อะไรคุ้มครองโลก ? คือ “ความละอาย” และ “ความกลัว” ภาษาบาลีเรียกว่า หิริ และ โอตตัปปะ. ความละอาย คือละอายเมื่อรู้สึกว่าไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง ถ้าไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ เราก็ละอาย ยิ่งปฏิบัติหน้าที่ ไม่ถูกต้องด้วยแล้ว ก็ยิ่งละอายสุดแสนที่จะเรียกว่าละอายทีเดียว ความกลัวก็คือกลัวการปฏิบัติผิด หรือไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้ ยิ่งกว่ากลัวเสือ กลัวผี กลัวเจ็บไข้ กลัวตายเสียอีก มันจึงจะเรียกว่า หิริ และ โอตตัปปะ เดี๋ยวนี้โลกกำลังขาดหิริ และ โอตตัปปะ ลงทุกที ๆ จนถึงขนาดที่เรียกโดยสำนวนว่า “หาทำยาหยอดตาได้ยาก” ยาหยอดตานั้น เขาหมายถึงมันต้องการนิดเดียวเท่านั้น ถ้าหาทำยาหยอดตาไม่ได้แล้ว ก็อย่าไปนึกถึงว่าจะหามากินมาใช้ อะไรกันให้มากมายเลย ความละอาย ความกลัวนี้ เป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานสำคัญ ของศาสนาหรือของธรรมะ ทุกอย่างทุกประเภท เพราะว่าคนเราไม่ใช่มีใครถือปืนมาจ่อหลังเราอยู่ได้ทุกเวลา เราย่อมมีเวลาอยู่ตามลำพัง หรือว่าเราทำอะไรได้ โดยไม่มีใครเห็น. ฉะนั้นถ้าเราไม่มีหิริและโอตตัปปะแล้วเราจะทำสิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อมีโอกาส ที่มันรอดตัวได้ ก็เพราะว่ามีหิริและโอตตัปปะ ละอายแก่ใจตัวเอง กลัวได้ตามลำพังตัวเอง ในความชั่ว ละอายความชั่ว กลัวความชั่ว ความละอาย ความกลัวนี้ มีชื่อในทางพุทธศาสนาว่า “สิ่งที่คุ้มครองโลก” เรียกว่า “ธรรมบาล” แปลว่าผู้คุ้มครองของโลก อะไรคุ้มครองโลก ? ก็ตอบว่า หิริ และโอตตัปปะ Cr : หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ นำมาเสนอ : คุณ Bonne Maison แอบเอามา : แม่มะนาว
อ.พุทธทาส ท่านนั่งท่องบ่น "พุทธวจนะ" ให้ใครฟังไหม ท่านชวนใครไปถวายข้าวพระพุทธเจ้า ชวนมาเดินเหยียบกลีบดอกไม้ให้สูญเปล่ามีบ้างไหม แล้วยังไง... ท่านก็เป็น "ธรรมาจารย์" ที่ยิ่งใหญ่ ปลุกศีลธรรมและสร้างปัญญาให้ใครต่อใคร เข้าถึงแก่นธรรมในพระพุทธศาสนาได้อย่างกว้างขวาง และลึกซึ้ง...มิใช่หรือ? Cr : ปู จิตกร บุษบา แอบเอามา : แม่มะนาว
“อยู่ที่ไหนให้มันเป็นวัวป่า อย่าให้เป็นวัวบ้าน วัวป่ามันอิสระไม่มีใครผูกจมูกจูงจมูก แต่วัวบ้านมันถูกผูกไว้กับหลัก ไปอยู่ที่ไหนก็อย่าให้โยมอุปถัมภ์อุปัฏฐากจนกระทั่งว่า มันติดไป ไม่ใช่ให้เขามาผูกมามัดเหมือนวัวบ้าน อยู่ให้เป็นอิสระเหมือนวัวป่า จะอยู่ก็ได้จะไปก็ได้” ที่มา จากหนังสืออุปลมณี น.๑๔๐-๑๔๑ หลวงพ่อชา สุภัทโท - วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
