ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ชีวภาพ พ.ศ. .... เพื่อพัฒนากฎหมายในประเทศที่จะใช้ในการดำเนินการควบคุมดูแลการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ให้เกิดวามปลอดภัยต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และคำนึงถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และสอดคล้องกับการดำเนินงานในระดับสากล โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ให้บังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี กำหนดสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายได้แก่ สิ่งมีชีวิตที่มีการตัดต่อ ตัดแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรมหรือผสมผสานสารพันธุกรรมใหม่ที่ได้จากวิธีการใช้เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ หรือวิธีการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ ไม่ใช้บังคับกับสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมที่เป็นยาสำหรับมนุษย์หรือสัตว์ตามที่มีกฎหมายเฉพาะควบคุมอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังห้ามมิให้มีการปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมใด ๆ สู่สิ่งแวดล้อม เว้นแต่สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมดังกล่าวจะได้ผ่านการใช้ในสภาควบคุมและการใช้ในภาคสนามเพื่อทดสอบความปลอดภัยทางชีวภาพ การประเมินความเสี่ยงอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ และกำหนดให้ผู้ประกอบกิจกรรมกับสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินใหมทดแทนสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ------------------------------------------------------------------ ใครรู้บ้างว่ากฎหมายนี้ ดีหรือไม่ดี สำหรับประเทศไทย
ไม่ชอบที่เมล็ดพันธุ์จะมีลิขสิทธิ์ แต่ต่อไปโลกร้อนขึ้น คนเยอะขึ้น คงต้องตัดต่อพื้ชให้ทนแล้งและผลิตอาหารให้ได้เยอะ+เร็วเลี้ยงคนเยอะๆ
ถ้าเราทำเองก็คงไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าต้องเป็นทาสเมล็ดพันธุ์ก็ไม่ดี ประเด็นก็คือนักวิชาการที่สนับสนุนน่ะทำเองได้ยัง???
ส่วนตัวแล้ว ไม่เห็นด้วย กับ เรื่อง ... การตัดต่อพันธุกรรม GMOs (Genetically Modified Organisms) มาแต่ไหน-แต่ไร แล้วครับ อาจเป็นเพราะ คิดว่า มนุษย์ กำลัง พยายาม จะรับบท ของ พระเจ้า อยู่ กระมัง ความพยายามที่จะรับบทพระเจ้า ของ มนุษย์ นี้ ไม่ได้ คำนึง ถึง ผลกระทบ อื่น ที่อาจมีตามมา นั่นส่วนหนึ่ง ... อีกส่วนหนึ่ง นั่นอาจเป็นเพราะ ความไม่เชื่อถือใน ระบบ ทุนนิยม โดยเฉพาะ เมื่อมีการตัดแต่งพันธุกรรมในสินค้าทางด้านการเกษตร หรือ อาหาร เพราะนั่นอาจมีทำให้มีการผูกขาดในทางการค้า ได้โดยสิ้นเชิง อีกทั้งยังเป็นการทำลายพืชพันธุ์ที่เกษตรกรได้มาจากการเพาะปลูกโดยธรรมชาติ อันเป็นการสร้างผลกระทบในเชิงนิเวศน์วิทยา ใน ระยะยาว นั่นเป็นเพียงความเห็นของ ตะนิ่นตาญี ที่ไม่มีความรู้อย่างแท้จริงในเรื่อง GMOs นะครับ แต่ในทางกฏหมายแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เขียน กฏหมาย ใน ลักษณะ ข้างต้นแล้ว นั่นก็คือ มีการอนุญาตผ่อนปรน ให้ ทำการได้ภายในขอบเขตที่จำกัด โดย การอาศัยกฏหมายอื่นใดที่ออกมาขยายความใช้บังคับ ซึ่ง ยังไม่เห็นเนื้อความ ที่ บ่งบอกได้เลยว่า การกำหนดขอบเขต นั่นมีความหมายกว้างไกลเพียงใด สุดท้ายแล้วกฏหมายฉบับนั้นจะคุ้มครองได้มากน้อยแค่ไหน ยังตอบไม่ได้ คงต้องรอดูกันต่อไปกระมังครับ ตะนิ่นตาญี วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๒๒.๐๙ นาฬิกา
ความน่ากลัวของพืชตัดแต่งพันธุกรรม(มีลิขสิทธิ์) ขนาดเมกาที่บอกว่าเสรีประชาธิปไตย เกษตรกรยังโดนน็อคมาแล้ว ประเทศเราจะมีอะไรตามมาบ้าง? --------------------------------------------------------------- มอนตันโต้(Monsanto) ผู้ผลิตยาฆ่าหญ้า"ราวด์อั้พ(Roundup)" จากปี1996 ขายเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองGMOที่ต้านทาน"ราวด์อัฟ"ได้แค่ 2% พอปี2008 เขาขายเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองที่ปลูกในเมกาถึงกว่า 90% และเกษตรกรจะเก็บเมล็ด(ที่ปลูกเองนั่นแหละ)ไปปลูกใหม่ไม่ได้ เพราะจะโดนฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ขอให้ดูนาทีที่ 5.00 เป็นต้นไปนะครับ
เมื่อไหร่ที่มันฟ้องมังครับ คงเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะในสารคดีบอกว่า ถ้ามีการปลูกพืชที่ปนเปื้อนจากสายพันธุ์ของมัน ก็โดน แล้วใครจะควบคุมละอองเกษรได้ละครับ
ฟ้องข้อหาอะไรล่ะครับ ในเมื่อเราไม่มีกฎหมายควบคุม พอออกกฏหมายควบคุม GMOs ก็โดนต่อต้าน แล้วกฎหมายที่เพิ่งผ่านก็ให้คนปลูกควบคุมการปนเปื้อนครับ ถ้าหลุดปนเปื้อนคนปลูก+เจ้าของ GMOs ต้องรับผิด
ประเด็นปัญหา น่าจะอยู่ที่การถือครองลิขสิทธิ์ ทำให้ มีการผูกขาดในทางการค้า ตะนิ่นตาญี อาจยอมรับได้ หาก บังคับให้ สินค้า ใน ปัจจัยสี่ ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโลก เหล่านี้ ถือ เป็น world heritage ห้ามผูกขาดทางการค้า ...... แต่ เชื่อไหมครับ ถ้าไม่มีการผูกขาดทางการค้า ก็ จะไม่มีการพัฒนาในสินค้าเหล่านั้น แปลกดี-ตลกดี นะครับ ตะนิ่นตาญี วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๒๒.๓๔ นาฬิกา
