http://www.naewna.com/politic/127074 กลุ่ม นร.จี้หยุดค่านิยม 12 ประการ ซัดยัดเยียดความคิดอำนาจนิยม วันอังคาร ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 14.55 น. 21 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์แชงค์ www.change.org เว็บไซต์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 79,382,696 รายทั่วโลก ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญรณรงค์ "ยกเลิกการบังคับใช้ค่านิยม 12 ประการ" โดย "กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท" ถึง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง "ข้อเรียกร้องให้มีการยกเลิกการบังคับใช้ค่านิยม 12 ประการ ในหลักสูตรการศึกษา" ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ทำการเผยแพร่แนวคิดการบังคับใช้ค่านิยม 12 ประการ ในหลักสูตรการศึกษาพร้อมกันทั่วประเทศในภาคเรียนที่ 2/2557 นั้น กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เป็นนักเรียนไทยกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่เห็นด้วยกับการบังคับปลูกฝังค่านิยม 12 ประการให้แก่นักเรียน ทั้งนี้ เนื่องจากนี่เป็นการยัดเยียดความคิดให้นักเรียนด้วยวิธีการแบบอำนาจนิยม ปลูกฝังสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นความดีงามให้แก่เยาวชน โดยไม่คำนึงถึงความหลากหลาย มองเยาวชนอย่างปรามาสว่าเป็นเพียงภาชนะอันว่างเปล่าที่สามารถยัดเยียดอุดมการณ์ใดๆ ลงไปได้โดยง่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในหมู่นักการศึกษาแห่งศตวรรษที่ 21 ที่ผ่านมาเราได้พยายามเจรจากับท่านอย่างสันติวิธีด้วยการยื่นจดหมายเปิดผนึก แต่ท่านกลับเมินเฉยเสียงของพวกเราซึ่งเป็นเพียงนักเรียนกลุ่มหนึ่ง เสียงเล็กๆ ซึ่งไม่มีอำนาจใดๆ ไปต่อกรกับท่าน บัดนี้เราจึงรวมตัวกันเพื่อแสดงพลัง ขอให้ท่านตรองดูอีกครั้งเถิด การปฏิรูปการศึกษาไปในทางที่ควรจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่รับฟังเสียงของเยาวชน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการศึกษาที่แท้จริง โปรดล้างอคติ ลดอัตตา แล้วรับฟังเราบ้างเถิด --------------------------------------------------------------------------------------------- ค่านิยมคนไทย 12 ประการ ผมว่าไม่มีข้อไหนที่ไม่ดี วิญญูชนคงแยกแยะได้ ถ้าบอกว่า เชื่อผู้นำ แล้วชาติจะพ้นภัย จะก้าวหน้าเป็นประเทศที่อารยะแบบจอมพล ป. ก็ว่าไปอย่าง อันนั้นผมไม่เห็นด้วยกับการรณรงค์ให้เชื่อผู้นำแบบยึดติดบุคคล ซึ่งมันใช้กับบริบทโลกปัจจุบันไม่ได้แล้ว กลุ่มนี้มีธงแน่นอน ปั้นถ้อยคำสวยหรู แต่เบื้องหลังเน่าเฟะ คนเราจะดีได้มันต้องมีแนวทาง มีการอบรมสั่งสอน แล้วค่านิยมคนไทย 12 ประการ ที่ตอนนี้ผมเห็นติดเป็นป้ายหน้าสถานที่ราชการต่างๆ เนี่ย ไม่ได้บังคับให้ทำตามค่านิยม เพราะไม่ได้บังคับใช้เป็นกฎหมาย ค่านิยมมันเป็นนามธรรม และยังต่อยอดเป็นค่านิยมต่างๆ ได้อีกหลายเรื่อง บอกว่าตัวเองคิดเองเป็น แต่คิดได้ในเรื่อง hereๆ น่ะสิ แหม
