จากกระแสข่าวและกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการเอารัดเอาเปรียบบริษัทขนาดเล็กโดยนำสินค้าไปลอกเลียนแบบจนได้รับความเสียหายทางธุรกิจ และอีกหลายกรณี ปลุกกระแสโซเชียล ตื่นตัว รณรงค์ไม่เข้าร้านค้าปลีกเซเว่นอีเลฟเวน (7-eleven) และ ไม่ใช้สินค้าซีพีเป็นเวลา 5 วัน (7 - 11 พ.ค.58) โดยมุ่งหวังที่จะกระตุกเตือนให้บริษัทยักษ์ใหญ่หยุดเอาเปรียบสังคม ล่าสุด วานนี้ (5 พ.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ CP All ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแฟรนไชส์ร้านค้าปลีกชื่อดัง 7-Eleven ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “รู้หรือไม่? ร้าน 7-Eleven กว่าครึ่งเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการรายย่อยของพี่น้องคนไทยทุกภูมิภาค” อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวของเฟซบุ๊ก CP All ก็มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก โดยจำนวนไม่น้อยต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิธีการปฏิบัติกับแฟรนไชส์ โดยตั้งข้อสังเกตว่า หากร้านแฟรนไซส์ขายดี ก็จะมีร้านสาขาของ 7-Eleven มาเปิดเพิ่มใกล้ๆ กัน หรือฝั่งตรงข้ามทันที ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อแฟรนไชส์จริงหรือไม่ ภาพสาขา 7-Eleven ที่ จ.ตรัง (จากเฟซบุ๊ก @Surawich Verawan 刘永真) ปล เกินครึ่งเป็นของคนธรรมดา=เกือบครึ่งเป็นของ ซีพี นะฮะ
ในยุคที่แทบไม่มีใครถกเถียงอีกต่อไปว่ารัฐควรหรือไม่ควรกำกับตลาด (ยกเว้นนักคิดที่ยังฝันลมๆ แล้งๆ ว่า ตลาดเสรี “ดูแลตัวเองได้”) กฎหมายสำคัญหลายฉบับที่ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรจำนวนมาก รวมทั้งฉบับที่สำคัญที่สุด คือ พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียมและขจัดการ ใช้อำนาจเหนือตลาดก็เป็นได้เพียงแค่ “เสือกระดาษ” โครงสร้างคณะกรรมการที่มีอำนาจกำกับดูแลธุรกิจสำคัญๆ ในไทย แบ่งตามประเภทที่มาของกรรมการแต่ละคน เรียงตามสัดส่วนตัวแทนจากธุรกิจที่อยู่ใต้การกำกับดูแล จากมากไปหาน้อย มีประเทศอื่นนอกจากไทยอีกหรือไม่ที่ผู้อยู่ใต้กำกับสามารถส่งตัวแทนมากำกับตัวเอง? เป็นไปได้หรือไม่ที่โครงสร้างคณะกรรมการแบบนี้จะนำไปสู่การกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม? คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า, ปุ๋ย, พันธุ์พืช และ ไข่ไก่ มีตัวแทนจากบริษัทเอกชนปัจจุบันนั่งอยู่ในคณะกรรมการคิดเป็นสัดส่วนสูงที่สุด และคณะกรรมการเหล่านี้กำกับธุรกิจที่เครือซีพีมีอำนาจเหนือตลาดสูงสุด ไม่ใช่เรื่องผู้นำตลาดแต่เป็นอำนาจเหนือตลาดเพราะบั่นทอนการแข่งขันแต่กฎหมายจัดการไม่ได้ กรณีในอเมริกา ลองไปดูคดี antitrust ดังๆ อย่าง Netscape vs Microsoft, และการสั่งแตกบริษัท AT&T ... แม้จะกระเทือนเสียงเชียร์ รัฐบาล แต่ถ้าไม่พูดอะไรเพราะกลัวจะเข้าทางคนที่เราไม่ชอบ สุดท้ายจะไม่มีวันมีทางของตนเอง ต้องย่ำเท้าอยู่กับที่หรือเดินตามทางของคนอื่นอยู่ร่ำไป