คห.จากกูรูครับ อันนี้ไม่ประชดนะ เพราะตรงตามสายความรู้ของแก ส่วนตัว ผมมองGMOก็คือๆกับการเพาะพันธุ์ลูกผสมแบบเดิมๆนี่แหละครับ ที่ต่างไปคือ จำเพาะเจาะจงและเสร็จเร็วกว่ามาก ซึ่งก็เป็นข้อดีที่เห็นๆในการไปถึงเป้าหมาย(ผลผลิต) แต่เรื่องหลังจากนั้นก็เป็นข้อเสี่ยงที่มองไม่เห็น ว่ามันจะButterflyEffectไปได้แค่ไหน จะตาดีมองเห็นทันหรือเปล่า ซึ่งพันธุ์ลูกผสมด้วยวิธีธรรมชาติก็ก่อผลกระทบได้เหมือนกันแหละ แม้จะช้า เราก็ต้องมองและดักให้ทัน ก็แค่นั้นแหละ คนเราทำได้หรือเปล่าล่ะ? แต่เพราะความเร็วและความจำเพาะของสายพันธุ์นี่ไง ที่อาจจะเกินประสบการณ์ความรู้หรือการคาดการณ์ อาจทำให้รู้ตัวไม่ทัน (เอาเข้าจริงแค่เรื่องสายพันธุ์ธรรมชาติเดิมๆ แต่เป็นAlienSpeciesข้ามประเทศข้ามทวีป คนเราก็ไม่รู้ตัว ไล่ไม่ทัน ปล่อยหลุด จับผสม-ย้ายถิ่น จนระบบนิเวศน์เสียสภาพของท้องถิ่นนั้นไปหลายกรณีแล้ว มีทั้งบนบกและในน้ำ) http://www.biothai.net/sites/default/files/GMO_Law_2558-1.pdf รวมๆก็เป็นว่าต้องขออนุญาตเป็นลำดับขั้นกันไป เช่นครอบครอง-ทดลอง-ลงแปลง-กระบวนการที่เกี่ยวเนื่อง-ฯลฯ ถ้าเอาตามที่ทุกวันนี้ก็มีทดลองกันอยู่แล้วก็เหมือนว่าแค่ให้เป็นลายลักษณ์อักษรมีเจ้าภาพชัดเจนน่ะนะ อยู่ที่ปฏิบัติจริงอีกแหละ ว่าจะเป็นแค่"งานเอกสาร"หรือเปล่า? จะติดตามตรวจสอบต่อเนื่องและเชื่อใจได้ไหม? หากเกิดกรณีเสียหายเยียวยา หรือการระงับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ จะหยุดหรือแก้ทันไหม? ที่สำคัญคือถ้าเหตุมันกำลังจะเกิดเนี่ย จะมองเห็นและรู้ตัวกันทันไหม? โดยเฉพาะต้องอย่าให้มีการซุกใต้พรมหรือการปกปิดข้อมูล(โดยเฉพาะข้อมูลวิชาการของตัวพันธุ์นั้นๆที่จนท.ก็คงเข้าไม่ถึงหรือมองภาพได้ชัดเท่าตัวผู้วิจัยหรือบริษัทแน่ๆ) เพราะที่โดนกระทบแรงไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อมแต่เป็นด้านเศรษฐกิจด้วย และก็ยังติดใจท่อนท้ายๆของม.52
เคยอ่านผ่านตาเหมือนกันครับ ข้าว ที่ปลูกในไทย นี่ 15000 ต่อตัน หรือ แพงกว่าราคาตลาดมากๆ จ้างปลูก หรือ รับซื้อ โดยคนญี่ปุ่น เป็นข้าวที่ปลอดสาร พันธุ์แท้ น่าจะเป็นข้าวไทยด้วย อันนี้มันสื่อถึงอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน สมัยเด็กๆ ย้อนหลังไปประมาณ 10-20 ปี ข้าวท้ายไร ท้ายนา หรือแถวๆ ริมห้วย สูงพอๆ กับผู้ใหญ่เลย กอข้าวนี่ สองคนโอบ มาเดี๋ยวนี้ กอข้าว กำมือเดียว ความอุดมสมบูรณ์ของปูปลา ปัจจุบัน ตามห้วยหนอง แทบไม่มี เมื่อก่อนยังพากัน ไปทอดแห จับปลาชะโด อยู่เลย
ยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตอาหาร สามารถควบคุมเมกาได้แล้ว ผมว่าสาเหตุหนึ่งที่เมกา สนับสนุน-ช่วยเหลือพวกล้มเจ้า คัดค้าน ม.112 โดยอ้างเสรีภาพ อาจจะมีสาเหตุหนึ่งเพราะแนวทางของพระองค์ เน้นเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการพึ่งพาตนเอง แต่หลักการของพวกนี้เน้นการกินรวบ ทุกคนต้องพึ่งพามัน แล้วมันก็เอาเปรียบทุกคน
น่าจะเป็นด้าน ภูมิศาสต์ด้วย หรือเปล่าครับ บางแห่ง บางพื้นที่ ฝรั่ง ใช้แบบนี้ ใช้เครื่องจักร เป็นหลัก เป็นอุตสาหกรรม ไม่ใช่กสิกรรม อีกต่อไป คุณภาพของดิน วิถีชีวิต ในการบริโภคเปลี่ยนไป ไม่ยอมให้ดินได้พัก สะสมสารอาหารเลย ปลูกพืชตลอดเวลา ต้องการ ในปริมาณมากๆ เหมือนน้ำมัน อย่าคิดว่ามันไม่หมด GMO สู้ธรรมชาติ ไม่ได้หรอกครับ ระยะสั้น 10 ปี่ ให้ผลผลิตแม้มหาศาล แล้วต่อจากนั้น ผมว่าเราได้ปลูกข้าว ในเยล แบบในห้องเรียนวิทยาศาสตร์แน่
อยากให้ทุกคนได้ดูครบทุกตอน เพราะต่อไปจะเป็นเรื่องใกล้ตัวเราแน่ๆ ความน่ากลัวของ **ทุนเสรีนิยมในระบอบประชาธิปไตย **การล็อบบี้ของทุนยักษ์ใหญ่ ต่อรัฐบาลในการออกกฎหมาย
เวลาที่ผมเห็นข้อโต้เถียงเรื่องความก้าวหน้าใหม่ นิวเคลียร์ เครื่องจักร ยา เคมี................ผมไม่อยากยุ่ง มันขวางไม่อยู่ ใครก็อยากได้ รวมทั้งใครอาจจะเห็นทางร่ำรวย หรือน้อยหน่อยก็คิดว่าชีวิตมันจะสุขสบายขึ้น ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าช่างเถอะ อยากได้ยังไงก็ทำไป หวังว่าจะให้มีทางเลือก และ ยกเว้นเรื่องอาหาร แต่มันไม่ได้ เด๋วนี้ก็คิดใหม่ว่า ใครยังไงช่างหัวมัน ขอแค่ห่วงตัวเองกับคนใกล้ชิดไม่กี่คนก็พอ เลือกกินอาหารที่มันธรรมชาติที่สุดที่จะทำได้ อยู่เป็นคนเสียงส่วนน้อย พูดยากจริงๆ
ขณะที่ทูตอเมริกากังวลเรื่องม.112 ของไทย ว่าขัดต่อสิทธิและเสรีภาพ https://xn--12c4db3b2bb9h.net/threa...ทูตสหรัฐฯ-ถึงกังวล-กม-หมิ่นเบื้องสูงไทย.3464/ สารคดีนี้บอกว่า ในรัฐโคโรลาโด การหมิ่นประมาท"อาหาร" เป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง ถ้าคุณวิจารณ์"เนื้อบด" ที่ผลิตในรัฐโคโรลาโด คุณอาจติดคุกได้ ลองดูในนาทีที่ 3.30นะครับ
ผมเลือกกินข้าวกล้อง นอกจากเรื่องประโยชน์แล้ว อีกเหตุผลคือ ห่างไกลทุนนิยมที่สุด เลือกจากแหล่งผลิตชุมชนขนาดเล็กยิ่งดี หรือง่ายๆ อาหารต่างๆเลือกจากโครงการหลวง
ถ้ามันทำโดยสถาบันที่เป็นของรัฐ ไม่มีการผูกขาด มันก็กังวลเรื่องเดียวคือมันมีผลข้างเคียงไหม แต่ถ้าทำโดยบริษัทและมีการผูกขาด มีการล็อบบี้ให้ออกกฎหมายคุ้มครอง อันนี้น่ากลัวแน่ครับ
