http://pantip.com/topic/35489402 แบบนี้เขาเรียกว่าร้อนตัวไหมครับ.... หรือว่าเป็นตามที่หลวงพ่อพุทธฯว่าไว้ครับ...... การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำของสุนัขจนตรอก แพ้แล้วพาล เอาชีวิตของผู้บริสุทธิ์มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองอำนาจ จนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เชื่อว่าพฤติกรรมเถื่อนแบบนี้เป็นฝีมือของคนชั่วตระกูลเดียว ที่ไม่กลัวบาปกรรมและกฎหมายบ้านเมือง (ในเนื้อความ) ไม่ได้ระบุว่าใครเลย.....
ร้อนตัวครับ ร้อนตัวเเน่นอน แต่ร้อน เพราะเดือดร้อน จากโจรโล้นจอมไถ ที่มันโง่แต่ดันอยากโชว์ความฉลาด ในใส่ร้ายคนอื่น ตามที่มันว่าไว้ ...... การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำของสุนัขจนตรอก แพ้แล้วพาล เอาชีวิตของผู้บริสุทธิ์มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองอำนาจ จนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เชื่อว่าพฤติกรรมเถื่อนแบบนี้เป็นฝีมือของคนชั่วตระกูลเดียว ที่ไม่กลัวบาปกรรมและกฎหมายบ้านเมือง ..... การที่มันว่ามานั้น คนฉลาดดูออกได้ไม่ยากเลย ระดับความโง่ที่ไร้ขีดจำกัดของมัน ถ้าหนูเชื่อตามที่มันพูดมา หนูก็ "บรมโง่" มิใช่น้อย ในเนื้อความ โล้นจอมไถ มันไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร แล้วหนูคิดว่าเป็นใครล่ะที่มันพูดถึง? เค้าคนนั้นล่ะที่เดือดร้อน! http://www.isranews.org/south-news/talk-with-director/item/49212-brn_49212.html
ตามที่มันว่าไว้ ...... การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำของสุนัขจนตรอก แพ้แล้วพาล เอาชีวิตของผู้บริสุทธิ์มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองอำนาจ จนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เชื่อว่าพฤติกรรมเถื่อนแบบนี้เป็นฝีมือของคนชั่วตระกูลเดียว ที่ไม่กลัวบาปกรรมและกฎหมายบ้านเมือง ..... ที่พูดมานั้นนะก็คือพวกที่มือดีขโมยผลงานเขามาไม่ใช่เหรอไง ยังติดคุกอยู่เลย ใครจ้างมือดีเนี้ย นอกจากจะห่วยแตกแล้วยังแว้งกัดเจ้านายอีก
สันดานเก่ามันส่อ ฝีมือของพ่องมึงล้วนๆ - ทุบรถอภิสิทธ์ - ทุบและทำลายข้าวของในโรงแรมที่ประชุมอาเซี่ยนที่พัทยา - สนับสนุนให้เผาศาลากลางจังหวัด - โฟนอินปลุกระดม - สนับสนุนพวกขี้ข้าที่หมิ่นสถาบัน คนฉลาดดูออกได้ไม่ยากเลย นอกจากระดับความโง่ที่ไร้ขีดจำกัดของมึงนะมันเป็น infinity
ตอนระเบิดที่ศาลพระพรหมราชประสงค์ ก็รุมโทษเสื้อแดง ออกมาใส่ไฟกันใหญ่ แล้วผลเป็นอย่างไร? มึงจะโง่ดักดานไม่สรุปบทเรียนกันไปถึงไหนวะ ? มึงตื่นกันได้หรือยัง ใช้สมองให้เป็นแบบคนปกติเขาบ้าง ไอ้พวกควาย (ขอหยาบสักวัน)
ก็หยาบทุกวัน และแปลว่ายอมรับแล้วซินะว่า นายอาเดม คาราดัก เป็นตัวการซินะ เมื่อก่อนบอกทักกี้เป็นตัวการนี้ครับ บอกแล้ว ควายเหลืองมันสู่รู้ ฉลาดแสนรู้ รู้ดีไปทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องจริงเท่านั้น ที่ไม่ยอมรับรู้ เพราะหลบอยู่แต่ในกะลา ใครพูดหว่า ผ่านไป 5 หน้า ยังไม่มีใครบอกว่าทักกี้ทำเลยซักคน เล่นทะลึงพรวดแปะด่าเองซะแล้ว ใครหนอยัดเยียดให้มาร์คหนีทหาร แต่ตัวเองขี้ขลาดกว่ามาร์คไม่กล้าแสดงการเกณฑ์ทหารตัวเอง ใครหนอยัดเยียดให้สุเทพเป็นขอทาน แต่ตัวเองขโมยผลงานชาวบ้านมาหากินแบบอาชญากรรม ใครหนอยัดเยียดให้เพื่อนสมาชิกต่ำกว่าให้ได้ แต่ตัวเองกลับทำแต่เรื่องบัดสีต่ำช้า ใครหนอยัดเยียดให้ชาวบ้านทำนู้นทำนี้ แต่ตัวเองไม่เคยทำอะไร แม้แต่ออกไปข้างนอก ใจดำจริงๆ
