พระยาทรงสุรเดช หนึ่งในสี่ทหารเสือของคณะราษฎร พูดเองเลยว่าประชาชนไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับประชาธิปไตย ผมว่าการปฎิวัติที่ไม่ได้มาจากประชาชนมันก็ล้มเหลวตั้งแต่เริ่ม กลัดกระดุมผิดเม็ดแรก เน่าจนปัจจุบัน ผมว่าถ้าคณะร่านใจเย็น ทำตามโรดแมปที่ในหลวงวางไว้การเมืองไทยคงไม่เละขนาดนี้
เชื้อร่านมันแรงส์ ถูกของมันที่วังวินเซอร์ไม่มีเจ้าอาศัยอยู่ แต่เพราะวังถูกยกให้เป็นสถานศึกษา เป็นที่เรียน คงมีแต่คณะร่านและเสื้อแดง ที่กล้าทุบสถานศึกษา
ตั้งใจจะไปค้นหนังสือเก่าในห้องหนังสือแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีเวลา หลายๆปีมาแล้วผมเคยไปเดินย่านตลาดหนังสือเก่ารอบสนามหลวง เจอหนังสือน่าสนใจหนึ่งเล่ม จำได้ว่าส่วนหนึ่งของเนื้อหาในหนังสือนั้นกล่าวถึงร.๗ทรงดำริจะจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลกรุงเทพฯ พระประสงค์คือ เป็นการวางรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตย เริ่มจากวงเล็กที่มีความพร้อมก่อนเพราะขณะนั้นคนในกรุงเทพฯดูจะมีความพร้อมมากที่สุด เริ่มจากสภาเทศบาล ถ้าผิดพลาด ความเสียหายจะอยู่ในวงแคบ พระราชดำรินี้ถูกเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งให้หน่วยงานที่กลั่นกรองกฏหมายพิจารณา หลวงประดิษฐ์มนูธรรมซึ่งก็คือนายปรีดี พนมยงค์เป็นคนรับผิดชอบหน่วยงานนั้น ปรากฏว่านายปรีดี ดองพระราชดำริไว้ถึงสองปีโดยไม่ได้ตราเป็นกฏหมายเพื่อดำเนินการ จนกระทั่งคณะราษฎร์ทำการปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ เหตุผลที่นายปรีดีดองเอกสารไว้ก็สุดจะคาดเดาความประสงค์ของนายปรีดี แต่ถ้าให้มองในแง่ลบ ขณะนั้นกระแสการทำการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตยกำลังอยู่ในกระแสและนายปรีดีก็เป็นหนึ่งในแกนนำด้วย หากคณะราษฎร์ตระหนักว่าร.๗ท่านกำลังจะพระราชทานระบอบประชาธิปไตยให้สยามประเทศอยู่แล้ว การทำปฏิวัติรัฐประหารเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองน่าจะไม่จำเป็น และคณะราษฎร์อาจยกเลิกแผนการณ์ทำปฏิวัติรัฐประหารเสียก็ได้ ก็เขียนไว้แต่ต้นแล้วว่ายังไม่มีเวลาไปรื้อค้นหาหนังสือเล่มนั้นในห้องหนังสือ หากเหล่าพนักงานรับจ้างสอนหนังสือแถวท่าพระจันทร์จะคัดค้านและหาว่าผมมโน ผมจะได้เร่งไปค้นหนังสือเล่มดังกล่าวให้เจอ