กลัวไทยตกเทรนโลกจริงๆ

กระทู้ใน 'สภากาแฟ' โดย เผด็จการที่รัก, 5 Jul 2017

  1. เผด็จการที่รัก

    เผด็จการที่รัก อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    9,076
    ปี 2030 พลังงาน ขนส่ง จะพลิกโฉมครั้งใหญ่
    ปี 2025 รถใหม่ทุกคันเป็นยานยนต์ไฟฟ้า
    ปี 2020 รถไร้คนขับ ลดการเสียชีวิตเป็นศูนย์
    ปี 2017 ตลาดโลก 80% ค่าไฟโซลาร์ถูกที่สุด
    รัฐบาลที่ฝืนกระแส จะทำให้ประชาชนจนลง

    .
    โทนี เซบา กำลังออกมาแสดงให้เห็นถึงเรื่องเหลือเชื่อที่จะเป็นจริงในอนาคตแสนใกล้
    .
    เซบา เป็นอาจารย์ทางด้าน ผู้ประกอบการ การพลิกโฉม และพลังงานสะอาดที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ “Clean Disruption of Energy and Transportation” มีข้อมูลและการศึกษาจาก ซิลีคอนวาเลย์ที่บอกว่า น้ำมัน นิวเคลียร์ ก๊าซธรรมชาติ การไฟฟ้า และรถยนต์แบบเก่า จะกลายเป็นเรื่องล้าสมัยภายในปี 2030
    .
    โทนี่ เซบา ให้คำจำกัดความของ disruption ว่าเป็นการมาบรรจบกันของเทคโนโลยีซึ่งทำให้เกิดความเป็นไปได้สำหรับผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์และบริการ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ การเกิดขึ้นของตลาดใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ที่ทำให้อุตสาหกรรมเดิมแบบเก่าอ่อนแอลงหรือถูกทำลายไป
    .
    Disruption เป็นคำที่พวกเราเคยได้ยินหรือจะได้รับรู้อีกมากในอนาคตอันใกล้ ยังไม่มีบัญญัติภาษาไทยที่ชัดเจนว่าอะไร แต่มีคำภาษาไทยที่พอจะทำให้เข้าใจได้ว่า หยุดชะงัก พลิกผัน พลิกโฉม เปลี่ยนโลก ทำลาย
    .
    ในวันนี้ขอเลือกแปลคำว่า Disruption เป็นภาษาไทยว่า พลิกโฉม ไว้ก่อน ในอนาคตหากทางราชบัณฑิตสถานไทยเปลี่ยนเป็นคำไหน ค่อยเปลี่ยนให้ถูกต้องตรงกันอีกที
    .
    ผมได้ติดตามงานของ โทนี่ เซบา มาหลายปี ได้ข้อมูลใหม่ๆมากมายเกี่ยวกับการพลิกโฉมในอุตสาหกรรมต่างๆที่เกิดจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เขาถูกเชิญไปบรรยายในงานสำคัญต่างๆทั่วโลก และได้ฉายภาพของอนาคตที่น่าประหลาดใจหลายเรื่องให้คนทั่วโลกฟัง เคยเป็นแขกรับเชิญของ ปตท ให้มาบรรยายในประเทศไทยด้วย ใครสนใจงานของเขาติดตามอ่านได้จากหนังสือ หรือยูทูปก็ได้
    .
    สำหรับเนื้อหาที่นำเสนอทั้งหมดในคราวนี้ เรียบเรียงมาจากการบรรยายของ โทนี เซบา ในงาน Pacific Council and the Korea Foundation ที่ SeoulLA Forum เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2017 ในย่านใจกลางเมืองลอสแอนเจลีส สหรัฐอเมริกา เป็นข้อมูลที่อัพเดทที่สุดจาก Toni Seba
    .
    โทนี่ เซบา บอกว่า อุตสาหกรรมหลักอย่างพลังงานและการขนส่ง กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2030
    .
    “ถ้าคุณมองไปที่อุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น การดูแลสุขภาพ การก่อสร้าง พลังงาน การขนส่ง อุตสาหกรรมทั้งหมดนี้จะถูกพลิกโฉมทำลายไปในช่วง 10-15 ปีจากนี้”
    .
    “มันใช้เวลาเพียง 13 ปี จากปี 1900 – 1913 ที่เมืองนิวยอร์คเปลี่ยนวิธีการเดินทางของผู้คนจากที่เคยใช้ม้าเป็นพาหนะหลักมาใช้รถยนต์ ถ้ามีใครในปี 1900 บอกว่า การเดินทางด้วยม้าจะหมดยุคล้าสมัยไป ผู้คนในวันนั้นต้องบอกว่า บ้า แน่ๆ แต่เมื่อการพลิกโฉมเกิดขึ้น มันเร็ว เร็วมากจริงๆ”
    .
    โทนี่ เซบา ได้ชี้ให้เห็นถึง 4 เทคโนโลยี ที่จะเป็นตัวเร่งในการพลิกโฉมของอุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่ง คือ การจัดเก็บพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติไร้คนขับ และพลังงานโซลาร์
