ข่าวนี้เสนอในแง่ลบ ----------------------------------------------------------------------------------- จับตาโครงการ ไทย ไดมอนด์ซิตี้ ความเจริญก้าวหน้า คือ การขายประเทศให้กับต่างชาติ ทั่วไป Nov 12, 2015 ประเทศไทย : จับตาโครงการ “ไทย ไดมอนด์ซิตี้”…… เมื่อมีคนไทยกลุ่มหนึ่งคิดว่า “ความเจริญก้าวหน้า” คือ การขายประเทศให้กับต่างชาติ…. ดูเหมือนว่าโครงการนี้จะเป็นการหลอกลวงขนาดใหญ่ ที่เจ้าของคิดว่าพวกเขาจะสร้างเมืองแบบดูไบในประเทศไทย และส่งต่อกรรมสิทธิ์ให้กับต่างชาติที่มาลงทุน ซึ่งพูดง่ายๆก็คือ การเปลี่ยนพื้นที่ขนาดใหญ่ของแก่งกระจานจำนวน 35,000 ไร่ ให้เป็นห้องสุขาและสนามเด็กเล่นให้กับต่างชาติมาปลดทุกข์บนพื้นที่สมบูรณ์แห่งนี้ เอาจริงๆให้ตายเถอะ ถ้าคุณมีเงินมากขนาดนี้ แต่ไม่มีจินตนาการหรือความสามารถในการใช้งานจริงเพื่อประโยชน์ของประเทศไทยเองและคุณเสนอประมูลมันออกไปให้ชาวต่างชาติ คุณสมควรไปอยู่ในคุกและทรัพย์สินที่มีอยู่ควรตกเป็นของแผ่นดินเพื่อให้คนทีมีความสามารถมาทำทรัพย์สินนี้ให้เกิดประโยชน์แต่สาธาณะเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่มาเพื่อประโยชน์ตัวเองและชาวต่างชาติแบบนี้ และตอนนี้มีคนไทยที่ต้องการทำโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้วยโมเดลนี้? โดยไทยไดมอนซิตี้ ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมบริการแห่งแรกของไทย ที่ได้รับการอนุมัติจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เมื่อปี 2552 พื้นที่รวม 35,000 ไร่ เป็นพื้นที่นักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ 4 ด้าน คือ 1.บุคคลหรือนิติบุคคลชาวต่างชาติที่มาลงทุนในโครงการ สามารถถือครองที่ดินได้ 100% 2.วีซ่าระยะยาว สำหรับนักลงทุนและครอบครัวที่พักอาศัยระยะยาวและลูกจ้างชาวต่างชาติ 3.การยกเว้นภาษีภายใต้เงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 4.สิทธิในการโอนเงินตราต่างประเทศกลับสู่ประเทศของตน ทั้งเงินต้นเพื่อการดำเนินธุรกิจ เงินปันผลและกำไร ซึ่งโครงการนี้ก็เหมือนกับ ความร่วมมือ TPP และอีกหลายโครงการที่จะนำคนไทยไปสู่ความตายอย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆและผล กระทบนั้นจะยังคงอยู่ ซึ่งนายทุนเหล่านี้ต้องการลากประเทศไทยมาสู่หน้าผาแห่งความตายเพราะความโลภของพวกเขา http://thaiinfonet.com/ทั่วไป/ไทย-ไดมอนด์ซิตี้/
ไม่รู้จักโครงการนี้นะครับ แต่ว่าเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษมีแค่ 5 จังหวัดเท่านั้น ซึ่งไม่มีจังหวัดเพชรบุรีอยู่ในนั้น อันนี้เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ http://www.nesdb.go.th/esdps/ประกาศ_กนพ1-2558.pdf
ข่าวนี้เสนอในแง่บวก ------------------------------------------------------------------ “โอฬาร อัศวฤทธิกุล” ผู้เจียระไนเพชร “Thai Diamond City” ...สร้างนิคมฯ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม คุณโอฬาร อัศวฤทธิกุล ประธานบริษัท เพชรไทย จำกัด ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมบริการ ไทยไดมอนด์ ซิตี้ เพชรบุรี และไทยไดมอนด์ แลนด์ แก่งกระจาน รีสอร์ทแอนด์คันทรีคลับ ซึ่งถือเป็นนิคมฯ บริการแห่งแรกของไทย ในวันนี้ผู้บริหารคนนี้ยังดูแข็งแรง สดใส กระฉับกระเฉง แม้อายุจะล่วงเลยมาถึง 75 ปีแล้ว เขาได้ใช้เวลากว่า 34 ปี ในการพัฒนาพื้นที่ดินกว่า 3,500 ไร่ ค่อยๆ เจียระไนพื้นที่แห่งนี้จนกระทั่งกลายเป็นเพชรน้ำงามที่มีชื่อเสียงอันโด่งดังในประเทศไทย นับแต่เมื่อครั้งแรกปี พ.