สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯพระราชทานให้นำน้ำจาก “สระเก็บน้ำพระราม 9 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านปทุมธานี วันละ 7,200 ลูกบาศก์เมตร เป็นเวลาสามสิบวัน หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ก็จะพระราชทานเพิ่มเติม วันนี้ (13 ก.ค.58) นายรอยล จิตรดอน ผอ.สสนก. เปิดเผยเมื่อเวลา 19.00 น. ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานให้นำน้ำจากสระเก็บน้ำพระราม 9 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ตำบลคลองหลวง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อไปบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี วันละ 7,200 ลูกบาศก์เมตร เป็นเวลาสามสิบวัน เป็นเบื้องต้น หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ก็จะพระราชทานเพิ่มเติม สำหรับรายละเอียดของโครงการสระเก็บน้ำพระราม 9 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีดังนี้ (ข้อมูลจาก www.chaipat.or.th) ความเป็นมา กระทรวงการคลัง ได้ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ระหว่างคลองระบายน้ำรังสิต 5 และคลองระบายน้ำรังสิต 6 ที่อำเภอคลองหลวง และอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ 2,827 ไร่ 2 งาน 10 ตารางวา ต่อมามูลนิธิชัยพัฒนาได้ส่งคืนพื้นที่บางส่วนคืนให้กรมธนารักษ์ เนื่องจากมีราษฎรอาศัยอยู่ในพื้นที่ ทำให้มีเนื้อที่คงเหลือจำนวน 2,593 ไร่ 1 งาน 20 ตารางวา พระราชดำริ 1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานที่ดินให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการก่อสร้างแหล่งเก็บน้ำอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ในนามมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งการดำเนินการก่อสร้างสระเก็บน้ำแล้วเสร็จเมื่อปี 2538 สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 20,000,000 ลูกบาศก์เมตร 2. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 ให้สร้างอาคารเก็บวัสดุครุภัณฑ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา เนื้อที่ใช้สอย 400 ตารางเมตร หน่วยงานรับผิดชอบ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา และกรมชลประทาน ผลการดำเนินงาน 1. ได้ดำเนินการปรับปรุงระบบสูบน้ำ และจัดการวางแผนการบริหารจัดการน้ำ (แก้มลิง) เพื่อรองรับและกักเก็บน้ำจากที่ต่าง ๆ 2. เป็นสถานที่สำหรับซ่อมแซมและจัดเก็บกังหันน้ำชัยพัฒนา ที่จัดสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจากกองโรงงานกรมชลประทาน สำหรับนำไปติดตั้งยังสถานที่ต่าง ๆ 3. เป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ของสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา 4. ดำเนินกิจกรรมโครงการปลูกต้นไม้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย มูลนิธิสแตนเลย์ประเทศไทย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดปทุมธานี ร่วมกับอำเภอคลองหลวง และหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5. ซ่อมแซมรั้ว ถนน และสิ่งปลูกสร้างภายในโครงการ การดำเนินงานในระยะต่อไป 1. ดำเนินการจัดสร้างถนนรอบโครงการ 2. ดำเนินการจัดซ่อมแซมทาสีรั้วรอบโครงการ 3. จะดำเนินโครงการเป็นศูนย์เพาะพันธุ์กล้าไม้ให้กับหน่วยงานที่สนใจ 4. ดำเนินโครงการจัดทำโรงเพาะเห็ด และการปลูกผักไฮโดรโพนิค 5. ดำเนินการด้านสาธารณประโยชน์ให้แก่ชุมชน และหน่วยงาน 6. ดำเนินการบริหารจัดการน้ำตามความเหมาะสม https://www.facebook.com/chaipattanafoundation
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณที่จะทรงมอบน้ำดื่มในบ้านสวนปทุมให้กับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยให้ไปสำรวจพื้นที่ว่าชาวบ้าน จ.ปทุมธานี ในเขต อ.หนองเสือ อ.ธัญบุรี และ อ.ลำลูกกา ที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องน้ำดื่ม เพื่อจะได้เตรียมการพระราชทานน้ำดื่มให้กับประชาชน และประชาชนที่มีรถก็สามารถมารับน้ำได้ที่บ้านสวนปทุม แต่ตอนนี้ทราบว่าการประปาส่วนภูมิภาคสาขาธัญบุรี ได้เริ่มทำการผลิตน้ำดื่มและเริ่มจ่ายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่บางส่วนได้ใช้แล้วบ้างบางส่วน แต่ก็ต้องยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป http://www.thairath.co.th/content/511470