    .
    “อุปกรณ์จัดเก็บพลังงานมีต้นทุนต่ำลงอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายในปี 2020 โดยเฉลี่ยแล้ว บ้านของคนอเมริกันจะสามารถมีอุปกรณ์จัดเก็บพลังงานไว้ใช้ในบ้านสำหรับ 24 ชั่วโมงต่อวันในราคาเพียง 1 ดอลลาร์ หรือประมาณ 35 บาท”
    .
    ยานยนต์ไฟฟ้าจะพลิกโฉมทำลายอุตสาหกรรมหลายอย่างในหลายๆทาง ยานยนต์ไฟฟ้าสามารถแปลงพลังงาน 90-95%ในแบตเตอรี่ให้เป็นพลังงานที่เอามาใช้งานใหม่ได้ ในขณะที่พลังงานจากก๊าซในรถยนต์สามารถแปลงกลับมาเป็นพลังงานในแบตเตอรี่ได้เพียง 17-20%
    .
    สำหรับการขับเคลื่อนของรถ พลังงานไฟฟ้ามีราคาถูกกว่าดีเซลหรือก๊าซ ถ้าเทียบกันแบบไมล์ต่อไมล์ ชาร์จไฟสำหรับยานยนต์มีต้นทุนค่าไฟที่ต่ำกว่า 10 เท่า
    .
    รถยนต์ใช้น้ำมันแบบดั้งเดิม ต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบทำให้รถขับเคลื่อนได้มากกว่า 2,000 ชิ้นส่วน ในขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้ามีประมาณ 20 ชิ้นส่วนเท่านั้น นั่นหมายความว่ายานยนต์ไฟฟ้าเกือบจะไม่ต้องดูแลรักษาอะไรเลย
    .
    “ภายในปี 2020 รถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งได้ไกล 200 ไมล์ หรือประมาณ 320 กิโลเมตร จะมีประสิทธิภาพในระดับเดียวกับรถพอร์เช่ แต่มีราคาเพียง $30,000 หรือประมาณ 1.05 ล้านบาท ราคานี้เป็นราคาของรถใหม่ขนาดกลางในปัจจุบัน"
    .
    "ภายในปี 2025 รถใหม่ที่ผลิตออกมาทั้งหมดจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า"
    .
    "ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าสามารถช่วยจ่ายไฟให้กับบ้านหนึ่งหลังได้นาน 2 วัน เห็นได้ว่ามันจะเข้ามาพลิกโฉมได้หลายทางหลายอย่าง”
    .
    ถ้ารถทุกคันในเกาหลีเป็นยานยนต์ไฟฟ้า มันสามารถเก็บพลังงานได้มากถึง 75% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละวันของเกาหลีใต้ทั้งประเทศ
    .
    รถขับเคลื่อนเอง หรือรถไร้คนขับ เป็นอีกธุรกิจที่มีการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เซบาชี้ให้เห็นว่าในวันนี้มีรถแท็กซี่วิ่งอยู่บนถนนในสิงคโปร์แล้ว
    .
    ไม่ใช่เพียงแค่บริษัทสตาร์ทอัพ แต่มีบริษัทใหญ่ระดับหลายพันล้านดอลลาร์มากถึง 33 แห่ง กำลังทำงานในเทคโนโลยีรถไร้คนขับ เซบาเรียกรถขับเคลื่อนอัตโนมัติเหล่านี้ว่า “คอมพิวเตอร์ที่มีล้อ” นั่นเป็นเหตุผลที่บอกให้รู้ว่าทำไมบริษัทเทคโนโลยีใหญ่อย่าง Apple, Google, Uber, Tesla, และอื่นๆ ถึงสนใจที่จะร่วมพัฒนารถไร้คนขับ มันเป็นการนำเทคโนโลยีเรียนรู้แนวลึกเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เป็นการพัฒนาสำหรับอนาคตที่ต่อเนื่อง
    .
    Deep Learning Technology หรือเทคโนโลยีการเรียนรู้แนวลึกมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ถ้ารถเทสล่าคันหนึ่งในกรุงโซลได้เรียนรู้ที่จะหลีกหนีสิ่งกีดขวางในเหตุการณ์หนึ่ง มันจะทำการอัพโหลดข้อมูลส่งต่อให้รถเทสล่าทุกคันในโลกได้เรียนรู้วิธีการที่จะขับรถหลีกหนีสิ่งกีดขวางแบบนั้นด้วย
    .
    ภายในระยะเวลาเพียงสองสามปีจากนี้ หรือปี 2020 อัตราการพัฒนาของรถไร้คนขับจะเร่งไปถึงจุดที่มีคนบางคนบอกว่า การเสียชีวิตเป็นศูนย์ ทุกวันนี้ในแต่ละปีมีมนุษย์ถูกฆ่าจากรถยนต์มากถึง 1.3 ล้านคน พวกเราไม่ใช้ผู้ขับขี่ที่ดี
    .
    เซบา ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการพลิกโฉมของอุตสาหกรรมการขนส่งในช่วงทศวรรษหน้าว่า...
    .