ศ. 2523 คุณโอฬาร อัศวฤทธิกุลและครอบครัว ได้เดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ขณะที่เดินทางกลับ ได้เห็นผืนแผ่นดินที่เป็นสีเขียวกว้างไกลสุดสายตา แม้บางส่วนจะเป็นไร่สับปะรด แต่ยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่นที่แข็งแกร่งและมั่นคง จากเนินดิน และภูเขาน้อยใหญ่เรียงตัวสลับกัน จนทำให้คุณโอฬารอดเปรยออกมาไม่ได้ว่า“ที่แถวนี้ถ้าใครจะขายให้เราสักหมื่นไร่ ก็จะเอา” ในปีต่อมา (พ.ศ.2524) คุณพานิช สัมภาวะคุปต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.เพรชบุรี ที่คุณโอฬารรู้จักและคุ้นเคยกันดี แนะนำที่ดินในจังหวัดเพชรบุรีให้แปลงหนึ่งประมาณหมื่นไร่ เพราะท่านทราบดีว่าคุณโอฬารกำลังมองหาที่ดิน เพื่อสร้างเมืองใหม่ที่สมบูรณ์พร้อมทั้งภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ทัศนียภาพที่งดงาม การเดินทางจากเมืองหลวงสะดวกและไม่ไกล และสภาพแวดล้อมที่ดี สำหรับครอบครัวที่ต้องการมีบ้านให้บิดามารดา รวมถึงญาติสนิท มิตรสหายมาพักผ่อน คุณโอฬารได้ตัดสินใจเดินทางไปดูที่ดินตามที่ได้รับคำแนะนำ และเพิ่งรู้ว่าที่ดินผืนนี้คือผืนดินที่ตนเองเคยสนใจเมื่อปีก่อน นับเป็นความบังเอิญที่เหลือเชื่อและถือเป็นความโชคดีของคุณโอฬารโดยแท้กับที่ดินแปลงนี้ “ผมไม่รอช้ารีบศึกษา วิเคราะห์ และพิจารณาที่ดินนี้อย่างละเอียดรอบคอบ และตัดสินใจซื้อที่ดินผืนใหญ่นี้รวบรวมได้ประมาณ16,000 ไร่ (หนึ่งหมื่นหกพันไร่) ซึ่งเป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และอีก 6 ปีต่อมา ได้รวบรวมที่ดินเพิ่มจนครบ 35,000 ไร่ โดยมีเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่เคารพนับถือหลายท่านขอเข้าร่วมทุนและร่วมถือหุ้น จากเงินทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เพิ่มทุนเป็น 600 ล้านบาท ในนามบริษัท แก่งกระจานคันทรี่คลับ จำกัด และบริษัท เพชรไทยพัฒนา จำกัด (พ.ศ.2532) ซึ่งใช้เวลาถึง 8 ปี และนับเป็นโครงการฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” การวางโครงสร้างและแผนผังพื้นที่ดินทั้งหมดได้มอบหมายให้ อาจารย์เดชา บุญค้ำ และทีมงานวางแผนมือหนึ่งของประเทศจากคณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้รับผิดชอบ ในด้านสนามกอล์ฟทั้ง 3 สนาม 54 หลุม ซึ่งสมาชิกฯ ที่ซื้อที่ดินจะได้รับสิทธิตีกอล์ฟฟรีตลอดชีพ โดยได้มอบหมายให้นักออกแบบสนามกอล์ฟมืออาชีพของโลกจาก 3 ทวีป มาสร้างสรรค์ความท้าทายดังนี้ MR.JACK NICKLAUS โปรกอล์ฟจากทวีปอเมริกา MR.GREG NORMAN โปรกอล์ฟจากทวีปออสเตรเลีย และคุณเชิด บุญยะรัตเวช นักออกแบบชาวไทยจากทวีปเอเชีย “เมืองใหม่” เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม ผู้สื่อข่าวนิตยสาร ASEAN COMMERCE ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “คุณโอฬาร” ถึงความคืบหน้าและแผนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบริการ Thai Diamond City ซึ่งแผนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบริการ ในพื้นที่ราวกว่า 1,000 ไร่ ได้พัฒนาเป็นส่วนของ Pink Diamond Zone มีเป้าหมายจะพัฒนาให้เป็นศูนย์สุขภาพ ศูนย์สัมมนา และศูนย์ที่พักอาศัยรองรับผู้สูงอายุ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ในนิคมจะทยอยพัฒนาต่อเนื่องไป ได้แก่ พื้นที่ส่วน Yellow & Green Diamond