกันตัว.... ประเด็นมีให้คิดตั้งมากมาย...สิ่งที่นำมาเขียนมาวิเคราะห์ ก็ล้วนนำมาจากข่าวที่เผยแพร่ แล้วตีกรอบ..สรุปว่าใช่ หลักฐานอื่นที่ยังไม่ได้เปิดเผย ก็น่าจะยังมีอยู่เพราะอาจจะ มีผลต่อรูปคดี...การส่งฟ้อง..เอาไว้รอดูคำฟ้องดีกว่าว่าจะ มีช่องให้ลอดหรือป่าว... อีกประเด็นเรื่อง DNA - ถ้ารีบตั้งโต๊ะแถลงผลทันทีที่ทราบ คนร้ายจะไหวตัว หนีไป - ถ้าทำเฉย ๆ ไม่รู้ไม่ชี้ แต่ตามประกบผู้ต้องสงสัย...จนกว่าจะ มั่นใจ มีหลักฐานแวดล้อมเพิ่มเติม...แล้วค่อยจับกุม.. ถ้าเป็นเรา...จะเลือกข้อไหน.... คิดไปเองอีกแล้ว..เรา ถ้าเขียนแบบนี้ ไม่ได้จะเข้าข้าง...เพราะ พิรุธก็มีหลายประเด็น แต่...พฤติกรรมคนร้ายที่โหดเหี้ยมแบบนี้..ไม่น่าจะเป็นฝีมือ ของคนไทย...ที่ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีปิดกั้นลมหายใจมากกว่า ถ้าจะเป็นฝีมือเพื่อนผู้เสียชีวิต..อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีรอยเลือด ที่ติดตามเสื้อผ้าบ้าง ถ้ามีการต่อสู้ ตามร่างกายก็ควรจะมีรอย ฟกช้ำบ้าง..อย่างน้อยก็ที่หน้าตา..คงต้องมีร่องรอยให้เห็นบ้างหล่ะ
ขอบคุณๆ bird มากๆครับ "ประเด็นมีให้คิดตั้งมากมาย...สิ่งที่นำมาเขียนมาวิเคราะห์ ก็ล้วนนำมาจากข่าวที่เผยแพร่ แล้วตีกรอบ..สรุปว่าใช่ หลักฐานอื่นที่ยังไม่ได้เปิดเผย ก็น่าจะยังมีอยู่เพราะอาจจะ มีผลต่อรูปคดี...การส่งฟ้อง..เอาไว้รอดูคำฟ้องดีกว่าว่าจะ มีช่องให้ลอดหรือป่าว..." ส่วนนี้น่าคิดมากๆครับ แต่คนส่วนใหญ่ในโซเชี่ยลไม่ค่อยได้คิดถึงข้อนี้แน่ๆครับ
ตกลงโทรศัพท์ที่พูดถึงเป็นของผู้เสียชีวิต ที่เป็นผู้ชาย หรือ ผู้หญิง เห็นว่าตำรวจพบเครื่องที่เป็นของผู้ชายไม่ใช่หรือ แต่ที่เอามาพูดในข่าวบอกเป็นของผู้หญิงเอามาฝากกับเพื่อนไว้ o_O
กราบหลวงอาเจ้าค่ะ.. เข้าไปอ่านจาก เพจ ก็ งง กับข้อมูลหลายประเด็นค่ะ คือ..เค้าให้ข้อมูลได้มากกว่าคนในพื้นที่อีกน่ะค่ะ สามารถหยิบเนื้อหาข่าว แล้วเขียนได้เป็นเรื่องเป็นราว อย่างกับว่า..เป็นเจ้าหน้าที่ในสถานที่เกิดเหตุ...