จากที่อ่านค่านิยม12ประการ .... ไม่เห็นมันจะยัดเยียด... แล้วที่บอกตามวรรคล่าง....อ่านแล้วบ่องตง...ควายแท้ๆเลยคนร่างจดหมายนี้..... เนื่องจากนี่เป็นการยัดเยียดความคิดให้นักเรียนด้วยวิธีการแบบอำนาจนิยม ปลูกฝังสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นความดีงามให้แก่เยาวชน โดยไม่คำนึงถึงความหลากหลาย มองเยาวชนอย่างปรามาสว่าเป็นเพียงภาชนะอันว่างเปล่าที่สามารถยัดเยียด อุดมการณ์ใดๆ ลงไปได้โดยง่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในหมู่นักการศึกษาแห่งศตวรรษ ที่ 21
ที่โควทส่วนหนึ่งของจดหมายมา ผมนึกขึ้นได้ว่า... เยาวชนกลุ่มนั้นคิดว่าตนเองไม่ใช่ภาชนะอันว่างเปล่า แต่อาจจะเป็นภาชนะที่ล้นแล้ว เติมเท่าไหร่ก็ล้นออกมา หรือเปล่า ? นิทานเซ็นเรียกว่า ชาล้นถ้วย
ซึ่งค่านิยมเปรียบเเล้วก้อเหมือนการตั้งวิสัยทัศน์ เพื่อให้ทุกคนเดินหน้าไปทางเดียวกัน ไอ้คำที่ว่าหลากหลายที่"กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท"อ้างมานั้น.....นั่นแหล่ะตัวปัญหา..... วิสัยทัศน์หมายถึง เป้าหมายที่มีลักษณะกว้างๆ เป็นความต้องการในอนาคต โดยมิได้กำหนดวิธีการไว้เป็นข้อความทั่วไป ซึ่งกำหนดทิศทางของภารกิจ เป็นความมุ่งหมายในสถานภาพที่เราจะไปเป็น หรือเราไปอยู่ ณ วันหนึ่งในอนาคต ที่องค์กรมุ่งหมาย มุ่งหวังหรือประสงค์จะเป็น หรือจะมีในอนาคต ซึ่งองค์กรในที่นี้ก้อคือประเทศชาติ
ไม่ได้จะบอกว่าค่านิยม 12 ประการมันไม่ดีนะครับ (อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนก็แล้วกัน) แต่ผมว่าวิธีการที่จะเอาไปใส่นี่แหละที่ดูจะเป็นตัวปัญหามากกว่า ผมรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะนำเสนอชุดข้อมูลแนวคิดลักษณะนี้ แต่ถ้าไปทำในลักษณะเหมือนกับบังคับ มันก็จะมีคนที่รู้สึกว่าทำไมต้องมาบังคับด้วย ซึ่งสมัยนี้คนไม่กี่คนก็เสียงดัง สร้างกระแสได้ (ยกตัวอย่างมนุษย์ลุง) จะเผยแพร่ชุดความคิดต้องเนียนๆหน่อย ออกมาในแนวสั่งเปรี้ยงว่า ทุกคนต้องทำตามนี้ คิดตามนี้ มันดูเป็นอำนาจนิยมไปหน่อย ก็จะดันทุรังทำต่อผมก็คงไม่ได้ไปประท้วงอะไรกับเค้าหรอกครับ แต่ถ้ามีคนโวยวายว่าเป็นพวกอำนาจนิยมคนสั่งก็คงต้องรับๆกันไปนะกับคำกล่าวหาว่าเป็นพวกอำนาจนิยม
น่าจะถามมันทีละข้อเลยนะว่าแต่ละข้อมันไม่ดีตรงไหน หรือแค่เห็นคำว่า "กษัตริย์" แล้วมันปวดแสบปวดร้อน ชื่อกลุ่มแม่งก็ขยันตั้งเหลือเกิน ทั้งที่มันก็ "กลุ่มเพื่อนชั่วศักดิ์ ไอ้ตัวไม่ยืนในโรงหนังจนโดนคนเขากระทืบ"
คือ ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครไปบังคับนะ ท่องเฉย ๆ เอาไปสอบแต่ไม่ทำตามก็ได้ แต่ถ้าคิดว่ามันเป็นอำนาจนิยมก็ต้องอธิบายให้ฟังด้วยว่าแต่ละข้อมันอำนาจนิยมยังไง