แล้วเคยเห็นบริษัทนรกบางบริษัทมันทำกับเอสเอ็มอีรายย่อยมั้ยล่ะครับ รายย่อยซื้อแฟรนไชส์ไปบุกเบิกทำเลที่ยังก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ว่าจะขายดีหรือไม่ดี พอรายย่อยทำไปซักพัก ผลประกอบการทำเลนั้นดี เจ้าของแฟรนไชส์แม่มันก็จะมาเปิดสาขาแข่ง ถัดกันไปไม่เกินหนึ่งช่วงเสาไฟฟ้า แบรนด์เดียวกัน ของเหมือนกัน แต่แม่มันเปิดใหญ่กว่า ตัวเงินตัวทองแท้ ๆ ไม่มีแลนเจือปนเลยทีเดียว
รอมันขึ้นค่าแรงให้พนักงานในเครือเป็นวันละ 500 แล้วรับซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำจนหมดโกดัง แล้วค่อยเข้า 7-11 ดีมั๊ย
ผมมีทั้งเห็นด้วยกับ 7/11 และไม่เห็นด้วย อย่างแรกที่เห็นด้วยคือ 7/11 มาทำให้ โชว์ห่วยต้องปรับตัวไอ้การขายแบบเดิมๆ ของหมดอายุก็ขาย ของฝุ่นเกาะเต็มไปหมดก็ขาย พวกนี้ควรล้มหายตายจากไปได้แล้ว การทำมาค้าขาย ต้องปรับตัวไม่ใช่อ้างว่า 7/11 ทำให้เค้าเจ๊ง โดยไม่มองว่า ร้านตัวเอง สกปรก ไม่น่าดู ฯลฯ แต่การที่7/11 ก็แย่หลายเรื่องในเรื่อง จริยธรรม กับผู้ซื้อเฟรนชายย์ เค้า เรื่องนี้ ก็ทุเรศจริงๆแหละ
ว่าแต่ว่าวันที่ 7-11 พฤษภาคม 58 มีใครในบอร์ดนี้บ้าง ที่จะไม่เดินเข้า เซเว่นบ้าง ขอเสียงด้วย ผมคนหนึ่งละ ที่จะไม่เดินเข้าร้านนี้เด็ดขาดในช่วงดังกล่าว
เข้าและซื้อตามปรกติฮะ ถ้าเอามาตราฐานเดียวกับที่คุณๆใช้ตัดสินcp ผมว่ามีบริษัทอีกเพียบที่ควรโดนยิ่งกว่า
การควบคุมสายพันธุ์ไก่ไข่ และการกำหนดโควต้าการนำเข้าพันธุ์ไก่ไข่โดยบริษัทไม่กี่บริษัทด้วยข้ออ้างว่าเป็นการควบคุมไม่ให้ไข่ไก่ล้นตลาด จะนำไปสู่การผูกขาดการผลิตไข่ซึ่งทำให้ผู้เลี้ยงไก่รายย่อยหายไปจากตลาดและไข่มีราคาแพง เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ครม.ได้เห็นชอบให้อำนาจ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์( Egg Board ) ในการกำหนดปริมาณการเลี้ยงไก่ไข่ และการนำเข้าไก่ไข่พ่อ-แม่พันธุ์ที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะนำไปสู่การผูกขาดการผลิตไก่ไข่ ในขณะที่โครงสร้างการผลิตไข่ในปัจจุบันนั้นรวมศูนย์อยู่ในมือของผู้ประกอบการรายใหญ่มากเกินพออยู่แล้ว (อ่านข่าวรายงานมติครม.ได้ที่ http://www.dailynews.co.th/economic/317643 ) ประชาธิปไตยแบบนายทุนอย่างไทยนี้เหละ!!! ที่ทำให้ กลุ่มพวกนี้ผูกขาด ประชาธิปไตยแบบที่ผ่านมาก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เพราะนายทุนสนับสนุนรัฐบาลไปซะทุกอย่าง
เหลือสักกี่รายครับ sme ของมรึงน่ะ ผมเห็น เปิดได้ไม่ถึงปี บริษัทแม่มาเปิดทับที่ ตรงข้ามไม่พอ ใหญ่กว่าอีกต่างหาก ไม่ใช่ที่เดียวนะครับ บางที่ เปิดดัก หน้าหลังเลย เฟรนฟรายมรึงตายเพราะตัวมรึงเองตลอด ไม่ต้องโทษคนค้านหรอกครับ เค้าค้านเพราะทำนิสัยกินรวบ มันคนล่ะประเด็นกัน
รวมทั้งพวกตรรกะวิบัติ อ้างบริษัทอื่นสมควรโดนอีกเพียบ กูชั่ว แต่มึงชั่วกว่ากู มันเรื่องเดียวกันหรือเปล่า? ไม่อายควายแดงหรือไง?
ผมร่วมด้วยอีกคนครับ ปกติใช้ตลาดสด กะ MINI C ครับ อยู่ใกล้บ้านมากกว่า 7-11 ซะอีก แต่มันตั้งล้อมบ้านผมอยู่ 4 สาขา 4 ทิศเบย แค่ 5 วันมันจะสำนึกได้เหรอครับ จัดมันทุกเดือนเลยดีมั๊ย ถ้าสำนึกไม่ได้ก็จัดมันทุกวันไปเลย
