"31 ตุลา วันมวลมหาประชาชน" ร่วมรำลึกวันประวัติศาสตร์ ด้วยการโพสต์ภาพ และบอกเล่าถึงความประทับใจ !!!!!

คนไท รักในหลวง
"31 ตุลา วันมวลมหาประชาชน"
ร่วมรำลึกวันประวัติศาสตร์ ด้วยการโพสต์ภาพ
และบอกเล่าถึงความประทับใจ
ของพวกเราเหล่า ... มวลมหาประชาชน
ใครไม่เห็นเป็นวันประวัติศาสตร์ .. แต่เราเห็น !




เป่านกหวีดแล้ว! 31ต.ค. รวมพลสถานีรถไฟสามเสน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 ต.ค. 2556

“สุเทพ” เอาจริง นำ ส.ส.ปชป.แถลงหน้า ร.7 รัฐสภาค้านนิรโทษฯ ฉบับสุดซอยเต็มที่ ปัดลาออก ส.ส. จวกรัฐเร่งดัน ทำบ้านเมืองแตกแยก นัดชุมนุม 31 ต.ค. 18.00 น. ที่สถานีรถไฟสามเสน...


วันที่ 30 ต.ค. ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 หน้าอาคารรัฐสภา 1 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ประมาณ 50 คน นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะมีการนำเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ วันที่ 31 ต.ค. ในวาระ 2 และ 3

โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งหญิงและชายตัดสินใจออกไปร่วมต่อสู้ กับประชาชนเพื่อต่อต้านกฎหมายล้างผิด ที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย พยายามเสนอเข้าสภาฯ โดยไม่ฟังเสียงประชาชน ทั้งนี้ พรรคมีแถลงการณ์ ในนามกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่เบื้องต้นขอกล่าวถึงพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่7 ว่า

“ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดย สิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร”



นายสุเทพ กล่าวต่อว่า แถลงการณ์มีดังนี้ บัดนี้ปรากฏแน่ชัดแล้วว่า รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กระทำการสวนทางแนวพระราชหัตถเลขาชัดเจน โดยการดึงดันใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ มีเนื้อหาลบล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงความผิดของแกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายในการชุมนุมทางการเมืองที่มิชอบ ด้วยกฎหมาย โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงของประชาชนกลุ่มต่างๆ ในสังคมที่ออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักกฎหมาย สร้างความแตกแยกในสังคม และจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และประชาชน

นอกจากไม่เปิดกว้างรับฟังแล้ว กลับใช้กลไกเสียงข้างมากทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในชั้นกรรมาธิการฯ ปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ให้มีเนื้อหาสนองผลประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกพ้องมากขึ้น ทั้งที่มี ส.ส.พยายามคัดค้านและเรียกร้อง ให้รัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ออกไป แต่ใช้กลไกเสียงข้างมากรวบรัด นำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เข้าสู่การพิจารณาของ สภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 วันที่ 31 ต.ค.

“พวกเราเห็นว่า หากปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ย่ามใจในอำนาจเสียงข้างมาก ทำในสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ไปเรื่อยๆ บ้านเมือง จะไร้หลักยึด ประเทศจะจมดิ่งอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการของรัฐบาล ที่มุ่งแต่จะพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ของครอบครัว และพวกพ้อง โดยไม่สนใจประโยชน์สุขของประชาชน และความสงบร่มเย็นของประเทศ

ขอประกาศว่า กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นำโดยผม จะร่วมกับประชาชนทั่วประเทศเคลื่อนไหวต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เข้มข้น เบื้องต้นขอเชิญชวนคนไทยออกมาชุมนุมที่สถานีรถไฟสามเสน วันที่ 31 ต.ค. เวลา 18.00 น. จากนั้นจะร่วมกับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า นักธุรกิจ และชาวไทยทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ และทั่วโลก ยกระดับการเคลื่อนไหว จนกว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จะยอมยกเลิกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ดังกล่าว” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกทม. ของพรรค ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคแล้ว เพื่อให้การเคลื่อนไหวร่วมกับประชาชนไม่เกี่ยวข้องกับพรรค แต่ยังไม่ลาออกจากการเป็น ส.ส. เนื่องจากต้องใช้ความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่คัดค้านเรื่องนี้ โดยเฉพาะการอภิปรายในวาระ 2 และ 3 ส่วนการใช้สถานีรถไฟสามเสน เป็นสถานที่ชุมนุมนั้น เพราะอยู่นอกเขตการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ส่วนจะชุมนุมต่อเนื่องอย่างไร ก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์และจะหารือกับ ประชาชนว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไร

ด้านนายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลาออกครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของรองหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้ลาออกจาก ส.ส. ซึ่งการดำเนินการเพื่อเพื่อให้การเคลื่อนไหวทำได้เต็มตัว ไม่ต้องการให้ถูกให้ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรค และการลาออกครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เป็นการตัดสินใจของรองหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คน ซึ่งเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ได้โทรศัพท์แจ้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็รับทราบและไม่ได้คัดค้าน เพราะถือเป็นสิทธิของแต่ละคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าว นายอิสระพร้อมด้วย นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ได้ยื่นใบลาออกต่อรองผู้อำนวยการพรรคแล้ว ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ภาค กทม. ยังไม่ได้ยื่นใบลาออก แต่ได้แสดงความจำนงว่าจะลาออกผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้วว่าจะลาออก เพื่อร่วมเคลื่อนไหวกับประชาชนอย่างแน่นอน.



Anchalee Sasaki
คิดถึงท่าน นะคะ

ทนายนิติธร ล้ำเหลือ (แกนนำ คปท.) ทัพหลวง ทัพหน้าของแผ่นดิน




Niramon Saenacw
นับถือจริงๆทนายนกเขาหัวใจเพชรจริงๆวันที่ไปที่ทำเนียบเปลี่ยนพระพุทธรูปองค์ใหม่และนำธงชาติไทยขึ้นยอดเสาวันนั้นพี่ก็ไปนะ

 

Anonymous Photographer
วันนี้เป็นวันครับรอบหนึ่งปีของมวลมหาประชาชน... สำหรับผมแล้ว ประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เป็น "ช่างภาพสมัครเล่นในม๊อป" ชื่อที่ใช้ก็มีคำแปลเพียงว่า "ช่างภาพนิรนาม" จนเริ่มจากหนึ่งเป็นสองในฐานะทีม Anonymouse Photographer
ผมเป็นมนุษย์แค่คนกินเงินเดือนธรรมดาๆคนหนึ่ง ส่วนคุณโบว์ทำงานในฐานะ(อดีต)เจ้าหน้าที่ในพรรคที่จัดการชุมนุม เราสองคนไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง
เหตุการนี้ทำให้ย้อนนึกไปถึงวันแรก ที่เคยถูกเสน่ห์สาวชักชวนให้ไปถ่ายภาพการปราศัยทางการเมืองน่าจะเป็นครั้งแรก และเพียงครั้งเดียวในชีวิต ที่เวทีผ่าความจริงที่จังหวัดชลบุรี ส่วนช่างภาพที่สองไปทำหน้าที่ช่วยขายเสื้อ
ลองไปดูภาพสมัยที่ช่างภาพที่หนึ่งพึ่งเริ่มถูกหลอกไปถ่ายงาน
ภาพดูได้จาก Link นี้นะครับ ...
https://www.facebook.com/lovesanova/media_set…
และขออนุญาติก๊อปปี้บทความที่น่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่ผมเคยเขียนไว้เกี่ยวกับบุคคลคนหนึ่งที่ทำให้พวกเราทุกคนได้ รวมทุกข์ รวมสุขด้วยกันมาตลอดหนึ่งปี
----------------------------------------------------------------------


สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดการในเงามืด
ผมเคยมองว่าคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ที่มองหาแต่ผลประโยชน์ทางการเมือง เป็นบุคคลไม่น่าคบหา จำได้ว่าถึงขั้นเรียกได้ว่ารังเกียจ แต่วันหนึ่งเคยมีคนเตือนสติผมมาว่า สิ่งที่ผมเข้าใจนั้นมันเรื่องที่ผิด เธอแก้ต่างว่าบุคคลคนนี้จริงแล้วเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ คอยแก้ไขปัญหา เป็นเสมือนหนังหน้าไฟ ผมเองก็ได้รับฟังแต่ลึกๆในใจตัวเองก็ไม่เคยเชื่อในคำแก้ต่างเหล่านั้น
จนวันนี้... คนไทยนับล้านถูกพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าที่ผ่านมาเราหลายคนอาจจะมองคนผิดไป ชายแก่ผมสีดอกเลา ออกมาเรียกร้องคนไทยให้ออกมาสู้กับอำนาจที่ปกครองประเทศแบบย้ำยี เริ่มต้นจากเวทีผ่าความจริงที่เดินสายจัดไปทั่วประเทศมานานกว่าหนึ่งปีกว่าเพื่ออธิบายถึงความชั่วร้ายในระบอบการเมืองทุนนิยมที่กำลังกลืนกินประเทศทั้งเป็น
มาครั้งนี้เมื่อถึงจุดที่ฝ่ายบริหารกำลังยำยี่ประเทศไทยถึงที่สุด สุเทพ เทือกสุบรรณเสียสละออกมาเรียกร้องมวลชนให้ลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลที่กำลังผ่านกฏหมายชั่ว ตามด้วยลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเพื่อนำมวลชนอย่างประชาชนคนธรรมดา ไร้เอกสิทธิทางการเมืองคุ้มครองดังเดิมและสามารถติดคุกได้ทุกข้อหา
และคำตอบสุดท้ายนั่นก็คือการเดินทางกว่า17กิโลเมตรจากเวทีราชดำเนินกลางท้องถนน นำมวลชนไปยังศูนย์ราชการด้วยสองเท้า
ลูกผู้ชายวัยคุณลุง ผมหงอกเกือบหมดหัว ชอบยิ้มยี่ฟันเวลาถ่ายภาพ แถมเคยเป็นกำนันที่สร้างบารมีให้ตนเองด้วยน้ำใจสไตล์นักเลง ก้าวสู่เวทีการเมืองจนได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี วันนี้เค้าปลุกคนไทยนับล้านมาต่อสู้บนท้องถนน ต่อต้านอำนาจที่กำลังเอาเปรียบประชาชนอย่างน่าจดจำ สร้างกระแสให้กับสังคมไทยอย่างยิ่งใหญ่ สิงห์เฒ่าตัวนี้แม้จะอาจจะเชื่องช้าแต่เขี้ยวเล็บยังแหลมคม เต็มไปด้วยประสบการณ์ โดดลงสังเวียนต่อสู้กับขั่วอำนาจชั่วด้วยลีลาแบบนักเลงที่ซื้อประชาชนด้วยใจที่มุ่งมั่น
ไม่ว่าเดิมพันครั้งนี้จะจบลงยังไง คนไทยหลายคนจะจดจำชายคนนี้ไปอีกนาน
ขอบคุณ Beau Arpharat ที่เคยชวนไปเดินเล่นที่เวทีผ่าความจริงที่จัดขึ้นที่ชลบุรีเมื่อกลางปีที่แล้ว เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ผมเคยเก็บภาพลูกผู้ชายคนนี้เป็นครั้งแรก และทุกวันนี้เราทุกคนรู้จักเค้าในชื่อ "ลุงกำนัน - สุเทพ เทือกสุบรรณ"
---------------------------------------------------------------------------
ทุกครั้งที่กลับมาเห็นภาพเหล่านี้ ทำให้พวกเราคิดถึงมวลมหาประชาชนทุกๆคน คงต้องขอบคุณกำนันสุเทพที่ทำให้พวกเราได้รู้จักกัน