ผมไม่ได้มองในส่วนของค่านิยม 12 ข้อที่ว่า แต่ผมกำลังพูดถึงส่วนที่ยัดไปให้สอบให้ท่องนี่แหละครับ สังคมสมัยนี้มันละเอียดอ่อน อ่อนไหวไปกับทุกเรื่องล่ะครับ ถึงจะบอกว่าค่านิยม12ข้อนี่ดีนะ แต่ผมก็ยังรู้สึกแปลกๆนะที่ ต้องมีคนมาชี้มาบอกว่า อันนี้ดีนะ จะมีคนตีความไปถึงว่า ถ้าทำนอกเหนือไปจาก 12 ข้อนี้แล้วจะเป็นคนเลวหรือเปล่าล่ะ? อย่างสวดมนต์ บางทีก็มีปัญหา คือถ้าดึงดันจะอยากทำผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ต้องแบกป้ายคำว่าอำนาจนิยมไปด้วยกับคนสั่งแค่นั้นแหละ ผมว่าส่วนนึงคนตั้งประเด็นต่อต้านค่านิยม 12 ประการที่ว่า เพราะเกี่ยวเนื่องกับมาตรา 112 แต่โดยส่วนตัวผมแล้วก็เฉยๆกับค่านิยม 12 ประการนะ แต่วิธีการนำเสนอนี่แหละที่ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ทำอยู่นี่ดีที่สุดแล้วหรือเปล่า ปล การเอาไปออกสอบมันก็เหมือนเป็นการบังคับกรายๆให้จำไปอยู่ดีแหละครับ ซึ่งการบังคับให้จำก็เป็นการบังคับ อย่างเอาสูตรคูณไปออกสอบก็เป็นการบังคับ แต่ค่านิยมที่ว่ามันอาจไม่ได้เป็นความจริงเสมออย่างสูตรคูณ การบังคับให้ท่องค่านิยมดังกล่าวก็อาจจะเกินไปหรือเปล่า
คติเด็กไทยวันนี้ "เดินห้างผ่อนคลาย ฝักใฝ่กามารมณ์ นิยมเกาหลี เอวีของโปรด มักโกรธเมื่อขัดใจ จะเป็นจะตายถ้าทำดี"
ไม่มีใครยัดเยียดให้ไปท่องครับ แต่ถ้าครูจะเอาไปออกข้อสอบแล้วมันผิดตรงไหนล่ะครับ ก็มันเป็นเหตุบ้านการเมืองอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหรอครับ คงไม่บอกหรอกนะว่าทหารเอาปืนจ่อหัวครูให้เด็กเอาไปท่องน่ะ คำขวัญวันเด็กก็ออกข้อสอบทุกปี ทำไมไม่เคยโวยกันบ้างล่ะครับ แล้วอีกอย่างนะครับ ถ้าคนมันสามารถวิเคราะห์แยกแยะผิดถูกได้จริง ผมว่าคงไม่มีคำถามประเภท "ถ้าทำนอกเหนือจากนี้จะเลวหรือเปล่า" หรอกนะครับ
ก็ถ้ากระทำกันในลักษณะที่ว่าผมก็ว่าแฟร์ระดับนึง แต่ส่วนตัวผมก็ว่ามันเป็นการยัดเยียดทัศนคติส่วนตัวหรือกลุ่มบุคคลให้กับเด็กอยู่ดี ส่วนประเด็นแยกแยะเนี่ย ถ้าต้องให้เด็กมาท่องกระทั่งว่าต้องทำยังไงให้เป็นคนดี ผมว่ามันก็คลุมเครือนะว่าจะแยกแยะได้จริงๆหรือเปล่า
ถ้าไม่มีให้ท่องก่อน เด็กมันจะรู้ได้เองเหรอครับ ว่าการซื่อสัตย์มันเป็นสิ่งควรทำ ถ้าไม่ปลูกฝังแบบนี้มันจะกลายเป็น "การลอกข้อสอบให้ครูจับไม่ได้คือสิ่งที่ควรทำ" หรือ "การจ่ายตังค์ให้คนอื่นทำการบ้านให้คือสิ่งที่ควรทำ" ถ้าทั้งสองกรณีไม่มีใครจับได้ ไม่มีใครบอกว่าท่องเฉย ๆ แล้วจบ ครูอาจารย์ก็ต้องสอนต้องอธิบายความหมายให้เข้าใจด้วย แต่ทั้งหมดมันต้องเริ่มมาจากท่องให้รู้ก่อนว่ามันมีอะไรบ้าง
