วันนี้( 8กรกฎาคม) เว็ปไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เผยแพร่ข่าวเรื่อง "อุทาหรณ์ ! ทุจริตเงิน 9.50 บาท จะรอดไหมน่ะ" โดยระบุถึง กรณีที่มีผู้ร้องมาที่คณะกรรมการป.ป.ช.คดีหมายเลขดำที่ 52920672 ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ช.อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542 (แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2550 และ (ฉบับที่2) พ.ศ. 2554) ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและให้รายงาน ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบต่อไป ล่าสุดพนักงานสอบสวนยังรายงานด้วยว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 มีความเห็นสั่งฟ้องนายสมชาย จ่างมณี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต มาตรา 157ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดโดยทุจริต และมาตรา 90 การกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทำผิด แต่เนื่องจากนายสมชาย จ่างมณี ผู้ต้องหาหลบหนี ศาลอาญากรุงเทพใต้จึงได้ออกหมายจับ ที่ จ.1076/2551 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 อายุความ 20 ปี นับแต่วันที่ 20กุมภาพันธ์ 2551 ด้านนายทวิชาติ นิลกาญจน์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การที่สำนักประชาสัมพันธ์ได้นำเสนอข่าวที่สามารถนำมาเป็นเกร็ดได้ พยายามคัดคดีที่หลายคนอาจเห็นว่าเรื่องนั้นไม่น่าเป็นไปได้แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพราะต้องการสื่อให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นคำร้องเรียน คดีเล็ก หรือคดีใหญ่ ถ้าผู้ร้องเรียนร้องเข้ามาที่ป.ป.ช. คณะกรรมการป.ป.ช.ต้องทำทุกเรื่องปฏิเสธไม่ได้ และเรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ว่า แม้ว่าจะเป็นการทุจริตเงินจำนวนน้อยความผิดก็เท่ากับการโกงเงินจำนวนมากเช่นกันตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามหากพบคดีในทำนองนี้อีกจะได้นำมาเผยแพร่ให้ทราบต่อไป http://www.thaipost.net/?q=คดีอุทาหรณ์ปปชฟันโกงตั๋วรถเมล์950บาท-สตชออกหมายจับ http://www.nacc.go.th/main.php?filename=index ............................................................................ ในยุครัฐบาล คสช.นี้ บทบาทของหน่วยงานอิสระค่อนข้างมีบทบาทที่เด่นมากโดยเฉพาะ ปปช.เท่าที่ติดตาม มีเป็นพันคดีที่ดำเนินการอยู่ น่าเสียดายที่ยุคสมัยรัฐบาลที่ผ่านๆมาโดยนักการเมืองมักไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่ แต่ข่าวดีคือ งบประมาณปี 59 จะมีการจัดสรรงบฯให้องค์กรอิสระเช่น ปปช. มากขึ้น น่าจะประมาณ 1 พันล้านบาท จากเดิมที่เคยถูกตัดงบออกในยุคยิ่งลักษณ์เหลือเพียง 300 ล้านบาท
แค่เอาตั๋วรถเมล์ราคา 9.50 บาท ไปจำหน่ายให้ผู้โดยสารใหม่อีกครั้ง เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 แล้วคดียังงี้จะขนาดไหน "เจาะทรัพย์สิน“ยิ่งลักษณ์”ไร้เงา“อภิมหานาฬิกา” 2.5 ล. ก่อน ป.ป.ช.สรุปคดี" http://www.isranews.org/เรื่องเด่น-สำนักข่าวอิศรา/item/39222-yingluck_942.html
เงิน 9 บาท ตั้งแต่ปี 51 แล้วโกงมหาศาลของนักการเมือง ที่ซับซ้อนมากกว่า คนไทยจะได้เห็นนักการเมืองติดคุก ชดใช้เงินที่โกงหรือ ที่ผมเห็น นักการเมืองอย่างพรรคเผาไทยมันรู้แกวตรงนี้ ไม่ว่าจะไอ้พร้อมพัง ไอ้เรืองเก๊ มันก็ยื่นเรื่องให้ ปปช ทำเรื่องขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง ให้เยอะๆ คดีที่ซับซ้อนมากๆ ของพวกมัน ชาติหน้าคงได้ทำเสร็จ
จริงๆแล้ว ปปช.ทำงานเรื่องร้องเรียนต่างๆทุกเรื่องมาตลอดครับ แต่ไม่ค่อยมีสื่อฯให้ความสนใจ ทั้งๆที่มีการอัพเดทความเคลื่อนไหวเรื่องคดีต่างๆที่หน้าเว็บไซด์ มาในยุคนี้ที่มีการจัดการเรื่องทุจริตมากขึ้นจนทำให้มีสื่อฯมานำเสนอข่าว หากรัฐฯให้งบประมาณที่มากขึ้นเชื่อว่าจะสามารถจัดการเรื่องทุจริตให้หายไปจากประเทศไทยได้มาก