    “อนาคตของการขนส่งจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า รถไร้คนขับ และแชร์ริ่งหรือระบบแบ่งปัน ที่จอดรถใกล้จะเป็นสิ่งล้าสมัย นี่จะเป็นการพลิกโฉมครั้งมโหฬาร มันจะมีช่วงเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆในช่วงหลังปี 2020 และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2030”
    .
    ทางด้านพลังงาน โทนี่ เซบา กล่าวว่า โซลาร์เป็นอีกเทคโนโลยีที่จะเข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม
    .
    “พลังงานแบบดั้งเดิม เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ฯลฯ มีต้นทุนสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่โซลาร์มีต้นทุนลดต่ำลงต่อเนื่อง"
    .
    "ภายในสิ้นปี 2017 ตลาดโลกประมาณ 80% โซลาร์จะมีราคาลดลงไปถึงจุด ‘grid parity’ นั่นหมายความว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าจากโซลาร์ของที่อยู่อาศัยหรือธุรกิจที่มาจากหลังคาโซลาร์ และไม่มีการจุนเจือช่วยเหลือ จะมีต้นทุนในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าค่าไฟฟ้าที่จ่ายมาจากโรงไฟฟ้า"
    .
    "ต้นทุนของเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มราคาต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถคาดการณ์อนาคตได้ มันจะทำให้ทุกๆคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวทางด้านเศรษฐกิจที่จะทำการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาเพื่อใช้เป็นพลังงานไฟฟ้า”
    .
    เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆที่เป็นกุญแจสำคัญที่ต้องจับตามองในปี 2017 ทั้งนี้รวมถึง เซนเซอร์ และ IoT, AI หรือปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องจักร, หุ่นยนต์, เครื่องพิมพ์สามมิติ และอื่นๆอีกหลายอย่าง
    .
    “เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังจะเข้ามาพลิกโฉมและลบล้างระบบสาธารณูปโภคด้านพลังงานและการขนส่งที่เป็นอยู่ในวันนี้ นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางด้านพลังงาน แต่เป็นการพลิกโฉมที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยี และเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลของประเทศต่างๆ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาล”
    .
    เขาชี้ให้เห็นว่า เกาหลีใต้มีจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์ที่จะได้ประโยชน์จากการพลิกโฉมครั้งนี้ในหลายปีข้างหน้านี้
    .
    “เกาหลีใต้มีเทคโนโลยีที่เป็นกุญแจสำคัญหลายอย่าง และมีบริษัทหลายแห่งที่สามารถเป็นผู้พลิกโฉมได้ รถยนต์ไฟฟ้า GM Bolt ถูกออกแบบโดยเกาหลีใต้ มันใช้แบตเตอรี่และอีเล็กโทรนิกส์ของ LG มันเป็นรถเกาหลี บริษัทโซลาร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นของเกาหลี เกาหลีมีทักษะ เทคโนโลยี และระบบสาธารณูปโภคที่จะเป็นผู้สร้างความมั่งคั่งในการพลิกโฉมครั้งนี้ได้”
    .
    ทางด้านรัฐบาลของหลายประเทศ ก็สามารถช่วยในการเร่งให้เกิดการพลิกโฉมในประเทศของตัวเองได้ มันสามารถช่วยสร้างความมั่งคั่งเป็นเงินหลักล้านล้านดอลลาร์ หรือไม่ก็อาจจะมีรัฐบาลของบางประเทศที่คอยขัดขวางให้เกิดความล่าช้า แต่ไม่มีทางที่รัฐบาลไหนจะหยุดยั้งการพลิกโฉมทุกอย่างได้ทั้งหมด
    .
    “รัฐบาลของประเทศที่ผลักดันสวนทางกับการพลิกโฉมครั้งนี้ จะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทำให้พลเมืองจนลง และพวกเขากำลังหาข้อแก้ตัวสารพัดอย่าง ที่สร้างความกลัว ความไม่แน่ใจ และความสับสน ให้กับประชาชน แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นทางเลือกของแต่ละรัฐบาล สามารถช่วยในการนำหรือช่วยในการตามก็ได้” Tony Seba