ดึงสติกลับมาหน่อย cpชั่วตรงไหน ทำตามกฎหมายทุกอย่าง พวกขายของละเมิดลิขสิทธิ์ไม่เลวร้ายกว่าหรือ ถึงจะรายย่อย แต่ก็ทำร้านเช่าวีดีโอที่เขาหากินสุจริตเจ๊งหมดแล้ว ผมว่ากระแสแบนcpมันไร้สาระ เพราะสิ่งที่7-11ทำ มันไม่น้อยไปกว่า โลตัส บิ๊กซี หรอกใช้ตำราการตลาดเล่มเดียวกันเลย คำถามคือ ทำไมไม่แบนโลตัสบ้าง? คือถ้าจะแบบเพราะไม่ชอบการตลาดแบบ7-11 ผมก็ไม่ต้านอะไรหรอก แต่แค่เห็นว่า โลตัส บิ๊กซี ทำไมไม่โดนแบนไปด้วย? งงในความหลายมาตราฐาน ปล เพิ่มนิด 7-11ผูกขาดตรงไหน ถ้าไม่ชอบ7-11ก็เข้าFamily mart,Max value,Lawson,108 shop,Big-C,Lotus ถ้าไม่ชอบทรู ก็ไปดีแท็ก เอไอเอส
ตรรกกะไม่ชั่ว เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย คงใช้กับจริยธรรมและธรรมาภิบาลไม่ได้มั้งครับ ให้เฟรนไชส์ ลองตลาด หากทำกำไรได้มากกว่า 5 หมื่น ติดต่อกัน 3 ไตรมาส ก็จะขอซื้อคืน หากไม่ขายก็จะให้เฟรนไชส์ลงทุนเปิดสาขาเพิ่ม หากไม่ทำก็จะเปิดเอง เพื่อเอากำไรมากขึ้น และกันเจ้าอื่นไปในตัว โลตัส บิ๊กซี ทำอย่างนี้ไหมครับ แถวบ้าน ร้านโชว์ห่วยยังอยู่ได้ โลตัสไม่มาเปิด express เพราะร้านสั่งของจากโลตัสมาขาย จึงไม่มาเปิดทั้งที่ทำเลดีมาก มีเซเว่น 2 แฟมิลี่ 1 ทุกร้านคนเข้าเต็มตลอดเวลา
เคยศึกษาเรื่องเปิด7-11หรือเปล่า? เขาจะมีกฎว่าถ้ายอดขายต่อวันเกินจำนวนหนึ่งให้เปิดอีกสาขาใกล้ๆ( เพราะ1สาขารองรับลูกค้าได้จำกัดจากพื้นที่) เขาให้สิทธิ์คนซื้อเฟรนไชด์ก่อนด้วยซ้ำไป มันก็เหมือนขยายร้าน แต่ไม่ต้องตั้งติดกันนั่นแหละ นึกภาพออกนะ ร้านเล็กๆแต่คนแน่นคิวยาว บริการไม่ทั่วถึง มันก็ต้องขยาย ผมว่าcpเขาเก่ง เก่งพอจะต่อสู้กับแบรด์ต่างชาติได้สบาย ก็แปลกที่คนไทยด้วยกันอยากทุบบริษัทคนไทยให้เจ๊ง ถถถถถถถ Cpไม่ได้ผูกขาดนะครับ เพราะผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะซื้อสินค้า-บริการจากบริษัทอื่น ของนำเข้ามีเยอะไปครับ
ผมก็บอกอยู่นี่ บังคับให้เฟรนไชส์ลงทุนเปิดร้านใหม่ หากไม่ก็มาเปิดเอง หากเฟรนไชส์ตัดสินใจเปิดร้านใหม่ รายจ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นเฟรนไชส์รับไป ทั้งๆที่ลูกค้าที่ใช้บริการคือกลุ่มเดิม ส่วนบริษัทคนไทยฟันแต่กำไรอย่างเดียวโดยไม่ต้องเสี่ยงหรือลงทุนเลย ด้วยข้ออ้างเกณฑ์มาตราฐานนั่นล่ะเป็นตัวบังคับ ปล. ขยายร้าน กับ เปิดสาขาใหม่ เงินลงทุนต่างกันมากนะครับ อย่าเอาเปรียบว่าเหมือนขยายร้านเลยครับ ทั้งค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อสินค้า ค่าจ้างพนักงาน ค่าไฟ มันคือต้องลงทุนเพิ่มเป็นเท่าตัวนะ
อ่านดีๆฮะ มันมีเกณฑ์ถ้ายอดขายต่อวันถึงจุดหนึ่งต้องเพิ่มสาขา และเขาให้สิทธิคนเดิมก่อน ถ้ายอดขายถึง แสดงว่าแถวนั้นเติบโตขึ้น กำลังซื้อเพิ่ม กำไรก็เพิ่ม หรือคุณจะแบบยอดขายเพิ่มยังไงก็ไม่เพิ่มสาขา แล้วก็ปล่อยให้คู่แข่งเข้ามาแย่งตลาดไป? ซีพีเขาเขี้ยวทั้งกับลูกน้องและคู่ค้า แต่เขาก็อธิบายกติกาแต่แรกแล้ว ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา คุณเป็นห่วงเฟรน์ไชน7-11หรือถึงเอาจุดนี้มาตีเขา แต่ผมเห็นคนที่ยังอยู่กับ7-11เขาก็มีความสุขดีนะ ปล ไม่ลงทุนตรงไหน? อย่างถ้ายอดขายถึงเกณฑ์ต้องเพิ่มสาขา ถ้าคุณไม่ลงทุนเอง บริษัทเขาก็ลงทุน แล้วกว่า50%ก็เป็นcpfลงทุนเอง http://www.portfolios.net/profiles/blogs/2988839:BlogPost:736496