http://www.naewna.com/local/127241 22 ต.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี "แนวหน้าออนไลน์" นำเสนอข่าว "กลุ่มนร.จี้หยุดค่านิยม12ประการ ซัดยัดเยียดความคิดอำนาจนิยม" ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ "กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท" จัดตั้งแคมเปญรณรงค์ "ยกเลิกการบังคับใช้ค่านิยม 12 ประการ" ในเว็บไซต์ www.change.orgเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่าแนวคิดค่านิยมดังกล่าว เป็นการยัดเยียดระบอบอำนาจนิยมให้กับกลุ่มนักเรียน โดยไม่ได้สนใจเสียงคัดค้านของประชาชน ทำให้ความคิดเสรีภาพถูกตีกรอบ ด้วยการห้ามตั้งคำถาม ส่งผลให้ได้ผู้เรียนที่มีจิตวิญญาณความเป็นทาส โดยขณะนี้แคมเปญรณรงค์ดังกล่าว มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแล้วจำนวน 878 รายชื่อ และเมื่อครบ 1,000 รายชื่อคาดว่าตัวแทนกลุ่มจะส่งหนังสือไปยัง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้พิจารณาข้อเรียกร้องต่อไป อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ www.elsiam.org พบว่าเป็นเว็บไซต์ของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท โดยในส่วนของหัวข้อ "เกี่ยวกับกลุ่มของเรา" ได้ระบุรายละเอียดของกลุ่มดังนี้ "กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เดิมทีเป็นกลุ่มนักเรียนมัธยมที่ต้องการปฏิวัติการศึกษาไทย ต่อมามีการขยายถึงระดับอุมศึกษา ซึ่งสมาชิกเก่าบางส่วนมาจาก สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2556 โดย เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และเป็นเลขาธิการคนแรกของกลุ่ม ซึ่งมีการเปิดหน้า Fanpage ของ เฟซบุ๊ก ชื่อ กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เพื่อเป็นสื่อกลาง ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยมีจุดยืนร่วมกันคือต้องการปฏิรูป การศึกษาในประเทศไทย และปรัชญาของกลุ่มนั้นเชื่อว่า การศึกษาควรจะเน้นที่ตัวมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญ เน้นชีวิตจิตใจของผู้เรียน ผู้สอนเป็นสิ่งสำคัญ เคารพศักดิ์ศรีคุณค่าความเป็นมนุษย์ และความรอบรู้ภายในของแต่ละบุคคล มิใช่มองเป็นเพียงภาชนะที่ว่างเปล่าให้ยัดเยียดความรู้ หรือออกกฎเกณฑ์โดยปราศจากความเข้าใจในตัวมนุษย์ ปัจจุบันมีสมาชิกนักเรียน 50 คน และมีกลุ่มขับเคลื่อนอีก 15 เครือข่าย เลขาธิการคนปัจจุบัน คือ ณัฐนันท์ วรินทรเวช นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา"
ก็บอกแล้วผิดซะที่ไหน พันธมิตรพวกเรียกอาจารย์ว่า Here เมื่อวันก่อน กลุ่มเดิม ๆ กะลาเดิม ๆ ร่านแบบเดิม ๆ
เรื่องประเด็นท่องเพื่อให้ต่อยอดเพื่อเรียนรู้นี่ผมเห็นด้วยก็แล้วกันครับ แต่ผมก็ยังมองว่ามันเป็นการบังคับนี่แหละที่มันดูเป็นอำนาจนิยม (ถึงจะเป็นการบังคับเพื่อให้พยายามเป็นคนดีก็ตาม)