Anchalee Sasaki
ภาพ กปปส. เมื่อ 4พย.2513






Dome Tequila
ดีใจที่สุเทพเห็นแก่บ้านเมืองคนนัดก็เป็นล้านจะออกมากัน

จรีพร มูรธานันท
สู้ๆเพื่อล้มระบอบทักษิณ อย่าให้พวกมากลากไปตามใจ เพื่อประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวก

Supawadee Panichaya
อยากเห็นภาพนี้มานานแล้วไม่อยากเห็นสีใดสีหนึ่งเห็นแต่สีธงชาติไทย

 

เถกิง สมทรัพย์
ครัวชาวใต้รำลึก

 

กปปส. มีชื่อเต็มว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า People's Democratic Reform Committee, แปลตามตัวอักษร คณะกรรมการประชาชนปฏิรูปประชาธิปไตย, ย่อ: PDRC) เป็นกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศไทย โดยมุ่งหมายขจัดอิทธิพลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการเมืองไทย และการจัดตั้งสภาประชาชนที่มิได้มาจากการเลือกตั้งเพื่อควบคุมการปฏิรูปการเมือง กลุ่มดังกล่าวมีบทบาทสูงในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 ในสถานะของผู้จัดกิจกรรมชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร

สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำการประท้วงและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ ก่อตั้งกลุ่มดังกล่าวตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 และแต่งตั้งตนเองเป็นเลขาธิการ ขบวนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์การ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มนักเคลื่อนไหวนักศึกษา สหภาพแรงงานของรัฐ และกลุ่มนิยมทหาร การสนับสนุนของ กปปส. ส่วนใหญ่มาจากชาวกรุงเทพมหานครและชาวภาคใต้ที่มีฐานะร่ำรวย กปปส. มิได้ใช้สัญลักษณ์สีเสื้อแทนตัวเอง แต่ใช้การเป่านกหวีดเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงครั้งนี้ กปปส. ใช้งบประมาณวันละกว่า 10 ล้านบาท สื่อต่างประเทศรายงานว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นผู้สนับสนุนสถาบันกษัตริย์ และลักษณะของการชุมนุม "เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย"

สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำการประท้วง ประกาศเจตนาของ กปปส. เพื่อทวงอำนาจอธิปไตยจากรัฐบาลมาคืนประชาชน ซึ่งจะดำเนินการปฏิรูปประเทศผ่านสภาประชาชนที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง สุเทพยังประกาศจะขจัดสิ่งที่ตนเรียกว่า "ระบอบทักษิณ" สุเทพกล่าวว่า สภาประชาชนทำหน้าที่เป็นองค์กรนิติบัญญัติ โดยจะแก้ไขกฎหมายและระเบียบ เช่นเดียวกับดำเนินแผนการปฏิรูปในประเทศ[18] เขายังอธิบายว่าสภาประชาชนจะมีสมาชิก 400 คน โดย 300 คนเป็นผู้แทนจากอาชีพต่าง ๆ และอีก 100 คนที่เหลือ กปปส. จะเลือกจากนักวิชาการและราษฎรอาวุโสซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ

เป้าหมายสูงสุดของ กปปส. คือกดดันให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากความเป็นหัวหน้ารัฐบาล เพื่อให้เกิดช่องว่างแห่งอำนาจ จากนั้นจะอ้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 3 ซึ่งบัญญัติว่า "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม" และมาตรา 7 ซึ่งบัญญัติว่า "ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" โดยเชื่อว่า ประเทศไทยเคยปกครองโดยนายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้ง ฉะนั้นจะเป็นการเปิดโอกาสให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 กปปส. ยุติการชุมนุมเมื่อเกิดรัฐประหาร วันที่ 16 มิถุนายน 2557 สุเทพกล่าวว่า กปปส. หยุดเคลื่อนไหวทันทีหลัง คสช. ยึดอำนาจ และ กปปส. พร้อมให้ความร่วมมือหาก คสช. จัดการปฏิรูป
(204 วัน หรือ 6 เดือนกับอีก 22 วัน)

หลังรัฐประหาร สุเทพเปิดเผยว่า ตนพูดคุยกับประยุทธ์ จันทร์โอชาให้ถอนรากถอนโคนอิทธิพลของทักษิณและพันธมิตรนับแต่การชุมนุมทางการเมืองใน พ.ศ. 2553 เขากล่าวว่า ได้ติดต่อเป็นประจำผ่านแอพไลน์ ก่อนรัฐประหาร ประยุทธ์ติดต่อเขาว่า "คุณสุเทพและมวลชนผู้สนับสนุน กปปส. ของท่านเหนื่อยมากแล้ว ตอนนี้เป็นหน้าที่ของกองทัพที่ต้องรับต่อ" สุเทพว่า กองทัพตระหนักดีถึงวัตถุประสงค์ของ กปปส. ระหว่างที่กลุ่มกดดันข้าราชการและทหารให้เข้าร่วมขบวนการ กองทัพได้รับข้อเสนอของ กปปส. หลายอย่าง เช่น มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร สุเทพยังเปิดเผยว่า การชุมนุมใช้เงินทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท โดยเป็นเงินของแกนนำ 400 ล้านบาท และของผู้สนับสนุน 1 พันล้านบาท

กปปส. จะจัดระดมทุนทุกวันเสาร์ และมีการตั้งมูลนิธิมวลมหาประชาชน โดยเสียงต้องการให้ชัย ราชวัตรเป็นกรรมการมูลนิธิ มูลนิธิดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้สนับสนุนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง และเป็นทุนวิจัยการปฏิรูปประเทศ




แกนนำ กปปส.รุ่น 1
สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ
สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
วิทยา แก้วภราดัย
อิสสระ สมชัย
ถาวร เสนเนียม
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
ชุมพล จุลใส
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษก

แกนนำ กปปส.รุ่น 2
ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์
สกลธี ภัททิยกุล
จิตภัสร์ กฤดากร โฆษก กปปส.ภาคภาษาอังกฤษ

พิธีกรเวทีมัฆวาน
อัญชะลี ไพรีรัก พิธีกรเวทีมัฆวาน
สำราญ รอดเพชร พิธีกรเวทีมัฆวาน
วรเทพ สุวัฒนพิมพ์ พิธีกรเวทีมัฆวาน
ถนอม อ่อนเกตุพล พิธีกรเวทีมัฆวาน
กฤษณะพงศ์ เกียรติศักดิ์ พิธีกรเวทีมัฆวาน
แทนคุณ จิตต์อิสระ พิธีกรเวทีมัฆวาน
จ่าพงศ์ สารคาม พิธีกรเวทีมัฆวาน
จ่าเถาะ เมืองอุดร พิธีกรมัฆวาน
ยอด นครนายก พิธีกรเวทีมัฆวาน

สถานที่ชุมนุม
สถานีรถไฟสามเสน เริ่ม 31 ตุลาคม 2556 สิ้นสุด 4 พฤศจิกายน 2556
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่ม 4 พฤศจิกายน 2556 สิ้นสุด 13 มกราคม 2557
กระทรวงการคลัง เริ่ม 25 พฤศจิกายน 2556 สิ้นสุด 27 พฤศจิกายน 2556 ตั้งใจขัดขวางไม่ให้รัฐบาลเบิกงบประมาณประจำปี[ต้องการอ้างอิง]
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถ.แจ้งวัฒนะ เริ่ม 27 พฤศจิกายน 2556 สิ้นสุด 9 ธันวาคม 2556
1. แยกปทุมวัน
2. แยกราชประสงค์
3. แยกอโศก
4. แยกศาลาแดง (สีลม)
5. ห้าแยกลาดพร้าว
6. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
7. แจ้งวัฒนะ (จนถึง 22 พฤษภาคม 2557) เริ่ม 13 มกราคม 2557 สิ้นสุด 2 มีนาคม 2557 วันเริ่มปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ
สวนลุมพินี เริ่ม 2 มีนาคม 2557 สิ้นสุด 12 พฤษภาคม 2557
สะพานมัฆวานรังสรรค์ เริ่ม 12 พฤษภาคม 2557 สิ้นสุด 22 พฤษภาคม 2557

การชุมนุมใหญ่
ครั้งที่ 1 24 พฤศจิกายน 2556 ใช้ชื่องานว่า "24 พฤศจิกาฯ มวลมหาประชาชน คนไทยใจเกินล้าน"
ครั้งที่ 2 9 ธันวาคม 2556 เคลื่อนพลไปยังทำเนียบรัฐบาล กปปส.เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากนายกรัฐมนตรีรักษาการ และให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง
ครั้งที่ 3 22 ธันวาคม 2556 ประกาศปิดกรุงเทพฯ 5 แยกธุรกิจครึ่งวัน
ครั้งที่ 4 13 มกราคม 2557 ประกาศปิดกรุงเทพฯ 7 แยกธุรกิจเต็มวัน
ครั้งที่ 5 29 มีนาคม 2557 เคลื่อนพลไปยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 ถวายเครื่องสักการะและถวายสัตย์ปฏิญาณ และเดินทางไปอาคารรัฐสภาถวายเครื่องสักการะ และประกาศเจตนารมย์ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7
ครั้งที่ 6
- 5 พฤษภาคม 2557 - เคลื่อนพลไปยังสนามหลวงเพื่อจุดเทียนชัยถวายพระชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล และประกาศสัตยาธิษฐาน เพื่อที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
- วันที่ 9 พฤษภาคม 2557 วันเริ่มปฏิบัติการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
- วันที่ 13 พฤษภาคม 2557 ทำบุญประเทศเนื่องในวันวิสาขบูชา

 

บรรยากาศเก่าๆ + ลุงกำนันมาแว้ว คิดถึงมากมาย

 

เล็ก เจ้าเก่า
1 ปี มวลมหาประชาชน 1 ปี เสียงนกหวีด
(31 ตุลาคม 2556 เวลา 18.00 น. สถานีรถไฟสามเสน กรุงเทพ)

 