ลักษณะของโครงการ โครงการสระเก็บน้ำพระราม 9 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพื้นที่ของโครงการรวม2,827 ไร่ 2 งาน 10 ตารางวา (ตามฉนด) มีลักษณะโครงการและส่วนประกอบ ที่สำคัญดังนี้ 1. สระเก็บน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่รวม 2,580 ไร่ ความลึกที่ระดับ -3.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางแยกเป็น 2 สระ มีทางน้ำเชื่อมถึงกันได้ – สระเก็บน้ำที่ 1 พื้นที่ประมาณ 790 ไร่ ความจุประมาณ6 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรับน้ำ จากคลองระบายน้ำรังสิต 6 – สระเก็บน้ำที่ 2 พื้นที่ประมาณ 1,790 ไร่ความจุประมาณ 11.10 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรับน้ำจากคลองระบายน้ำรังสิต 5 2. บริเวณพื้นที่โดยรอบสระเก็บน้ำ มีขนาดความกว้างประมาณ 50 เมตร และความยาว โดยรอบสระเก็บน้ำประมาณ 13 กิโลเมตร จัดเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ และจัดแต่งสวน 3. ส่วนประกอบสระเก็บน้ำอื่น ๆ ได้แก่ – ทางระบายน้ำเข้า – ออก พร้อมอาคารบังคับน้ำ รวม 3 แห่ง – ถนนโดยรอบสระเก็บน้ำ ระยะทางประมษณ 12 กิโลเมตร พร้อม สะพานข้ามคลองเชื่องสระเก็บน้ำ 1 แห่ง – สำนักงานและอาคารจัดการและบริหารน้ำ รายละเอียดแสดงใน แบบหมายเลข 118857 ตามแนบ 2 ประโยชน์ของโครงการ – สามารถส่งน้ำช่วยเหลือการทำการเกษตร เช่น ทำนาปรัง และการ ปลูกพืชต่าง ๆในท้องที่ดังกล่าวในช่วงฤดูแล้งได้ – สามารถเก็บกักน้ำในฤดูน้ำหลากได้บางส่วนเป็นการช่วยบรรเทาปัญหา น้ำท่วมพื้นที่ ตอนล่างโครงการฯ ได้บ้าง – ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำเน่าเสียตามคลองและชุมชนบางแห่ง โดยการปล่อยน้ำ จากสระเก็บกักน้ำดังกล่าวไปชะล้างและเจือจากการเน่าเสียของน้ำ – เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนโดยทั่วไป http://www.tv360ch3.com/โครงการในพระราชดำริด้า ......................................................................................... แวะมาเติมเป็นระยะครับ พอดีดูบอลไปด้วย
น้ำ ที่สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงพระราชทาน มิได้ไปจาก บึงพระราม 9 มักกะสัน แต่มาจาก สระพระราม 9 ปทุมธานี ! ภาณุมาศ ทักษณา หลังจากปรากฏข่าวในสื่อมวลชนว่า การประปาภูมิภาคสาขาธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จะงดส่งน้ำให้แก่ชาวบ้าน เนื่องจากไม่มีน้ำพอที่จะผลิตประปา ทำให้ชาวบ้านพากันวิตกกังวลนั้น เช้าวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ชาวบ้านในจังหวัดปทุมธานีต่างพากันปีติยินดีเป็นล้นพ้นเมื่อทราบข่าวจากสื่อมวลชนทุกแขนงว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้นำน้ำจากสระพระราม 9 ไปบรรเทาความเดือดเรือนของราษฎร โดยทรงพระกรุณาให้นำน้ำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภควันละ 7,200 ลบ.ม.เป็นระยะเวลา 30 วัน หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นสามารถขอพระราชทานเพิ่มได้ นอกจากข่าวนี้จะนำความปลื้มปีติมาให้ราษฎรในจังหวัดปทุมธานี ที่รอดพ้นจากการไม่มีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคแล้ว ยังทำให้สื่อบางสำนัก ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับเอาไปกระเดียด เพราะเข้าใจว่าสระพระราม 9 เป็นบึงพระราม 9 เช่น พิธีกรในสถานีโทรทัศน์ VOICE TV ได้พูดถึงเรื่องนี้ในวันเดียวกัน ว่าเป็นการนำน้ำจากบึงพระราม 9 ซึ่งไม่น่าผลิตน้ำประปาได้ไปใช้งาน เนื่องจากเป็นน้ำเสีย ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น น้ำที่จะนำไปผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคที่สมเด็จพระเทพรัตนฯ พระราชทานไปจากสระพระราม 9 สำหรับ สระพระราม 9 นั้น กระทรวงการคลัง ได้ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินซึ่งอยู่ระหว่าง คลองระบายน้ำรังสิต 5 และคลองระบายน้ำรังสิต 6 แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ โดยในปี 2523 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น สร้างเป็นแหล่งเก็บน้ำอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ตามพระราชดำริในนามมูลนิธิชัยพัฒนา แล้วเสร็จในปี 2538 สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 20 ล้าน ลบ.ม. เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้ใช้สระพระราม 9 ที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา แจกจ่ายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฤดูแล้งแก่ประชาชนมานานแล้วและทำเป็นเรื่องปกติทุกปี โดยในช่วงฤดูฝนจากเก็บกักน้ำไว้ เมื่อเข้าหน้าแล้งก็จะจ่ายน้ำนั้นเข้าคลอง 5 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่คลอง 5 จำนวน 12,000 ไร่ และ คลอง 6 จำนวน 7,000 ไร่ นายลลิต กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการประปาภูมิภาคได้นำรถผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ 3 คันไปติดตั้งและสูบน้ำไปผลิตประปาส่งเข้าท่อแล้ว พบว่าปริมาณน้ำในสระจะอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าเกือบวิกฤต เพราะระดับน้ำเริ่มลด อาจทำให้แนวถนนที่ขนานกับตัวสระพังลงมา แต่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่า ถนนพังบ้างก็ไม่เป็นไร ต้องเอาน้ำออกไปช่วยเหลือประชาชนก่อน” นายลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนากล่าวในตอนท้าย