ถ้าเดวิดจะต้องสู้ เขาเองก็ต้องย่อตัวลงเหมือนกัน ไม่งั้นก็ชกลม หาดเองก็ไม่ใช่พื้นเรียบ ถ้าเขาอยู่ในตำแหน่งที่ลาดลงไปก็มีสิทธิ์อยู่ในตำแหน่งไม่สูงกว่าฆาตกรนัก ตีให้ล้มแล้วชกด้วยมีดต่อ ก็เป็นไปได้ ทุกอย่างจะต้องแวดล้อมด้วยหลักฐานอื่นๆด้วย เอารูปมาเทียบแล้วมโน หลอกคนคิดน้อยได้ วิธีนี้คุ้นๆ คนบางกลุ่มใช้บ่อย
เท่าที่ดูจากข้อมูลผ่านสื่อ... คิดว่า คุณเดวิด ไม่มีโอกาสได้สู้ค่ะ โดนตีที่ท้ายทอย.. ด้วยเหล็กที่ด้ามจอบ จนกระโหลกยุบ.. คงเป็นไปได้ยากค่ะ..ที่จะมีแรงลุกขึ้นมาสู้
ประเด็นที่ผมกังขาตำรวจคือ (1) "แผลของเดวิด" จอบทำให้เกิดแผลเหมือนของมีคมแทงได้แบบนี้หรือ ชอน แม็คแอนนา มีแผลลักษณะเดียวกันใช่หรือไม่ (2) ตำรวจได้แยกสอบผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการหรือไม่ เพื่อพิสูจน์คำให้การบางเรื่อง เช่นคนร้ายบอก ช่วยกันฆ่า เรื่องเช่นนี้ต้องแยกสอบ ใครลงมือก่อน คงไม่ใช่ช่วยกันจับจอบพร้อมกันสองคนแน่ ส่วนประเด็นที่ผมเห็นแย้งเพจออนไลน์+ลูกเพจคือ (1) พม่าคงไม่สูบบุหรี่แพง อันนี้ด่วนสรุปเกินไป คนหนุ่มสาวทุกชาติอยากเท่ได้ทั้งนั้น ไม่แปลกที่จะซื้อบุหรี่แพงมาสูบบ้าง (2) ทำไมอำมหิตเหมือนมีเรื่องเคียดแค้น - ความอำมหิตไม่จำเป็นต้องเกิดจากความเคียดแค้น อาจเกิดจากชีวิตที่ถูกกด ถูกเหยียด เคยเป็นผู้ถูกกระทำความรุนแรงก็ได้ วัยรุ่นพม่า เขมร หลายพื้นที่เวลานี้มีหลายคนที่สามารถก่อเหตุอำมหิตได้ ไม่แปลก
เหมือนว่าเพจ CSI เค้ามีธงอยู่แล้วว่าพม่าคือแพะครับ เลยทำให้เค้าต้องหาเหตุผลที่จะทำให้พม่าเป็นแพะให้ได้ พยายามตั้งสมมุติฐานของการเผชิญหน้าเป็นแบบซึ่งๆหน้า ทั้งๆที่เวลาและสถานที่เกิดเหตุน่าจะมืด ไม่ค่อยมีแสงสว่างมาก สามารถเกิดการลอบทำร้ายได้ง่าย
ผมว่า ตำรวจ งัดข้อกันเอง นั้นแหล่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก ... ตำรวจใหม่จะมาคุม... ตำรวจเก่าเสียอำนาจ... เสียผลประโยนช์... ก็ต้องหาเรื่อง discredit กันไป... เพื่อฟลุ๊ค...