ตลกดัง"หยองลูกหยี"ร่วมปราศรัยเวทีสามเสน


"หยอง ลูกหยี"ตลกชื่อดังร่วมขึ้นเวทีปราศรัยที่สามเสน ซัดกฎหมายนิรดทษเป็นความโลภอันไม่สิ้นสุดของนักการเมืองบางคนเมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายวลัชณัฏฐ์ ประภานันยศอนันต์ หรือหยอง ลูกหยี ศิลปินตลกชื่อดัง ได้ขึ้นปราศัยบนเวทีเครือข่ายประชาชน ที่ชุมนุมคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณถนนกำแพงเพชร 5 ใกล้สถานีรถไฟสามเสน โดยระบุระหว่างว่า ได้ตัดสินใจขึ้นเวทีเพราะไม่สามารถอดทนนิ่งเฉยกับ กฎหมายที่แสดงให้เห็นถึงความโลภอันไม่สิ้นสุดของนักการเมืองบางคนได้

 

หยอง ลูกหยี ขึ้นเวที 03 11 56 ต้านนิรโทษฯลั่นถ้าพวกเราไม่ทำเเล้วใครจะทำ

 

Ton Unruan
Ton - once in my life
ครบรอบ 1 ปี การชุมนุมต่อสู้ของ กปปส. ... เริ่มต้นจากสวนลุมฯ อุรุพงษ์ สามเสน ราชดำเนิน ฯ เรื่อยมา
ผมได้พบคนดี คนเป็นห่วงใยบ้านเมืองมากมาย เเละเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราได้มาเป็นเพื่อนกันในวันนี้
เราจะยังเป็นห่วงบ้านเมืองต่อไป เเละเราจะปฏิรูปประเทศนี้ให้ดีขึ้น โดยเริ่มจากตัวเรา
ย้อนไปดูภาพ กลอนเก่าๆ ทำให้นึกถึงวันเหล่านั้นอย่างเเจ่มชัด .. นี่คือสิ่งที่ภูมิใจในชีวิตจริงๆ
ก็ขอลงภาพบางส่วนย้อนความหลังกันนะครับ ที่สามเสนก่อน ... สมัยที่ยังมีเเต่นายสุเทพ .. ลุงกำนันยังไม่เกิด

 

Anonymous Photographer
แล้วรูปนี้ล่ะ จำกันได้ไหม?


นางมาร ใจดี
อย่าลืมนะคะว่ามวลมหาประชาชนไม่ได้มาจากกลุ่มสามเสนเพียงกลุ่มเดียว
ยังมีกลุ่มหน้ากากขาว เป็นอีกกลุ่มใหญ่ที่เดินมาป๋ะกันแล้วรวมตัวกันด้วยจุดประสงค์อันหนึ่งอันเดียวกัน^^
ความรู้สึกครั้งนั้นนึกถึงทีไร ภาคภูมิใจที่ได้มาร่วมกัน

 

Anchalee Sasaki
และอีกคนที่ลืมไม่ได้ สตรีแกร่งของ กปปส

อัญชะลี ไพรีรักษ์ (เจ๊ปอง)ค่ะ

 

ประมวลภาพ !!! ความพร้อมเวทีสามเสน ไว้ต้อนรับมวลชนแห่ทะลักต้าน "เหมาเข่งเน่า" วันนี้ ( 31 ต.ค.56) เวลา 15.00

ประมวลภาพ !!! ความพร้อมเวทีสามเสน ไว้ต้อนรับมวลชนแห่ทะลักต้าน "เหมาเข่งเน่า"

ดูชัดๆ !!! เวที "ล้านชื่อต้านล้านผิด" ที่สามเสน อีกหนึ่งสมรภูมิต้านเหมาเข่งเน่า เริ่มมีมวลทยอยเข้ามาจับจองพื้นที่แล้ว คาดผู้ชุมนุมถึง 3-5 หมื่น
วันนี้ ( 31 ต.ค.56) เวลา 15.00 น.ที่บรรยากาศการชุมนุมค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ บนถ.กำแพงเพชร5 โดยมีผู้ชุมนุมทยอยเข้าพื้นที่ เดินทางมาด้วยรถตู้ รถบัสและรถไฟ ส่วนใหญ่มาจากกทม. ภาคใต้ และ จ.นครสวรรค์ ซึ่งด้านหลังของเวทีมีการประกอบอาหารเลี้ยงผู้ชุมนุมจากครัวอาหารใต้จังหวัดต่างๆ
สำหรับการจราจรโดยรอบยังไม่ติดขัด ไม่ได้ปิดการจราจร ยกเว้นถ.กำแพงเพชร5 เป็นที่ตั้งของเวทีใหญ่ ปิดการจราจรตลอดสาย ตั้งแต่แยกเศรษฐศิริ ส่วนรถไฟสามเสนยังให้บริการปกติ พื้นที่ชุมนุมตั้งห่างจากสถานี500 เมตร
ขณะในที่ชุมนุมเริ่มมีส.ส.ประชาธิปัตย์มาสังเกตการณ์ คาดผู้ชุมนุม 3-5หมื่นคน โดยมีการ์ดคอยดูแลความสงบ เช่นเดียวกับตร.นครบาล เตรียมกำลังไว้40กองร้อย และพร้อมเสนอประกาศพื้นที่พ.ร.บ.ความมั่นคง หากมีการยกระดับการชุมนุม โดยเริ่มปราศรัย 6 โมงเย็นนี้

 

เราคิดถึงผู้ชายคนนี้ ไม่เสียแรงที่เคยได้เคยรู้จัก

 

ลำดับเหตุการณ์ชุมนุม จากสามเสน ถึงปิดกรุงเทพฯ
http://news.sanook.com/1394646/ลำดับเหตุการณ์ชุมนุม-จากสามเสน-ถึงปิดกรุงเทพฯ/


ลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก่อนที่จะทำให้เกิดการชุมนุมที่ยืดเยื้อ จนพัฒนามาถึงขั้นยกระดับ เป็นการประกาศปิด กรุงเทพฯ ในวันนี้ (13 ม.ค.)



ลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก่อนที่จะทำให้เกิดการชุมนุมที่ยืดเยื้อ จนพัฒนามาถึงขั้นยกระดับ เป็นการประกาศปิด กรุงเทพฯ ในวันนี้ (13 ม.ค.)



วิกฤตการณ์การเมืองไทยครั้งนี้ เริ่มขึ้นรุนแรงขึ้น จากการที่ สภาผู้แทนราษฎร ลงมติให้ร่างพระราช บัญญัตินิรโทษกรรม ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 เมื่อเวลา 04.25 น.ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ทั้งที่ก่อนหน้านั้น มีกระแสคัดค้านจากคนหลากหลายกลุ่ม ที่ไม่เห็นด้วย โดยกลุ่มคนที่คัดค้าน เห็นว่าพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากความผิดทางการเมือง และความผิดอื่นๆ และสามารถกลับเข้าประเทศไทย และรัฐบาลอาจต้องคืนทรัพย์สินที่ยึดมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมด สมาชิกวุฒิสภา 40 คนที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่เห็นด้วย กับการเร่งรีบลงมติ แก้ไข ร่าง พ.ร.บ.นิริโทษกรรม และประเด็นที่มาของ ส.ว.และได้ยื่นเรื่อง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณา ชี้ขาดว่า การเร่งรีบลงมติอย่าง รวบรัดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย





สถานีรถไฟสามเสน เป็นสถานที่แรกในการชุมนุม เพื่อต่อต้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2556 ต่อมาวันที่ 4 พฤศจิกายน สุเทพ เทือกสุบรรณประกาศเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปปักหลัก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่ถนนราชดำเนินแทน กระแสคัดค้านวงกว้างมากขึ้น จนทำให้ที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ลงมติไม่เห็นชอบ กับ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนี้ แต่การชุมนุมซึ่งนำโดยสุเทพ ยังคงดำเนิน ต่อไป โดยเปลี่ยนเงื่อนไขจากการค้าน การแก้ไข พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นการการชุมนุมเพื่่อต่อต้านรัฐบาลแทน



วันที่ 11 พฤศจิกายน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อีก 8 คน ลาออกเพื่อมาเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหว วันที่19 พฤศจิกายน มีการการล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส. ทั้งหมด 310 คน โดยจะยื่นต่อ ป.ป.ช. และเริ่มมีการอารยะขัดขืนกับฝ่ายรัฐบาล ด้วยการเป่านกหวีด



วันที่ 20 พฤศจิกายน ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ประเด็นที่กลุ่ม ส.ว.40 คน ยื่นคำร้องว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยที่มาของ ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 แต่พรรคเพื่อไทยปฏิเสธคำวินิจฉัยนี้ โดยให้เหตุผลว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ก้าวล่วงเขตอำนาจ ของรัฐสภา การออกมาแถลงข่าวปฏิเสธ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรมนูญ ของกลุ่ม ส.ส. และ ส.ว.ส่งผลให้จำนวน ผู้ประท้วงต่อต้าน รัฐบาล มีจำนวน เพิ่มขึ้นอีกในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556 วันที่ 24 พฤศจิกายน กลุ่ม นปช.ซึ่งสนับสนุนรัฐบาล ได้จัดการชุมนุมตอบโต้ การต่อต้านรัฐบาล ของกลุ่ม กปปส.ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในขณะที่กลุ่ม กปปส.มีการชุมนุมใหญ่ที่เวทีราชดำเนิน โดยประกาศยกระดับข้อเรียกร้อง เป็นการต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยใช้ชื่อว่า "วันมวลมหาประชาชน คนไทยใจเกินล้าน"



วันที่ 25 พฤศจิกายน กลุ่มผู้ชุมนุม บุกรุกเข้ายึดบริเวณ และอาคารสถานที่ราชการ ของสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน เพื่อหวังจะบังคับให้ปิดทำการเป็นการอารยะขัดขืน ขณะที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ยื่นฟ้องร้องต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า มีการกระทำอันเป็นกบฎต่อแผ่นดิน



ต่อมา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณประกาศก่อตั้ง คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ประกอบด้วย ตัวแทนกลุ่มองค์กรประชาชนในสาขาอาชีพต่างๆ เช่น กลุ่มนักวิชาการ, เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), กลุ่มประชาคมนักธุรกิจสีลม, เครือข่ายนักธุรกิจเพื่อ ประชาธิปไตย, กองทัพธรรม, กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.), สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) โดยมีสุเทพเป็นเลขาธิการกลุ่ม

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ได้เข้าไปยังอาคารบริษัท กสท โทรคมนาคม มีการตัดไฟ และเครือข่ายการสื่อสารของทั้งหมด ส่งผลกระทบกับระบบอินเทอร์เน็ต เกือบทั้งประเทศ และวันดังกล่าว ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 1 ธันวาคม มีเหตุรุนแรง จาก การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและ ต่อต้านรัฐบาลบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหงตลอด จนมีผู้เสีย ชีวิต 4 คน และบาดเจ็บนับร้อยคน



วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.ผู้ชุมนุมเคลื่อนประชิด แนวกั้นตำรวจหลายจุด มุ่งหน้าสู่กองบัญชาการ ตำรวจนครบาล และทำเนียบรัฐบาล ทำให้เกิดการปะทะกัน ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้น 3 จุด บริเวณ แยกกองพลที่ 1 ใกล้กองบัญชาการตำรวจนครบาล, วัดเบญจมบพิตร และที่สะพานชมัยมรุเชฐ เส้นทางเข้า สู่ทำเนียบรัฐบาล ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา และฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม การปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม และตำรวจเป็นเวลา 2 วัน มีรายงานผู้ได้ รับบาดเจ็บ 119 คน



วันที่ 8 ธันวาคม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 153 คนประกาศลาออก เพื่อเดินหน้าชุมนุมต่อ และประกาศยกระดับการชุมนุม ในวันที่ 9 ธันวาคม ปรับเป้าหมาย จากการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล เป็นการชุมนุมเพื่อขจัดระบอบทักษิณ



วันที่ 9 ธันวาคม นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฏร โดยพระราชกฤษฎีกากำหนด ให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิเสธการเลือกตั้ง และเรียกร้องให้มีการจัดตั้ง "สภาประชาชน" เพื่อทำการปฏิรูปประเทศ และนัดชุมนุมเพื่อปิดกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 มกราคม 2557



วันที่ 26 ธันวาคมซึ่ง เป็นวันแรกของการรับสมัครรับเลือกตั้ง มีการเมือง 34 พรรค เดินทางมาสมัคร และจับสลากหมายเลขประจำพรรค ณ อาคารกีฬา เวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง และเกิดความวุ่นวาย และการปะทะกันเกิดขึ้น โดยกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วม คปท.บุกรุกเข้าไปภายในเพื่อขัดขวางการรับสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เข้าใส่ผู้ชุมนุม เพื่อสกัดกั้น และจับแกนนำบางส่วนไป ต่อมาในช่วงเย็น กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วม คปท.ปิดถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งขาเข้า และขาออก เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจ ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป



ต่อมาพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว ยืนยันการเดินหน้าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 จะเป็นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ให้จัดการเลือกตั้ง ภายใน 45-60 วันหลังยุบสภา และบอกว่า รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ ในการเปลี่ยนวันเลือกตั้ง หาก กกต.เลื่อนวันเลือกตั้งออกไป อาจถูกร้องเรียนว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่



วันที่ 1 มกราคม 2557 แกนนำ กปปส.ประกาศบนเวทีปราศรัยว่า นัดชุมนุมใหญ่ ขับไล่รัฐบาลรักษาการ ในวันที่ 13 มกราคม โดยจะมีการปิดถนนในส่วนต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร และจะส่งมวลชนไปเฝ้าสังเกตการณ์ ปิดล้อมบ้านพักของคณะรัฐมนตรี

 

คนไท รักในหลวง
วันนั้นฝนพรำ .. ชายวัยใกล้แก่ไปราชดำเนินยืนเยื้องมาจากหน้าศรแดงเก่านิดหน่อย ยืนเรื่องที่นั่งไม่ต้องหววัง.. เพลงไรฟร่ะน่ารักน่าสนุกคนลิปซิ้งค์ชวนเต้นก็น่ารักเป็นนักสู้ขวัญใจมวลมหาปชช. ... เห้ย ! ทำไมเข้าร้องเป็นกันทุกคนเลยฟร๊ะ ใครเต้นใครร้องไม่ว่า ... เอ๊าตายห่าน ลูกหลานใครไม่ว่าใส่ชุดนักเรียนม.ปลายสไตล์โรงเรียนคริส ทั้งร้องทั้งเต้นจะมองเต็มก็น่าเกลียด แค่ปลายตามอง โหยยย ทำไมเด็กยุคนี้ร้องเพลงลูกทุ่งกันสนั่นได้ขนาดนี้แล้วเหรอ ?
พระเจ้า ... ยกหูรับสายกันทั้งถนน มันส์อ่ะ.. นี้กรูมาร่วมประท้วงอีปูไอ้แม้ว หรือมาคอนเสิร์ทฟร่ะเนี่ย ... ทำเป็นกอดอกดู ประมาณแหมมมม ... มาดเข้ม แต่ขอโทษใจมันเต้นป๊าปๆ ที่สำคัญขาเท้าขยับยิกๆตามจังหวะเพลง คิดในในใจเพลงอะไรกรูจะต้องรู้ให้ได้ภายในวันนี้ คืนนี้จะกลับไปเปิดฟัง .....
วันนั้นลุงกำนันขึ้นไม่ได้ฟังนายอภิสิทธิ์พูดก็ไม่เสียเที่ยว พอขากลับขึ้นแท๊กซี่ โทรเลยถามผู้รู้ ... โคตรจะอายเขาหัวเราพกันกร๊ากเสียงลอดมา3 สี่คนอายมากนะไม่รู้จักเพลง ขอใจแลกเบอร์โทร ของหญิงลี โอ๊ะโอโอยยยยยย ...!
ความประทับใจในนี้ 31 ตุลาวันมวลมหาประชาชนวันนี้ก็คือ ..... เด็กและเยาวชนที่มา ถือเป็นความหวังของประเทศเป็นอนาคตของชาติ ไม่วันจะเป็นแฟชั่นหรือไม่ แต่การสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ขอยืนยันว่ามาจากประเทศไทยเป็นชาติแรก ไม่ใช่ฮ่องกง .... เน้อออออออ !

091113 จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี -ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ณ เวทีประชาชน ราชดำเนิน
เธอลิปซิงค์ใช่มั้ยยยยยยยย

 

คนไท รักในหลวง
เป็นการปราศรัยที่สนุกที่สุด มีสาระที่สุด และกล้าหาญที่สุด ... คลิปนี้ฟังหลายรอบชอบมาก ถ้าประเทศไทยคนทุกอาชีพมีสำนึกเยี่ยงนี้ มีความกล้าแบบนี้
เราจะไม่แค่เดินหน้า แต่จะเป็นการก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ... ขอขอบคุณหยอง ลูหยี ที่กล้าหาญแสดงตนอย่างไม่หวาดกลัว ในฐานะศิลปินคนแรกที่ขึ้นเวทีครับ .... !

หยอง ลูกหยี บนเวทีราชดำเนิน คัดค้านนิรโทษกรรม 12 พ.ย. 2556

 

เมื่อไร มี "เดี่ยว หยอง ลูกหยี่ ตลกการเมือง" น่าจะล้นมากกว่า "เดี่ยว จานบิน ไร้สาระ" มั่ยยย!!

 

ขอบคุณ ขอบคุณ
ขอบคุณ คุณredfrog53 มากๆ
ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก
เอาเป็นกระทู้ประวัติศาสตร์เลยนะ เอาเป็นหมื่นเพจเลย
ขอบคุณ ขอบคุณล่วงหน้า ต่อทุกท่านที่เข้ามาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์กระทู้นี้
เดี๋ยวไปซื้อไดร์วมาเซฟไว้โดยเฉพาะทั้งหมดเลย
ไลค์ให้ทุดท่านครับ
ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้มีเสื้อแดงมาปะปนแม้แต่นิดเดียวครับ

ไม่รู้จะบอกอะไร ได้มากกว่าคำว่า

ขอบคุณ ขอบคุณ

 

2014/02/15 ขำกระจาย "เสี่ยอ่าง?" โผล่เวทีราชประสงค์ "หยอง ลูกหยี" นำตัวขึ้นเวทีเรียกความฮา

 

ดู "ญาณี"เริ่ดมาก เลียนแบบ "ยิ่งลักษณ์" นายกฯโง่-ดราม่า

 

Kanok Ratwongsakul Fan Page
จากก้าวแรกวันที่ 1 สู่วันที่ 204
จากสามเสน ถึง สามแสน สู่ "มวลมหาประชาชน" นับล้านๆ!
ได้ไปทำบุญให้ "วีรชน" ทุกท่านที่จากไปด้วยครับ
เช้าวันนี้..มีแต่คิดถึง..พวกเราทุกๆคน..คิดถึงมากๆ

 

31 ตุลาคม 2556 ผมเข้ามาประจำที่บอร์ดเสรีไทย ช่วงนั้นหลังจากพ่ายแพ้ให้กับรัฐบาลหลายครั้ง

ทั้งม๊อบเสธอ้าย หน้ากากขาวก็ดูไม่มีพลังพอในการต่อสู้ รู้สึกเหมือนไปยืนล่อเป้าให้กับฝั่งตรงข้ามมองเยาะเย้ย



ด้วยความกลัวของเรามองคนที่ไม่มายืนร่วมเป็นเสื้อแดงไปหมด จำได้ว่ากลับมาบ่นที่บอร์ดเรื่อยว่าไปเจออะไร


ตลอดเวลา พลพรรคเสื้อแดงมีการเยาะเย้ยว่าเหมือนเดิม ไม่สำเร็จหรอก

ตอนแรกที่สุเทพประกาศก็คิดว่าเหมือนเดิม มาร่วมการชุมนุม ได้เห็นพัฒนาการในทางบวกในการชุมนุม

จึงเริ่มรู้สึกสับสนกับข่าวที่ออกมามากขึ้นแต่ด้วยความรับไม่ได้กับรัฐบาลกากเดนทรราช ทำให้ผลักดันตัวเอง



จำได้ว่าคืนวันก่อนที่ม๊อบเดินขบวนไปส่งลุงกำนันไปก่อน 1 ทุ่มได้ข่าวว่ามีการระดมตำรวจและเสื้อแดง

มาเพื่อปะทะกับม๊อบที่หน้ารัฐสภา จึงพยายามสื่อสารไปให้มากที่สุดว่าฝ่ายรัฐบาลมีการเตรียมการเช่นนี้ทำให้ได้รูปนี้มา

ช่วงนั้นไม่นึกว่ามวลชนที่เราเคยคิดว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามวันที่เป็นม๊อบหน้ากากขาว กลับแสดงตนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

คิดไปแล้วต้องขอบคุณลุงกำนันและ คกก กปปส ที่ใช้แนวทาง สงบ สันติ อหิงสา ในการดำเนินกิจกรรม

แม้เราจะไม่สามารถชนะใจเสื้อแดงได้ทั้งหมด แต่เราก็สามารถชนะใจมวลชนเสื้อแดงส่วนมาก

ขอบคุณท่านกบแดงมากครับ ที่ให้คนแก่ได้เขียนระบายความรู้สึกช่วงนั้น

 

ถ้าไม่กล่าวเรื่องนี้ก็ไม่ครบ ระหว่างนั้นมีการชุมนุมอีกหลายจุดเพื่อประท้วงรัฐบาล ทั้ง คปท ที่แยกอุรุพงษ์

ที่ทรหดอดตนต่อหมามุ่ยและประทัดยักษ์ การชุมนุมของหน้ากากขาวและกองทัพธรรมที่สวนลุมพินี

หลังจากที่โดนตีล่าถอยจากชุมนุมวัดเบญฯ


สมาชิกที่จุดประกายในการต่อสู้เช่น ผู้กองปูเค็ม ที่เข้าร่วมแบบถวายชีวิต

และคุณธันวา ไกรฤกษ์ ที่แสดงออกให้รัฐบาลปูรับรู้ถึงความไม่ถูกต้องในการปกครองประเทศ



