ป.ป.ช.จ่อลักไก่ให้อำนาจตัวเองถอนฟ้องคดีได้ คาดอุ้ม “พัชรวาท” คดี 7 ตุลาฯ โดย MGR Online 17 เมษายน 2559 15:32 น. รายงานข่าว ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช. เตรียมลักไก่ให้อำนาจตัวเองถอนฟ้องคดีได้ ทั้งที่ กม.- ระเบียบไม่เปิดช่อง เหตุ ขรก. เกียร์ว่างทำแก้ พ.ร.ป.ป.ป.ช. อืด หวั่นมีปัญหาตามภายหลัง พร้อมจับตาภารกิจอุ้ม “พัชรวาท” คาดถอนฟ้องคดี 7 ตุลาฯ แน่ วันนี้ (17 เม.ย.) จากกระแสข่าวที่ระบุว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังเร่งดำเนินการจัดทำร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2542 เพื่อลดภาระหน้าที่ในส่วนของการส่งฟ้องผู้ที่ชี้มูลความผิดที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดทางวินัย ตามนโยบายของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ที่ตั้งเป้าหมายทำคดีสำคัญให้แล้วเสร็จอย่างน้อย 500 คดี ภายในปีงบประมาณ 2559 นั้น รายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งว่า ขณะนี้ทาง สำนักกฎหมายของสำนักงาน ป.ป.ช. ที่รับมอบหมายให้จัดทำร่างแก้ไข พ.ร.ป.ป.ป.ช. ยังดำเนินการไม่เสร็จ จึงทำให้ไม่สามารถนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 แก้ไข พ.ร.ป.ป.ป.ช. เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงระเบียบ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการถอนฟ้องคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดทางวินัยได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ มี พล.ต.อ.วัชรพล ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม และมีกรรมการ ป.ป.ช. เข้าร่วมประชุมรวม 7 ราย ขาดเพียง พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง และ นายณรงค์ รัฐอมฤต โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาวาระที่เกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจ ป.ป.ช. ในการขอถอนฟ้องคดีความที่อยู่ในชั้นศาล ซึ่งแต่เดิมไม่มีบรรจุไว้ในทั้ง พ.ร.ป.ป.ป.ช. หรือระเบียบ ป.ป.ช. แต่อย่างใด ปรากฏว่า ที่ประชุมได้มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง เห็นชอบให้การเพิ่มอำนาจ ป.ป.ช. ในการขอถอนฟ้องคดีความที่อยู่ในชั้นศาลได้ โดยมีเพียง นางสุภา ปิยะจิตติ เท่านั้นที่ลงมติไม่เห็นด้วย รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในที่ประชุมยังได้มีการหารือเพื่อนำมติดังกล่าวไปแก้ไขและบรรจุอำนาจการถอนฟ้องลงไปในระเบียบ ป.ป.ช. แต่ก็มีผู้เห็นแย้ง โดยระบุว่า ป.ป.ช. สามารถนำมติดังกล่าวไปอ้างอิงในการถอนฟ้องคดีต่าง ๆ ได้เลย อีกทั้งยังไม่ได้ระบุประเภทของคดีว่าสามารถถอนฟ้องในส่วนใดได้บ้างอย่างชัดเจน ระบุเพียงว่า การถอนฟ้องคดีต่าง ๆ ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม ป.ป.ช. เท่านั้น “การที่ไม่ได้ระบุว่าคดีใดเข้าข่ายการถอยฟ้องบ้าง ส่งผลให้การพิจารณาถอนฟ้องคดีเป็นไปตามดุลพินิจของที่ประชุม ป.ป.ช. นอกจากนี้ มติดังกล่าวยังอยู่นอกเหนือจากอำนาจของ ป.ป.ช. ตามกฎหมาย ซึ่งเกรงว่าต่อไปอาจทำให้เกิดปัญหาได้ โดยสาเหตุที่ทำให้ต้องออกมตินี้ ก็เพราะความพยายามแก้ไข พ.ร.ป.ป.ป.ช. ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร” แหล่งข่าวภายใน ป.ป.