นางไช่ อิงเหวิน ชูกำปั้นแห่งชัยชนะหลังคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีไต้หวันด้วยคะแนนเสียงท่วมทันในวันที่ 16 ม.ค. 2559 (ภาพ รอยเตอร์ส) เอเจนซี - นางไช่ อิงเหวิน ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของไต้หวัน คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากนายอีริค ชู คู่แข่งพรรครัฐบาลออกมายอมรับความปราชัย ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะประเด็นสายสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ “ผมเสียใจที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เราพ่ายแพ้ พรรคก๊กมินตั๋งได้ปราชัยแล้ว” นายอีริค ชู ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งมีการลงคะแนนเสียงในวันนี้ (16 ม.ค.) แถลงต่อประชาชนผู้ให้การสนับสนุน โดยเสริมว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคก๊กมินตั๋งด้วย ขณะที่ด้านนอกที่ทำการพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ชาวไต้หวันผู้สนับสนุนนางไช่ อิงเหวิน ต่างอยู่ในอาการดีใจ บ้างน้ำตารินไหลด้วยความสุขสมหวัง โดยเจฟฟ์ ชัง ชาวไต้หวันวัย 35 ปี ให้สัมภาษณ์ว่าคนไต้หวันผิดหวังกับพรรคก๊กมินตั๋ง ที่เข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับปักกิ่งเกินไป “อนาคตของไต้หวันไม่ได้อยู่ที่จีน แต่อยู่ที่โลกใบนี้” แอนนิต้า หลิน วัย 37 ปี กล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง นางไช่ อิงเหวิน ซึ่งกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ไต้หวัน จะเผชิญกับงานโหดหินที่สุดชิ้นหนึ่ง โดยเธอต้องสร้าง “สมดุลแห่งผลประโยชน์” ระหว่างมหาอำนาจจากสองซีกโลก หนึ่งคือ “จีน” ที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ส่วนอีกหนึ่งคือ “สหรัฐอเมริกา” ผู้นำโลกเสรีประชาธิปไตย ที่เธอชูธงแนวคิดเสมอมา ไต้หวันอาจตกอยู่ในความสุ่มเสี่ยง หากนางไช่พยายามยืนยันอำนาจอธิปไตยอย่างแข็งกร้าว และโละทิ้งความสัมพันธ์กับปักกิ่ง ที่ดูอบอุ่นขึ้นภายใต้การบริหารงานระยะเวลาแปดปีของประธานาธิบดีหม่า อิงจิ๋ว จากพรรคก๊กมินตั๋ง อย่างไรก็ดี แถลงการณ์เบื้องต้นหลังทราบผลการเลือกตั้งฯ นางไช่ระบุว่า จะพยายามรักษาสถานภาพปัจจุบันของความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ต่อไป ส่วนกับสหรัฐฯ ซึ่งมีการสื่อสารกับพรรคดีพีพีอย่างมีประสิทธิภาพตลอดมา เธอก็หวังจะเดินหน้ามันต่อไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นนางไช่เผยว่า ไต้หวันจะยังคงเสริมสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับญี่ปุ่น พร้อมเรียกร้องเสรีภาพของการเดินเรือในทะเลจีนใต้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ปรากฏด้วยสันติวิธี ทว่านางไช่ก็ส่งเสียงเตือนจีนว่า “การบีบบังคับควบคุม” อาจส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์ไต้หวัน-จีน “ระบบประชาธิปไตย เอกลักษณ์ชาติ และพื้นที่บนเวทีนานาชาติของไต้หวัน ต้องได้รับการเคารพ การบีบบังคับในรูปแบบใดก็ตาม จะเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบได้” นางไช่กล่าวต่อสื่อมวลชน ขณะอยู่ในสำนักงานพรรคดีพีพี กรุงไทเป อาการดีใจของชายหนุ่มผู้สนับสนุนนางไช่ อิงเหวิน และพรรคดีพีพี วันที่ 16 ม.ค. 2559 (ภาพ รอยเตอร์ส) จอขนาดใหญ่แสดงภาพนางไช่ อิงเหวิน ขณะกล่าวแถลงชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ในกรุงไทเป วันที่ 16 ม.ค. 2559 (ภาพ เอเอฟพี) นายอีริค ชู ขณะกล่าวยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งฯ ด้านนอกที่ทำการพรรคก๊กมินตั๋ง วันที่ 16 ม.ค. 2559 (ภาพ เอเอฟพี)
เดี๋ยวก็จะมีแม่นางโง่ ออกมาโหนแม่นางไช่ หลังจากที่พยายามโหนแม่นางอ่อง แห่งพม่า แต่ก็โหนไม่ไหว เพราะโง่จนเทียบไม่ได้ โง่ไม่บันยะบันยัง จนกระทั่งต้องโอเวอร์คัม
ผู้หญิงก็คน ไม่ใช่เทพีนางฟ้านางสวรรค์ที่ไหน เพราะความสามารถต่างกัน มีบ้างไม่มีบ้าง อย่ามาเทียบกับบางประเทศในอาเซียนเลย มีวันนี้เพราะนามสกุล
แต่อีนี่ทำชาติบ้านเมืองขายหน้า ด้วยวูเมนทัช ด่าประเทศตัวเองที่อูลันบาตอ แต็งกิ้วทรีไทม์ นะคร้าาาาาาาา
Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย "ไช่ อิง เหวิน วัย 59 ปี ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่กรุงไทเป หลังคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม โดยมีผู้นำประเทศนักกการทูตและบุคคลสำคัญจากทั่วโลกราว 700 คน เข้าร่วมเป็นสักขีพยานการสาบานตนต่อหน้าธงไต้หวัน หรือธงสาธารณรัฐจีน ก่อนรับมอบตราประทับประจำตำแหน่งไช่ อิง เหวิน เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ที่ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย โดยมีจุดยืนสนับสนุนเอกราชของไต้หวัน ขณะที่จีนยืนยันมาตลอดว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ทั้งยังขู่ด้วยว่าจะใช้กำลังยึดไต้หวันคืนในกรณีที่จำเป็น ชัยชนะของเธอ จึงส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันเย็นชาเพิ่มขึ้น แต่เธอย้ำว่า จะรักษาสถานะความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนตามเดิม แต่รัฐบาลจีนจะต้องเคารพในประชาธิปไตยของไต้หวันด้วยเธอกล่าวหลังสาบาตนต่อหน้าฝูงชนราว 2 หมื่นคนที่ด้านอกด้วยว่า พรรครัฐบาลของสองฝ่ายควรจัดการเจรจาเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนบนสองฟากฝั่งของช่องแคบไต้หวันนักวิเคราะห์ประเมินว่าคำปราศรัยรับตำแหน่งของผู้นำใหม่ ได้มุ่งเน้นไปที่นโยบายเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนการที่นายหม่า อิง จิ่ว และพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่เป็นรัฐบาลไต้หวันมานานกว่า 70 ปี ต้องพ้นจากตำแหน่งเป็น ก็เพราะผลสำรวจความเห็นของประชาชนไต้หวัน ระบุว่า คนส่วนใหญ่ไม่พอใจการบริหารงานด้านเศรษฐกิจของนายหม่าที่ทำให้เกิดช่องวางระหว่างคนจนและคนรวยมากขึ้น ทั้งยังเป็นมิตรกับรัฐบาลจีนมากเกินไป" อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378502348/