มีการปล่อยข่าวลือต่าง ๆ มากมาย ยิ่งทำให้สับสน เช่นตอนหน้ากากวี


เอาไว้ว่าง ๆ จะมารื้อฟื้นความทรงจำต่อ ขอบคุณท่านกบแดงอีกครั้งครับ

 

กปปส
cr @ranger.thai
น้องกบ "วีรบุรุษชมัยมุรเชษฐ์" สุดยอดนักสู้ สู้จนเหลือกางเกงในตัวเดียว
เปิดใจบนเวทีนางเลิ้ง

..น้องกบเล่าว่าดวลกับตำรวจแบบใจถึง..ตำรวจขว้างแก๊สน้ำตามา น้องกบหยิบขว้างกลับไป..ตำรวจหมายหัวน้องกบ ระดมยิงแก๊สน้ำตา 50 ลูก สู้กันไปสู้กันมา..แถมมีการด่าท้าทายกันเป็นระยะ

"มึงกินอะไรมาว๊ะ ถึงได้ทนฉิบหาย คนอื่นเขาวิ่งหนีแก๊สน้ำตา แต่มึงกลับวิ่งเข้าใส" ตำรวจตะโกนถามข้ามกำแพงแบริเออร์ระหว่างสู้กัน

ตำรวจทั้งโกรธทั้งมัน แต่ยอมแพ้ใจห้าวหาญของน้องกบ ผมเชื่อว่าตำรวจบางส่วนประทับใจในความกล้าหาญแบบสุดๆของน้องกบ
ตำรวจที่ต่อสู้สงครามควันที่ชมัยมรุเชษฐ์ตั้งฉายาน้องกบว่า "ไอ้อ้วน"

น้องกบฉีดถังดับเพลิงเข้าใสตำรวจ ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่หลายสิิบนัด นัดหนึ่งโดนเข้าที่หน้าผาก จนบาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎ หมอให้พักรักษา 3 วัน แต่น้องกบอยู่ 3 ชั่วโมง ถอดสายน้ำเกลือหนีออกจาก รพ. มาสู้ที่สนามรบชมัยมุรเชษฐ์ต่อ

เมื่อตำรวจเห็นน้องกบวิ่งเข้าใส่ ตำรวจตะโกนบอกกัน "..เฮ้ย ไอ้อ้วนมันมาอีกแล้วโว๊ย..""น้องกบ" หรือ "ไอ้อ้วน" นักสู้จอมทรนงแห่งชมัยมรุเชษฐ์ คนนี้แหละเขาคือคนที่ ชนะใจตำรวจ !! ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ !!

Ranger Thai ขอสดุดีในความกล้าหาญ และขอชื่นชมหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของน้องกบไว้ ณ โอกาสนี้ครับ
3 ธันวาคม 2556
23.00 น.
cr ภาพขวา Warawimol Na Ranong






กปปส
8 ธันวาคม 2013 พรุ่งนี้อภิสิทธิ์เดินจากสีลม กำนันสุเทพเดินจากศูนย์ราชการ
ถึงเวลา เดินสองขา เป็นขาเดียว ..!

" พรรคปชป.จะไม่เป็นอุปสรรคต่อ กระบวนการปฏิรูปประเทศไทย และพรรคปชป.พร้อมลาออกจากการเป็นสส. เพื่อยืนเคียงข้างและต่อสู้กับพี่น้องปชช. เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเพื่อชัยชนะของพี่น้องปชช. "

ทั้งหมดเป็นคำพูดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป. และนั่นคือสัญญาประชาคมของพรรคการเมือง ที่ได้ให้ไว้กับปชช.

cr: I Support PM Abhisit

 

ข้อมูลเยอะมาก บางจุดไม่เคยรู้มาก่อนเลย ขอบคุณคราบ ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว ขอเอาภาพมาแปะหน่อยละกัน อิ อิ

 

วิกฤตการณ์การเมืองไทยครั้งนี้ เริ่มขึ้นรุนแรงขึ้น จากการที่ สภาผู้แทนราษฎร ลงมติให้ร่างพระราช บัญญัตินิรโทษกรรม ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 เมื่อเวลา 04.25 น.ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ทั้งที่ก่อนหน้านั้น มีกระแสคัดค้านจากคนหลากหลายกลุ่ม ที่ไม่เห็นด้วย โดยกลุ่มคนที่คัดค้าน เห็นว่าพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากความผิดทางการเมือง และความผิดอื่นๆ และสามารถกลับเข้าประเทศไทย และรัฐบาลอาจต้องคืนทรัพย์สินที่ยึดมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมด สมาชิกวุฒิสภา 40 คนที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่เห็นด้วย กับการเร่งรีบลงมติ แก้ไข ร่าง พ.ร.บ.นิริโทษกรรม และประเด็นที่มาของ ส.ว.และได้ยื่นเรื่อง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณา ชี้ขาดว่า การเร่งรีบลงมติอย่าง รวบรัดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ที่มา http://news.sanook.com/1394646/ลำดับเหตุการณ์ชุมนุม-จากสามเสน-ถึงปิดกรุงเทพฯ/
ในคืนวันที่ 30 ต.ค. 56 สุเทพประกาศบนเวทีชุมนุมสามเสน

อภิสิทธิ์ปราศัย บนเวทีสามเสน

 

รัยแว้.... ข้อมูลเยอะ งานการไม่ต้องทำมันหละ หุหุหุ มาดูในส่วนของเสื้อแดงกันบ้าง

ในวันที่ 31 ตค 56



(ภาพจากทวิตเตอร์ @Pat_ThaiPBS )

ถนนวิภาฯ ขาออก #กลุ่มเสื้อแดง ตั้งสดมภ์อนุสรณ์ "นวมทอง ไพรวัลย์" สะพานลอย หน้าไทยรัฐ




(ภาพจาก innnews)

เวลา 12.30 น.

ที่หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมาก พร้อมแกนนำ อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ น.พ.เหวง โตจิราการ และ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ร่วมกันประกอบพิธีเปิดสดมภ์อนุสรณ์นวมทองไพรวัลย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของ นายนวมทอง ไพรวัลย์ ที่ยอมพลีชีพเพื่อแสดงให้เห็นว่า ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ โดย นายจตุพร ยืนยันจุดยืนต่อกลุ่มคนเสื้อแดงว่า จะไม่ขอรับการนิรโทษกรรม และจะยืนเคียงข้างประชาชนที่เดิม ไม่หวั่นหากจะถูกไล่ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงรัฐบาลว่า อย่าลืมประชาชน และอย่าลืมว่าที่เป็นรัฐบาลได้ทุกวันนี้ มาจากการต่อสู้ของคนเสื้อแดง ที่แลกมากับชีวิตของคนเสื้อแดงนับร้อย หากรัฐบาลลืมประชาชน ประชาชนก็จะลืมรัฐบาลได้เหมือนกัน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยืนยันขณะเข้าร่วมพิธีเปิดสดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ ว่า จะไม่ขอรับอานิสงส์จากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และจะไม่ยอมให้มีการนิรโทษให้ผู้ที่สั่งฆ่าประชาชน ซึ่งขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่คนเสื้อแดงจะเผชิญหน้ากับพรรคเพื่อไทย หรือรัฐบาล แต่เป็นการเผชิญหน้ากับจุดยืนของตนเอง ถึงแม้ว่า ส.ส. พรรคเพื่อไทย จะเห็นตามมติของพรรค แต่คนเสื้อแดงจะยืนอยู่ที่เดิมตลอดไป เคารพการตัดสินใจโหวตของ ส.ส. เสื้อแดง เคารพในเหตุผลและมั่นใจว่า เรื่องนี้จะไม่นำไปสู่ความแตกแยกระหว่างคนเสื้อแดง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุกคนยังเป็นมิตรต่อกัน โดยก่อนหน้านี้ มีกลุ่มพันธมิตรมาบอกให้กินเลือด แต่ตนปฏิเสธ เพราะเลือดนั่นคือเลือดของประชาชน

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย ได้ประกาศมติพรรคไว้ ถ้าสมาชิกคนใด ไม่ปฏิบัติตามจะมีการดำเนินการตามกฎของพรรค ซึ่งตนก็พร้อมรับผิดชอบ





(ภาพจาก Thai PBS)

เวลา 9.20 น.

นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าว่า นปช.ขอย้ำถึงจุดยืนเดิม คือ ไม่สนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย แม้พรรคเพื่อไทยจะใช้วิธีที่แข็งกร้าวต่อ ส.ส. ที่ไม่เห็นด้วยต่อแนวทางของพรรค โดยในฐานะ นปช.ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีการแก้ไขและอยากเชิญชวนคนเสื้อแดงให้ออกมาแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม นปช. ยังมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ควรเป็นไปตามสิ่งที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ โดยจะเริ่มการรวบรวมมวลชนที่อนุสรณ์ลุงนวมทอง ไพรวัน หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในวันนี้ (31 ต.ค.) ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป
จุดยืนเสื้อแดง ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556




(ภาพจาก มติชนออนไลน์)

 

(ภาพจาก มติชน)

13.00 วันที่ 1 พฤศจิกายน นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวเรื่อง "จม ถึงคุณทักษิณ และ พรรคเพื่อไทย" มีใจความว่า

ผมไม่สามารถกล่าวแสดงความยินดีกับคุณทักษิณได้แต่อยากให้กำลังใจคุณทักษิณทำสิ่งที่ยากลำบากนี้ให้สำเร็จและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำครั้งนี้และมองไม่เห็นประโยชน์รวมถึงความเป็นไปได้ในการนำประเทศชาติกลับสู่ความสงบสุขดังที่คุณทักษิณกล่าว แต่ผมตระหนักอยู่เสมอว่าสิ่งที่ผมเห็นเบื้องหน้าในขณะนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่คุณทักษิณมองไม่ออก นี่คือสิ่งที่คุณทักษิณและพท.ได้คำนวนอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนและความเสียหายมากน้อยเพียงใด แต่นั่นไม่ทำให้ความมุ่งมั่นที่จะผลักดัน พรบ นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยนี้หยุดลง นั่นเพราะคุณเห็นว่านี่คือหนทางเดียวและไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจึงยืนยันเช่นนั้น

ภาพรวมที่ผมเห็นและที่คุณทักษิณเห็นไม่เท่ากัน และอาจให้ความสำคัญต่อสิ่งเหล่านั้นแตกต่างกัน ต่อจากนี้พรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณซึ่งเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น และต้องประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองให้ไปถึงการลดความขัดแย้งและการเริ่มต้นใหม่ดังที่ได้ประกาศไว้ให้จงได้ หรือไม่ก็ใกล้เคียง

ไม่ต้องห่วงว่าเสื้อแดงที่เห็นต่างจะล้มรัฐบาลที่เราเลือกมากับมือ แต่ก็ไม่มีหลักประกันหรือข้อผูกพันใด ๆ ที่พวกเราจะต้องเลือกคุณเป็นรัฐบาลในทุกครั้งไป