ช. ระบุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายใน ป.ป.ช. เกี่ยวกับนัยซ่อนเร้นที่มีการรีบเร่งให้ ป.ป.ช. สามารถถอนฟ้องคดีต่าง ๆ ได้ โดยมีการคาดหมายว่าคดีสำคัญที่จะได้รับการพิจารณาถอนฟ้องในลำดับต้น ๆ คือ คดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. (ทั้งหมดเป็นตำแหน่งเมื่อปี 2551) เป็นจำเลยที่ 1 - 4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งศาลประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ อม.2/2558 และมีการไต่สวนพยานนัดแรกไปแล้ว โดยอาจให้เหตุผลว่า เป็นคดีที่มีมูลความผิดจากการกระทำผิดทางวินัย จึงควรเป็นอำนาจของหน่วยงานต้นสังกัดในการยื่นฟ้องหรือดำเนินตามกฎหมาย
มาอัพเดทข่าวให้ รองนายกฯวิษณุ ระบุ"ปปช."ถอนฟ้องคดีสลายพันธมิตรฯได้หรือไม่ อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลฎีกาฯ แนะลองยื่นดูจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไป แต่ต้องเตรียมรับมือความวุ่นวายไว้ด้วย วันนี้(23 เม.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าป.ป.ช. ไม่มีอำนาจถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่อยู่ในชั้นศาลฎีกาฯได้ ว่าถือเป็นความเห็น ตนทราบจากข่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ช. กำลังพิจารณา ฝ่ายกฎหมาย บอกสามารถถอนได้ และตัวกรรมการ ป.ป.ช. เอง ก็มีมติว่าทำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำ ถามว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ ป.ป.ช. พิจาณาณาว่ามีอำนาจถอนฟ้องคดีได้นั้น จะนำมาใช้กับศาลฎีกาฯได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต ไม่ได้ระบุถึงเรื่องนี้ไว้ แต่ในข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาคดีของศาลฎีกา บอกไว้ว่า อะไรที่ไม่ได้อยู่ในข้อกำหนด ให้นำ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้ได้โดยอนุโลม ส่วนกฎหมายของ ป.ป.ช. ไม่ได้มีข้อกำหนดในเรื่องนี้ ไม่มีก็คือไม่มี แต่เมื่อไม่มีจะแปลว่ายื่นได้หรือไม่นั้น ต้องลองยื่นดู ศาลจะอนุญาตหรือไม่ รองนายกฯ อธิบายว่า ประเด็นมีอยู่ 2 ข้อ คือ 1.ตามข้อกฎหมายสามารถถอนฟ้องได้หรือไม่ 2.ถ้าทำได้ ก็อยู่ที่ว่า ควรใช้ดุลพินิจหรือไม่ เยอะแยะไปที่ตามกฎหมายทำได้ แต่อยู่ที่ควรหรือไม่ควร เรี่องนี้คุณไม่ต้องกลัวเวลาจะยื่น ต้องไปศาลที่จะเป็นผู้พิจารณ จึงไม่ต้องมานั่งติดใจกันว่าจะถอนได้หรือไม่ ศาลอาจพิจารณาแล้วเห็นว่าโจทก์ไม่สามารถถอนฟ้องได้ ก็จบ ก็ดี จะได้เป็นบรรทัดฐาน ในทุกคดีที่ป.ป.ช. สั่งฟ้อง และถ้า ป.ป.ช. คิดว่าจะถอนฟ้อง ก็ต้องเตรียมรับมือความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นด้วย ถึงได้บอกว่าคุณต้องดูข้อกฎหมาย ว่ามีอำนาจหรือไม่ และต้องพิจารณาว่าศาลจะอนุญาตหรือเปล่า รวมถึงต้องพิจารณาว่าสังคมมีความเข้าใจหรือเปล่า ว่าที่ทำไปนั้นทำไปเพราะอะไรไม่จำเป็นต้องเห็นชอบหรอก. http://www.thaipost.net/?q=วิษณุชี้ถอนฟ้องคดีทุบพันธมิตรฯอยู่ที่ดุลพินิจศาล .................................................................... อ่านดูแล้วเหมือนรองฯวิษณุไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ห้ามปปช. ซึ่งหากยื่นถอนจริง ปปช.ก็ต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมาด้วย