ผมคงอยากให้เขาได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ล่ะมั้ง อยากให้เขาลงทุนแล้วได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยหน่อย เพราะเขาเสี่ยง อย่างที่คุณว่าเฟรนไชส์ที่สายป่านยาวก็คงสุขดี แต่เผอิญที่เคยเห็นคือหลังจากหมดสัญญาก็ปิดร้าน เพราะสู้สาขาบริษัทที่ทำเลดีกว่าไม่ได้น่ะนะ ปล.คุณก็ดูเป็นห่วง Cp จังนะครับ ปล.2 เฟรนไชส์เปิดสาขาใหม่เองน่ี่ บริษัทต้องลงทุนด้วยหรือ ปล.3 ไม่เข้าใจลิ้งค์ที่ยกมาครับ รบกวนอธิบายสักนิดครับ
สยามบานาน่าไงหลังหัก ที่กล้าไปเทียบรุ่นกะตลาดผูกขาด พวกนี้ไม่ใช่แค่เรื่องสาขา เรื่องยึด พท. สื่อก็เหมือนกัน ไปขอให้สื่อเงียบแลกกะเงินโฆษณาก็จบแล้ว สรุปคือผูกขาด ก็คือทำอะไรถูกเสมอ
บ้านเพื่อนทำ 7/11 ครับ ถ้าคำชี้แจงจาก CP ก็สวยหรูครับ เปิดให้เฟรนชายเดิม มีโอกาศลงทุนก่อนกรณีที่ยอดขายแถวนั้นถึงเกณฑ์ ถ้าทำไม่ไหว 7/11 ค่อยเข้ามาลงทุนแทน แต่ความจริง คือ ไม่ยอมต่อสัญญา ไม่ต่อครับ เช่าตึกแถวข้างๆห่างไปแค่2ห้องตึกแถว ทำเองเลย ไม่แต่จะยอมให้เค้าเปลี่ยนจาก type a เป็น type B (ขนาดบ้านเพื่อน ยอมที่จะขยายตึกแถวจาก2 ห้องเป็น3 ห้อง เพราะว่าตึกแถวเค้าเองอยู่แล้ว 3ห้อง แบ่งมาทำ 7/11 2ห้อง)เรื่องที่คนเค้าด่า 7/11 น่ะ มัน base on truth story ทั้งนั้นครับ ทั้งการที่ หาเรื่องบีบ กรณี สั่งของมาลง ก็ไม่ยอมส่งให้บอกว่าของชิ้นนี้หมด ต้องรอรอบหน้า ฯลฯ สำหรับผม 7/11 คือเรื่อง ศีลธรรมจริยธรรมการทำธุรกิจครับ การพยายามกินรวบทุกอย่างแม้แต่บีบพวกเฟรนชายให้อยู่ใต้ตีน น่ี่มันทุเรศไป ทำไมไม่ทำให้อยู่ร่วมกันได้ นี่ทำแบบกรูต้องกำไรสูงสุด ส่วนพวกโชว์ห่วย แบบห่วยๆ เดิมๆ ถ้าไม่ปรับตัวก็ตายไปอยู่แล้วเป็นปกติ
สิ่งที่จะตามมาคือสินค้ายีห้อ7-11 (เฮาส์โฮล์แบน) ที่จะมาทำแข่งกับสินค้าหลักที่วางขาย ซึ่งหน้าตาสินค้า บรรจุภัณน์ดูคล้ายกัน 80% อีกหน่อยผู้ผลิต ผู้จำหนายสินค้า และผู้ประกอบการรายย่อย ก็คงจะร้องอีกกลุ่มแน่
สักหน่อย… มีคน Quote และสั่งสอนให้ผมดึงสติกลับมา หรือเราควรดึงตรรกะกลับมาก่อนดีกว่าไม๊? ไม่น่าเชื่อว่า ความวิบัติของตรรกะคนเรา เป็นไปได้ถึงขนาดนี้ กระทู้นี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ 7-11 และเจ้าของคือ cp จึงได้พูดเลยไปถึง cp ถ้าอ่านแค่นี้ แล้วยังไม่เข้าใจ กลับไปเรียน ภาษาไทยชั้น ป1 ใหม่ได้เลยครับ นี้จึงเป็นที่มา ที่ผมใช้คำว่า ตรรกะวิบัติ อะไรคือความวิบัติของตรรกะในเรื่องนี้ -การยกตัวอย่างประโยคว่า กูชั่ว แต่ มึงชั่วกว่ากู แปลว่าผมด่า cp ว่าชั่ว อย่างนั้นหรือตีความได้แค่นี้หรือ ถ้าจะใช้วิธีการเดียวกัน มาตรฐานเดียวกัน อย่างที่ถามหา ว่า cp ทำอะไรที่ผิด กฎหมาย ผมก็จะถามหา เหมือนกันว่า มีประโยคใหนที่ผม ว่า cp ชั่ว -การอ้างว่า ถ้าใช้มาตรฐานอย่างพวกคุณ มีบริษัทอื่นอีกเพียบทีควรโดนยิ่งกว่า นี้ก็เป็นอีกหนึ่งในความวิบัติของตรรกะ ถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ก็เพราะว่า หากเรากำลังพูดถึง สิ่งหนึ่ง แล้วไปยกเอาอีกสิ่งมาหักล้างได้หรือ สมมติง่ายง่ายอย่างนี้ดีกว่า (จะได้ไม่งง) หากเราฝ่าฝืนการจราจรเช่น ฝ่าไฟแดง ไม่ยอมให้ตำรวจจับ โดยอ้างว่าคันอื่นอื่น ก็ฝ่าฝืนไฟแดง ลองไปถามตำรวจดูซิตำรวจจะยอมไม๊ และทำให้การฝ่าฝืนไฟแดงของเรากลายมาเป็นเรื่องถูกต้องได้หรือไม่? เพราะฉะนั้นการอ้างว่า บริษัทอื่นสมควรโดนอีกเพียบ เป็นการอ้างแบบ ตรรกะวิบัติหรือเปล่า ลองใช้ ส่วนใหนก็ได้ตรองดู ก็น่าจะรู้นะครับ -ความวิบัติที่เป็น