11.30 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ได้แสดงความคิดเห็นหลังจากที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวาระ 3 ดังนี้

- มุ่งมั่นขนาดนั้น ผ่านวาระ 2/3 ตอนตีสี่เนี่ยนะ พท ทำให้ผมอึ้งมาก

- มีเรื่องที่จะต้อง "ไม่ลืม" เพิ่มอีกเรื่องแล้ว #จำไว้

- พรรคชูวิทย์ก็มีแล้ว อาจมีพรรคชูนิ้วก็เป็นได้ อย่าประมาท

- ปรับ ครม ครั้งหน้า ผมเสนอชื่อ ประยุทธ ศิริพานิช เป็น รมว ยุติธรรม ครับ ขอเสียงรับรองด้วย

- เมื่อสลายเสื้อแดงได้แล้ว ต่อไปคือสลายช่องแดง

- สส 4 คนที่ไม่ยอมโหวดรับร่างสุดซอย ไล่ออกเลยครับ เอาขวัญชัย ชัชToT และพวกเชลียร์สุดลิ่มเข้าไปนั่งแทน คนพวกนี้ซื่อสัตย์





(ภาพจาก Thai PBS)

10.20 วันนี้ (1 พ.ย.) นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า หลังจากสภาฯลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 3 เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ คู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวนอกสภาของพรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลชุดปัจจุบัน

นายจตุพร ย้ำว่า จุดยืนของ นปช.ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยย้ำว่า ผู้ที่สั่งฆ่าประชาชนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และ นปช.เสนอชัดเจนว่าไม่ขอรับการนิรโทษกรรม เนื่องจากต้องการให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินต่อไป และนปช.จะไม่มีวันขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่จะยังคงอยู่กับนปช.ต่อไป




(ภาพจาก สปริงนิวส์)

09.30 วันนี้ (1 พ.ย.56) นายยศวริศ ชูกล่อม หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เจ๋ง ดอกจิก แนวร่วมคนสำคัญของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า ตนไม่เห็นด้วยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง รัฐบาลทำลายความรู้สึก นปช.ด้วยการเร่งรีบ แต่ยังคุมสถานการณ์อยู่เชื่อเจอทางตันตรง ส.ว. หรือศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ กำลังจะไปหารือแกนนำนปช.ว่าจะแถลง หรือเคลื่อนไหวอย่างไร โดยจะมีเวทีสุภาพชน วันเสาร์ที่ 2 พ.ย.56 นี้ ที่โรงเรียน สุขุมพัน เขตบึงกุม เวลา 16.00 น.

ขณะเดียวกัน นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ตอบคำถาม หาก พ.ร.บ. นิรโทษฯ ติดที่ ศาลรัฐธรรมนูญ จะทำยังไงกับพี่น้องที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ พรรคต้องรับผิดชอบ แต่นปช.ยังคงเป็นมิตรกับเพื่อไทย เพียงแค่มีความเห็นไม่ตรงกัน รอความจริงชัดมิตรจะกลับมา พร้อมยืนยัน พ.ร.บ.ขัดหลักการณ์เหมือนกับนิรโทษผู้สั่งการ ยัดไส้เหมือนกับเรื่ององค์กรก่อตั้งหลังรัฐประหาร ผิดระเบียบข้อบังคับ และรัฐธรรมนูญ ที่จะช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรฐมนตรี กลับบ้าน ดูกฎหมายผิดมาตรา ต้องดูมาตรา 3 แต่ดันไปดู 30 โดยส่วนตัววันนี้ ยังไม่มีหารือกับแกนนำนปช.





(ภาพจาก webboard.serithai.net)

09.00 วันที่ 1 พฤศจิกายน นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.เพื่อไทย ในฐานะแกนนำนปช. ได้โพสต์เฟซบุ๊คชี้แจงกรณียกมือสนับสนุนผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวาระ 2 และ 3 ว่า ณ.เวลา 3.50 น.ประธานสภาขอมติเพื่อโหวต มาตรา 3 ของ พรบ.นิรโทษกรรม ที่พวกเรามีมุมมองที่ต่างกันมาก ในที่สุดผมกดโหวต ′เห็นด้วย′ ผมได้นั่งไตร่ตรองประเด็นนี้มาทั้งวัน ชั่งน้ำหนักทุกด้าน ก่อนที่จะได้ข้อสรุปในใจตอนประมาณตี 3 ว่าผมจะทำตามมติพรรคเพื่อไทย ถึงแม้ในใจผมเองก็เจ็บปวดมากจากการกระทำของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ที่โดนยัดข้อหาฉกรรจ์และติดคุกนานกว่า 9 เดือน แต่ที่ผมเลือกโหวตเห็นด้วย ก็ด้วยเหตุผลดังนี้

ในกรณีนี้ ผมทำหน้าที่โหวตในฐานะ ส.ส. (ถึงแม้มาจากสาย นปช. แต่ไม่ใช่ทำหน้าที่โหวตในฐานะแกนนำ นปช.) ถึงแม้ผมไม่เห็นด้วยในมาตรานี้ แต่ในเมื่อพรรคมีมติเสียงข้างมากมาแล้วว่าเห็นด้วยตามร่างของกรรมาธิการ จึงคิดว่าควรมีวินัยและเดินตามมติพรรค มิฉะนั้นผมอาจจะกลายเป็นเหมือน ส.ส.บางพรรคที่ชอบตีรวนในสภา ไม่เคารพต่อเสียงข้างมาก จนก่อเหตุวุ่นวายหลายครั้ง ทำให้ภาพลักษณ์สภาเสื่อมเสีย ซึ่งผมมองว่าไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ดังนั้นผมต้องไม่เหมือนพวกเขา ผมต้องเคารพกติกาเป็นหลัก

สำหรับพี่น้องเสื้อแดงที่โกรธเคืองผมในเรื่องที่ผมกดโหวตเห็นด้วยครั้งนี้ อย่าได้เกรงใจ ต่อว่า ดุด่า ได้เลย เต็มที่ครับ ผมขอน้อมรับ และขอโทษด้วยที่ผมอาจจะคิดต่างกับพวกเราหลายคนในกรณีนี้ จึงขอสารภาพมาอย่างตรงไปตรงมาครับ





(ภาพจาก innnews)

08.15 น. นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เปิดเผยถึงกรณี นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า มีอำมาตย์ผู้อาวุโส นอกพรรคเพื่อไทย เป็นผู้บงการผ่านอำมาตย์ในพรรคเพื่อไทย ให้เดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร เพราะพวกอำมาตย์มีจำนวนมาก และไม่อยากคาดเดา เนื่องจากเป็นเรื่องที่ตอบยาก ดังนั้น จึงต้องไปสอบถาม นายวรชัย เอง เพราะส่วนตัว ไม่ทราบว่า นายวรชัย พูดไว้มากน้อยเพียงใด พร้อมระบุว่า ในองค์กรมีการพูดคุยกัน แต่โดยทั่วไประดับความลึกของเนื้อหาไม่เท่ากัน เพราะต้องอยู่ที่ตัวบุคคลว่ามีคอนเน็คชั่นส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน และหากไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ คงไม่กล้าพูด

 

จุดยืนเสื้อแดง ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556



นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เเละเเกนนำนปช.กล่าวเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงบางคน ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวาระ 3 ว่า คนอื่นอาจมีเหตุผลที่ต้องทำตามมติพรรค แต่ตนรับไม่ได้ที่ปล่อยให้ฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนลอยนวลจึงลงมติงดออกเสียงในวาระ 3 ทั้งนี้ การที่พรรคเพื่อไทยให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น เป็นห่วงว่าอาจจะทำให้คนเสื้อแดงเสื่อมศรัทธากับพรรคเพื่อไทย ดังนั้นวิธีเดียวที่จะกู้ศรัทธาจากคนเสื้อแดงได้คือ รัฐบาลต้องรีบลงนามคำรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณีการสั่งสลายการชุมนุมเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 เพื่อนำคนสั่งฆ่าประชาชนขึ้นศาลระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้คนเสื้อแดงพอใจ



(ภาพจาก มติชนออนไลน์)

16.00 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ อดีตนายกเทศมนตรี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ไหว้พระขอพรให้ได้รับชัยชนะเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ในงานทอดกฐินสามัคคี ที่วัดเชียงโฉม (เจดีย์ป่อง) ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันที่ 1 พฤศจิกายน ทั้งนี้ได้กล่าวแสดงจุดยืนขออยู่ปากซอย ไม่เข้าซอยตันร่างนิรโทษกรรม เนื่องจากละทิ้งการรับผิดชอบการตายประชาชนไม่ได้ พร้อมเตือนเพื่อไทย-รัฐบาลกำลังถูกลวงไปฆ่า ชี้มีกับดัก-อุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ข้างหน้า บอกเพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น



15.00 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวาระ 3 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 31 ตุลาคมถึงเช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน มีประเด็นน่าสนใจคือ มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงคะแนน 253 คน จากจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 264 คน โดยมีผู้ลงมติเห็นชอบ 249 คน และมีผู้งดออกเสียง 4 คน ได้แก่ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ผู้เสนอร่างฯ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำ นปช. และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

จุดยืนเสื้อแดง ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 4 พฤศจิกายน 2556




(ภาพจาก innnews)

12.30 น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่มีข่าวว่า สหรัฐอเมริกา อาจจะใช้สถานกงสุลในประเทศไทย ในการดักฟังข้อมูล ซึ่งทาง นายสมศักดิ์ ได้รับเรื่องไว้และกล่าวว่า จะส่งเรื่องให้ทางฝ่ายบริหารตรวจสอบต่อไป

ทั้งนี้ น.พ.เหวง ยังกล่าวเรียกร้องให้ สถานีโทรทัศน์ เอเชียอัพเดท ทบทวนการถอดรายการของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ตอนสัมภาษณ์ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. รวมทั้ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ที่จัดรายการชูธง และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ซึ่งจัดรายการอยากมีเรื่อง พร้อมทั้งยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มคนเสื้อแดง ยังเป็นมิตรกันเหมือนเดิม และยังเดินเคียงคู่กัน





(ภาพจาก มติชนออนไลน์)

09.30 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเชีย อัพเดท ปรับผังรายการใหม่ฉับพลัน โดยไม่มีรายการ "ประชาชน 3.0" ที่ดำเนินรายการโดย นายสมบัติ รวมทั้งรายการที่ดำเนินไปโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (รายการอยากมีเรื่อง (ให้คิด),นายจตุพร พรหมพันธุ์ (รายการชูธง) และนางธิดา โตจิราการ (รายการเหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตย) อีกต่อไป