ปัญหาที่พบคือรัฐทำแล้วเจอต่อต้านเพราะทำอย่างเปิดเผย คนรู้ทั่วไป ขณะเอกชนทำกันอย่างลับ ๆ กรณี GMOs ของรัฐโดนฝ่ายต่อต้านบุกเผาถึงแปลงวิจัย ขณะที่เอกชนปลูกกันเกลื่อน ก็เลยไม่รู้ว่าฝ่ายต่อต้านมันช่วยใครกันแน่
ผมสนับสนุนกฏหมายควบคุม GMO นะครับ มันต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ใช่ปล่อยให้ใครแอบทำก็ได้ แล้วฝ่ายต่อต้าน GMO ก็อย่างมองแต่มอนซานโต้ครับ มันไม่ได้มีแค่พืชอาหารที่ใช้ GMO แม้แต่ยาเบาหวาน insulin ก็ผลิตโดยแบคทีเรียตัดแต่งพันธุกรรมนะครับ ประโยชน์มากมายมหาศาลถ้าสามารถควบคุมได้เข้มข้นพอ ให้ผ่านยากๆ ต้องปลอดภัยจริงๆ อย่างปลาแซลมอนโตเร็วพันธุ์นี้ไม่ใช่ว่ายัดเงินใต้โต๊ะแล้วจะผ่านนะครับ ตรวจสอบกันยาวๆ ยื่น 1996 ผ่าน 2015 http://www.nature.com/news/salmon-is-first-transgenic-animal-to-win-us-approval-for-food-1.18838
มีคนต่อต้านเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ทุกวันนี้คิดว่า เมล็ดพันธุ์พืชเป็นเงินเท่าไหร่ครับ ต้องควบคุมครับถูกแล้ว อันนี้เท็จจริงอย่างไรก็ต้องหาคำตอบกันเองนะครับ แต่ผมชอบมุมมองความคิดของเค้า นาทีที่ 37 เป็นต้นไป จะเกี่ยวกับหัวข้อกระทู้นะครับ (ผมว่าคนแบบนี้น่านับถือน้ำใจจริงๆ)
แม้กระทั่งธัญพืชที่กิน ก้อตัดแต่งพันธุกรรมครับ ผมเคยเจอยี่ห้อหนึ่งที่ชงกับน้ำร้อน เขาเขียนไว้หลังห่อเลยครับ
อาจผ่านๆ ไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องนี้เท่าไหร่ครับ ตามความเข้าใจ พรบ. ฉบับนี้มีเพื่อควบคุมให้ถูกต้องเป็นกฎหมายเท่านั้นเอง ซึ่งหากไม่มีกฎหมายควบคุมเลย อาจเกิดปัญหาในอนาคตได้ ไม่รู้เข้าใจถูกต้องหรือเปล่า
ถ้าเป็นไปตามที่คุณPat Hemasuk และคุณAnduril ว่ามา ผมเห็นด้วยสุดๆครับ แต่การที่มีทุนยักษ์หนุนหลัง คอยลอบบี้กฎหมาย บอกตรงๆผมไม่ค่อยใว้ใจ "เงินจ้างผีโม่แป้งได้" คำนี้ไม่เคยล้าสมัย และมันต้องเกิดขึ้นแน่นอน
ในเมกาเขาต้องการให้มีฉลากระบุ ว่าอาหารนี้มาจากGMOs หรือโคลนนิ่ง เพื่อผู้บริโภคจะได้รู้ แต่โดนคัดค้านว่า สร้างความกังวลเกินเหตุ(คงโดนล็อบบี้โดยนายทุนแน่)
อันนี้ ความเห็นส่วนตัว ไม่มีวิชาการเจือปนนะ เจ้านายผมบอกว่า ถ้าไม่มีอาหาร gmo อีกหน่อยอาหารไม่พอกิน ผมก็พยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วย ก็นะ อาหารคงแพงมาก ถ้าไม่มี gmo คนจนอย่างผม คงตายเป็นพวกแรก ๆ แต่หลังจาก พบว่า พี่ชายตายด้วยโรคมะเร็ง แล้วก่อนตาย เค้าเป็นห่วงมากเรื่องอาหาร ความคิดหลังจากนั้น ก็เปลี่ยนไป คิดว่า เงินที่มีอยู่ ถ้าจะต้องเสียไปกับค่าอาหาร ทั้งหมด ก็ต้องทำ มะเร็งทรมานมากนะ ผมเห็นมากับตา ถึงไม่ได้เป็นเอง ก็ทุกข์ทรมาน ใจสุด ๆ อะ เอาเป็นว่า คนสนับสนุน อาหาร gmo ก็ช่วย ๆ กันกินมันไปด้วยครับ พวกผม คนจน จะทุ่มเงินทั้งหมด ไปกับอาหารธรรมชาติ ถ้าทำได้นะ แต่ถ้าเงินไม่พอจริง ๆ จะฝืนใจ ยัดเข้าไป