ไฮไลท์สำหรับความเห็นนี้ ก็คือ แยกไม่ออกระหว่าง กฎหมายกับจริยธรรม-คุณธรรม ผมถึงบอกว่า ไม่อายควายแดงบ้างหรือไง ? ถ้าใช้ตรรกะแบบนี้ กรณีทักษิณ ที่บอกว่า บกพร่องโดยสุจริต เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับเด็กอนุบาลเลยทีเดียว สรุปได้เลยว่า กรณีนี้ ทักษิณ ไม่ได้ชั่ว เพราะศาลท่านตัดสินให้ทักษิณ ชนะคดี ไม่ใช่หรือ? -ความวิบัติ ปิดท้าย ที่อ้างว่า สองมารตฐาน ว่าทำไม ไม่แบน big c lotus ในหัวข้อที่พูดถึง 7-11 นี้ก็ต้องกลับไปดูความวิบัติในข้อก่อนก่อน ที่ว่ามา แต่ ที่ชัดเจนจนแทบไม่น่าเชื่อว่า จะวิบัติได้ขนาดนี้ คือ การบอกว่า มี ais dtac ให้เลือก นี้ก็แสดงให้เห็นชัดมากขึ้นอีกว่า ไม่เข้าใจ การผูกขาด หากอ่านความเห็นผมใน เม้นท์ต้นๆ เรื่องนี้ ได้ยก กรณีNetscape vs micorsoft และ AT&T ให้เห็น ลองไปศึกษาดูแต่ขอพูดสั้นสั้นว่า ในโลกนี้ ยังมี Yahoo ยังมี Google แล้วทำไมกรณีNetscape vs micorsoft หรือแม้กระทั่ง AT&T ต้องแยกออกในบริษัทตัวเอง เป็นกรณีผูกขาดไปได้ ไม่อยากพิมพ์มาก ยิ่งพิมพ์มากก็จะทำให้ผมเห็นความวิบัติมากผมไม่อยากเห็นมาก ขอแค่นี้พอครับ
เพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ว่าจริงหรือไม่ -"ซีพีผันตัวเองไปทำธุรกิจข้ามชาติ แล้วไปไม่รอดเพราะรัฐบาลประเทศนั้นดูแลไม่ให้เกิดการผูกขาดในประเทศ" -"ซีพียังมีธุรกิจสื่อสาร เคเบิ้ลทีวี ธุรกิจลอจิสติกส์แข่งกับไปรษณีย์ไทย จะมีธนาคาร จะลงทุนรถไฟความเร็วสูง" -"ซีพีมีอิทธิพลเหนือทุกรัฐบาล ไม่มีใครกล้าทำอะไร" -"ทั้งเทสโก้ โลตัส แม็คโคร โดนซีพีซื้อ ค้าปลีก ค้าส่ง เกือบทั้งประเทศตกอยู่ในกำมือของบริษัท" -"ซีพีทำให้ผู้ค้ารายย่อย เช่น โชห่วย อยู่ไม่ได้ ไปแย่งอาชีพคนอื่นหมด" อ่านคำชี้แจงจาก cp https://www.facebook.com/wearecp
เอาที่พี่สบายใจเลยครับ ถ้าพี่เห็นว่าธุรกิจชนิดที่เปิดเสรีอย่างของกินและสื่อสาร และค้าปลีก พอเขาบริหารเก่งจนเป็นเบอร์หนึ่งก็ไปเรียกว่าผูกขาด... งั้นก็เอาที่พี่สบายตัวสบายใจแล้วกันครับ ผมไม่ขัด ปล ทรูเป็นอันดับ3 และขาดทุนมาหลายปีแล้วพึ่งมากำไรปีนี้
ลิ้งค์ที่ยกมาคือมีปัญหากับแฟรนไชส์ บริษัทแม่ก็แก้ปัญหาให้ บางที่มันอยู่ที่การสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ถ้าตั้งธงมีอคติมันก็เริ่มจากการเป็นศัตรู
ผมพ่อลูกสอง ก็เกลียด CP เหมือนกัน เพราะลูกผมมันชอบกินน้ำอัดลมในเซเว่น กินแล้ว กินแล้วเติมอยู่นั่นแหล่ะ เพราะลูกบอกเค้าคิดเงินจากจำนวนแก้ว ไม่ได้คิดจากปริมาณน้ำ
บริษัทประเมินราคากลางผิดพลาด จนเป็นเหตุให้ทางเฟรนไชส์ต้องเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีกเกือบ 25 % จากที่วางแผนและตกลงกันไว้ในตอนแรก และวิธีแก้ไขคือให้เจ้าของขยายวงเงินกู้กับธนาคารเพิ่ม นี่มันน่ายกย่องหรือครับกับวิธีแก้ไขปัญหาแบบนี้ หนี้ที่เพิ่มขึ้นผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดของบริษัทก็ยังเป็นของคู่ค้าอยู่ดี
มีแต่ที่ดิน...ไม่มีเงิน...อยากทำฟาร์มหมู..ไก่.. จะทำโรงเรือน...กู้ใครได้บ้าง... ลูกหมู..ลูกไก่........ใครขาย อาหารหมู..ไก่...........ใครขาย หมู..ไก่โตพอขาย...............ใครรับซื้อ ราคาหมู..ไก่.......................ใครเป็นคนตั้งราคารับซื้อ มาบ่นเฉยๆ...