เดี๋ยวนี้มีแต่ความหวาดกลัว มีแต่ความดิ้นรนที่จะไปเป็นทาสของวัตถุ ที่รักใคร่ชอบใจหวงแหน เลยไม่มีวันสร่างซา ที่จะคล้อยออกมาเสีย จากความครอบงำของสิ่งเหล่านั้น มันจึงเกิดมาแล้วอย่างหลับตา แล้วก็ตายไปอย่างหลับตา ไม่รู้ว่ามีแสงสว่างอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่ามีพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่ามีความหลุดรอดอยู่ที่ไหน คือไม่รู้ว่ามีนิพพานอยู่ที่ไหน Cr : หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ นำมาเสนอ : คุณ Bonne Maison แอบเอามา : แม่มะนาว
พี่มะนาวบอกหลวงพี่ไม่อยู่สักพัก เราเด็กวัดต้องเข้ามาทำความสะอาดสักหน่อยเดี๋ยวจะโดนเอ็ด ฝากเพลงให้ฟังคลายเหงา "ชีวิตคนเศร้า" เสรีย์ รุ่งสว่าง เอาขนมหวานมาฝากเพื่อนๆด้วย ฟังไปทานไปนะครับ มีน้ำด้วย"โอเลี้ยง"พี่มะนาวเอาไปเลย
ขอบคุณค่ะคุณแสงธูปสำหรับขนมอร่อย ใครมาหลังแม่มะนาว จะไม่รู้เลยว่าจะมีฝอยทองด้วย ทานหมดแล้ว ต้องจัดใหม่ ส่วนน้ำขอเป็น น้ำใจ ละกัน อิอิ หลวงพี่มาอิฉันละโดนดุแน่ มาเล่นซนในห้องธรรมะ
พระสุปฏิปันโน ท่านบวชมาแล้ว ท่านปฏิบัติภาวนา เพื่อ สะสางกิเลส พระอลัชชี บวชมาแล้ว สะสมกิเลส สะสมวัตถุทรัพย์สมบัติ ดูดทรัพย์ พระสุปฏิปันโน ท่านสร้างหลักธรรมหลักใจ ปฏิบัติเพื่อชำระกิเลสออกจากจิตใจ พระอลัชชี สร้างและสะสมวัตถุ แก้ว เพชร นินจา มาประดับใว้เป็นสมบัติของตน พระสะสางกิเลส กับ พระสะสมกิเลส ดูและหัดแยกแยะ ง่ายๆเพียงแค่นี้ เมื่อใดที่คุณออกห่าง พระอลัชชี คุณก็สามารถช่วยพระศาสนาได้แล้ว Cr : วัดป่าดอทคอม นำมาเสนอ : หลวงพี่กีรเต้ แอบเอามา : แม่มะนาว
รอยธรรมคำสอนพระเถระ หิริ โอตฺตปฺป นี้เป็นธรรมที่สำคัญ เพราะเป็นพื้นฐานของศีล เป็นต้นตอของศีล ผู้จะมีศีลได้ ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ หรือศีล ๒๒๗ ก็ตาม ต้องมีหิริ และโอตฺตปฺป ๒ อย่างนี้ เนื่องจากได้เห็นจิตของตน เห็นความนึกความคิด ความปรุงจิตของตนแล้วก็กลัวบาป ละอายบาป จึงไม่อาจจะทำความชั่วได้ ฉะนั้น ศีลก็บริสุทธิ์เท่านั้นเอง ...หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี Cr : ชมรมธรรมดี นำมาเสนอ : หลวงพี่กีรเต้ แอบเอามา : แม่มะนาว
รอยธรรมคำสอนพระเถระ “ระวังเมตตาตกบ่อนะ คือเราเห็นเขาตกทุกข์ยากลำบาก เราก็คิดอยากจะช่วยเขา. แต่แทนที่จะดึงเขาขึ้นมา เขาก็กลับดึงเราลง” ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก วัดธรรมสถิต Cr : ชมรมธรรมดี นำมาเสนอ : หลวงพี่กีรเต้ แอบเอามา : แม่มะนาว
