กระทู้พันทิพ http://pantip.com/topic/33637169 ญาติหลั่งน้ำตา หลังศาลไม่รับฎีกา"สาวซีวิค"ชนดับ9ศพ ชี้ไม่เคยเหลียวแล ไม่แม้ทักทาย กระทู้สนทนา อุบัติเหตุบนท้องถนนกฎหมายชาวบ้าน ไม่รับฎีกาคดีสาวซีวิคซิ่ง 9 ศพ ด้านครอบครัวผู้เสียชีวิตน้อมรับ พร้อมกล่าวทั้งน้ำตา ที่ผ่านมาฝ่ายจำเลยไม่เคยเหลียวแล ไม่เคยแม้แต่พูดคุยทักทาย ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ไม่รับฎีกาในคดีที่เยาวชนหญิงอายุ 18 ปี หรือ นางสาวแพรวา (นามสมมติ) ตกเป็นจำเลยในคดีความผิดฐานขับขี่รถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 9 คน โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งให้ยืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ซึ่งพิพากษาจำคุกเยาวชนหญิงอายุ 18 ปี เป็นเวลา 2 ปี แต่แก้โทษให้เพิ่มเวลารอลงอาญาจาก 3 ปี เป็น 4 ปี เพิ่มเวลาบำเพ็ญประโยชน์เป็นปีละ 48 ชั่วโมง รวม 4 ปี และห้ามขับรถยนต์จนถึงอายุ 25 ปี ด้านนางทองพูน พานทอง ญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับในคำสั่งของศาล เพราะถือว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมถึงที่สุดแล้ว และกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ญาติผู้เสียชีวิตไม่เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากฝ่ายจำเลย จึงต้องการให้ทางฝ่ายจำเลยเข้ามาช่วยเหลือตามสมควร หรือแม้แต่เข้ามาพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายบ้าง ส่วนคดีความฟ้องร้องทางแพ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทีมทนายความ เพื่อให้คดีความทางแพ่งมีการนัดพิจารณาคดี โดยที่ผ่านมาคดีทางแพ่ง สืบพยานทั้งโจทก์และจำเลยเสร็จแล้ว ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431330215 14 พลังแผ่นดิน 3 ชั่วโมงที่แล้ว
ปรกตินิครับ สองศาลพิพากษาไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีหลักฐานพยานใหม่เพิ่มเต็ม ศาลฎีกาไม่รับฎีกาชอบแล้ว " สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2555 ว่าจำเลยมีความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุก ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี โดยคุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน พร้อมให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ชั่วโมง รวมทั้งห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยใช้โทรศัพท์จริงหรือไม่ ขณะที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 57 แก้เป็นว่า จากที่รอลงอาญา 3 ปี ให้ระยะเวลารอลงอาญาเป็น 4 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลารวม 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น ต่อมาเวลา 13.00 น. ศาลฎีกาได้มีคำสั่งไม่รับฎีกาเนื่องจากไม่มีสาระสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิม" http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000053652
แล้วยังไง สี่ขาจะให้ศาลท่านรับฎีกาของฝ่ายจำเลยหรือ สี่ขาเห็นว่าจำเลยไม่ผิดหรือ คดีนี้ฝ่ายโจทย์ไม่ได้เป็นผู้ยื่นฎีกานะ แต่เป็นฝ่ายจำเลย โจทย์ - ญาติผู้เสียชีวิต จำเลย - แพรวา ปล. สื่อหลายสำนักพาดหัวข่าวได้แย่มาก ทำให้หลายคนที่ไม่ได้อ่านเนื้อข่าวเข้าใจผิดไปเลย
บางทีก็ลำบากใจว่า ถ้ามี 2 ทางให้เลือก ว่าจะนั่งรถไปกับคนเมานิดหน่อย หรือ คนที่ไม่เมา แต่ไม่มีใบขับขี่
จำเลยยื่นฎีกา เพื่อต่อสู้ว่าไม่ได้มีเจตนาและไม่ได้ประมาท ถ้าศาลรับคดีก็ยืดเยื้ออีก หากผลพิพากษากลับเป็นตามที่ฎีกากลายเป็นว่าแพรวาไม่ผิด ไม่ต้องชดใช้ทางแพ่ง แต่เมื่อศาลไม่รับฎีกาแล้ว คดีแพ่งก็เดินหน้าต่อ งานนี้มีอ่วมเพราะผิดจริง
ไม่ถูกใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าจบแล้วตามกระบบวนการ ไม่ถูกใจ ไม่ต้องจ้างวานปาระเบิดฆ่าใคร ที่เหลือให้กรรมทำงาน
เท่าที่ตามอ่านจากทวิตต์และเพจต่างๆ และแล้วจากการพาดหัวข่าวและรายงานข่าวของสื่อแบบทุเรศๆ ก็เปิดช่องให้ศาลโดนโจมตีจากพวกจ้องทำลายความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมไทยอีกจนได้ ดูแต่ละสื่อ สมควรแล้วที่โดนเขาด่า และอยากให้ปฎิรูปสื่อรวมทั้งให้มีการควบคุมสื่อ ตัวอย่าง ศาลไม่รับฎีกาฟ้อง 'สาวซีวิค' ซิ่งเก๋งชนรถตู้ดับ 9 ศพ http://morning-news.bectero.com/social-crime/11-May-2015/40795 ศาลฎีกาไม่รับฎีกาคดี “แพรวา” ขับชนรถตู้โดยสารดับ 9 ศพ http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000053652 ศาลฎีกาไม่รับคำฟ้องสาวซีวิค รับโทษจำคุก2ปี รอลงอาญา 4ปี http://www.dailynews.co.th/crime/320368 ศาลฎีกาไม่รับคำฟ้อง'แพรวา'ขับชนรถตู้ดับ9ศพ www.bangkokbiznews.com/news/detail/646393
เอาความเห็นมาแปะให้ดูเฉยๆ ------------------------------------------------- ความเห็นจากนักกฏหมายทั่นนึงเกี่ยวกับคดีแพรวาที่ศาลไม่รับฎีกาของฝ่ายจำเลยครัช
ญาติเขาหลั่งน้ำตามาตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้วครับ ต้องดูบริบทด้วยว่าเขาหลั่งน้ำตาเพราะอะไร ในกรณีย์นี้ ผู้เสียหายต้องดีใจด้วยซ้ำ เพราะเรื่องจบทางศาลอาญา " ชี้ไม่เคยเหลียวแล ไม่แม้ทักทาย " นี่คือบริบทที่เขาต้องหลั่งน้ำตาอีกครั้ง