อึ้ง!พบศพชายห้อยสายนกหวีด ถูกฆ่ามัดมือมัดเท้ายัดกระสอบ โยนทิ้งน้ำเจ้าพระยา วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 21:59:45 น. เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ทรงเกียรติ เดชบริพันธ์ พงส.ผนพ. สน.บวรมงคล ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกฆ่ายัดกระสอบลอยอืดภายในแม่เจ้าพระยามาติดอยู่ข้าง โรงแรมริเวอร์ไซค์ ราชวิถี21 (ซอยวัดภคินีนาถ) ถ.ราชวิถี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 พ.ต.อ.เมธี รักพันธ์ รอง ผบก.น.7 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุริมท่าน้ำติดกับโรงแรมดังกล่าว พบกระสอบป่านลอยมาติดตลิ่ง เปิดดูด้านในเป็นศพชาย อายุประมาณ 35-40 ปี ผิวพรรณดำแดง ศีรษะโล้น ส่วนสูงประมาณ 160 เซนติเมตร ใส่เสื้อยึดคอกลมสีน้ำตาล มีข้อความบนหน้าอกเสื้อ "สงครามครั้งสุดท้าย 9:39 น. 9 ธันวาคม 56 เสรีชนกับรัฐบาลเส็งเคร็ง" สวมกางเกงสเลคขายาวสีดำ สวมทับกางเกงฟุตบอลสีดำ และกางเกงใน สวมถุงเท้าสีดำ ทั้งนี้ ที่คอห้อยสายนกหวีดลายธงชาติ ข้อมือซ้ายสวมสายรัดข้อมือลายธงชาติ สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลัง และมัดเท้าด้วยเชือกไนล่อนสีเขียว ที่ศีรษะและใบหน้ามีรอยคล้ายถูกตีเป็นแผลเหวอะหวะ ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วัน จากการสอบถามคนในละแวกใกล้เคียงก็ไม่มีคนแจ้งหาย และไม่มีใครรู้จักว่าผู้ตายเป็นใคร สอบถามนายประสพคิด หนูรัตน์ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายได้พบเห็นกระสอบดังกล่าวลอยมาติดท่าน้ำของโรงแรม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเป็นตู้ลิ้นชักลอยน้ำมา ก่อนจะลองใช้ไม้เขี่ยมาไว้ที่ริมตลิ่ง และพบว่า มีคราบเลือดติดอยู่ที่กระสอบ และลองเปิดดูก็พบศีรษะคน จึงแน่ใจว่าเป็นศพคนตาย ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ศพชายดังกล่าวน่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น โดยกลุ่มฆาตกรคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 คน จับผู้ตายมัดมือมัดเท้า ก่อนทุบหัวซ้ำ และนำผ้าใบมาห่อ ก่อนยัดใส่กระสอบป่านอีกชั้น จากนั้นจึงนำไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่ออำพรางคดี แล้วศพจึงลอยมาเกยตื้น ซึ่งจะมีการสอบถามเรื่องน้ำขึ้นน้ำลง เพื่อดูว่าศพได้ลอยมาจากมาฝั่งไหนในละแวกที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เกิดจากเรื่องใดกันแน่ แม้สภาพผู้ตายจะมีการแต่งกายและห้อยนกหวีด ซึ่งสื่อถึงผู้ร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. ทั้งนี้ ต้องทราบให้ได้ก่อนว่าผู้ตายเป็นใคร จึงขยายผลหาเบาะแสการตายว่า ใครเป็นคนร้ายต่อไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ออกหาข่าวและเบาะแสของชาย รายนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1393415406 ฆาตกรรม ชายใส่เสื้อ กปปส. ยิงทิ้งหนุ่มใส่เสื้อการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ทิ้งศพริมถนนกำแพงเพชร ใกล้วัดเสมียนนารี เผยโดนรุมซ้อมก่อนจ่อยิงทะลุหัวใจ 4 นัด จนสิ้นใจตาย.. เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 28 มกราคม 2557 ร.ต.ท.พีรพัฒน์ สุทธเสนา ร้อยเวร สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุพบศพคนถูกยิงเสียชีวิต ริมถนนกำแพงเพชร 6 เลยวัดเสมียนนารีมาเล็กน้อย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อไปถึงพบศพชายอายุประมาณ 30 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณหัวใจ 4 นัด นัดสิ้นใจตายอย่างน่าสยดสยอง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว4-5ชม. โดยสภาพศพผู้ตายสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ของการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ข้อมือขวา ใส่สายรัดข้อมือผ้าลายธงชาติ โดยที่ข้อมือ-ข้อเท้า มีรอยถูกมัดไว้ด้วย ส่วนสภาพร่างกายบอบช้ำเนื่องจากโดนทำร้าย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายทรมานผู้ตายก่อนใช้ปืนยิงทิ้งในระยะเผาขน แล้วนำศพมาทิ้งไว้ในจุดเปลี่ยวใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งกำลังตรวจสอบขยายผลว่า ผู้ตายเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มกปปส.หรือไม่อย่างไร http://www.chaoprayanews.com/2014/01/28/227994/ ฆ่าโหด! พบศพชายนิรนามถ่วงน้ำคลองผดุงกรุงเกษมใกล้ม็อบ กปท. อาชญากรรม 19 พฤษภาคม 2014 เวลา 12:10 น. tannysoft พบศพชายนิรนามถูกแทงยัดใส่ห่อผ้า ใบมัดหินถ่วงน้ำในคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้จุดชุมนุมของกลุ่ม กปท. ด้านตำรวจเร่งสืบสวนหาเบาะแสผู้เสียชีวิตคนดังกล่าว พบศพชายนิรนามภายในคลองผดุงกรุงเกษม อยู่บริเวณด้านหลังร้านอาหารสยามเฮาส์ ถ.พระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร โดยมีผ้าใบสีฟ้าห่อหุ้มสิ่งของขนาดตัวมนุษย์ ผูกปิดหัวท้ายด้วยเชือกไนลอนสีเขียว และมีก้อนอิฐตัวหนอนผูกถ่วงน้ำหนักไว้ 1 ก้อน ซึ่งตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้สั่งการให้เจ้าหน้ากู้ภัยนำศพขึ้นมาตรวจสอบ พบเป็นศพเพศชาย อายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ อยู่ในสภาพเสียชีวิตในท่าเก็บคองอเข่า มีกระสอบทรายกั้นแนวบังเกอร์ 2 ถุง อิฐตัวหนอน 2 ก้อน และริบบิ้นธงชาติ 1 เส้น ตรวจสอบสภาพศพพบมีบาดแผลกรามซ้ายหัก บริเวณชายโครงซ้ายถูกแทงด้วยของมีดคม 6 แผล คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน ขณะที่พนักงานของร้านอาหารสยามเฮ้าท์ เล่าว่า พบถุงดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พ.ค. แต่ไม่ได้สนใจอะไรกระทั่งเมื่อวานนี้ (18พ.ค.) มีกลิ่นเหม็นโชยออกมาอย่างรุนแรง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาตรวจสอบ ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เพราะไม่พบเอกสารสำคัญ แต่ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับเร่งสอบปากคำพยานบุคคลและหาพยานแวดล้อมภายในที่เกิดเหตุทั้งหมด โดยควบคู่ไปกับการตรวจสอบการแจ้งบุคคลหายในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนให้ทราบเสียก่อนว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร แล้วค่อยสืบสวนหาประเด็นการตายและตัวคนร้ายต่อไป ส่วนเรื่องที่ผู้เสียชีวิตจะเป็นผู้ชุมนุมใน กปปส. หรือไม่นั้นต้องทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง http://www.springnews.co.th/crime/88444 ตร.พบคลิปหลักฐาน โยนศพปริศนาทิ้งน้ำสะพานพระราม 8 วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 17:22 น. ข่าวสดออนไลน์ ....ด้านพ.ต.อ.เมธี กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของนครบาล คดีแรก เป็นคดีพบศพชายนิรนามถูกยิงเสียชีวิตและนำศพมาทิ้งไว้ที่ริมถนนกำแพงเพชร6 สวมเสื้อสัญลักษณ์คล้ายผู้ชุมนุม กปปส. ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าวคือ นายบุญเที่ยง คำอิ่ม อายุ 41 ปี เป็นชาว จ.ชัยภูมิ คดีที่ 2 คดีชายนิรนามถูกฆ่ายัดกระสอบและนำศพมาโยนทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยศพลอยไปติดใกล้โรงเเรมริเวอร์ไซด์ พบว่าสวมเสื้อสัญลักษณ์คล้ายกับผู้ชุมนุมกปปส.