ผมอยากให้ถกถึงเรื่องจริยธรรมและธรรมาภิบาล มากกว่าจะอ้างว่าผิดกฏหมายตรงไหน แบบศรีธนญชัย นะครับ ไม่งั้นเมืองไทยคงต้องวนกลับไปที่ 1. ทักษิณให้วันที่ 31 ธ.ค. เป็นวันทำงาน ผิดกฏหมายตรงไหน? เพราะมติ ครม. อนุมัติแล้ว หรือ 2. ทักษิณขายหุ้นให้เทมาเส็กผิดกฏหมายตรงไหน ที่ประเทศมีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ เพราะจริยธรรมเสื่อม ศีลธรรมทราม และมนุษย์ศรีธนญชัยดันเยอะเกลื่อนกลาดเต็มสังคมไปหมด ทั้ง ปตท. ทั้ง CP มีทุนสนับสนุนทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักวิชาการ แถมส่งคนไปแจมแทบทุกรัฐบาล เพื่อเอื้อในการออกระเบียบ+กฏหมาย ให้บริษัทตัวเองได้เปรียบ เพราะฉะนั้นอย่าอ้างเรื่องกฏหมายเลยครับ ถกเรื่องจริยธรรมและธรรมาภิบาล จะดีกว่า
ให้ลงไปดูที่เจ้าของแฟรน์ไชสโพสล่างๆครับ สรุปว่าเป็นความผิดพลาดของcpall และเขาได้แก้ปัญหากับขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผมว่าเขาก็ไม่ได้ผิดจริยรรมอะไรนะ? อย่างกติกาเป็นแฟรน์ไชสเขาก็ชัดเจนแต่แรก ผมเคยเข้าไปฟังยังถอยเลย กรณี ปตท นี่ก็แปลก ด่ากันทั้งๆที่ผู้ถือหุ้นใหญ่คือรัฐบาล งั้นแบนปตท ไปใช้ปิโตรนาสก็ดีนะฮะ สรุปคือ สำหรับประเทศไทย ถ้าใครบริหารเก่งจนเป็นเบอร์หนึ่งจะต้องถูกด่าว่าผูกขาดและถูกแบนใช้มั๊ย? แถมยังโดนยัดข้อหากลุ่มทุน ที่สามารถขนาดสั่งให้รัฐบาลออกกฎหมายเพื่อcpได้! คือเราจะไม่คุยกันด้วยหลักฐาน แต่จะคุยกันด้วยข่าวลือ? ใครๆก็รู้ว่าcpไม่มีจริยธรรม? ปล ผมขับรถ ตจวไกลๆ ผมแวะปตทตลอด เพราะชอบที่สะดวกและสะอาด มี7-11ในตัวด้วย ผมก็ไม่ชอบที่ปตทขับบ้านไร่กาแฟออกมา แล้วเอาอเมซอนกาแฟของตัวเองเข้าไป แทนแต่นี่คือโลกของธุรกิจครับ การต่อสู้ด้วยระบบเสรี จะทำให้ตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด ผลประโยชน์ตกกับผู้บริโภค แข่งขันเสรีอาจไม่ใช้ระบบที่ดีที่สุด แต้ดีกว่าตลาดระบบสังคมนิยมที่รัฐทำตัวเป็นคุณพ่อรู้ดีเยอะ
ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ แนวคิดที่ท่านว่ามามันใช่ครับ แต่ผมไม่เห็น เฟรนฟราย (*ขำ) รอดสักรายเลยครับ ถ้าไม่ทุนหนาจริงๆ หรือไม่ก็ต้องขายคืนบริษัทฯ ตลอด แล้วบริษัทมันก็ขยายจากห้องแถวเดียวเป็น 2 ห้อง 3 ห้อง ก็ว่ากันไป ไม่ได้อคติ แต่น่าคิดว่าทำไมมากกว่าครับ แล้วเรื่องแบนก็คงเป็นกระแสให้หยุดคิดได้นิดนึง จริงๆ ผมชอบการจัดการบริหารทั้งคนและธุรกิจของ cp ซะด้วยซ้ำครับ แต่สุดท้ายเข้าตำรายืมมือคนอิ่นเปิดทางตัวเองเข้ามาเป็นตาอยู่ในตอนหลังกินพุงปลาสบายใจเฉิบ ในแง่ธุรกิจไม่ผิดครับ แต่แง่ของ....จะใช้คำว่าอะไรดียังนึกไม่ออก
อ่านแล้วครับ บริษัทขอโทษคืนเงินที่ติดหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากความผิดพลาดของบริษัทในการประเมินราคากลาง โดยให้คู่ค้าขอขยายวงเงินกู้เพิ่มกับทางธนาคารมาจ่ายให้ทางบริษัทแทน ไม่ใช่รึครับ comment by Dedarkside on July 20, 2010 at 5:21pm เช้าวันนี้มาหลังจากที่เมื่อคืนนอนไม่หลับ เวลา9.00น. ทางฝ่ายเก๋ 7-11 หลังจากที่เมื่อวานเค้าได้โทรไปแจ้งกับหัวหน้าส่วนกลาง แฟนไชซย์สัมพันธ์ วันนี้ได้รับ ข่าวดีว่่า ทาง7-11 จะคืนเงินรายได้ร้านทั้งหมดให้ภายในวันที่13นี้ และยอด ส่วนต่าง ที่ค้างทั้งหมด450000 จะเข้าสู่การขอขยายวงเงิน กัยครั้งที่กูธนาคารนครหลวงมา แล้ว ทางส่วนกลาง7-11 คุณภา คนรับเรื่องก็ได้โทรกลับมา ขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่ผิดพลาด นี้ทั้งหมด ยังไงผมก็ขอขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยเหลือผม ให้ช่วงที่แย่ๆผ่านไปได้ด้วยดี ครั้ง หน้า ขอร้องหล่ะ อย่าให้เกิดแบบนี้กับใครอีกเลย....... ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างก็จบลงแล้วครับ ขอบคุณทุกคนมากครับ ที่เป็นกำลังใจให้ครับ http://www.portfolios.net/profiles/blogs/2988839:BlogPost:736496#ixzz3ZR4lfDCI