Zone มีเป้าหมายพัฒนาเป็นนิคมที่รองรับการค้าและบริการ ขณะที่พื้นที่ส่วน Blue Diamond Zone จะพัฒนาเป็นสนามกอล์ฟและโซนกีฬา ไทยไดมอนซิตี้ ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมบริการแห่งแรกของไทย ที่ได้รับการอนุมัติจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เมื่อปี 2552 พื้นที่รวม 35,000 ไร่ “โครงการอย่างนี้ไม่มีในประเทศไทย ที่คนซื้อที่ 1 แปลงแล้วได้ใช้ Facility ถึง 15 รายการ ทั้งสนามกอล์ฟ 3 สนาม สนามเทนนิส แบดมินตัน สนามฝึกขี่ม้า สยามฝึกบิน สนามฟุตบอล คลินิก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เรามีให้บริการทั้งหมด รวมแล้วกว่า 15 รายการ ในโครงการเราเคยมีภัตตาคาร 3 แห่ง ปัจจุบันเรายุบไปหนึ่ง เพื่อทำคลินิกรักษาโรคภัยไข้เจ็บแบบฟรีๆ เสียค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าห้องกับค่ายา แต่ถ้าคนจนไม่มีเงินเลยก็แวะไปวังมะนาว เรามีมูลนิธิโอฬารพัฒนาสนับสนุนอยู่ ที่นั่นให้บริการฟรีทุกอย่าง แต่สำหรับคนทั่วไปที่พอมีเงินเราก็จะให้ส่วนลด 50%” สำหรับความคุ้มค่าของการลงทุนในในนิคมฯ คุณโอฬาร ได้บอกว่า นักลงทุนชาวต่างชาติสามารถถือครองที่ดินได้เป็นกรรมสิทธิ์ของนักลงทุนต่างชาติ ถือเป็นทรัพย์สินถาวรที่มั่นคงและมีพื้นที่ขนาดใหญ่ แก่งกระจานอยู่ในจุดศูนย์กลางของโลจิสติกส์ เราเป็นเจ้าบ้านในฐานะผู้บริหารจัดสรรที่ดินให้กับนักลงทุนต่างชาติต้องเลือกสรรที่ดินอันสวยงาม มีศักยภาพที่เกื้อต่อการดำเนินธุรกิจของลูกค้า เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมไทยไดมอนด์ซิตี้จะได้รับความสะดวกมากมาย ทั้งการอยู่อาศัยภายในนิคมฯ การเดินทาง การค้าขาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ เราต้องมีการสร้างศูนย์การขนส่ง คลังสินค้า ที่พร้อมจะบริการให้แก่ลูกค้า นิคมฯ มีพื้นที่ทั้งหมด 35,000 ไร่ ถือว่าขนาดใหญ่ที่สุดในภาคกลาง เหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลางของการลงทุนในอาเซียน มีพื้นที่ติดทะเล ศูนย์กลางการท่องเที่ยวต่างๆ ใกล้กรุงเทพฯ ด้วยระยะทาง 149 กิโลเมตร ติดทะเลอ่าวไทย 35 กิโลเมตร ห่างจากทะเลอันดามัน 120 กิโลเมตร จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนอาศัยของนักลงทุนต่างชาติ “โครงการเราเป็นนิคมอุตสาหกรรมบริการท่องเที่ยว เป็นนิคมแห่งแรกแห่งเดียวในเมืองไทย ที่มีขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับนักลงทุนจากอาเซียนได้ ไม่ว่าใครสนใจจะเข้ามาลงทุนในด้านโรงถ่ายภาพยนตร์ โครงการงานแสดงสินค้า ศูนย์รักษาสุขภาพต่างๆ ศูนย์กีฬา ศูนย์การศึกษา ทิวทัศน์สวยงามล้อมรอบด้วยภูเขาตะนาวศรี เขื่อนแก่งกระจานที่ช่อยเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคตลอดปี เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีความพร้อมที่จะเป็นอุตสาหกรรมบริการตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ” “ผมอยากจะพัฒนานิคมฯ ให้เป็นที่พักผ่อนของครอบครัว โดยเฉพาะคนสูงอายุ เพราะที่แห่งนี้จะมีกิจกรรมรองรับมากมาย ทั้งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ออกกำลังกาย สถานรักษาพยาบาล โครงการนี้เราสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม ให้เป็นสังคมคุณภาพที่มีความรักใคร่ปรองดองกันในครอบครัว โดยการจัดสรรที่ดินผืนงามๆ สัก 2 ไร่ให้แต่ละครอบครัว มีบ้านพัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้พักผ่อนอย่างสุขสบาย ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม” http://www.dmmedia.co.th/?page=magazine_detail&id=9