จากที่อ่านเพจ CSI ในเช้านี้แล้ว รู้สึกได้ว่าคอมเม้นในเพจเริ่มโจมตีรัฐบาลและบิ้กตู่มากขึ้น(อย่างที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก) บวกกับหลายคอมเม้นออกแนวจินตนาการมากมาย แต่สุดท้ายแล้วก็จะหาว่าตำรวจเปลี่ยนหลักฐาน ผมไม่รู้ว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอในสมัยนี้
ทนายNGOอังกฤษมาช่วยพม่าแล้วจ้า แต่สงสัยแค่ว่าทำไมคอมเมนต์มันเหมือนเพจเสื้อแดงเลย หรือนี่เป็นยุทธศาสตร์รวมเหลือสนธิ-แดงทักษิณ http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000114644
เรื่องดีเอ็นเอ ข้อคลางแคลงใจก็คือ ทำไมตรวจรอบแรกบอกไม่ตรง แล้วพม่าสองคนนี้ได้ตรวจรอบแรกด้วยใช่หรือไม่ (อันนี้ผมยังไม่มีข้อมูลที่ conclusive) อีกประเด็นคือ เอาล่ะ สมมติผมยอมรับว่าดีเอ็นเอเป็นของสองคนนั้นจริง แต่คนข่มขืนกับคนฆ่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกัน หรือเหตุที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มีผู้กระทำผิดแค่สองคนนี้ก็ได้ - อันนี้เนื่องจากมีข้อสงสัยอื่น ๆ เช่นภาพวงจรปิดที่ยังคลุมเครือว่าเป็นพม่าคนนี้หรือผู้ชา่ยคนนั้นที่หลายคนสงสัยกันแน่ ผมสนับสนุนให้คนถกเรื่องนี้ตามข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องรีบโยงไปเรื่องสีเสื้อ เนื่องจากไม่ใช่ประเด็นโดยตรง และมันจะทำให้เรามีอคติไม่น้อยไปกว่าพวกเสื้อแดงที่รีบด่านายกฯ อนึ่ง ถ้าความเกลียดกลัวทักษิณ แปลว่าต้องปิดตาข้างนึง มองข้ามความไม่ชอบมาพากลใด ๆ ก็ตามภายใต้รัฐบาลนี้ ใครจะทำแบบนั้นก็เชิญนะครับ แต่นั่นไม่ใช่ผม
ผมก็เห็นว่ามีแค่คอมเมนต์ด่าตำรวจนี่ครับ เหมือนเสื้อแดงตรงไหน เมื่อก่อนเราก็ด่าตำรวจกันเช็ดเม็ด หรือว่าตอนนี้ถ้าไม่ใช่เสื้อแดงต้องเปลี่ยนไปชาบูตำรวจแล้ว
เรื่อง DNA เหมือนผมอ่านข่าวแว้บๆว่าตำรวจบอกว่าพวกนี้ไม่ได้ตรวจรอบแรก เพราะเป็นแรงงานเถื่อนครับ (เดี๋ยวถ้าเจอข่าวจะเอามาลงอีกทีครับ) ส่วนเรื่องสีเสื้อ ถ้าหมายถึงผมที่โพสต์ไว้ ผมไม่ได้ว่าข้อมูลที่เพจนี้เอามาลงนะครับ ผมบอกว่ามีการด่าตามน้ำจากพวกที่ไม่ชอบรัฐบาล ทั้งๆที่เรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกันเลยครับ เพราะที่ผมแย้งเพจก็คือข้อมูลที่ยังไม่เป็นที่สรุป ข้อมูลที่มาจากข่าวและโพสต์ในเฟซทั้งหลาย เพราะในเฟซถ้าท่านดูจะเห็นว่ามีข่าวมั่วไปหมด
ตอนนี้เห็นว่าพุ่งประเด็นไปที่ลูกผู้ใหญ่บ้านมั้งครับ แต่การตั้งข้อสังเกตุของทางเพจ CSI เหมือนพล็อตหนังมากไปหน่อยครับ เพราะคดีนี้ไม่น่าจะมีการวางแผนเป็นระบบขนาดนั้น เพราะถ้ามีการวางแผนจริงเหมือนหนังหรือซีรีย์ หลักฐานไม่มีมากขนาดนี้หรอกครับ
