ได้ทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ส่งเพื่อนร่วมอุดมการณ์ สู่สวรรค์ ดีใจที่ได้ไปทันได้จูงเข้าสู่จิตตกาธาน กลับถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ
ดวงจิตวิญญาณ..คงเหลียวหลังมอง โปรยยิ้มอำลาญาติสนิท มิตรสหาย หวน ระลึกถึง สุข..กับรอยยิ้ม ทุกข์..คลุกเคล้าน้ำตา ช่วงโลดแล่นผ่านชีวิตนี้...ที่แสนสั้น ไป แล้ว ลา แล้ว..อาจจะเป็นคำจะบอก แต่เรื่องจริงคือร่าง หายศูนย์สิ้น ไม่มีวันได้มา หรือกลับเจออีก ว่าที่ไหน โศกต้องจบ เศร้าต้องหยุด แต่อย่าลืม เพราะที่เดียว ที่พวกเขาจะกลับคืนมีชีวิตได้อีก คือ แค่ในความทรงจำของเราเท่านั้น
บุตรก็ป้องกันไม่ได้ บิดาหรือญาติก็ป้องกันไม่ได้ คนเราเมื่อถึงคราวจะตาย หมู่ญาติก็ป้องกันไม่ได้ (พุทธวจนในธรรมบท) งานนี้ หมอ ก็ป้องกันไม่ได้ ขอแสดงความอาลัยร่วมกับท่านสมาชิกด้วยครับ
เวลานึกถึงล็อคอินนี้ทีไร ก็นึกถึงวิธีเขียนทู้ของแกทุกที จะตอบก็ต้องคิดแล้วคิดอีก กลัวเหวอ อิ อิ พูดกันตามความเป็นจริง ๆ เวลานี้ แกสบายกว่าพวกเราแยะ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องหาข้าวกิน ไม่ต้องสนใจการเมือง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ขอให้ลุงเย็นไปสู่สุขคติครับ ถึงผมจะเป็นสมาชิกรุ่นหลังๆ แต่อ่านกระทู้นี้แล้วใจหายเลยครับ
เพิ่งเข้ามาเป็นครั้งแรกด้วยความช่วยเหลือของ 'โรเบิร์ต เดอ นิโร'..... ขอแสดงความไว้อาลัยและเสียใจที่นี่ด้วยครับ
ไม่อยากเชื่อเลย เพิ่งเปิดเสรีไทยเข้ามาวันนี้เองวันแรกหลังสมัครเว็บใหม่ เสียใจมากๆครับ ขอให้ปู่เย็นไปสู่สุขคติ ได้เกิดในภพภูมิที่ดีนะครับ
มีความตายของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง สร้างความเศร้าโศกแก่เพื่อนๆ มากมาย หากจะพิจารณาว่า "เป็นธรรม" ที่ปรากฎตามความเป็นจริง เมื่อมีความตายเกิดขึ้น คนที่ตายแล้ว ก็เกิดแล้วเป็นบุคคลใหม่ ลืมเรื่องเก่าหมด เหมือนที่เกิดแล้วในชาตินี้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะกุศลกรรมใดในอดีตอนันตชาติ ที่ได้กระทำมาแล้ว คนที่ตายแล้ว ก็หมดเรื่อง ไม่มีที่ต้องกลัว ต้องทุกข์โศก หรือเสียดายเสียใจอะไร ขอให้สู่สุคติภพ ครับ
เห็นหน้ากันเมื่อเช้า สายตาย สายอยู่สุขสบาย บ่ายม้วย บ่ายยังรื่นเริงกาย เย็นดับ ชีพนา เย็นอยู่หยอกลูกด้วย ค่ำม้วยดับสูญ พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
วิญญาณ ทางศาสนา หมายถึง การรับรู้ แต่ที่เราเข้าใจกันทั่วๆไป หมายถึง ผู้ที่อยู่ในอีกมิติหนึ่ง เข้าใจไหม
อนุโมทนา กับ คุณโยมน้าป้อม เย็นมะโนช น้าของน้าเย็น (ไศนส์ เย็นมะโนช) โอนปัจจัยร่วมทำบุญสร้างพระพุทธชยันตีศรีเมืองงาย วัดพระธาตุปู่ก่ำ ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่ปัจจุบัน อาตมภาพอยู่ที่นี่ เป็นเงิน 1.000 บาท กีรเต้ ๑๗ ธ.ค. ๕๗
ข้าพเจ้า มิได้มีเจตนาอันใด ที่ล่วงเกินผู้ตาย อันการที่ข้าพเจ้า นำมนต์ หรือบทสวดนี้ มาเพื่อ ย้ำเตือน ผู้อยู่ และ อุทิศ ให้ผู้ตาย ขอคารวะ อารักขกัมมัฏฐาน พุทธานุสสะติ เมตตา จะ อะสุภะ มะระณัสสะติ, อิจจิมาจะตุรารักขา กาตัพพา จะ วิปัสสะนา, กัมมัฏฐานทั้งสี่นี้คือ, พุทธานุสสติ การระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า, เมตตา การปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข, อสุภะ การพิจารณากายให้เป็นของไม่งาม, มรณัสสติ การระลึกถึงความตาย, การปฏิบัติภาวนาทั้งสี่นี้ชื่อว่า อารักขกัมมัฏฐาน, และวิปัสสนาอันพึงบำเพ็ญ, วิสุทธะธัมมะสันตาโน อะนุตตะรายะ โพธิยา, โยคะโต จะปะโพธา จะ พุทโธ พุทโธติ ญายะเต, พระพุทธเจ้าทรงมีพระทัยที่บริบูรณ์ด้วยพระธรรมอัน บริสุทธิ์, ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน, มีพระปัญญาตรัสรู้ธรรมอันยอดเยี่ยม, ทรงชักนำสั่งสอนหมู่มนุษย์ให้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง, นะรานะระติรัจฉานะ เภทา สัตตา สุเขสิโน, สัพเพปิ สุขิโน โหนตุ สุขิตัตตา จะ เขมิโน, สัตว์ทั้งหลาย, ทั้งมนุษย์ อมนุษย์, และดิรัจฉาน, ต่างเป็นผู้แสวงหาความสุขด้วยกันทั้งนั้น, ขอสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นจงเป็นผู้มีความสุข, และเป็นผู้มีความเบิกบาน, เพราะถึงซึ่งความสุขนั้นเถิด, เกสะ โลมา ทิฉะวานัง อะยะเมวะ สะมุสสะโย, กาโยสัพโพปิเชคุจโฉ วัณณาทิโต ปะฏิกกุโล, กายนี้แล, เป็นที่รวมแห่งซากศพ, มีผมขนเป็นต้น, ซึ่งล้วนแต่เป็นของน่าเบื่อหน่าย เป็นของปฏิกูล, โดยมีสีและกลิ่นอันน่าเกลียดเป็นต้น ชีวิตินทะริยุปัจเฉทะ สังขาตะมะระณัง สิยา, สัพเพ สังปิธะปาณีนัง ตัณหิ ธุวัง นะ ชีวิตัง. ความตายคือความแตกสลายแห่งชีวิต, จะมีแก่สัตว์ทั้งหมดทั้งสิ้นในโลกนี้, เพราะว่าความตายเป็นของเที่ยง, ชีวิตความเป็นอยู่เป็นของไม่เที่ยง, ดังนี้แล.
มาช้าตามเคยผม ไม่เคยเสวนากับลุงเย็น แต่ลุงก็คือผู้อาวุโส ณ.ที่แห่งนี้ ขอไว้อาลัยแด่ลุงเย็นครับ นมัสการครับหลวงพี่