ผมไปฟังแล้วยังไม่เอาเลย เหนื่อยมากๆ เงื่อนไขเยอะ แต่คนที่อยู่ได้ก็มี แสดงว่าเขาแกร่งจริงๆ ผมว่าคนที่จะทำ ต้องพิจารณาตัวเองว่าพร้อมหรือไม่ โลกธุรกิจครับ เงินเรา เราต้องตัดสินใจเอง
อ้อ อีกเรื่อง สำหรับ 7/11 แต่ผมไม่รู้สาขาอื่นๆเป็นยังไงนะ แต่หน้าหมู่บ้านผม ตั้งแต่สมัยน้ำท่วมใหญ่ เจ้าสัวมีมาออกข่าวว่าจะเยียวยา ช่วยเหลือ เฟรนซชายทั้งหลาย ในช่วงที่หยุดกิจการไป แต่ว่า สาขาเฟรนชายหน้าหมู่บ้านผม ผมถามเค้าเค้าบอกว่า ไม่เห็นมีช่วยอะไรเลย เค้าเข้าเนื้อไปเต็มๆ ทั้งกรณี ไม่มีรายได้เกือบเดือน ก็ไม่ได้ลดค่าบริหาร และอื่นๆ ขนาดนี่เค้าเป็นเจ้าของเฟรนชาย 2 type สองที่ในละแวกนั้น จริงๆหลังน้ำท่วม เค้าก็ติดต่อผม อยากจะให้ 7/11มาดูตึกแถวบ้านผม (3ห้องติดกัน) เพราะว่า เค้าเริ่มโดนบีบแล้วว่า 7/11 จะขยายเป็นแบบ 3 ห้องแถว ตามโมเดลใหม่ ให้มีเบอเกอรี่ ร้านหนังสือใน7/11 ถ้าผมโอเคเค้าจะรีบให้ 7/11 มาดู เพราะเค้ากลัวว่า 7/11จะมาหาสถานที่เปิดเอง หรือว่าให้ เฟรนซชายรายใหม่ มาเปิด เพราะห่างจากที่เดิม ไม่ถึง 10 ห้องแถว ผมถามเค้าว่าทำไมยอมจบสัญญาไป แล้วไปทำอย่างอื่น เฟรนซชายบอกว่า เค้าก็ กู้แบงค์มาทำครับ ยังไงก็ต้องพยายามหมุนเงินมาจ่ายให้จบหนี้ก่อน เค้าบอกว่านี่เค้าเกือบตกนรกทั้งเป็น จะว่าไป ผมรู้เรื่อง7/11 เยอะๆก็จากปากเค้านี่แหละ รายของบ้านเพื่อน รู้แค่เฉพาะตอนกินข้าวเท่านั้นจะเล่าไป มีอีกเยอะ เอาเป็นว่าอย่างที่บอก อ่านตามโพสที่คนเค้าด่า 7/11 นี่แหละ ครับ การทำนาบนหลังคน เอาเปรียบ คู่สัญญาเป็นยังไง
ขออนุญาตโลว์เทคหน่อยครับ เรื่องความผิดถูก ผูกขาดเอารัดเอาเปรียบกันหรือไม่ บางทีก็ต้องอาศัยสำนึกของตัวเองครับ ไม่ได้วิแคะแยกแยะอะไรนัก มันอาจเป็นเรื่องที่ได้รับรู้มาเป็นเวลานานแต่ยังไม่เป็นประเด็นร้อน พอสะสมถึงจุดหนึ่งก็เลยเป็นเรื่อง ผมพูดถึงความไม่ชอบมาพากลของซีพี ปตท ฯลฯ ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีคำอธิบายสวยสดงดงาม แต่ความรู้สึกลึกๆของตัวผมเองมันแย้งกับคำสวยงามเหล่านั้น ขณะที่ผมหันมาใช้อีโคคาร์เพราะไอ้คันใหญ่ที่บ้านมันกินน้ำมันเหลือหลาย วันหนึ่งเมียเป็นไข้หวัดไออย่างหนักและอยากไปหาหมอที่บำรุงราษฎร์เพราะเคยรักษาหายมาก่อนก็เลยต้องพาไป ครั้งนี้ผมเจอค่ารักษาไปแปดพันกว่าบาทถึงกับหน้ามืด เผอิญเหลือบไปเห็นเพื่อนที่ทำงานอยู่ปตท.มาหาหมอเหมือนกัน ไม่ได้ถามว่าบิลของเพื่อนเท่าไหร่แต่เพื่อนบอกว่าถึงเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็เบิกได้หมดไม่มีเพดาน พ่อแม่ลูกเมียถ้าไปโรงพยาบาลรัฐก็เบิกได้เต็ม และเรารู้อยู่ว่าเงินเดือนผลประโยชน์และสวัสดิการของพนักงานปตท.นั้นขั้นเทพ อดนึกไม่ได้ว่าตกลงแล้วราคาขายน้ำมันที่ปตท.ยืนยันว่าถูกต้องเหมาะสมแล้ว มันจริงหรือ ตกลงมัน"พลังไทยเพื่อไทย" หรือ "พลังไทยเพื่อใคร?" อ้าว....คุยกันเรื่องซีพีแล้ววกมาปตท.ได้ไง?