ตร.แจงปมมือถือเหยื่อเกาะเต่า งัดหลักฐานยันไม่ใช่ของ'ฮันนาห์' 5 ต.ค. 57 ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ สำหรับคดีฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี จนเกิดการตั้งคำถามในหลายประเด็น เกี่ยวกับการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ โดยเฉพาะเรื่องโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า ยึดได้จากผู้ต้องหาซึ่งนำไปทิ้งว่าเป็นของนักท่องเที่ยวที่ตาย จนต่อมามีการแชร์รูปถ่ายของนักท่องเที่ยวที่ตาย ขณะอยู่ภายในร้านอาหารกับกลุ่มเพื่อน และมีโทรศัพท์มือถือวางอยู่ตรงหน้า และภาพเพื่อนผู้ตาย ซึ่งนำโทรศัพท์มือถือดังกล่าวมามอบให้กับตำรวจ ในวันสอบปากคำหลังเกิดเหตุ มาเปรียบเทียบว่าเป็นโทรศัพท์เครื่องเดียวกัน ทำให้ถูกตั้งประเด็นข้อสงสัยว่าโทรศัพท์มือถือที่ตำรวจยึดไปนั้น เป็นของผู้ตายจริงหรือไม่ พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวพร้อมนำหลักฐานเป็นบันทึกประจำวันและเอกสารบันทึกทรัพย์สินของผู้ตาย มายืนยันว่า โทรศัพท์ที่ยึดได้จากผู้ต้องหาเป็นไอโฟน 4 สีดำ ซึ่งผู้ต้องหาล้วงไปจากกระเป๋าของนายเดวิด ส่วนทรัพสินของ น.ส.ฮันนาห์ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 สีขาว 1 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง และกล้องถ่ายรูป 1 ตัว และได้ส่งมอบคืนให้กับญาติของผู้ตายไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ก.ย. โดยมีเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษเป็นพยาน พร้อมลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ 6 ต.ค. ทางพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือขอรับรายงานผลการตรวจ DNA มาประกอ บสำนวนสั่งฟ้อง และจะส่งให้อัยการในวันที่ 8 ต.ค. เพื่อให้ทางอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป http://www.naewna.com/local/124625
ในวงกลมอาจจะเป็นวัตถุชิ้นเดียวกันจริง แต่น่าจะไม่ใช่โทรศัพท์ ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ไอโฟน สังเกตจากโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ในภาพด้านซ้าย
อ่ะนีี้เป็นข้อมูลที่ตำรวจมีพิรุธแล้วล่ะ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ จ่าเงิบ Addict อันนี้ยาวหน่อยแต่ค่อยๆอ่าน ..ถ้าไม่สมเหตุสมผลก็แย้งได้...ตอนแรกมีคนอธิบายว่า "ที่แรงงานพม่า 2 คนนั้นที่ทำงานใน AC bar ไม่ถูกตรวจ DNA ทั้งที่ควรถูกตรวจสอบแรกๆ เพราะว่านายจ้างไม่ปล่อยมาให้ตรวจเพราะเป็นแรงงานผิดกฏหมาย..." ซึ่งการตรวจ DNA แรงงานต่างด้าวรอบนั้นตรวจ วันที่ "23 กันยายน"และมีต่างด้าวร้าน AC bar ร่วมไปตรวจด้วย ทางเจ้าของอ้างว่าไม่ได้ส่งไปตรวจ...... แต่สิ่งที่จ่าเงิบเห็น ในคลิปข้างล่างนี้นาที... 