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นที่ห้องนี้นะคะ เมื่อวานได้ดูคลิปเต็มๆ ที่มีการสัมภาษณ์คุณลีลาวดี วัชโรบล เรื่อง เงินบริจาคของวัดธรรมกาย กับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ฟังจนจบแล้วเห็นใจคุณลีลาวดี ที่ตอนนี้มีดีกรีเป็น ดร.แล้ว เธอพยายาม แถ..ลง ให้วัดมากๆ ความรักและศรัทธาของคุณลีลาวดีกับธรรมกาย เท่าที่ฟังเธอบรรยายมา คือเพลงนี้ค่ะ
คุณสายลมสามารถฟังได้จนจบหรือคะ แม่มะนาวแค่ฟังที่เธอพยายามเถียงกับคุณวิชเยนทร์ ก็สุดทน อันนี้เป็นนิสัยที่ไม่ดีอย่างนึงของแม่มะนาว เวลาฟังอะไรที่เห็นว่าไร้เหตุและผลโดยสิ้นเชิง เรียกง่ายๆว่า ตะแบงไปเรื่อย มีสองอย่างให้เลือก (You always have choices) เดินหนีเพราะรำคาญจิต หรือไม่ก็โต้แย้ง (เรียกอย่างไพเราะก็ อธิบาย) ถ้าเห็นว่าอาจทำให้เขาได้สติขึ้นมาได้บ้าง หุหุ
ฟังจนจบค่ะ ถึงได้รู้สึกว่าวุฒิภาวะเธอต่ำมากค่ะ ความรู้เรื่องพุทธศาสนาก็มีน้อยมาก เธอบอกด้วยความภูมิใจว่า เธอศรัทธาธรรมกายเพราะเธอได้อะไรที่อยากได้เพราะ เธอเชื่อคำสั่งสอนของเจ้าอาวาสค่ะ เธอไม่มีเวลาไปศึกษาธรรมะจากทีไหนเพราะ เธอเห็นแก่นธรรมประมาณที่ธรรมกายแล้วประมาณนั้น เธอเชื่อเรื่องเจ้าอาวาส ไปถวายข้าว ไปเจอพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ สายลมฟังไป ขำไปมากค่ะ เหมือน ผู้หญิงอ้วนๆ มาพูดตลกให้ฟังน่ะค่ะพี่มะนาว คลายเครียดได้เหมือนกัน
ดึกแล้วแอบมาทำความสะอาด"กุฏิไม้ไผ่"ไว้รอ"หลวงพี่" แอบเอาของโปรดมาทานด้วย"สลิ่มแตงไทยน้ำกะทิ" พร้อมกับเปิดเพลงฟังเบาๆ "แม่ของใคร" พรศักดิ์ ส่องแสง
คุณแสงธูปเหมือนรู้เลย หลวงพี่กำลังกลับจากฝึกวิชา(นินจา) แต่ไม่รู้ว่าท่านจะเหลือแรงแวะกุฏิหรือเปล่า แต่สะอาดไว้ ย่อมดีที่สุด ตอนเด็กไม่ชอบกลิ่นแตงไทยเลย ดมแล้วเวียนหัว ย่าพี่ชอบทาน ทานพร้อมกับข้าวเหนียวดำ แอบคุยกันก่อนแปะธรรมะสอนใจ Cr : ฺBonne Maison และ Nata Nathaniel แอบเอามา : แม่มะนาว
"การกินข้าวที่วัด หลังจากที่พระท่านฉันเสร็จบาป หรือไม่" ถาม : คนธรรมดาถ้าจำเป็นต้องกินข้าววัด ทำอย่างไรถึงจะไม่บาปครับ ? ตอบ : กินที่เหลือจากพระ เขาเรียกว่า วิทาสาโท กินได้แต่เอากลับบ้านไม่ได้นะ กินแค่อิ่มตรงนั้น อย่างญาติ พระเจ้าพิมพิสารที่เป็นเปรตตั้ง ๙๑ กัป นั่นกินแล้วไม่พอยังขนกลับบ้านด้วย จริง ๆ ถึงจะเป็น วิทาสาโท คือของเหลือจากพระแล้วมันก็ยังเป็นของสงฆ์อยู่ อันนั้นท่านอนุญาตให้คุณมีสิทธิ์กินสิทธิ์ใช้แค่ตรงนั้นเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นอย่าไปยุ่งกับเขา แต่ส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจ ยิ่งอันหนึ่งที่อันตรายที่สุดก็คือข้าวที่ถวายพระพุทธที่วัดบรรดามัคทายัก ไม่ใช่มัคทายก ส่วนใหญ่เลือกแต่ข้าวดีๆ กับดีๆ ถวายพระพุทธถึงเวลาลามาก็กินเอง นั่นนะซวยแน่ๆ เพราะยังเป็นของสงฆ์อยู่เต็มที่เลย เพราะฉะนั้น ถ้าหากใครเคยทำอย่างนั้น ตัวเองติดหนี้สงฆ์แล้วหาทางชำระหนี้สงฆ์ ไม่อย่างนั้นตายแล้วมันจะลงอเวจีมหานรก วิธีทำแล้วปลอดภัยคือกินที่เหลือจากพระฉันแล้ว แล้วหลังจากนั้นส่วนอื่นอย่าไปยุ่ง เราเอาแค่ดำรงชีวิตอยู่แค่นั้นพอแล้ว ถ้าติดใจก็ชำระหนี้สงฆ์ซะ Cr : หลวงปู่ตู่ พรหมปัญโญ นำมาเสนอ : เพียงพันธุ์ รักในหลวง แอบเอามา : แม่มะนาว
เนื้อเพลง บอย โกสิยพงษ์ อยากจะรู้หัวใจพระองค์นั้นทรงทำด้วยอะไร เหตุอันใดจึงมีความรักมากมายให้ได้กับทุกคน อยากจะรู้ร่างกายพระองค์ทำไมจึงถึงอดทน แบกภาระที่มีมากล้นคนเดียวอย่างไร เป็นเจ้าฟ้าที่ยืนข้างล่าง แบกไพร่ฟ้าเอาไว้บนไหล่ อยากรู้พระองค์เคยคิดเหนื่อยบ้างไหม ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ขอจงทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายและพระทัย ทรงพระเจริญ พระเจ้าอยู่หัวของชาวไทย จากใจพสกนิกรของพระองค์ กี่ปีมาแล้วที่เห็นพระองค์นั้นทรงเหนื่อยล้าใจกาย โดยมุ่งหมายดูแลแก้ไขป้องภัยให้เรา จนบัดนี้พระองค์ก็ยังคงคอยช่วยเหลือบรรเทา และทรงเฝ้าทำเพื่อพวกเราไม่เคยเสื่อมคลาย เป็นเจ้าฟ้าที่ยืนข้างล่าง แบกไพร่ฟ้าเอาไว้บนไหล่ อยากรู้พระองค์เคยคิดเหนื่อยบ้างไหม ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ขอจงทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายและพระทัย ทรงพระเจริญ พระเจ้าอยู่หัวของชาวไทย จากใจพสกนิกรของพระองค์ เป็นเจ้าฟ้าที่ยืนข้างล่าง แบกไพร่ฟ้าเอาไว้บนไหล่ อยากรู้พระองค์เคยคิดเหนื่อยบ้างไหม ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ขอจงทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายและพระทัย ทรงพระเจริญ พระเจ้าอยู่หัวของชาวไทย จากใจพสกนิกรของพระองค์ ทรงพระเจริญ พระเจ้าอยู่หัวของคนไทย จากใจพสกนิกรของพระองค์ Cr. องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน Facebook
"นมัสการครับหลวงพี่" เข้ามาฝากเพลงในยามดึกก่อนจะกลับ"บ้านดินเหนียว" ขอบคุณบทความดีๆ ที่"หลวงพี่"และ"พี่มะนาว"หามาให้ได้อ่านกัน "สาวทอผ้าไหม"