ตามข่าวทั้งแง่บวก แง่ลบ ข้อมูลที่ตรงกันคือ เป็นนิคมอุตสาหกรรมบริการแห่งแรกของไทย ที่ได้รับการอนุมัติจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เมื่อปี 2552
ถ้าข้อมูลตามข่าวที่เขียนไว้ถูกต้องจริงๆ ก็ต้องบอกว่าเค้าทำถูกต้องตามกฎหมายครับ เพราะเค้าซื้อที่จากเอกชนและมีหลักฐานถูกต้องตามกฎหมาย แบบนั้นผมว่าเป็นสิทธิ์ที่เค้าจะทำได้ตามสมควรครับ แต่โฆษณาตามคลิปนั้นดูเว่อร์มากกว่า เพราะที่เอกชนอะไรจะไปตั้งกลางป่าขนาดนั้น
น่าจะเป็นโครงการเก่า (แก่งกระจานคันทรีคลับ) ขายที่2ไร่มีสิทธ์ในfacilities, ตอนนั้นขายไร่ละ2แสนมั้ง 20กว่าปีก่อน โครงการใหญ่ขนาดนี้ ความคุ้มค่า ตำแหน่งที่ตั้ง เงินลงทุนetc ,ผมว่าคงจะอยู่ในความฝันของเจ้าของต่อไป
ตอนนี้สงสัยคงเริ่มมีการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ใหม่ เพราะมีวีดีโอภาคภาษาอังกฤษด้วย เผยแพร่เมื่อ 15 ส.ค. 2015 Video presented by Thai Diamond City ------------------------------------------------------------------------------ คุณโอฬาร ได้วางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าจากจีน เพราะปัจจุบันคนจีนได้ออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ท่านจึงต้องการพัฒนาโครงการรองรับนักลงทุนชาวจีน คนจีนอยู่ในทุกพื้นที่ของอาเซียน พื้นที่แห่งนี้จึงน่าจะเหมาะสำหรับการเป็นศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียนของนักลงทุนชาวจีน โดยวางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าจากจีนอันดับ 1 ลูกค้าอาเซียนอันดับ 2 http://www.dmmedia.co.th/?page=magazine_detail&id=9 ------------------------------------------------------------------------------- ทั้งนี้โครงการ “ไทย ไดมอน ซิตี้” มีการวางแผนไว้นานแล้ว แต่โครงการไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของโครงการยังไม่ยอมแพ้ และมีการผลักดันโครงการนี้อีกครั้ง เพราะฉะนั้น คนไทยต้องคิดตามอย่างใกล้ชิด เพราะรัฐกับนายทุนมักจะทำสิ่งต่างๆที่ข้ามหัวคนไทยเสมอ ดังนั้นผมจะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าโครงการดังกล่าวถูกพับทิ้งลงถังขยะได้จริงๆ ที่มา https://www.facebook.com/anthony.cartalucci/ http://thaiinfonet.com/ทั่วไป/ไทย-ไดมอนด์ซิตี้/
ต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตาครับ ผมเคยไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ได้คุยกับ อจ ท่านที่ดูแลโครงการสนามกอล์ฟ ตอนนั้นดูเหมือนโครงการเดินหน้าลำบากมาก ตอนปี 40 เหมือนจะทรุดไปเลย
การพัฒนาอะไรสักอย่าง มีต้นทุนที่ต้องเสีย มีสิ่งที่ต้องเอาเข้าแลก บางอย่างเสียแล้วเรียกคืนไม่ได้ ฟื้นฟูยาก
ที่ดินตรงโครงการไม่ใช่ป่าสมบูรณ์ครับ น่าจะเป็นที่ชาวบ้านทำไร่มาก่อน ตอนที่เข้าไปต้นไม้ส่วนใหญ่เพิ่งปลูก
ตามข่าวที่คัดค้าน น่าเป็นแง่ให้สิทธิ์ต่างชาติถือครองที่ดิน 100%เป็นประเด็นสำคัญด้วย คงกลัวว่าคล้ายๆมีรัฐอิสระอยู่ในประเทศไทยมั๊ง ทั้งๆที่ตอนนี้มีคนไทยบางคน ยอมเป็นนอมินีถือครองที่ดินแทนต่างชาติ มากมาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆ (โดยมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ) เพียงแต่อันนั้นยังแอบๆซ่อนๆบ้าง แต่ครั้งนี้เปิดประเด็นชัดเจน