นายสมบัติกล่าวว่า ได้รับแจ้งจาก ผอ.สถานีว่าปัจจุบันมีความขัดแย้งกันและตอบโต้กันไปมา 2 ฝ่ายซึ่งไม่มีประโยชน์ ดังนั้น ต้องปรับรายการดังกล่าวออก เพื่อกลับไปเริ่มต้นใหม่ เพื่อยุติความขัดแย้ง ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นเกมที่จะผลักดันให้ไกลกันขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้เป็นปมประเด็น ซึ่งรายการที่โดนปรับออกไม่ได้มีรายการของตนเพียงคนเดียว แต่รายการของนายณัฐวุฒิ นายจตุพร และนางธิดา ซึ่งมีแนวคิดไม่ยอมรับนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ก็โดนปรับออกด้วย

เมื่อถามว่าคาดหมายล่วงหน้าว่าจะถูกปรับออกจากผังหรือไม่ นายสมบัติกล่าวว่า เป็น 1 ในการคาดการณ์ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง มีความเป็นไปได้ แต่ไม่คิดว่าจะกล้า ทั้งนี้ อยากฝากไปยังพรรคเพื่อไทย และทางสถานีเอเชียอัพเดทว่า ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่าเรายังอยู่ในขบวนประชาธิปไตยหรือเปล่า ยังเชื่อสถานีปลายทางประชาธิปไตยอยู่ไหม




(ภาพจาก Thai PBS)
08.30 นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช. ยังยืนยันที่ไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และไม่แปลกใจท้ายสุดแล้วร่างกฎหมายฉบับนี้กลายเป็นพื้นที่ต่อรองทางการเมืองระหว่างรัฐบาลและกลุ่มอำนาจเก่า และไม่เห็นด้วยที่การนิรโทษกรรม ครอบคลุมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้สั่งสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 พ้นผิด แต่ก็จะไม่เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล หากยังคงไม่สนับสนุนให้เกิดการรัฐประหาร

นางธิดา กล่าวว่า นปช.จะไม่ออกไปเคลื่อนไหวต่อประเด็นนี้ เพราะไม่ต้องการกดดันสังคม แต่ย้ำว่า เสถียรภาพรัฐบาลไม่ได้อยู่ที่มวลชน แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญและองค์อิสระ

 

จุดยืนเสื้อแดง ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 5 พฤศจิกายน 2556



(10.00 เมื่อวานนี้(4 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ผู้จัดรายการตรงไปตรงมา เอเชียอัพเดท กล่าวถึงกรณีที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องเอเชีย อัพเดต ปรับผังรายการ โดยถอดรายการของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่ม นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ออกจากสถานี ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของผู้บริหารที่อาจจะมีความคิดเห็นต่าง แต่เชื่อว่าเมื่อมีการถอดออกได้ ก็สามารถนำกลับเข้ามาได้ แต่ในขณะนี้ข่าวสารที่ออกมาจากช่องเดียวกันมีเนื้อหาที่ซัดกันเองไปมา ทั้งนี้ ผู้บริหารคงคิดดีแล้วก่อนที่จะถอดรายการออกจากผัง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้โทร.คุยกันกับผู้ดำเนินรายการ

"เข้าใจว่าก็มีอารมณ์กันได้ แต่พวกเราเป็นเพื่อนตายกันทั้งนั้น ไม่ต้องคุยก็เข้าใจกัน แต่อยากให้เข้าใจว่าถ้ายังยืนในจุดเดิมมันไปไม่ได้ ประเทศชาติก็ไม่ได้รับการแก้ไข ถ้าขวางกันไปมา ก็เกิดความสับสน ขออย่าซ้ำเติมความขัดแย้งของประชาชนอีกเลย" นายอดิศรกล่าว





(ภาพจาก ประชาชาติธุรกิจ)

09.00 "ก่อแก้ว" โพสเฟซบุ๊คแจงเรื่องรายการเสื้อแดงถูกปลดออกจากผัง มีเนื้อหาว่า ผู้บริหารตัดสินใจด้วยความไม่รอบคอบมองเพียงด้านเดียวและจะหารือกันระหว่างผู้ดำเนินรายการและผู้บริหารสถานีเพื่อทำความเข้าใจ รวมทั้งให้ข้อคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ควรมีความสามัคคีกันให้มากๆ

 

จุดยืนเสื้อแดง ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 6 พฤศจิกายน 2556




(ภาพจาก ทวิตเตอร์@Yanee_Waikru )

14:12 แกนนำ นปช.แถลงทาทีต่อ พรบ.นิรโทษฯ โดยเสนอให้รัฐบาลเสนอออก พรก.นิรโทษกรรมฉบับปชช

 

จุดยืนเสื้อแดง ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556



(ภาพจาก voice TV)

08.00 แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลง จะไม่ขอปกป้องพรรคเพื่อไทยอีก ในกรณีร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง พร้อมประกาศ จะตั้งช่องโทรทัศน์คนเสื้อแดง เพื่อเป็นอิสระจากช่องเอเชียอัพเดท

ส่วนนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่าคนเสื้อแดง ไม่ได้ทอดทิ้งพรรคเพื่อไทย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้กลัวพรรคเพื่อไทยจะทอดทิ้ง

นายจตุพร ยังประกาศด้วยว่า แกนนำ นปช. จะไม่จัดรายการกับช่องเอเชียอัพเดทอีก แต่จะเปิดตัวช่องของคนเสื้อแดงเอง ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้

สุดท้าย นางธิดา เรียกร้องให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเลิกผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง แล้วออก "พระราชกำหนดนิรโทษกรรมฉบับประชาชน" ให้นิรโทษให้เฉพาะประชาชน ไม่รวมแกนนำและผู้สั่งการ

ความขัดแย้งระหว่าง นปช. กับพรรคเพื่อไทย เกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำ นปช. คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง แล้วช่องเอเชียอัพเดทถอดรายการของแกนนำ นปช. ออกจากผังเมื่อต้นสัปดาห์นี้

 

จุดยืนเสื้อแดง ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556



(ภาพจาก ประชาชาติธุรกิจ)
09.00 เมื่อวานนี้(7 พ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. นายวรชัย เหมะ ส.ส.สุมทรปราการ พท. และ ส.ส.เสื้อแดง แถลงข่าวถึงกรณีสถานการณ์การชุมนุมขณะนี้

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เราเคารพในการแสดงเจตนารมณ์ของคนทุกกลุ่มที่มีต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายที่ชุมนุมคัดค้าน ถือว่าท่านได้แสดงความคิดเห็นและแสดงจุดยืนตามเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เมื่อถึงเวลานี้ก็ปรากฏชัดเจนแล้วว่า พท. รัฐบาล และสมาชิกวุฒิสภาเคารพในเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของประชาชน

โดยล่าสุดก็มีการแสดงท่าทีที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้งหมดออกจากวาระการประชุม และวุฒิสภาก็มีมติว่าจะไม่รับร่าง พ.ร.บ.ที่เป็นประเด็นในสังคมอยู่ขณะนี้ ดังนั้น ขณะนี้ ประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ข้อยุติแล้วว่าไม่มีการเดินหน้า

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แม้เรื่องของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้จะยุติแล้ว แต่ความพยายามในการโค่นล้มรัฐบาลยังคงมีอยู่และชัดเจนขึ้นทุกวัน ก็เป็นหน้าที่ที่ตนจะต้องร่วมมือกับพท.ชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชน และต่อสู้กับขบวนการอำนาจนอกระบบที่เป็นคนกลุ่มเดิมที่เปิดประตูเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การรัฐประหาร

 

08.00 เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.)นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ได้เปิดเผยว่า ตนขอยืนยันในจุดเดิม ในการมาอยู่ที่แยกราชประสงค์ตรงนี้ เพื่อประกาศหลักการเดิม ไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมให้ฆาตกร ที่สลายการชุมนุมในปี 2553 จึงจัดกิจกรมม หมื่นอัพ ส่วนใครจะเป็นฆาตกร และจะเป็นคนเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดถึงบนเวทีชุมนุมที่ถนนราชดำเนินหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และที่แน่ๆ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ก็โดนอัยการสั่งฟ้องไปแล้ว

นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า การชุมนุมวันนี้ เป็นการสร้างพื้นที่ของคนเสื้อแดงที่ก่อนหน้านี้ เรายืนยันหลักการนี้ ไม่เป๋ไปกับรัฐบาล ที่จะนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง วันนี้จะยืนอยู่บนหลักการไม่นิรโทษแบบเหมาเข่ง รวมถึงการกำหนดท่าทีในการรณรงค์ให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองและคนที่โดนคดีอาญามาตรา 112 ส่วนกรณีที่มีกลุ่มคนลักษณะ "ไทยเฉย" ไปเป่านกหวีด ก็เป็นคุณภาพใหม่ เป็นความน่ารักที่ประชาชนตื่นตัว ทางการเมือง แต่พอไปเป่านกหวีด กับนายอภิสิทธิ์และนายคุณสุเทพ ตนขอเรียกร้องให้ "ไทยเฉย" ที่ไปเป่านกหวีด กับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ลองดูข้อมูล ที่ส่งจากคนที่แยกราชประสงค์ดีๆ ว่าฆาตกรที่ใช้กระสุนจริงยิงประชาชนเป็นใคร บางคนอาจอยู่บนเวทีชุมนุมราชดำเนิน ขอให้ฟังข้อมูลจากเวทีราชประสงค์ด้วย

นายสมบัติ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. จะมาเข้าร่วมกิจกรรมหมื่นอัพ ว่า ถือว่าการมาเข้าร่วมของแกนนำ นปช. เป็นน้ำใจ และขอบคุณที่ให้เกิยรติ โดยไม่ไม่มีการลอบบี้ มีแต่การเปิดพื้นที่เป็นการให้เกียรติกัน และแกนนำ นปช. ก็ไม่เอานิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งตั้งแต่แรก ทั้งนี้ มองว่า นายจตุพร ไม่ได้ถูกพรรคเพื่อไทยกลืนไป แต่มีจุดยืนของตัวเองชัดเจน เพียงแต่ขณะนี้อาจจะต้องการรักษาความสามัคคีในกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย ซึ่งเหตุการณ์เฉพาะหน้า ก็ต้องรักษาความสามัคคี การที่ นปช. มา จึงเป็นเรื่องถูกต้องเขาควรจะมาที่นี่ และเราไม่มีเวที เราเดินเข้ามาอย่างเสมอกัน
ที่มา http://news.sanook.com/1394646/ลำดับเหตุการณ์ชุมนุม-จากสามเสน-ถึงปิดกรุงเทพฯ/

 

Mrnop Thailand
วันนี้เมื่อปีที่แล้วที่ สามเสน ขอบ Moment รถไฟสองขบวนสวนกัน คนข้างทางเฮ คนบนรถโบกมือ เห็นแล้วมันฮึกเหิม ขอบคุณภาพ Nuttapol Inchaiya

 

เถกิง สมทรัพย์
มาสาม เสน. ให้ถึง สาม แสน

 

เถกิง สมทรัพย์
การชุมนุมที่สามเสน...เริ่มต้นด้วยการต่อต้านกฏหมายนิรโทษกรรม ซึ่งบรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ "เวทีผ่าความจริง"...เราจึงเห็นท่านชวน หลีกภัย มานั่งให้กำลังใจอยู่หลังเวทีตลอดและร่วมกิจกรรมการเดินต้านนิรโทษ...จนกระทั่งการชุมนุมเปลี่ยนเป็นการล้มรัฐบาลและกลายเป็น กปปส. ท่านชวนจึงห่างไปจากการนั่งบนเวที แต่แวะเวียนมาเยี่ยมเวทีด้วยการเดินทักทายประชาชนและเจ้าหน้าที่ประจำครัวต่างๆเป็นประจำ...