http://www.isranews.org/isranews-article/item/42981-bio.html เหมือนฝ่ายต่อต้านจะต้านเพื่ออะไรก็ไม่รู้นะครับ ยกมาอ้างสารพัดแต่ทำไมถึงไม่อยากให้มีกฏหมาย ปล่อยให้แอบทำกันโดยไม่ต้องควบคุมหรือไง บางอย่างกินเข้าไปทุกวันยังไม่รู้ตัวว่ามันคือ GMO เค้าบอกว่าไม่ใช่นักกฏหมาย แล้วก็คงไม่ได้เรียนวิทยาศาสตร์ด้วย
ผมไม่ต่อต้านครับ สนับสนุนสุดๆ ใครไม่ใช่พวกไม่ใช่เพื่อนส่งเสริมเลย อาหารgmo ถูก หากินง่าย กินกันเยอะๆครับ เอาให้เป็นยอดนิยมให้นายทุนมันผลิตเยอะๆ เอาให้เหลืออาหารธรรมชาติมีน้อย คนกินน้อย นายทุนไไม่อยากมายุ่ง ผมก็เป็นคนส่วนน้อยไป อย่ามาแย่งผมกินละกัน ผมเคยโมโหตอนคนแห่มากินข้าวกล้องกัน ทำเอาข้างกล้องราคาแพงขึ้น แล้วพวกทุนใหญ่หันมาแย่งผลิต ผมรู้สีกได้ว่าคุณภาพ รสชาดแย่กว่าเดิม ตอนนี้เริ่มไม่พอใจไอ้พวกต่อต้านแล้วด้วย ตัวใครตัวมัน ขวางกันไม่ได้ ร๊อก
อ่อ ไม่หวังพึี่งหน่วยงานรัฐ กฏหมายด้วย คุณว่าหน่วยงานรัฐ กฏหมาย วิจัย ส่งเสริม คุ้มครองอะไรละครับ เอกชนมันวิจัยด้วยตัวเองไม่พอหรอก ในเมื่อมันดี มันถูก ช่วยเศรษฐกิจเจริญ หน่วยงานรัฐ กฏหมายเขาทำยังงั้นมันถูกของเขาแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ก็ดีใจที่เขาทำแบบนั้น ก็มีความสุขทั่วหน้าดีแล้วนี่ครับ
ยกตัวอย่างครับ เวลาซื้อผัก ผมซื้อจากลุง ป้า ที่เก็บมาขาย ดูเหมือนใบไม้ ผมก็แค่ถามว่า นี่เรียกใบอะไร กินสด หรือ กินสุก
เรื่องปลอดภัย หรือไม่ปลอดภัย คงสรุปยาก ต้องใช้เวลาพิสูจน์กันอีกนาน อย่างน้ำมันหมูเมื่อก่อนเป็นผู้ร้ายวันนี้เป็นผู้ดีซะงั้น เรื่องทางวิชาการมันมีของใหม่มาลบล้างของเก่าตลอด ผมเองไม่ได้ต่อต้านอะไร แต่มีความคิดว่าไอ้คนพยายามจะทำนั้นคือธุรกิจลงทุนหากำไร ส่วนคนต้านดูเหมือนจะบริสุทธิ์กว่า เดาเอาว่าที่ต้องต้านมันซะทุกเรื่องทั้งๆยังไม่มีอะไรนั้นก็เพราะไม่ต้องการให้นับ 1 เพราะถ้ามี 1 เดี่ยว 2 3 ก็จะตามมา
เรื่องถูกแบน ไม่ต้องมีกฎหมายตัวนี้ก็ถูกแบนแล้วล่ะครับ สินค้าบางอย่างที่ส่งออกไปยุโรปถูกตีกลับเพราะตรวจพบว่าเป็น GMOs แต่พอจะออกกฎหมายควบคุมกลับมาต่อต้าน อ้างเรื่องพันธุกรรมธรรมชาติ ถ้าเอาแบบนี้คงต้องไปกินหญ้าข้าวนก (ข้าวป่า) กันล่ะครับ เรื่องการป้องกันผสมข้ามพันธุ์ มันก็ใช้วิธีเดียวกับที่ปลูกข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ไม่ให้ผสมกันก็ได้