http://www.thairath.co.th/content/503862 “ประจิน” ไฟเขียวขึ้นค่าธรรมเนียมแท็กซี่ 2 สนามบิน ปรับจาก 50 บาท เป็น 75 และ 95 บาท ด้าน ทอท.ร้องจ๊าก! ไม่ขอจ่าย อ้างเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้าน “อาคม” บินไปแคนาดา แจงไอซีเอโอ 13 มิ.ย.นี้ ก่อนโดนตัดสินชะตา 18 มิ.ย. ลุ้นไม่ประกาศข้อบกพร่อง ยันไทยแก้ไขคืบหน้า ระยะสั้นเสร็จเดือน ก.ย. ส่วนระยะกลาง-ยาว แก้เสร็จปลายปีนี้-ต้นปี 59 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เห็นชอบให้มีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียม (เซอร์ชาร์จ) รถแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ทั้งรถแท็กซี่เก๋ง และแท็กซี่แวน แต่การปรับเพิ่มขึ้นจะน้อยกว่าที่คณะทำงานศึกษาเรื่องการปรับค่าธรรมเนียมการให้บริการแท็กซี่สนามบินเสนอมา และจะไม่กระทบให้ประชาชนมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น เพราะในช่วง 6 เดือนแรกของการปรับเพิ่มค่าเซอร์ชาร์จ จะให้บริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นผู้รับภาระส่วนต่างเซอร์ชาร์จที่เพิ่มขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคม ว่า พล.อ.อ.ประจิน มอบหมายให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และนายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ไปหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และกรมการขนส่งทางบก ถึงแนวทางการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้แท็กซี่สนามบินที่สุวรรณภูมิ และดอนเมืองเพิ่มขึ้น หลังจากคณะกรรมการศึกษาการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมแท็กซี่สนามบิน ได้เสนอให้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมแท็กซี่ รถแท็กซี่ขนาดใหญ่ หรือรถแวนเพิ่มจาก 50 บาท เป็น 95 บาท และรถแท็กซี่ขนาดเล็ก หรือรถเก๋งเพิ่มจาก 50 บาท เป็น 75 บาท ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นรายงานสรุปผลการศึกษาเรื่องนี้ แต่เบื้องต้น พล.อ.อ.ประจิน ได้แจ้งว่าอาจมีการปรับค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่ทั้ง 2 สนามบิน โดยรถแท็กซี่ปกติอาจเพิ่มเป็น 60 บาท และแท็กซี่ขนาดใหญ่เพิ่มเป็น 80 บาท และขอให้ ทอท. ช่วยรับภาระเซอร์ชาร์จ 6 เดือน ซึ่งตนแจ้งกลับว่าจะนำข้อเสนอมาพิจารณาดูข้อกฎหมายตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ก่อน และต้องมีเหตุผลชี้แจงกับผู้ถือหุ้นของ ทอท.ได้ แต่ขณะนี้ยังมองไม่เห็นแนวทางว่า ทอท.จะเข้ามารับภาระในส่วนนี้อย่างไร ผู้สื่อข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า ปัจจุบัน ทอท.เป็นบริษัทจำกัด (มหาชน) ดังนั้นการอนุมัติเงินงบประมาณเพื่อจ่ายชดเชยให้กับรถแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองคงไม่สามารถทำได้เอง และต้องเสนอเรื่องเพื่อขออนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน และตามหลักการค่าบริการรถแท็กซี่เป็นเรื่องที่ผู้โดยสารทั้งคนไทยและต่างประเทศจะต้องรับภาระ ไม่ใช่ภารกิจที่ ทอท.จะต้องเข้ามารับผิดชอบ จึงไม่มีเหตุผลที่ ทอท.จะต้องรับภาระในส่วนนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการศึกษาการขึ้นค่า ธรรมเนียมแท็กซี่ฯ ได้มีข้อสรุปเสนอทั้งสิ้น 3 แนวทาง แนวทางแรกให้ขึ้นค่าธรรมเนียมรถแท็กซี่สนามบินทั้งรถเล็ก และรถใหญ่ พร้อมกับประสานให้ ทอท.ปรับปรุงการให้บริการ แนวทางต่อมา เสนอให้นำรถแท็กซี่แวนขนาดใหญ่มาเป็นทะเบียนรถป้ายสีเขียว โดยให้ ทอท.