เถกิง สมทรัพย์
มาสาม เสน. ให้ถึง สาม แสน

 

เถกิง สมทรัพย์
การก่อตัวของ "มวลมหาประชาชน" เริ่มมาจากการจัดกิจกรรมเดินหน้าผ่าความจริง...ที่ภาคประชาชนกับคุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะและคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จัดทำมานานกว่า ปีครึ่ง
ภาพนี้จากการเริ่มชุมนุมที่ "สามเสน" หลังการเป่านกหวีด...คุณอภิสิทธิ ยังขึ้นเวทีปราศรัยต่อต้านการออกกฏหมายนิรโทษกรรม...เมื่อการชุมนุมแปรขบวนเป็นการไล่รัฐบาล คุณอภิสิทธิก็แยกเส้นทางเดินกับ กปปส. เพราะการชุมนุมขับไล่รัฐบาลอาจเข้าข่ายยุบพรรค จึงเห็นคุณอภิสิทธิไปเยี่ยมเยียนเวที กปปส. ประจำ แต่ไม่ขึ้นเวทีปราศรัย...การกำเนิดของ มวลมหาประชาชน จึงมีฐานรากสำคัญมาจากพลังมวลชนส่วนใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์และขยายออกอย่างมหาศาลเมื่อ "กำนันสุเทพ" ประกาศลาออกจากการเป็นสส.พรรคประชาธิปัตย์และประกาศวางมือทางการเมืองเพื่อระดมพลังมวลชนทุกภาคส่วนเข้ามา.....ทำให้ท้ายที่สุดของการชุมนุมเป็นพลังของมวลมหาประชาชนอย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ


Siriporn Nanta
ผ่าความจริง คือจุดเริ่มที่แท้จริงของ มวลมหาประชาชน

Wuthipong Sonngai
เวทีผ่าความจริง..เริ่มต้นจาก กำนัน ครั้งแรก ที่นครศรี ทีนิวส์เป็นคนถ่ายทอด

นุ่น พัชราภา โฮร์เน่
ใช่ค่ะเราและครอบครัวของสามีก็เริ่มจากดูผ่าความจริงเนี่ยแหละ

Sunisa Aum
ติดตามผ่าความจริงมาตลอดจนสามเสน จนไปร่วมชุมนุมทุกครั้งที่กำนันเรียก

 

สำหรับผมรู้สึกว่า เหตุการณ์ต่างๆเหมือนเกิดขึ้นไม่นานเท่าไร คงเป็นเพราะได้มีโอกาสเข้าร่วมการชุมนุมอยู่บ่อยครั้ง และเกิดความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นหนึ่งในมวลมหาประชาชน โดยเฉพาะวันที่ 24 พฤศจิกายน 2256

 

เถกิง สมทรัพย์
ก่อนจะเป็น "ผู้ใหญ่สาทิตย์" ...คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย คือ ผู้จัดการเวทีผ่าความจริงตลอดเวลา ปีเศษๆ...เป็นแม่บ้านใหญ่ของกิจกรรมเดินสายผ่าความจริง จัดเวที จัดคนพูด จัดกิจกรรม...และเป็นผู้จัดการเวทีการชุมนุมของ กปปส.มาตลอดเวลาการชุมนุม...ด้วยการทำงานแบบถึงลูกถึงคน คุณสาทิตย์จึงเป็นแกนหลักในแกนนำ กปปส.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ(ภาพนี้จากวันชุมนุมที่สามเสน)

 

Mallika Boonmeetrakool
31 ตุลาคม วันครบรอบ 1ปีของการต่อสู้จุดเริ่มต้นของปรากฎการณ์ "มวลมหาประชาชน"
‪#‎สามเสน‬ ‪#‎สามเสนราชดำเนิน‬

 

เถกิง สมทรัพย์
ชุมพล จุลใส...ลูกหมีของมวลมหาประชาชน...ในวันแรกที่สามเสนยังรูปร่างหน้าตาอ้วนท้วนสมบูรณ์...วันนั้นยังไม่ได้แปลงร่างเป็น 4 ทหารเสือ...และยังไม่ฉายแววนักสู้ผู้นำพลเข้าทะลุทะลวงทุกสถานที่ที่เป็นเป้าหมายของการปิดล้อม....หลังจากสามเสนย้ายมาที่เวทีราชดำเนินแล้ว...ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล

 

ขอมั่ง ขอมั่ง....

 

ขอมั่ง
กำนันสุเทพ ถูกโหวตให้เป็นบุคคลแห่งปี 2556 ของเอเซีย

เว็บไซด์ “เอเชียโซไซตี”องค์กรอิสระการกุศลเพื่อการศึกษาและความเข้าใจอันดีระหว่างผู้คนในเอเชียและสหรัฐประกาศให้ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ”เป็นบุคคลแห่งปีของเอเชียประจำปี2556โดยการสำรวจความคิดเห็นประชาชนบนเว็บไซด์ซึ่งนายสุเทพได้คะแนนไปทั้งสิ้นร้อยละ88 หรือราว116,000 คะแนนของผลโหวตทั้งหมดโดยมี “มาลาลา ยูซัฟไซ” วัย16 ปีสาวน้อยนักรณรงค์ด้านการศึกษาชาวปากีสถานที่รอดชีวิตจากการถูกยิงจ่อศีรษะโดยกลุ่มก่อการร้ายตาลีบันรั้งอันดับสอง ด้วยคะแนนโหวตราว12,000 คะแนนหรือคิดเป็นร้อยละ 9ของผลโหวตทั้งหมด
เอเชียโซไซตีกล่าวว่าเว็บไซด์ได้เปิดให้มีการโหวตบุคคลแห่งปีของเอเชียประจำปี2556 ตั้งแต่วันที่20 ธ.ค.ซึ่งในขณะนั้นมาลาลายังคงมีคะแนนนำมาเป็นอันดับ1 ส่วนอันดับ2 คือ เจี่ยจางเคอผู้กำกับภาพยนตร์ของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ส่วนนายสุเทพยังคงมีคะแนนเป็นศูนย์
อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มเข้าปี 2557ได้เพียง 2วันหน้าเว็บไซด์ที่มีการเปิดให้ลงคะแนนเสียงก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากชาวไทยโดยมีผู้เข้าชมเว็บไซด์มากถึงราว172,000 ครั้งเป็นชาวไทย 165,000ครั้ง เป็นผลให้นายสุเทพเทือกสุบรรณได้คะแนนตีตื้นสาวน้อยมาลาลามาอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวนายสุเทพได้คะแนนโหวตมากถึงร้อยละ97 ของการโหวตทั้งหมด ในที่สุดเมื่อมีการปิดการโหวตนายสุเทพจึงได้คะแนนไปร้อยละ 88 ดังที่กล่าวมา
ผู้ชนะเมื่อปี2555 คือนายอิมรานข่าน นักกีฬาคริกเกตที่หันมาเอาดีทางการเมืองชาวปากีสถานซึ่งผลโหวตส่วนใหญ่ที่ทำให้เขาชนะก็เป็นเพราะคะแนนจากชาวปากีสถานเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามผู้ที่ถูกเสนอชื่อรายอื่นให้ได้รับการโหวตเป็นบุคคลแห่งปีของเอเชียได้แก่ นายฮัสซัน โรว์ฮานีประธานาธิบดีอิหร่าน นายสีจิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีนนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนางสาวปาร์ค กึน-เฮประธานาธิบดีเกาหลีใต้นายซาโตชิ นากาโมโตะผู้คิดค้นระบบเงินตราแบบใหม่สำหรับโลกดิจิทัลโดยไม่จำเป็นต้องผลิตเป็นธนบัตรหรือเหรียญตรานายอาร์วินด์ เกชรีวัลผู้นำรัฐบาลรัฐเดลีของอินเดียและนายคิม จอง-อึนผู้นำเกาหลีเหนือ

 

ช่วงนั้นเราไม่รู้ว่าคิดอะไร เพราะสถานะของตัวเองไม่อำนวย รู้แต่ว่าติดตามข่าวอยู่ตลอด และภาวนาให้สมาชิกทุกคนที่ออกไป ปลอดภัยทุกคน

 

เวทีราชดำเนิน
งานทำบุญครบรอบ 1 ปี การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยมีพิธีทางศาสนา ณ วัดสวนโมขพลาราม อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฏร์ธานี ‪#‎PDRC‬

 

ตั๊น จิตภัสร์ กฤดากร
ทำบุญครบรอบ 1ปี กปปส. ณ วัดสวนโมขพลาราม
วันนี้ช่วงเช้าตั๊นได้เดินทางมายัง จังหวัดสุราษฏร์ธานี เพื่อร่วมงานทำบุญครบรอบ 1 ปี การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยมีพิธีทางศาสนา ณ วัดสวนโมขพลาราม อำเภอไชยา ค่ะ
ซึ่งในงานจัดให้มีการอุปสมบทหมู่ 120 รูป ภายใต้ชื่อโครงการ "บวชพระเพื่อปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระเจ้าอยู่หัว" และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมของ กปปส. ซึ่งพระสุเทพได้ปาฏกฐาธรรมพิเศษ ให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย โดยมีแกนนำ กปปส. มาร่วมพิธีทางศาสนากันอย่างพร้อมเพรียงค่ะ

 

เถกิง สมทรัพย์
ขิง...เอกนัฏ พร้อมพันธ์...ขึ้นเวทีสามเสนในฐานะพิธีกร....เป็นแกนนำ กปปส.อายุน้อยที่สุด แรกๆทุกคนห้ามไม่ให้ ขิงลาออกจาก สส.มาร่วมเป็นแกนนำ แต่ ขิง ไม่ยอม ทุกคนเลยต้องตามใจ ทั้งๆที่กว่าจะเป็น สส.มาได้เลือดตาแทบกระเด็น...ขิงเคยบอกว่าวันที่ตัดสินใจยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตคือวันที่ลาออกจาก สส.
ชีวิตของ ขิง ในวันนั้นกับวันนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่ได้เป็น สส. แต่เป็นหนึ่งในผู้นำการชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์ไปแล้ว....ขิง เป็นมาแล้วทุกอย่าง เป็นนักเรียนอ็อกซ์ฟอร์ด เป็นสส. เป็นแกนนำ ฯลฯ เหลืออย่างเดียวคือ ยังไม่ได้เป็น เจ้าบ่าว....