สอนให้เป็นคนดี รู้หน้าที่ รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม มันเกี่ยวกะอำนาจนิยมตรงไหน อึดอัดก็ลาออกไปเรียนต่อเมืองนอกก็ได้น่ะไม่มีใครห้าม
คืองี้ครับ ผมไม่พยายามมองอะไรว่ามันดีหรือเลวแบบสุดกู่ ผมจะมองแล้วแยกแยะว่าอะไรดีที่ควรเก็บไว้ อะไรไม่ดีที่ควรปล่อยทิ้ง และอะไร Here ๆ ที่ควรกำจัด ยกตัวอย่าง ยุคไอ้แม้ว มีการออกกฎหมายหลายเรื่องที่มีประโยชน์ เช่น การแบ่งส่วนราชการใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ผมยอมรับ แต่เรื่องไม่ดีเช่นทำโครงการบ้า ๆ บอ ๆ แล้วเติม "กู้ชาติ" ไว้ข้างหลัง เช่น กุ้งกู้ชาติ ทั้งที่มันทำให้เกิดผลเสียต่อหน้าดินที่จะทำนา แบบนี้ก็สมควรเอาไปโยนทิ้ง ส่วนเรื่อง Here ๆ เช่น ปล่อยกู้ชาวบ้านจนเป็นหนี้นอกระบบเพื่อเอามาใช้หนี้ในระบบ (บ้าไหมครับ) หรือปล่อยกู้พม่าแล้วให้มาซื้อของบริษัทของไอ้แม้ว ไอ้แบบนี้ไม่ใช่แค่โยนทิ้งเฉย ๆ ต้องให้ไอ้คนทำมันรับผิดชอบความผิดที่มันทำไว้ด้วย พอเข้าใจไหมครับ
อยากให้ไอ้ลูกลิงอุรังอุตังพวกนี้มาชี้อธิบายให้ผมฟังทีละข้อ ว่า ตั้งแต่ข้อ 1-12 มีข้อไหนที่ "ไม่ดี" บ้าง อย่าทำตัวเป็น หนังยางยืด มึนสมองหมา สอนไม่รับ มันไม่ได้ทำให้เมิงดูฉลาดขึ้น มีแต่คนเขามองว่า พวกเมิงมันเหี้ย ปัญหาก็อยู่ตรงนี้ ปลูกฝังความอิสระเสรีมากเกินไป จนมองว่า กูไม่จำเป็นต้องทำตามกฏระเบียบอะไร ทุกวันนี้มันเกินคำพูดแย่ๆ ที่ว่า "ทำอะไรตามใจ คือไทยแท้" ไปมากโขแล้ว กลายเป็น "เหี้ยได้ตามใจ คือไทยแท้" แล้ว ยังไม่สำเหนียกกัน อนาคตเป็นขยะสังคมกันหมดล่ะไอ้พวกนี้
อีกหน่อยก็ไปซื้อของไม่ต้องต่อคิว... สอบไม่ต้องมีจัดอันดับ... ประตูโรงเรียนห้ามล็อค... มันจำกัดสิทธิ์ทั้งนั้น
อีกหน่อยไอ้พวกเหียกนี่คงออกมาต่อต้าน การท่องสูตรคูณ การสวดมนตร์ การบวช การรักษาศีล .... และการเป็นคนดี
ผมนึกถึงประชาธิปไตยกึ่งสำเร็จรูปนะ หยอดบัตรเลือกตั้งอย่างเดียว ไม่ต้องถาม ไม่ต้องสงสัย คุณจะกลายเป็นผู้รักประชาธิปไตยทันที ไล่ล่าคนเห็นต่าง นักการเมืองที่เลือกมาโกง ช่างแม่ม เห็นโลโก้กลุ่ม เป็นรูปนกบินออกจากกรงใช่ไหม แต่นกตัวนั้นคงบินวนอยู่ในกรงที่ใหญ่กว่าอีกชั้นหนึ่ง
ไม่ได้ยัดเยียดเลยครับ แต่เป็นการกระตุ้นจิตสำนึกมากกว่าครับ สังคมมันละเอียดอ่อน ใช่ครับ แต่การที่เด็กกลุ่มนี้ทำมันไม่ละเอียดอ่อนเหรอ และค่านิยม 12 ประการ มันไม่มีข้อไหนแย่เลยนะครับ เด็กแยกแยะเองได้มั้ย คำตอบมันเห็นๆอยู่ครับ ตั้งแต่ไม้เรียวหายไปในสมัยแม้ว เด็กเริ่มแสดงความก้าวร้าวมากขึ้น เด็กวัยรุ่นเป็นวัยที่เตลิดเปิดเปิงได้ง่ายครับ เพราะเข้าใจผิดคิดว่า ตัวเองโตแล้ว แม้กระทั่งเด็กเพิ่งจบมหาวิทยาลัย ก็คิดว่าตัวเองโตแล้ว พอใช้ชีวิตไปสักพัก ถ้าเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองยังไม่โต นั่นแหละเริ่มคิดได้เองจริงๆครับ