ซีพี ไม่ได้ทำผิด กม. ครับ แต่ซีพีทำผิดจริยธรรมอันควรแก่การทำธุรกิจ พวกพ้องท่านหนึ่ง เคยทำธุรกิจให้ซีพีในช่วงแรกๆ ช่วงนั้น ซีพี ยังเป็นวัยละอ่อนในเรื่อง เซเว่น โดนซีพีให้ทำเป็นเฟรนไชส์ในจังหวัดหนึ่ง ซึ่งใหญ่พอควรในภาคอีสาน โดยรับทำ 50 สาขา ทำได้ซักระยะ ไม่ถึงสามปี ซีพีเร่งด้วยยอด ด้วยอะไรอีกหลายๆ เรื่อง เพื่อจะซื้อคืนเพื่อมาทำเอง ในที่สุด พวกพ้องท่านหนึ่ง ต้องยอมปล่อยให้ซีพีไป เหมือนซีพีหลอกให้พวกพ้องผม เป็นหน่วยกล้าตาย ลองทำไปก่อน พอทำดี ทำได้ ก็มาซื้อคืน ในราคาที่ต้องขาย ซีพีไม่ผูกขาดครับ แต่ในความเป็นจริยธรรมเรื่องธุรกิจ ไม่สมควรทำ เหมือน ตันที่ขายชาเขียวแล้ว ตอนหลังกลับมาทำเอง พร้อมไล่ล่าของที่ตัวเองขายให้เขาไปแล้ว สมควรหรือไม่สมควร พิจารณากันเอง
1. ตอนไปฟังกติกาเฟรนไชส์เค้าเน้นและระบุไว้ชัดเลยหรือครับว่า "CP All สามารถเปิดติดเฟรนไชส์ได้โดยไม่ผิดกติกาและห้ามฟ้องร้องใด ๆ" 2. ตรรกะเกี่ยวกับ ปตท. ของคุณนี่ ผมคงไม่อยากถกเหตุผลด้วยหรอกครับ เชิญเชื่อไปตามจริตส่วนตัวได้เลย 3. และถ้าคุณคิดว่าหลักฐานของตัวเองถูกต้องที่สุด ส่วนของคนอื่นเป็นข่าวลือทั้งเพ ก็เอาตามจริตส่วนตัวตามสบายเลยครับ ผมไม่เสียเวลาถกด้วยเหมือนกัน สำนึกที่ว่านั่นแหละที่เป็นส่วนหนึ่งของคำว่า "จริยธรรม" ซึ่งผมคิดว่าคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ส่วนใหญ่เข้าใจนะว่า "จริยธรรม" คืออะไร ..... ส่วนน้อยที่ไม่เข้าใจก็คงต้องปล่อยเค้าไปล่ะครับ ส่วนจาก ซีพี แล้ววกมา ปตท. ได้ไง ......... ก็คงต้องไปถามผู้ที่พยายามไปลากไปจูงมาเกี่ยวเพื่อสนองจริตของตนว่า ไปเอามาโยงทำไม?
ส่วนเรื่องที่คนไปเป็นเฟรนไชส์ให้เซเว่น พอขายดีหน่อย ซีพีก็จะมาเปิดเซเว่นของตัวเองในระยะที่ใกล้ๆ กัน หรือบางที ตรงข้าม หรือเลวร้ายสุดติดกันเลย เคยจะเปิดเซเว่นเหมือนกัน แต่มีคนเตือนในกระทู้ข้างบน งดเลย ไม่อยากเป็นหน่วยกล้าตาย ลองผิดลองถูกให้เซเว่น แล้วเซเว่นมาชุปมือเปิป เผอิญ ไม่ใช่คนมีเขาอยู่บนหัว
เรื่องนี้ คนน่าโดนตำหนิคนแรก ก็น่าจะเป็นท่านประธาน ที่ให้นโยบาย ทำกำไรสูงสุดในองค์กร พวกที่สอง ก็เป็นทีมงานพัฒนาธุรกิจนั่นแระ พวกนี้ โดนนโยบายมา ทำไงก็ได้ ให้กำไรสูงสุด เลยต้องทำเพื่อปากท้องตัวเอง ไม่สนใจเรื่องอื่น
จริงๆ ที่ซีพีทำแบบนี้ คนขายทั่วไปน่าจะเป็นเรื่องดี ผมไม่เชื่อหรอก ด้วยพนักงานเซเว่นเท่าเดิม มันจะชงกาแฟ รับซักรีด ปรุงอาหารตามสั่งในบางสาขาได้ดี หมูปิ้ง ยังอร่อยสู้หาบเร่ไม่ได้ แล้วจะกลัวกันไปทำไม