เป็นผู้กำกับดูแลและค่าโดยสารได้เองโดยไม่ต้องกดมิเตอร์ แต่วิธีนี้อาจได้รับความร่วมมือน้อยเพราะรถแท็กซี่ไม่ยอมจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ส่วนแนวทางสุดท้าย เสนอให้ปรับค่าธรรมเนียมการใช้แท็กซี่สนามบิน และให้มีการปรับมิเตอร์รถแท็กซี่เป็น 2 ระบบ แยกกันระหว่างรถแท็กซี่ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ แต่วิธีนี้อาจมีความยุ่งยากและไม่เหมาะสม ดังนั้นแนวทางที่เป็นไปได้มากสุดคือการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมรถแท็กซี่ทั้ง 2 ชนิด ให้แตกต่างกัน ขณะที่การปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ทั้งระบบในระยะสองช่วงเดือน ก.ค.นี้ อีก 5% เพื่อให้ครบ 13% นั้น เบื้องต้นต้องรอนำผลการประเมินความพึงพอใจการใช้งานผู้โดยสารจากกรมการขนส่งทางบกมาพิจารณาร่วมด้วย แต่ยืนยันว่าในการขึ้นมิเตอร์แท็กซี่รอบสอง ค่ามิเตอร์จะไม่ขึ้นไปจากข้อตกลงเดิมที่ 5% เนื่องจากผลการศึกษาต้นทุนค่าแท็กซี่ล่าสุดพบว่าต้นทุนค่าโดยสารแท็กซี่ไม่ได้ขึ้นจากเงื่อนไขเดิมที่วิเคราะห์ไว้เมื่อปลายปีก่อน ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เผยว่า เตรียมเดินทางไปสำนักงานใหญ่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) เมืองมอนทรีออล แคนาดา 13-15 มิ.ย.58 และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) เพื่อชี้แจงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (เอสเอสซี) ของกรมการบินพลเรือนไทย ตามที่ไอซีเอโอเสนอแนะมา โดยการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ด้านการจัดทำคู่มือการบิน การอบรม และการทบทวนใบอนุญาตการบิน (เอโอซี) จะแล้วเสร็จไม่เกินเดือน ก.ย.-ต.ค.58 ส่วนการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือน อยู่ในแผนระยะกลาง-ระยะยาว คาดเสร็จปลายปีนี้ถึงต้นปี 59 “ไอซีเอโอกำหนดระยะเวลาแก้ไขปัญหาการบินให้เสร็จภายใน 90 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 18 มิ.ย. พร้อมกับประกาศทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการให้ประเทศสมาชิกรับทราบ โดยถือเป็นเรื่องที่ไทยต้องชี้แจงการแก้ไขปัญหาของเรา และหากไอซีเอโอพอใจการแก้ไขปัญหาของไทย ไอซีเอโอก็อาจไม่ประกาศให้ประเทศสมาชิกทราบ”. ท่านมาเป็น รมต ไม่เคยเห็นทำอะไรเป็นประโยชน์กับประเทศเลยทำแต่ปัญหา ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะเลี้ยงไว้ทำซากอะไร
เซ็งครับ กับคนๆ นี้ ตามใจแท๊กซี่ แต่กลัวผู้โดยสารจะด่า เลยเอาเงิน ทอท มาจ่ายส่วนต่าง เขาใช้เงินภาษีประชาชนแบบไม่เกรงใจเลย
คือสงสัยจริงๆ คนนี้เวลาทำงานเคยได้อ่านและศึกษาถึงข้อมูลทุกอย่างก่อนที่จะเซ็นอนุมัติไหม หรือสักแต่ว่าเขาเอามาให้ก็ดูพอเป็นพิธีแล้วก็เซ็นต์ แต่ละเรื่องที่ทำห่วยมากๆ ใช้เงินภาษีอย่างกับเบี้ย
วิธีหลอกควายแดง ให้มาตายข้างถนน ใช้ได้กับพวกควายแดงเท่านั้นนะ อยากจะต่อต้านไปต่อต้านเองสิ ตีนตบ ไม่เอามาปัดฝุ่นสักที คสช บริหารจะเป็นปีแล้ว ไอ้ที่บอกว่าต้านรัฐประหารแค่ลมตด
เห็นแต่เอ็งนั่นแหละ หมาเห่าใบตองแห้ง พี่น้องเสื้อแดงโดนหลอกไปตายเอาศพเป็นบันไดเนี่ย เอ็งก็เอาแต่เห่าอยู่ในโลกออนไลน์ โถ่ๆๆๆ ไอ้ตุ้ด
“ประจิน” แจงอย่าตื่นตูม ยังไม่อนุมัติขึ้นเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบิน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 มิถุนายน 2558 18:13 น. (แก้ไขล่าสุด 9 มิถุนายน 2558 18:48 น.) คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น “ประจิน” แจงยังไม่อนุมัติปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบิน ชี้ยังมีขั้นตอนการพิจารณาก่อนออกเป็นนโยบาย สรุปสุดท้ายประชาชนไม่ต้องเดือดร้อนควักกระเป๋าจ่ายเพิ่ม โดย 6 เดือนแรกให้ ทอท.