5.53 http://www.youtube.com/watch?v=a6vS7ip2FfE http://upic.me/show/53000526 จ่าเงิบเห็นคนหน้าคุ้นๆ ที่ใส่เสื้อ AC bar เข้าแถวในตอนที่จะตรวจแรงงานต่างด้าวและ"ไม่สมควรจะอยู่ที่ตรงนั้น" ถ้าอิงจากคำอธิบายนั่น จ่าเงิบขอเคลมว่า "จากหลักฐานภาพเทียบกับคลิปข่าว มีโอกาสที่ผู้ต้องสงสัยชาวพม่าอย่างน้อย 1 คนได้ตรวจ DNA ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนแล้ว" บางคนอาจจะคิดว่าไม่เห็นแปลก " ตำรวจอาจจะตรวจ DNA ช้า แล้วไปตรวจเจอว่าตรงกับ 2 คนนี้ราวๆ วันที่ 2 ก็เป็นได้" ตำรวจจับคนร้ายได้และออกข่าวราวๆวันที่ 3 ตุลาคม ตำรวจอ้างว่าใช้เวลาตรวจราวๆ 24 ชั่วโมง แปลว่า "มีการตรวจ DNA ประมาณวันที่ 1-2 กันยายน แล้วถึงพบว่าตรง หลังจากนั้น 24 ชั่วโมง" http://upic.me/show/53000521 แต่หลังจากการตรวจ DNA ต่างด้าว"ชุดวันที่ 23กันยายน" .....ประมาณ 25-29 กันยายน ได้มีการระบุข่าวออกมาว่า การตรวจผล DNA แรงงานต่างด้าวชุดวันที่ 23 กันยายน "ไม่ตรง" http://upic.me/show/53000538 ถ้าบุคคลในภาพล่างนั้นเป็นแรงงานชาวพม่าคนเดียวกันกับที่ถูกจับ แปลว่า คนงานพม่าคนนี้จะถูกตรวจ DNA ถึง 2 ครั้ง ....และผลการตรวจDNA จะขัดแย้งกันเอง คือวันที่ 23 กันยายน และผลออกมาคือ "ไม่ตรง" และราวๆวันที่ 1 ตุลาคมและผลออกมาคือ "ตรง" จนถูกจับกุม.... หลักฐาน DNA ของตำรวจจะมีปัญหาความน่าเชื่อถือทันที.... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากรูปผมก็ยังลังเลอยู่นะว่าคนขวาใช่หรือไม่ใช่คนเดียวกันกับที่วง ยิ่งเทียบกับรูปนี้ยิ่งไม่เหมือนเลยครับ... http://www.bangkokbiznews.com/home/.../20141003/608974/ผู้ต้องหาฆ่า2นทท.อังกฤษ.html
ข้อมูลตรงนี้ผมสงสัยว่าจริงหรือไม่ 1. สองคนนี้ไม่ได้มาตรวจเพราะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย (อันนี้อนุมานว่าจริงก็ได้ เชื่อตำรวจซักครั้ง) 2. สองคนนี้ทำงานที่ AC บาร์ (อันนี้ใครช่วยยืนยันหน่อย) คำถามสำคัญ ตำรวจดำเนินคดีกับนายจ้างข้อหาจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายหรือยัง โทษปรับโหดนะครับข้อหานี้
ผมว่าคดีนี้คงต้องรอให้ตำรวจเปิดหลักฐานมากว่านี้แล้วค่อยมาดูกันอีกทีดีกว่า เพราะเท่าที่ดูจากเพจ CSI หลังๆมโนเกินไป จับแพะชนแกะเกินกว่าจะใช้คำว่าสันนิฐาน ลองไปดูข้อมูลเก่าๆที่เค้าลงไว้ เรื่องอื่นๆด้วย มีแต่ตรงข้ามกับทหารทั้งนั้น ดิสเครดิตมามากมาย พอพลาดแล้วก็ไม่ค่อยจะขอโทษหรือแก้ข้อมูล ในคดีปัจจุบันลองใครไปแย้งในเพจนั้นสิ โดนพวกแฟนคลับด่ายับแน่ๆ
วันนี้ พรุ่งนี้ ก็น่าจะเห็นคำฟ้องแล้วหล่ะค่ะ..รอดูรายละเอียด หลักฐาน จากคำฟ้อง ก็น่าจะช่วยคลายจุดที่น่าสงสัยได้เกือบทั้งหมดหล่ะค่ะ.. ส่วนเรื่อง DNA ที่ว่าเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ครบหรือไม่ครบ ประเด็นนี้คิดว่า เจ้าหน้าที่คงไม่กล้าเสี่ยง เพราะทางครอบครัวผู้เสียชิีวิต อาจจะมีการตรวจพิสูจน์อีกครั้งที่ประเทศอังกฤษ รวมไปถึงการตรวจสอบ ร่องรอยและลักษณะบาดแผล..