เห็นเด็กสมัยนี้แล้ว อีกหน่อยมันคงเดินไปตบหัว ครู อาจารย์ เวลาบังคับให้มันทำอะไรที่มันไม่อยากจะทำ แม้จะเป็นเรื่องดีต่อมัน แปลกดีเหมือนกัน โลกเจริญขึ้น แต่เด็กไทยบางกลุ่มกลับล้าหลัง เข้ายุคคนป่า ทำอะไรตามใจ สติปัญญา ความคิด ไม่ได้รู้จักผิดจักถูก เหตุและผลต่ำลงจริงๆ
ปล่อยสัตว์เลื้อยคลานในห้องที่อาจารย์สอนอยู่ ยังกล้าทำมาแล้ว โดนอาจารย์ต่อว่าก็บิดเบือนข้อเท็จจริง แล้วติดป้ายประจานในมหา'ลัย คลั่งเสรีภาพจนเสียสติ
พวกนี้แม่มะนาวว่าไม่ใช่ชาล้นถ้วย เพราะถ้าชาดีก็คงมีคนมาดื่มกินและได้ความชุ่มชื่น แต่มันเป็นชาที่บูดเสียแล้วค่ะ ต้องเททิ้งอย่างเดียว ทานไปมีแต่อันตรายต่อร่างกายและลามไปถึงสมอง
การสั่งสอนเด็กเริ่มตั้งแต่ ท่อง อ่าน เขียน จะเห็นว่าจากโบราณมาจะเริ่มจากการสอน ท่อง ก่อนเลยเช่น ก.เอ๋ย ก.ไก่ ยันไปถึงสอนท่องสวดมนตร์ นะโมตัสสะ อะระหังสัมมา โดยยังไม่ต้องสอนว่าหมายถึงอะไร เพราะพัฒนาการสมอง+การเรียนรู้ของเด็กเล็กยังไม่ถึงระดับเหตุผลที่จะอธิบายว่า อะไร? ทำไม? (อย่าว่าแต่เด็กเล็ก 2-3 ขวบที่เริ่มสอนท่องเลย ผู้ใหญ่จวนจะลงโลงหลายคน ยังไม่รู้คำแปลของบทสวดมนตร์พื้นฐานเหล่านี้ด้วยซ้ำ) การสอนของเด็กฝรั่งก็ไม่ต่างกันการสอนก็เริ่มจาก ท่องจำ การอ่าน+เขียน จะสอนเมื่อวัยโตขึ้นไปอีกหน่อย ที่จริงไอ้พวกร่านฯ นี่มันก็เต็มไปด้วย นักวิชากิน มากมาย เห็นมีตำแหน่งเป็น ศจ รศ ผศ ดร. เยอะแยะ แต่ไอ้พวกนี้ก็จัญไรเกินกว่าจะชี้ ถูก-ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี ไม่งั้นเดี๋ยวลูกศิษย์อาจจะฉลาดเกินหน้าคนสอน จะปั่นหัวหรือล้างสมองลำบาก ก็เลยสอนให้คิดโง่ ๆ ทำแต่เรื่องโง่ ๆ ไปวัน ๆ อย่างที่เห็นนั่นแหละ
12 ข้อ มันก็ดูเยอะไปจริงๆแหละ หากจะให้จดจำ ส่วนตัวคิดว่า ไม่ต้องเยอะ เลือกและเน้นหนักๆ 4-5 ข้อก็พอ แล้วให้ 4-5 ข้อนี้ มันต่อยอดไปเอง อย่างเช่น ตั้งแต่ข้อ 7 - 12 ไม่ต้องบอกก็ได้ ไปเน้นเรื่องคุณธรรม-สามัคคีให้มากๆ ให้เห็นผล แล้วเรื่องบางเรื่องเป็นส่วนของพ่อแม่ผู้ปกครองครับ สอนเด็ก อบรมเด็ก เป็นตัวอย่างด้วย ไม่ใช่พ่อแม่ทำตัวอีกอย่าง แต่ให้เด็กปฏิบัติอีกอย่าง คงยาก
กรณีแบบนี้ http://www.deklanghong.com/content/2014/10/59 กลุ่ม การศึกษาเพื่อความเป็นไท บางครั้ง รู้สึกตะหงิด ในใจ นะครับ ได้ข่าวที่โน่น ที่นี่ ที่อาจารย์ บางท่านบางคน แม้แต่ นักศึกษาเอง ในสถานศึกษาต่างๆ รับทุน อะไรต่อมิอะไร จากต่างชาติ ผมอยากรู้ ทุนนั้น เขากำหนดมั้ย ต้องกำหนด ให้ทำ หรือ สอน หรือ เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่คนให้ทุนกำหนด กรณีไม่เป็นภัยต่อชาติ หรือวัฒนธรรมที่ดีงาม จารีตประเพณี ต่างๆ ก็น่าจะดี แต่ถ้าไม่นั้นหมายถึงอะไร บางชาติ บางเผ่าพันธุ์ เขายอมฟูมฟัก หรือมีวิธีการเช่นนี้ โดยลงทุนต่างๆ ทั้งเงิน และ ความรู้ที่ ..ผมเรียกว่ายัดใส่สมองนะครับ หลายสิบปี ทั้งในประเทศ หรือ นอกประเทศ โดยมีจุดประสงค์หลายรูปแบบ