    Image.jpg
    ----------------
    เครดิต http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=60994
     
  2. ParaDon

    ParaDon อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    2 Aug 2015
    คะแนนถูกใจ:
    3,168
    Location:
    Thai
    แต่เห็นมีข่าวว่าจะมีการเพิ่มภาษีคนที่ใช้โซล่าเซลล์ ถ้าใครไม่ใช้ไฟฟ้าหันไปใช้โซล่าเซลล์ต้องจ่ายเพิ่ม :)
     
  3. serialnu

    serialnu สมาชิกทั่วไป

    สมัคร:
    1 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    82
    โซล่าเซลล์อย่าเลยฮะ เดียวองค์กร NGo มันจะประท้วงทำลายธรรมชาติบ้าๆๆๆ อีก ว่าแต่ถ้ารักธรรมชาติขนาดนั้นมุงไม่ไปอยุ่ในป่าละฮะ มาอยู่ในเมืองแม่มก็ช่วยทำลายทางอ้อมอยู่ดี
     
    ParaDon, อู๋ คาลบี้, Alamos และอีก 1 คน ถูกใจ.
  4. นายพลตัดแปะ

    นายพลตัดแปะ อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    18 Jul 2015
    คะแนนถูกใจ:
    81
  5. Alamos

    Alamos อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 ต.ค. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    7,052
    แต่ปูตกต่ำ ตัดแปะไม่ช่วย
     
  6. Gop

    Gop อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    361
    เท่าที่เห็น การพยายามผลักดัน Thailand 4.0 สำหรับผมก็ถือว่าหันมาถูกทาง แต่ก็ต้องพัฒนาอีกเยอะ ที่เห็นด้วยกับบทความมีสองเรื่องหลักๆคือการใช้พลังงานไฟฟ้า ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วคือ battery ที่สามารถเก็บพลังงานได้เยอะๆโดยใช้เวลาชาร์จไม่นาน จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบมากๆ แต่ก็ต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเรื่องระบบไฟฟ้าพอสมควร

    อีกเรื่องคือ AI ผมยอมรับว่าตกใจมากตอนได้ข่าวเรื่อง Alpha Go ที่ชนะคนแบบขาดลอย ยิ่งล่าสุดชนะมือหนึ่งของโลกแบบเกมศูนย์ ทำให้เห็นชัดว่า คอมพิวเตอร์จะสามารถทำงานแทนคนได้ในหลายๆเรื่อง ถ้าเราพัฒนาคนของเราไม่ทัน ก็จะเสียเปรียบทันที อันนี้ไม่รู้ว่าหน่วยงานของไทยมีคนได้รับรู้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกเรื่องนี้หรือยัง

    ที่ผมเป็นห่วงว่ามีแนวโน้มกำลังจะมาอีกเรื่องคือ Quantum Computing ถ้าเกิดทำสำเร็จข้ึนมา Hardware จะเกิดการเปล่ียนยุคเลยทีเดียว ที่น่าเป็นห่วงมากๆคือระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคารพาณิชย์และหน่วยข่าวกรอง ได้ตระหนักถึงภยันตรายตรงนี้หรือไม่ ถ้าโดนเจาะขึ้นมา จะฉิบหายกันได้ทั้งประเทศ
     
    Alamos, ปู่ยง และ kokkai ถูกใจ
  7. AlbertEinsteins

    AlbertEinsteins อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,479
    เอาจริงๆ ตอนนี้ระบบ IT security บ้านเราห่วยมาก ถ้าจะเจาะจริงๆ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงของ hacker นะ แต่ข้อมูลเราก็ขยะ (ยกเว้นภาคการเงิน) เสียเวลาเจาะ 5555
    ส่วนตัวผมว่าบ้านเราควรเน้นเรื่อง IT Software น่าจะดีกว่า
    เพราะมูลค่าเพิ่มมันสูง เหมาะกะนิสัยคนไทย
    ส่วนโซล่ารอเซลผมว่าขยะมลพิษเยอะ
    เรื่องที่น่าสนใจกว่าคือ แบตเตอรี่ มูลค่ามันสูงเช่นกัน แต่ก็ขยะมลพิษเยอะ
     
  8. Gop

    Gop อำมาตย์ฝึกงาน

    สมัคร:
    24 พ.ย. 2014
    คะแนนถูกใจ:
    361
    ประเด็นที่ผมห่วงก็คือระบบการเงินและข่าวกรองนี่แหละครับ เพราะถ้าเจ้า Hardware ตัวใหม่ที่เป็น quantum computer มันออกมาจริงๆ พวก security system เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินจะอยู่ในอันตราย รัฐบาลควรมีมาตรการรองรับไว้ก่อน เพราะถ้าปล่อยให้เกิดขึ้น ความเสียหายมันประเมินค่าไม่ได้
     
    ปู่ยง likes this.
  9. AlbertEinsteins

    AlbertEinsteins อำมาตย์น้อย

    สมัคร:
    13 Dec 2014
    คะแนนถูกใจ:
    4,479

Share This Page