ข้อมูลจากเพจใหม่ ดูน่าสนใจและไม่มโนจนเกินไป เนื่องจากมีการปะติดปะต่อเรื่องราวได้ดีจากหลักฐานที่เค้ามี The Dark Knights ll คร่าวๆก็คือเป็นไปตามที่เพื่อนของผู้ตายเคยให้ข่าว และโพสต์ไว้ในเฟซก่อนที่จะลบออกไป เกี่ยวกับคดีนี้ในช่วงแรก " หนุ่มสกอต แฉมาเฟียเกาะเต่า โยงสังหารสองฝรั่งผู้ดี หนุ่มสกอต เผยเบาะแสใหม่ คดีฆ่าโหด สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า โดนสองหนุ่มไทยสงสัยอาจเป็นกลุ่มคนร้ายตามไล่ล่า หลังขู่ให้เขาไปแขวนคอตาย จนต้องหลบซ่อนตัวทั้งคืน และรีบหนีออกจากเกาะเต่า ชี้แก๊งมาเฟียบนเกาะต้องการโยนบาปให้ชาวตะวันตกเป็น ‘แพะ’ แทนคนในท้องถิ่น เมื่อวันที่ 23 ก.ย. เว็บไซต์ของ นสพ.เดลี่ เมล์ ในอังกฤษ รายงานความคืบหน้า คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ น.ส.ฮานนาห์ วิเธอร์ริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่หาดทรายรีบนเกาะเต่า สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังใน อ. เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ของไทย เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ว่า ได้รับเบาะแสใหม่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนักท่องเที่ยวทั้งสองถูกฆ่าตาย เมื่อ นายฌอน แมคแอนนา หนุ่มชาวสกอต วัย 25 ปี ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดระทึกของเขาลงในเฟซบุ๊ก ว่า เขาได้ถูกชายไทย 2 คนตามไล่ล่า จนทำให้ต้องรีบหลบหนีออกจากเกาะเต่าด้วยความหวาดกลัว เดลี่ เมล์ รายงานว่า นายฌอน แมคแอนนา จากเมืองชอตต์ ในประเทศสกอตแลนด์ ได้หนีออกมาจากเกาะเต่า พร้อมกับอ้างว่ามีชายไทย 2 คน ซึ่งเขาสงสัยว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ลงมือฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ สัปดาห์ก่อน ได้ตามไล่ล่าเขา และต้องการให้เขาตายด้วย จนทำให้นายแมคแอนนา ต้องโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือ ระหว่างต้องหลบซ่อนชายไทยทั้งสองตลอดทั้งคืนอยู่ที่ด้านหลังเคาน์เตอร์เก็บเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งบนเกาะ พร้อมกันนั้น ยังได้เขียนข้อความลงในเฟซบุ๊กตัวเองด้วย ว่า ‘มาเฟียคนไทยกำลังพยายามจะฆ่าผม, โปรดช่วยผมด้วย’ เดลี่ เมล์ รายงานว่า นายแมคแอนนา ได้เดินทางมาถึงเกาะเต่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยได้ทำงานและเล่นกีตาร์ร้องเพลงที่ผับแห่งหนึ่งบนเกาะ อีกทั้งยัง เคยพบกับนายเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า สองสามครั้ง และคุยกันผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์ก โดยแมคแอนนาเล่าว่า ขณะที่เขาทำงานที่ผับอยู่นั้น ได้มีหนุ่มไทยคนหนึ่งเริ่มเข้ามาซักถามตนเอง เนื่องจากเห็นว่าเขารู้จักกับเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ตาย อีกทั้งหนุ่มไทยยังเคยได้ยินชื่อเขาด้วย นายแมคแอนนา เล่าว่า ในคืนนั้น เขาดื่มเหล้าเข้าไปนิดหน่อย และเริ่มตอบคำถามของหนุ่มไทยทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องราวทั่วๆ ไป รวมทั้งคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เพียงแค่นั้นชายไทยทั้งสองได้พูดกับเขาว่า ‘มันคือมึง คนที่ฆ่าพวกเขา มึงทำให้คนทั้งสองต้องตายด้วยมือของมึง พวกกูรู้ว่าคนร้ายคือมึง’ แมคแอนนาเล่า จากนั้น แมคแอนนา ยังบอกว่า ชายไทยทั้งสองยังขู่ว่า ‘มึงไปแขวนคอตายซะในคืนนี้ และพวกกูกำลังจะดูมึงแขวนคอตาย มึงจะตายในคืนนี้ ถ้ามึงไม่แขวนคอตายด้วยตัวเอง พวกกูจะช่วยมึง มึงได้ฆ่าคนสองคนนั้นตายด้วยมือของมึงแล้ว’ แมคแอนนา เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อเขาได้ยินชายไทยสองคนพูดเช่นนั้น จึงได้รีบวิ่งหนีทันที แต่คนทั้งสองไม่ได้ยิงปืนใส่เขาแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการจะลากเขาขึ้นไปบนเขา เพื่อจับแขวนคอตาย และจัดฉากให้เหมือนกับว่า เขาฆ่าตัวตายเอง เดลี่ เมล์ รายงานว่า คนไทยทั้ง 2 ได้ตามไล่ล่า แมคแอนนา ไปถึงร้านค้าแห่งหนึ่ง แต่หนุ่มสกอตได้ไปหลบซ่อนที่ด้านหลังเคาน์เตอร์เก็บเงิน และจากนั้นจึงได้เขียนข้อความลงในเฟซบุ๊กผ่านทางสมาร์ทโฟน และยังได้ถ่ายรูปหนุ่มไทยทั้งคู่ พร้อมกับโหลดภาพลงในเฟซบุ๊กไว้ด้วย โดยแมคแอนนายังเขียนข้อความว่า ‘ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ขอให้ทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือของคนพวกนี้’ ขณะเดียวกัน แมคแอนนายังได้โทรศัพท์ไปถึง ‘ฟรานเซสกา’ แฟนสาวที่อยู่ในประเทศอิตาลี พร้อมกับเล่าให้เธอฟังถึงเรื่องราวที่เขาเจอ ซึ่งเขาเชื่อว่า ชายไทยทั้งคู่ต้องการหา ‘แพะรับบาป’ โดยแมคแอนนายังเชื่อว่า ทั้งสองอาจจะรู้ว่าใครคือฆาตกร อีกทั้งยังต้องการให้ชาวตะวันตก มาเป็น ‘แพะ’ เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้คนร้ายเป็น ‘คนในท้องถิ่น’ แมคแอนนา ยังบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาช่วยคุ้มครองความปลอดภัยให้เขาที่เกสต์เฮาส์ที่เขาพักอยู่บนเกาะเต่า หลังจากชายทั้งสองได้หนีไปแล้ว แต่ด้วยความหวาดกลัวว่าคนเหล่านี้อาจหวนกลับมาอีก แมคแอนนาจึงได้หลบหนีเป็นคืนที่สอง ด้วยการไปซ่อนในป่า จนถึงรุ่งเช้า และในระหว่างนั้น ยังได้โทรศัพท์ไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษในประเทศไทยด้วย เดลี่ เมล์ ยังรายงานด้วยว่า หนุ่มสกอตรายนี้ ยังได้แสดงความเห็นด้วยว่า เขาไม่คิดว่า นางสาวฮานนาห์ วิเธอร์ริดจ์ อยู่กับนายเดวิด มิลเลอร์ ในช่วงที่เธอถูกทำร้ายและโดนข่มขืน แต่เดวิดได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยเธอ จนทำให้เขาถูกฆ่าตายไปด้วย นอกจากนั้น นายแมคแอนนายังเปิดเผยกับสื่ออังกฤษว่า ไม่เชื่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยไม่มีโอกาสที่จะติดตามล่าหาตัวฆาตกร พร้อมกับบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยทำงานช้ามาก และไม่ได้มีการปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุทันที โดยอนุญาตให้ผู้คนเข้าไปในบริเวณนั้น จนอาจทำลายหลักฐานที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ " http://www.thairath.co.th/content/452131
ลูกศรชี้บุหรี่ LM เพื่อ? ร้านค้ามันก็เก็บแบบนี้ละ ที่สำคัญภาพไล่ล่านี่มันเกิดก่อนหรือหลังฆาตกรรม ถึงชี้บุหรี่ แค่นี้็ไม่บริสุทธิ์ใจแล้วในการทำข้อมูล