เช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่พิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าเป็นใคร มีเพียงบุคคลที่หน้าตาคล้าย เมื่อตรวจสอบไปพบว่ายังมีชีวิตอยู่ และคดีที่ 3 เป็นคดี รปภ.ถูกทำร้ายร่างกายและยัดใส่กระสอบไปโยนทิ้งแม่น้ำบางปะกง โชคดีมีพลเมืองดีผ่านมาเห็น จึงรอดชีวิต พ.ต.อ.เมธี กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 คดีมีความคล้ายคลึงกันหลายประการ 1.ถูกทำร้ายร่างกายเหมือนกัน 2.ถูกมัดมือมัดเท้า 3.เสื้อที่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บใส่ ไม่ใช่เสื้อของผู้ตาย แต่เป็นเสื้อที่คนร้ายนำมาใส่ให้ ซึ่งนายยืม รปภ.ที่รอดชีวิต เป็นคนให้ปากคำกับตำรวจว่าหลังจากถูกทำร้ายก็ถูกถอดเสื้อออกไปและมีการนำเสื้ออีกตัวมาใส่ให้ 4.มีสายข้อมือลายธงชาติสวมอยู่ที่ข้อมือ และสายนกหวีดคล้องที่คอ 5.จากการตรวจสอบประวัติของนายบุญเที่ยงและนายยืมพบว่าเคยเป็นการ์ดของนปช.6.อำพรางศพโดยการนำไปโยนทิ้งน้ำในช่วงกลางดึกและสุดท้ายเหยื่อทั้งสามรายเป็นเพศชายเหมือนกันซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อมโยงกันของ 3 คดี “นอกจากนี้ยังมีภาพสำคัญที่จะนำมาเป็นเบาะแส เป็นภาพชายกลุ่มหนึ่งขับรถต้องสงสัย นำศพไปโยนทิ้งบนสะพานพระราม 8 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีการปิดสะพานพระราม 8 ทั้งหัวและท้าย ไม่ให้รถยนต์ขึ้นไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครทำความสะอาด ก่อนจะเปิดให้ใช้สะพาน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปปิดถนนบนสะพานพระราม 8 สำหรับรถคันดังกล่าวเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีชายสวมไอ้โม่ง 4 คนนั่งอยู่ในรถ โดยนั่งด้านหน้า 2 คน และหลัง 2 คน ขับมุ่งหน้ามาจากแยก จปร. จากนั้นได้เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ กทม. ก่อนจะขับรถยนต์ขึ้นไปบนสะพานมุ่งหน้าฝั่งธนบุรี แต่เมื่อถึงกลางสะพานได้กลับรถคล้ายจะลงสะพาน แต่ปรากฏว่าคนขับได้จอดรถพร้อมกับโยนวัตถุบางอย่างลงมาบนขอบสะพานซึ่งเป็นทางเดิน จากนั้นมีชาย 2 คนลงมาช่วยกันยกวัตถุดังกล่าวโยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะขับรถลงสะพานและยิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด แล้วหลบหนีไปทางแยกจปร..... http://www.khaosod.co.th/view_newsonline...&subcatid=
กำลังสงสัยว่าโพสต์เพื่ออะไร เหตุการณ์เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว จะเร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้รื้อคดีเหรอ ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมง่ายกว่าไหม ว่าแต่หลักฐานเพิ่มเติมมีไหมเผื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ขำดี หนีเปลี่ยนล็อคอินที่เท่าไหร่แล้ว ผู้พิชิต สนามบิน005 ชื่อโคตรเห่ย (จริงก็เห่ยทุกชื่อ) แล้วไงครับไม่ทราบประวัติคนตายไม่รู้ตัวคนร้าย งั้นผมก็บอกได้ว่าผู้พิชิต สนามบิน005เป็นคนฆ่าแล้วป้ายสีให้คนอื่นได้ซินะ
เรื่องพรางมีอีกเยอะไม่อยากให้ดูรูป มีฆาตรกรรมแดงลายพรางตาย ลูกได้ดี มีมะเร็งตายอำพราง มะเร็งตายหรืออุบัติเหตุรถชน มีมะเร็งแกล้งตายอำพราง ไม่รู้จริงหรือเปล่าแต่ ขอบริจาค มีธุรกรรมอำพราง ตายนอกคุกตายในคุก ใกล้ตายต่างประเทศ ................เยอะจัง สาเหตุที่อำพรางไม่รู้ พฤติกรรมน่าอายอะไร ไม่เปิดเผยตรงไปตรงมา ถึงถูกหลอกมาตาย หรืออุบาทว์บาปหนัก เขาว่า มะเร็งเรียกหาชดใช้กรรม ประชาธิปไตยมันเป็นยังไงก็บอกกันดีๆตรงๆ จะมาตายกันก็ประชาธิปไตยอำพรางนี่ จะตายก็ยังโง่อยู่
อีฟ้า ม็อบ กปปส ที่เที่ยวไล่จับคนมามัดมือไพล่หลัง ใส่ร้าย และทำให้หาย ... โปรดอย่า “รอคอย” แต่จง “ติดตาม” โพสต์ต่อจากนี้ไป ด้วยใจระทึกในดวงฤทัยพลัน !!