รับภาระ พร้อมกับเร่งปรับโครงสร้างการบริหารระบบแท็กซี่สนามบิน จัดตาราง เพิ่มเที่ยววิ่งให้แท็กซี่อยู่ได้ โดยใช้อัตรามิเตอร์และเซอร์ชาร์จเดิม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรณีที่มีผลการศึกษาในส่วนของค่าธรรมเนียมรถแท็กซี่ที่ให้บริการในท่าอากาศยาน (เซอร์ชาร์จ) ซึ่งเห็นว่าแนวทางที่เหมาะสมคือ คงอัตราค่ามิเตอร์เดิม แต่ปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จในอัตราที่เหมาะสม โดยวิธีการดำเนินงานคือ ใน 6 เดือนแรกจะให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. รับภาระค่าเซอร์ชาร์จไปก่อน โดยในระหว่างนั้นจะมีการทบทวนเพื่อปรับโครงสร้างการบริหารการให้บริการระบบแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิใหม่ทั้งหมดเพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น มีการจัดสรรเส้นทางให้เหมาะสม จัดจำนวนเที่ยววิ่งต่อวันที่เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งข้อมูลพบว่าปัจจุบันแท็กซี่สนามบินวิ่งเฉลี่ย 4-5 เที่ยวต่อวันแต่ไม่เพียงพอต่อต้นทุน ต้องปรับการบริหารอย่างไรเพื่อเพิ่มเที่ยววิ่งต่อวัน แก้ปัญหาบัตรคิว หรือการเจรจาต่อรองแทนการใช้มิเตอร์ เป็นต้น ต้องหาวิธีการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ทั้งนี้ ยืนยันเจตนาของนโยบายนี้จะไม่ต้องการทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนแน่นอน ซึ่งจะเลือกแนวทางที่ประชาชนจ่ายค่าแท็กซี่ที่สนามบินเท่าเดิม ไม่ต้องจ่ายเพิ่มใดๆ โดยต้องมีการรื้อระบบการบริหารจัดการของ ทอท.ใหม่ให้เสร็จใน 6 เดือน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จ โดยตามขั้นตอนจะนำผลศึกษาแนวทางที่เป็นไปได้ให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางศึกษาวิเคราะห์ พร้อมกันนี้ จะนำเรื่องหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านสังคมและเศรษฐกิจ ก่อนที่จะออกเป็นนโยบายที่ชัดเจน “ตอนนี้มีขั้นตอนการทำงาน ยังไม่จบ ยังสรุปไม่ได้ ตอนนี้มีแค่ผลการศึกษาจากคณะทำงาน จากนี้จะเป็นขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางและ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากนั้นจะเสนอมาที่ รมว.คมนาคมพิจารณา ซึ่งก่อนจะสรุปจะนำเรื่องปรึกษารองนายกฯ ก่อน จะประกาศอย่างไร ประชาชนจะต้องกระทบน้อยที่สุด ส่วน ทอท.จะไม่รับภาระค่าเซอร์ชาร์จช่วง 6 เดือนนั้นคงยังสรุปตอนนี้ไม่ได้ เพราะ ทอท.จะต้องนำเสนอฝ่ายบริหารและบอร์ดขอเป็นมติออกมาก่อน จะไปถามเด็กเล็กว่าทำไม่ได้ คงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง และ ทอท.ก็เป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงาน หาก ทอท.มีความเห็นขัดแย้งก็ต้องชี้แจง และให้เหตุผล ซึ่งขณะนี้ต้องฟังคณะทำงานก่อนว่าศึกษามีผลเป็นอย่างไรและนำมาวิเคราะห์ตามขั้นตอนต่อไปก่อน” พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า จากผลการศึกษาของคณะทำงานเรื่องค่าธรรมเนียมรถแท็กซี่ที่ให้บริการในท่าอากาศยาน (เซอร์ชาร์จ) ได้เสนอ 3 แนวทาง คือ 1. ปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จ 2. ไม่ปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงตามขนาดรถ (เล็ก, กลาง, ใหญ่) 3. คงอัตราค่ามิเตอร์เดิม แต่ปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จในอัตราที่เหมาะสม โดยให้ ทอท.รับภาระค่าเซอร์ชาร์จในช่วง 6 เดือน ซึ่งในระหว่างนั้นจะมีการทบทวนเพื่อปรับโครงสร้างระบบแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิใหม่ทั้งหมด ที่มา http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000065402
ไปตั้งใจสอนหนังสือดีกว่า จะได้ไม่ต้องนั่งกลุ้มหาค่าเช่าสถานที่ เจ้าของตึกสำนักกวดวิชาของคุณลีฯที่ชื่อบ้านกวดวิชาตรงพุทธมลฑลสายสี่นั้นหน่ะ เค้าฝากมาถามฮะ อิอิอิ