เอามาแปะบ้าง.... NGO ตรวจสอบฮิวแมน ไรท์ วอท์ชเป็นกลุ่มโปร่งใสน้อยในสหรัฐถูกระบุเป็นกระบอกเสียงและตัวชี้นำการวางนโยบายต่างประเทศสหรัฐ กรรมการอำนวยการมีทั้งอดีตที่ปรึกษาซีไอเอและฝ่ายวางแผนความมั่นคงสหรัฐ แทนที่จะทำเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็น Priority กลับทำเรื่องนโยบายต่างประเทศสหรัฐก่อนอื่นใด เว็บไซต์ Mint Press News โดย Kit O'Connell รายงานจากเมืองออสติน เมืองหลวงของรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2016 ระบุว่ากลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอท์ชเป็นสำนักคิดที่มีความโปร่งใสน้อยที่สุดในสหรัฐ (Human Rights Watch Rated Among Least Transparent Think Tanks In US) โดยมีการปิดประตูรับเงินจากมือที่ถูกซุกซ่อนไว้ (เงินใต้โต๊ะ)และไม่เปิดเผยจำนวนเงินหรือที่มาของเงิน รายงานนี้จัดทำโดยกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ชื่อทรานสพาริฟาย (Transparify)เพื่อตรวจสอบสำนักคิด(think tanks)และองค์กรต่างๆทั่วโลก จากนั้นนำออกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2016 ในปีนี้ก็สำรวจเหมือนเดิม 200 องค์กรจาก 47 ประเทศ “ทรานสพาริฟาย”ทำมาตั้งแต่ปี 2014 ด้วยการสำรวจไปตามเว็บไซต์ของสำนักคิดและองค์กรต่างๆเพื่อตรวจสอบแหล่งเงินที่องค์กรได้รับมาและนำไปใช้เพื่ออะไรบ้าง การรายงานของปี 2016 พบว่าจาก 200 องค์กรนั้น 98 องค์กรถือว่ามีเหตุผลในการรายงานเรื่องมาตรฐานของความโปร่งใส แต่อีก 102 องค์กรถือว่ามีความ“ขุ่นมัว”เกี่ยวกับการเงิน อีกทั้งยังพบว่าองค์กรต่างๆ 144 แห่งได้พัฒนาตนเองเรื่องความโปร่งใสขึ้นนับตั้งแต่มีการตรวจสอบในปี 2014 เป็นต้นมา ดร.แฮนส์ กัตบรอด ผู้อำนวยการของ Transparify เปิดเผยกับสำนักข่าว teleSUR English เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนว่าองค์กรที่ปิดประตูรับเงินใต้โต๊ะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขาไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับกลุ่มฮิวแมน ไร้ท์ วอท์ช (HRW)ถือเป็น 1 ใน 6 องค์กรของสหรัฐที่ได้รับการจัดเกรดเพียง 2 ดาว (จาก 5 ดาว) กล่าวคือผู้เข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ขององค์กรเหล่านี้จะสามารถพบได้ว่าผู้บริจาคให้กับองค์กรมีใครบ้าง แต่จะไม่มีใครรับทราบว่ากลุ่มผู้บริจาคมอบเงินให้เท่าใด โดยกลุ่มที่บริจาคให้มีทั้งหมด 11 องค์กรใหญ่ๆประกอบด้วยมูลนิธิฟอร์ด ( the Ford Foundation),มูลนิธิแมคอาร์เธอร์ (the MacArthur Foundation) และสถาบันโอเพน โซไซตี้ของนายจอร์จ โซรอส ( George Soros’ Open Society Institute) สำหรับนายโซรอสถือว่าสอบตกจากทรานสพาริฟาย เพราะมูลนิธิโอเพน โซไซตี้ของของเขา“ขุ่นมัวมาก”ในสหรัฐ ไม่ได้บอกรายละเอียดของการบริจาคจนไม่ได้รับดาว (0 stars )จากรายงาน ทั้งนี้มูลนิธิโอเพน โซไซตี้ ยังเป็นผู้บริจาคให้กับทรานสพาริฟายในการจัดทำรายงานนี้ด้วย ในทางตรงกันข้ามองค์กรที่ชื่อว่า the Center for American Progress เป็นสำนักคิดโน้มเอียงไปในกลุ่มฝ่ายซ้ายที่รายงานด้านสิทธิมนุษยชนกลับได้รับเพิ่มเป็น 4 ดาว ในรายงานการจัดอันดับของปี 2016 โดยเว็บไซต์ขององค์กรบอกรายละเอียดของกลุ่มที่บริจาคและจำนวนบริจาค สำหรับองค์กรที่จะได้รับ 5 ดาว ทรานสพาริฟายระบุว่าองค์กรนั้นจะต้องลงรายชื่อของผู้บริจาคทั้งหมด,แจกแจงรายละเอียดจำนวนเงิน,จะนำไปใช้เพื่ออะไร,โดยเฉพาะโครงการที่กลุ่มจัดทำ พร้อมกับยกตัวอย่างองค์กร the Wilson Center ได้บอกรายละเอียดที่ดีมากไม่เพียงแต่บอกว่าใครบ้างที่บริจาค แต่ยังแจ้งว่าโครงการอะไรที่ผู้บริจาคให้การสนับสนุน ฮิวแมน ไรท์ วอท์ช ถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับรัฐบาลสหรัฐ กลุ่มที่เป็นปากเสียงด้านสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มกล่าวหาตลอดเวลาว่า กลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอท์ช(HRW)เข้ามาทำหน้าที่สนับสนุนนโยบายต่างประเทศสหรัฐโดยทำหน้าที่เป็นกลุ่มเฝ้ามองเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประเทศต่างๆจากนั้นก็รายงานผลออกไป นอกจากนี้คณะกรรมการอำนวยการและคณะที่ปรึกษาของ HRW ยังประกอบด้วยมิเกวล์ ไดแอซ์( Miguel Díaz) อดีตนักวิเคราะห์ของCIA และทอม มาลินาวสกี้ (Tom Malinowski) อดีตผู้อำนวยการอาวุโสสภาความมั่คงแห่งชาติสหรัฐในสมัยรัฐบาลบิล คลินตัน (ชมวิดีโอกลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอท์ช คู่มือสำหรับนโยบายต่างประเทศสหรัฐ จาก teleSUR English: ) ข้อถกเถียงที่กลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอท์ช ทำตัวเหมือนประตูหมุน(revolving door) โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มที่จะนำคำปรึกษาด้านสิทธิมนุษยชนไปเป็นนโยบายต่างประเทศโดยพยายามดึงองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO)ให้เห็นด้วยมานานหลายปี ในปี 2014 ทั้งไมรีด แมคไกวร์ (Mairead Maguire) และอะดอลโฟ เปเรซ เอสควิเวล(Adolfo Pérez Esquivel) เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายเคนเนธ ร้อท ผู้อำนวยการฮิวแมน ไรท์ วอท์ช เพื่อให้ดำเนินการเปลี่ยนแนวปฏิบัติของ HRW ทันที จดหมายเปิดผนึกนี้ร่วมลงนามด้วยกว่า 100 คนเป็นทั้งเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันและอดีตขององค์การสหประชาชาติตลอดจนนักวิชาการต่างๆ โดยจดหมายบางตอนเขียนไว้ดังนี้ “ห้ามบุคคลที่ร่างหรือบริหารนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ ผู้เข้ามาทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ของกลุ่ม HRW,เป็นที่ปรึกษาและเป็นคณะกรรมการอำนวยการ ,การห้ามอย่างน้อยที่สุดจะต้องมีระยะเวลาเหินห่างพอสมควร (cooling-off periods) ก่อนหรือหลังที่จะให้เข้ามาทำงานในองค์กร HRW กับการที่ยังเป็นแขนขาของรัฐบาลสหรัฐ” ภายหลังจากมีจดหมายเปิดผนึกขึ้นมาแล้ว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2014 ก็เกิดการดีเบตกันเรื่อง Democracy Now! ระหว่างนายรีด บร้อด ที่ปรึกษาของนายร้อทและโฆษกของ HRWกับ คีน ภัตต์( Keane Bhatt) ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรที่ทำจดหมายเปิดผนึกและกลุ่มวิพากษ์ฮิวแมน ไร้ท์ วอท์ช ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 นายคีน ภัตต์ ได้เขียนบทความว่าด้วย ความเจ้าเล่ห์ของกลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอท์ช (The Hypocrisy of Human Rights Watch) สรุปได้ว่าสิ่งที่เขาเป็นห่วงไม่เพียงแต่เรื่องจากประเทศละตินอเมริกาไปจนถึงประเทศซีเรียเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า ฮิวแมน ไรท์ วอท์ช มีเป้าหมายที่ทำก่อนอื่นใดก็คือนโยบายต่างประเทศของสหรัฐมากกว่าทำเรื่องสิทธิมนุษยชน ภัตต์ยังเรียกร้องให้กลุ่ม NGO รับทราบว่า HRW ก็คือกระบอกเสียง (mouthpiece) ของรัฐบาลสหรัฐนั่นเอง นอกจากนี้ HRW ยังมีความใกล้ชิดกับบรรษัทสหรัฐรวมถึงในระดับรัฐบาลมลรัฐ ดังนั้นจำเป็นต้องกำหนดให้กลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอชท์ ไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มองค์กรอิสระ เพราะทำตัวเหมือนประตูหมุนที่เปิดรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐ หาก HRW ติดฉลากตัวเองให้เป็นกลุ่มองค์กรอิสระแท้จริงแล้วจะทำให้เขาวิเคราะห์ได้เที่ยงธรรมมากขึ้น ความอคติที่กลุ่มมีอยู่จะได้รับการยอมรับมากขึ้น http://thaitribune.org/contents/detail/310?content_id=22225&rand=1471523498 เลิกสงสัยละว่าทำไมHRWกับทูตอเมริกาถึงเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย...