ไม่สน....ข่าวลือ ข่าวเสี้ยม จากสื่อเลวๆและพวกว่างจัดไร้สาระ --------------------------------------------------------------------------------- เอกนัฏ ปัดข่าว ลุงกำนัน จับมือ ชายหมู ตั้งพรรคใหม่ โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ธ.ค. 2558 14:25 'เอกนัฏ' ปัดข่าวลือ 'สุเทพ' เตรียมจับมือ 'สุขุมพันธุ์' ตั้งพรรคใหม่ ย้ำจุดยืนไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง เดินหน้าทำงานมูลนิธิฯ เร่ง 4 เรื่อง... เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปท.) กล่าวถึงกรณีแหล่งข่าวอ้างว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. จะจับมือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ มปท. หรือ ลุงกำนัน ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ลงในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า งงกับกับข่าวลือที่ถูกนำมารายงานผ่านหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เต้าข่าวทุกวันว่า นายสุเทพ หรือ ลุงกำนันจะตั้งพรรคใหม่ ขอยํ้าจุดยืนของลุงกำนันว่า 1. ลุงกำนันไม่กลับพรรคประชาธิปัตย์ 2. ลุงกำนันไม่ตั้งพรรคการเมืองใหม่ 3. ลุงกำนันเดินหน้าทำงานมูลนิธิฯ สรุปสั้นๆ ว่า ข่าวลือเรื่องตั้งพรรคการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า พวกเรา กปปส. พอสู้เสร็จก็กลับบ้าน สู้คดีที่ถูกกล่าวหา บางคนก็ตัดสินใจไปบวช ส่วนอนาคตทางการเมืองนั้น ยังไม่ได้คิด ตอนนี้คิดแต่จะสานต่อเจตนารมณ์มวลมหาประชาชนผ่านมูลนิธิฯ เท่านั้น ท่ามกลางข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง แต่เรื่องจริงคือ ลุงกำนันกับมูลนิธิฯ กำลัง 1. เดินหน้าโครงการอาชีวธรรมะ จัดตั้งวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ให้เป็นวิทยาลัยอาชีวะสร้างอาชีพต้นแบบที่สอนความรู้คู่คุณธรรม เด็กจบมีงานทำและเป็นคนดีของสังคม 2. จัดตั้งชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ตามแนวพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3. จัดงาน 'สมุย เฟสติวัล : GIVERS’ RIDE AND RUN' ในวันที่ 23-24 ม.ค.2559 และ 4. เตรียมพร้อมเปิดตัวเว็บไซต์มูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ให้ทุกคนมีส่วนร่วม ทั้งนี้เราไม่สนกระแสหรือแฟชั่น แต่เวลานี้ เรามาช่วยกัน ทำประโยชน์ให้สังคมดีกว่า. http://www.thairath.co.th/content/548864 ---------------------------------------------------------------------------------------- ชอบตรงข้อสองมาก อยากเห็นคนไทยมุ่งพอเพียงและพึ่งตนเองให้มากที่สุด
คนบางคน ไม่เคยมีความคิดที่จะทำเพื่อคนอื่น เมื่อมีคนทำ เขาจึงไม่เชื่อ และคอยแต่จะระแวงว่าคงเป็นเหมือนตัวเอง(เห็นแก่ตัว) ---------------------------------------------------------------------------------------- 14 ธ.ค. 58 นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชาย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยโพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความลงยังเฟซบุ๊ก "Tan Thaugsuban" ระบุว่า "ผมสังเกตุว่าคนบางคน ทำใจให้เชื่อไม่ได้จริงๆว่า คุณพ่อผม จะไม่ตั้งพรรคการเมืองและไม่ลงเลือกตั้งแล้ว เขาคงคิดโดยเอาจิตใจตัวเองมาเป็นที่ตั้งว่า ถ้าเป็นเขา ออกมาเสี่ยงชีวิตต่อสู้บนถนนอยู่ 7-8 เดือน เป็นหนี้เป็นสินมากมาย จะไม่หวังผลตอบแทนทางการเมือง มันคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเขาได้มาสัมผัสกับพี่น้องมวลมหาประชาชน ที่ออกมาร่วมต่อสู้กับคุณพ่อผม คนเป็นล้านๆคนเหล่านั้น ก็ออกมาเหนื่อย มาเสียเงินเสียเวลา เสี่ยงชีวิต และเกือบทุกคนก็ไม่ได้หวังจะเป็นนักการเมืองเลยทั้งสิ้น การที่พวกเราทุกคนไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง หรือ พรรคใดพรรคหนึ่ง แต่สู้เพื่อต้องการที่จะเห็นประเทศไทยที่ดีขึ้น เพื่อลูกหลานของเรานั้น คงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก สำหรับคนที่คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง" http://www.naewna.com/politic/193026
แปลกอย่าง ตอนนั้นยิ่งโดนอายัดบัญชียิ่งมีคนบริจาค แล้วไม่ถามด้วยว่าเอาเงินไปทำอะไร ไม่เหมือนอีกพวก อาศัยความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัย ใส่ชื่อตัวเองบนบริจาคของเอาหน้าแถมยังมีการยักยอกของบริจาคอีก เฮ้อ กรรม
การจะออกกฎหมายอุดช่องโหว่ เพราะพฤติกรรมของมนุษย์บางจำพวก ช่างยากเย็น ---------------------------------------------------------------------------------------------- กรธ.กำหนดแนวทางให้นายกฯห้ามหนีตอบกระทู้ในสภา ยัน ยังไม่คิดตรวจกระเป๋าเงินญาตินักการเมือง .... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/politic/404917 ---------------------------------------------------------------------------------------------- ปากบอกอยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมตรงข้าม
จะจบกี่ใบก็ช่าง ถึงยังไงเขาก็ไปเรียน และลองไปศึกษาวิธีการเรียนของกลุ่มประเทศยุโรป ดูบ้างว่ามีวิธีการเรียนยังไง บางปริญญา ใบเดียวได้ถึง 3 สาขา แล้วพวกที่ไม่ได้จบที่ไหนเลยแต่มีวุฒิมาแสดงจนเขาจับกันได้กับพวกที่ปลอมวุฒิการศึกษา จะว่าอย่างไร แปลก ชอบขว้างงูไม่พ้นคอ
พรรคไหนเอ่ย อยากรู้ไหมนักการเมืองคนไหน ใช้วุฒิการศึกษาปลอมแล้วถูกจับได้ ? ผลลัพธ์เป็นอย่างไร? พี่ เก่ง-การุณ และ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ มีคำตอบ!! ท่ามกลางธุรกิจการรับจ้างทำวุฒิ การศึกษาเถื่อน ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น FACEBOOK ,YOUTUBE เพียงแค่คุณมีกำลังเงินเพียงพอ อยากได้วุฒิการศึกษาระดับไหน ตั้งแต่มัธยม ปวช.ปวส. ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือแม้กระทั่งปริญญาเอก มีผู้จัดการให้เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งเรียนในห้องเรียนให้เหนื่อยเหมือนคนปกติทั่วไป ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ ในยุค คนชื่อ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่แสดงท่าทีอะไรชัดเจนออกมาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้? (อ่านประกอบ : รับจ้างทำวุฒิเถื่อน โผล่ "ยูทูป" “มัธยม- ปวช.-ปวส.”จ่ายหลักหมื่น ป.ตรี 1.2 แสน) หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในอดีตเคยมีนักการเมืองรายหนึ่ง ที่ถูกตรวจสอบพบว่า ใช้วุฒิการศึกษาปลอมในการสมัครเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา แล้วถูกจับได้ ? นักการเมืองรายที่ว่านั้น ก็คือ นายการุณ โหสกุล หรือ “เก่ง” อดีต ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ระบุว่า ในช่วงปี 2548 ศาลฎีกา เคยมีคำสั่งให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของนายการุณ ด้วยเหตุผลว่า สถานภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมา ธิราชของนายการุณถูกถอน อันเนื่องจากวุฒิการศึกษาระดับ ปวส. ของนายการุณเป็นเท็จ ดังนั้นแม้จะมีวุฒิปริญญาโทแล้ว แต่ก็ถือว่าตกคุณสมบัติไปตามกัน อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ไม่กำหนดระดับการศึกษาขั้นต่ำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นายการุณยังคงมีคุณสมบัติเป็น ส.ส. ต่อไป ทั้งนี้ นายการุณ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมาหลายตำแหน่ง อาทิ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 12 สังกัดพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง ได้พิพากษา ยกฟ้อง เก่ง-การุณ โหสกุล ส.ส.กทม.เพื่อไทย แพ้คดี ฟ้อง ม.สุโขทัยธรรมาธิราช สภามหาวิทยาลัย เพิกถอนสภาพการเป็นนักศึกษา ยกเลิกปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตร์ หลังตรวจสอบใช้วุฒิ ปวส. ปลอม สมัครเป็นนักศึกษา คดีดังกล่าว นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้อง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ.) และสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 เรื่องเป็นหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่สภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีมติยกอุทธรณ์ นายการุณ ที่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ได้ถอนสภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษา และยกเลิกปริญญารัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิตที่ออกให้นายการุณ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 43 เนื่องจากพบว่านายการุณใช้วุฒิการศึกษาปลอมในการสมัครเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยศาลพิเคราะห์ แล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า วันที่ 30 มิถุนายน 2542 นายการุณ ผู้ฟ้องสมัครเข้าเป็นนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิทยาการจัดการโดยใช้หลักฐานระเบียนแสดงผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนีย บัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) สาขาการบัญชี จากโรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต จ.นครศรีธรรมราชที่ระบุว่าผู้ฟ้องจบการศึกษาของปีการศึกษาปี 2540 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542 แล้วต่อมาปี 2543 ผู้ฟ้อง ได้ใช้หลักฐานระเบียนแสดงผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) สาขาวิชาการตลาดจากโรงเรียนธนกิจพาณิชยการ กทม. ที่ระบุว่าผู้ฟ้องจบการศึกษาของปีการศึกษา 2529 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 31 มาสมัครเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีอีกในสาขาวิชาการวิทยาการจัดการ แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ วิชาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ โดยจบการศึกษาวันที่ 30 ตุลาคม 43 ต่อมาสำนักทะเบียนและวัดผลของ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ตรวจสอบหลักฐานวุฒิการศึกษาของผู้ฟ้องแล้ว พบว่า สถานศึกษาดังกล่าวแจ้งว่า ผู้ฟ้องไม่ได้เป็นนักเรียน และไม่ปรากฏรายชื่อเป็นผู้จบการศึกษาแต่อย่างใด ซึ่งหลักฐานเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาถูกจัดทำขึ้นในภายหลัง จึงส่งผลให้ผู้ ฟ้องขาดคุณสมบัติรับการศึกษาระดับปริญญาตรี ผู้ถูกฟ้องจึงสั่งเพิกถอนสภาพการเป็นนักศึกษา และยกเลิกปริญญาบัตร การที่ผู้ถูกฟ้องทั้งสองมีมติจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง ทั้งนี้ นอกจากกรณีของ นายการุณ แล้ว นักการ เมืองอีกรายหนึ่ง ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาดให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีขาดคุณสมบัติในเรื่องวุฒิการศึกษา คือ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์ เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยขึ้น หลังจากที่ นายชาญชัย ถูกนายสุทิน ใจจิต ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จังหวัดนครนายก ทำหนังสือคัดค้านคุณสมบัติของนายชาญชัย ฯ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก โดยระบุว่า การสำเร็จปริญญาตรีของนายชาญชัย ฯ น่าจะเป็นโมฆะ เพราะนายชาญชัย ฯ ได้นำเอาวุฒิการศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ชุดที่ 1554 เลขที่ สชก 012430 จากโรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์บริหารธุรกิจเป็นหลักฐานที่มีปัญหา นำมาเทียบโอนหน่วยกิตและเรียนต่อในมหาวิทยาลัยศรีปทุมจนสำเร็จปริญญาตรี เบื้องต้น ได้มีการร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาเอกชน องค์การค้าของคุรุสภา และกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบวุฒิการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ดังกล่าว ของนายชาญชัย ฯ ปรากฏผลการ ตรวจสอบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ของโรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์บริหารธุรกิจ ซึ่งได้เลิกกิจการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2537 และได้ส่ง หลักฐานเก็บไว้ที่สำนักงาน ฯ แล้ว ไม่ปรากฏชื่อนายชาญชัย ฯ ในหลักฐานของโรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์บริหารธุรกิจ ทั้งปีการศึกษา 2533 และปีการศึกษา 2534 แต่อย่างใด ขณะที่องค์การค้าของคุรุสภาได้ตรวจสอบ การจัดขายใบระเบียบแสดงผล การเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ เทคนิค (รบ. ปวท.) เลขที่ สชก 012430 ชุดที่ 1554 ซึ่งเป็นชุดเดียวกับใบ รบ. ปวท. ชุดที่ 1554 ที่องค์การค้าของคุรุสภาได้ขายให้กับโรงเรียนเกษมโปลีเทคนิค ไม่ใช่โรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์ บริหารธุรกิจและกระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งผลการตรวจสอบต่อทบวงมหาวิทยาลัยว่า กระทรวงศึกษาธิการมีความเห็นว่า รบ. ปวท. ชุดที่ 1554 เลขที่ สชก 012430 ที่นายชาญชัย ฯ นำไปสมัครขอเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม น่าจะเป็นเอกสารปลอม การสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายชาญชัย ฯ ไม่น่าจะกระทำได้ ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงเหล่านี้ หากจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า นักการเมืองคนไหน ใช้วุฒิการศึกษาปลอมแล้วถูกจับได้? เชื่อว่าชื่อของนายการุณ และนายชาญชัย น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่อยู่ในความทรงจำใครหลายคน ในเวลานี้!! http://www.isranews.org/ข่าว/item/21352-4.html?pop=1&tmpl=component&print=1
ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยลองหาข้อมูลมาให้คุณดู ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่ ก็ตามแต่คุณละครับ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- http://news.voicetv.co.th/democracycrisis/100090.html "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย" ความจริงแล้ว ผมว่าเราจะจบจากสถาบันไหน ระดับอะไร สาขาวิชาไหน ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเสมอ สิ่งที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือความดีซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ ผมไม่เคยไปป่าวประกาศโอ้อวดว่าจบจากไหน ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ในระหว่างที่ผมต่อสู้ร่วมกับมวลมหาประชาชน อีกทั้งบ้านก็โดน M79ยิง ก็ต้องมาชี้แจงเรื่องไร้สาระที่ถูกแชร์โดยนักข่าวต่างชาติสายแดงที่มี พฤติกรรมหมิ่นสถาบันและเพจโกหกบางเพจ ได้ไปเอาข้อมูลการศึกษาของผมจากเวปไซด์ของรัฐสภา ซึ่งลงข้อมูลผิดแปลผิดมาขยายความ (ผมและทีมงานไม่ได้ลงเองและไม่เคยเห็นมาก่อน) ซึ่งข้อมูลอื่นที่ผมเขียนและเผยแพร่ผ่านสื่อฯต่างก็ชัดเจนและตรงกันมาโดย ตลอด ไม่ได้ตั้งใจทำโก้มาเขียนข้อมูลผิดๆหลุดโลกแบบนี้ อันที่จริงก็คือผมเรียนจบปริญญาตรีพร้อมปริญญาโทใน 3 สาขา คือ วิศวเศรษฐศาสตร์และบริหาร (เกียรตินิยม) หลักสูตร 4 ปี จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ปริญญาที่ผมได้มาด้วยตัวเองไม่ได้โกงไม่ได้ซื้อและไม่ได้ลอกใคร จะถูกใจใครหรือไม่อย่างไรก็สุดแล้วแต่จะคิดครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นว่าไม่มีประเด็นอะไรสำคัญ แค่ทางเจ้าหน้าที่รัฐสภาแปลความหมายและใส่ข้อมูลผิดพลาดก็เท่านั้น ซึ่งประวัติการศึกษาของผมจริงๆ ทุกท่านก็สามารถหาได้ตามเวปไซต์ต่างๆได้ไม่ยาก (แนบด้านล่าง) ซึ่งก็เขียนตรงกันหมด อย่ามัวมาเสียเวลานั่งจับผิดเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์กันดีกว่า ทั้งๆที่ข้อมูลมันก็ไม่เป็นความจริงเลย http://www.democrat.or.th/th/about/board-of-directors/cabinet_members/mpc/detail.php?ID=8977 http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1262767859 http://www.dailynews.co.th/Content/Article/218577/เจาะลึกชีวิตโฆษกคนดัง+"เอกนัฏ+พร้อมพันธุ์"+(มีคลิป) http://www.matichon.co.th/play_clip.php?newsid=1311768185 http://pantip.com/topic/31479173
ขนาดวุฒิการศึกษายังโกง โยนขี้ให้ เจ้าหน้าที่รัฐสภาแปลความหมายและใส่ข้อมูลผิดพลาด ปากบอกว่าเป็นพวกคนดี จะปฏิรูปประเทศ โธ่เอ๋ย วุฒิการศึกษาไม่สำคัญขอแค่เป็นคนดี จอมสร้างภาพเลย
้ แล้วคุณละครับ พูดว่าตัวเองดีมีคุณธรรม ฉลาดล้ำเลิศ แล้วตอนนี้เป็นยังไงครับ ทำเอานักเลงกุ๊ยแถวบ้านผมเป็นพนักงานโรงแรม5ดาวไปเลย
อืม....อย่าไปเชื่อคุณเอกนัฏนะครับ แต่อันนี้ จะเชื่อดีไหมหนอ ฮึ....คุณเจ้าพระยาฯ ----------------------------------------------------------- ติ๊กผิด - ตั๋วหาย เรื่องของช้างตายทั้งตัวที่ ใบบัวปิดไม่มิด เงินทองก็มีมากมาย บริวารก็ออกเยอะแยะ ทำไมปล่อยให้ความผิดพลาด เล็กๆน้อยๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเป็นหลักฐานมัดตัว ดิ้นไม่หลุด----------------------------- -------------------------------- ที่คุณหญิงพจมานอ้างว่า ตั๋วหายจึงออกตั๋วใหม่ให้ ก็เพราะว่า ตั๋วใบหนึ่งในจำนวน 3 ใบ ที่นายบรรณพจน์ออกให้เป็นค่าหุ้นนั้น มีมูลค่า 102,135,225 บาท ลงวันที่ 16 มีนาคม 2542 โดยลงชื่อผู้รับคือ คุณหญิง พจมาน ชินวัตร คตส. จับพิรุธได้ว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 2542 คุณหญิงพจมาน ยังไม่ได้เป็นคุณหญิง เป็นแค่นางพจมาน เพราะนางพจมาน เพิ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จตุตถจุลจอมเกล้า เมื่อวันฉัตรมงคล วันที่ 5 พฤษภาคม 2542 แสดงให้เห็นว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 2542 ที่มีการจองชื่อหุ้นเพิ่มทุนในนามนายบรรรพจน์ ไม่ได้มีการทำตั๋วสัญญาใช้เงินลงวันที่ 16 มีนาคม 2542 ไว้แต่อย่างใด แต่เป็นการจัดทำขึ้นมาภายหลัง เมื่อนางพจมาน ใช้คำนำหน้าว่า "คุณหญิง" แล้ว -------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------- นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการคุณหญิงพจมาน ระบุว่า วันที่ 20 มกราคม 2549 บริษัท แอมเพิล ริช ได้ขายหุ้นชินคอร์ปจำนวน 329.2 ล้านหุ้น ให้แก่นายพานทองแท้และนางสาวพิณทองทา และในวันเดียวกัน ทั้งนายพานทองแท้และนางสาวพิณทองทาแจ้งต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ว่า ได้ซื้อหุ้นจากแอมเพิล ริช เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 รายละ 164.6 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท และระบุว่าได้ทำรายการผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านบริษัท หลักทรัพย์ ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด 329.2 ล้านหุ้น แต่การตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายหุ้นในวันที่ 20 มกราคม 2549 ไม่มีรายการ บิ๊กลอต หรือรายการดังกล่าวแต่อย่างใด นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในขณะนั้น ให้สัมภาษณ์ว่า "ติ๊ก" เครื่องหมายผิด http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000109054
เห็นแล้วอดเอามาให้ดูไม่ได้ ประเทศเราเผด็จการแท้ๆ แต่ยังไม่เคยเห็นแบบนี้เลย --------------------------------------------------------------------------------------- ผู้ช่วยนายอำเภอ Los Angeles County รัฐแคลิฟอร์เนียยิงชายผิวดำชื่อ Nicholas Robertson อายุ 28ปี จากด้านหลังจนหมดแม็กโทษฐานมีอาวุธ ตำรวจบอกว่าเขายิงปืนขึ้นไปบนท้องฟ้า ตำรวจบอกให้เขานอนลงกับพื้นแต่เขาไม่ยอมนอนและยังยิงปืนขึ้นฟ้าต่อไป นั่นคือคำพูดของตำรวจ แต่มีผู้บันทึกคลิปการยิงของตำรวจเอาไว้ได้และนำเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อดูจากคลิปแล้วหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้แสดงท่าทีว่าเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใดเลย หลังจากที่ตำรวจยิงเขาจนล้มลงกับพื้นแล้ว ยังเขาพยายามจะคลานต่อไป แต่ยังไม่หนำใจตำรวจทั้งสองนาย จึงพากันระดมยิงเขาต่อจนกระสุนหมดแม็ก บรรจุกระสุนใหม่ยิงต่ออีก ยังกะในหนังฮอลลิวูดเลย กรรม! เกิดเหตุวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2558 เวลาประมาณ 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ในข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษากฎหมายหยุดยิงหลังจากที่มั่นใจว่า ชายคนดังกล่าวนอนแน่นิ่งไม่ขยับอีกแล้ว แปลว่าเดี้ยงสนิท! ถึงหยุดยิง เพจ: ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont https://vk.com/theeyesproject 14/12/2558 อันนี้ไม่ได้เบลอภาพ เลยได้เห็นตอนคนโดนยิงกำลังคลานหนี
ไม่ผิดหวังเลยกับ มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มปท.) "เต้น"ปูด"แทน เทือกสุบรรณ"หอบเงิน200 ล้านซื้อที่ดิน | เดลินิวส์
5555 ขำท้องแข็ง มีหลักฐานไม่เชื่อ ดันเชื่อคนพูดปากเปล่า เจ้าพระยาหนอเจ้าพระยา ไม่สมกับที่ร่ำเรียนมา(หรือไม่ได้เรียน) เสียดายเวลาและเงินทองที่เอาคืนมาไม่ได้จริงๆ ปล.ฝากถามเต้น-ตู่ด้วยนะครับว่าช่วยนปช.ติดคุกไปถึงไหนแล้ว เห็นรู้ทุกเรื่อง
"Tan Thaugsuban" ระบุว่า "ผมสังเกตุว่าคนบางคน ทำใจให้เชื่อไม่ได้จริงๆว่า คุณพ่อผม จะไม่ตั้งพรรคการเมืองและไม่ลงเลือกตั้งแล้ว เขาคงคิดโดยเอาจิตใจตัวเองมาเป็นที่ตั้งว่า ถ้าเป็นเขา ออกมาเสี่ยงชีวิตต่อสู้บนถนนอยู่ 7-8 เดือน เป็นหนี้เป็นสินมากมาย จะไม่หวังผลตอบแทนทางการเมือง มันคงเป็นไปไม่ได้ อ่านที่ ลูกแทนพูดแล้ว โคตรฮาเลย เป็นหนี้เป็นสินมากมาย จะไม่หวังผลตอบแทนทางการเมือง มันคงเป็นไปไม่ได้ "สุเทพ"ตรวจที่ดิน 40 ไร่บนเกาะสมุย เผยซื้อมาราคาถูก ใช้สร้างวิทยาลัยอาชีวะฯ(รู้ยังเงินบริจาคอยู่ไหน)
เนอะ สู้ไอ้นกตะกรุมญาติอีปูก็ไม่ได้ แม่มไปเรียนวิศวะเมกา7ปี แต่ภาษาอังกฤษได้แค่ระดับเมียเช่าฝรั่งแถมเป็นรมว. ต่างประเทศอีกต่างหาก
555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 โอย ขำ อะไรมันจะงี่เง่าขนาดนี้ โอย ปวดท้อง อย่าไปบอกใครเขานะครับว่าเรียนโรงเรียนไหน สงสารรุ่นน้องมันจะไม่ได้งาน
จากข่าวสรุปว่าคนพูดก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่พูดไปเรื่อยเปื่อย "เรื่องที่ควรรู้กลับไม่รู้-พูดไม่ออก ถนัดพูดเฉพาะในเรื่องที่ไม่รู้จริง" คนแบบนี้ คุณยังใส่ใจคำพูดเขาหรือครับ ----------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------- คนเข้ามาดูเกินล้านวิว เม้นต์สะใจซะเกือบ 100%
ที่ดินแปลงนี้คนขายคือนายสมนึก เกตุชาติ ซึ่งลูกชายสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ทำไการตกลงซื้อขายก่อนมี กปปส.เกิดขึ้น มีคนบ้าที่ไหนตกลงซื้อที่ดิน200ล้านภายในไม่กี่วัน
ช่วงนี้พวกพยายามเต้าข่าวรายวัน จนไม่กรองว่ามีจริงไม่จริง จนเต้าข่าวหมดความน่าเชื่อถือไปเยอะ ไม่ใช่เพราะไม่มีเรื่องจะเล่น แต่โง่ดันไปเล่นเรื่องที่ไม่มีมูล เท่ากับเป็นแนวร่วมมุมกลับไปดันเรตติ้งลุงตู่ ผมถึงไม่สงสัยว่าทำไมความนิยมลุงตู่ไม่ลดลงเร็วเหมือนตอนนักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ
ตายห่า จดหมายมั่วมันยังเชื่ออีก จะโง่ไปถึงหว่า ทำไมหว่า เขาซื้อที่ดินแล้วมันไปหนักส่วนไหนของเจ้าพระยาควายขี้แพ้หว่า
ขอใช้ตรรกะเดียวกับเจ้าพระยาว่าโอ๊คใช้เงินบริจาคให้คนเสื้อแดงซื้อ “เสี่ยตัน อิชิตัน”ไขปมขายทิ้งที่ดินเพลินจิต ให้“โอ๊ค”-คลี่สัมพันธ์“สรยุทธ-โน้ส” เขียนวันที่ วันจันทร์ ที่ 09 กรกฎาคม 2555 เวลา 20:00 น. เขียนโดย isranews หมวดหมู่ Investigative | ข่าวบุคคลดัง Send Print อ่าน “ตัน”รับขายบ.อสังหาให้ “หญิงอ้อ-ลูกโอ๊ค” จริง เหตุได้ราคาที่พอใจ-วอนอย่าโยงการเมือง) วันที่ 9 ก.ค.2555 เวลาบ่าย 3 โมงเศษ นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวอิศรา” (www.isranews.org )ในกรณีดังกล่าวว่า หลังจากเป็นข่าวไปก็ไม่สบายใจ เพราะคนบางส่วนอาจจะอ่านแค่พาดหัว แต่ยังไม่ได้ดูเนื้อข่าว แล้วก็ไปคิดว่าตนเป็นลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เป็นความจริง กระทั่งช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ (9 ก.ค.) ก็ยังมีคนมาถามว่าตนเป็นพวกพ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่เมื่อไร “ผมเคยเจอนายพานทองแท้ครั้งเดียวเมื่อ 7ปีที่แล้ว ตอนมากินข้าวที่ร้าน Log Home ของผมในซอยทองหล่อ พร้อมกับลูกชายของคุณดารุณี กฤตบุญญาลัย (นายไอยคุปต์ กฤตบุญญาลัย หรือน้ำนิ่ง เพื่อนสนิทนายพานทองแท้) ก็มีคนมาบอกว่า นายพานทองแท้มากินข้าว ผมก็ลงไปทักทาย ก็แค่นั้น ส่วนคุณทักษิณเคยเจอไม่กี่ครั้งตอนที่ไปทำเนียบรัฐบาล..นานกี่ปีแล้วก็จำไม่ได้” นายตันกล่าว นายตันยังกล่าวถึงเบื้องหลังการขายบริษัท เพลินจิตอาเขต จำกัด ซึ่งครอบครองที่ดินย่านเพลินจิต 1.5 ไร่ พร้อมสัญญาการเช่าปั๊มน้ำมันให้กับบริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด (ชื่อปัจจุบัน บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) ว่า มีโบรกเกอร์คนไทยชื่อ “โทนี่” มาติดต่อของซื้อบริษัทดังกล่าวจากตน ก็พูดคุยกันจนตกลงได้ราคาที่พอใจ พอถึงวันจ่ายเงินถึงเพิ่งรู้ว่าบริษัทที่มาขอซื้อเป็นของนายพานทองแท้ “ผมรู้มาว่าเขาจะซื้อไปทำโรงแรมขนาดเล็กๆ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ เพราะปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์พร้อมด้วยมินิมาร์ทในที่ดินดังกล่าว ยังมีสัญญาการเช่าอีก 5 ปี” นายตันกล่าว อย่างไรก็ตาม นายตันปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่า ขายบริษัทอสังหาฯ ดังกล่าวให้กับบริษัทของนายพานทองแท้ในราคาเท่าใด ส่วนกรณีนายตันทำธุรกิจร่วมกับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดังผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมี “น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม” เป็นตัวเชื่อม เนื่องจาก น.ส.สุกัญญา นอกจากจะเป็นกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่มีนายสรยุทธเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ น.ส.สุกัญญายังเป็นกรรมการในบริษัท ดีเอสที แอสเซ็ท จำกัด ที่มีนายตันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยจดทะเบียน เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2555 ด้วยทุน 100,000 บาท ประกอบธุรกิจ การให้เช่า การขาย การซื้อขายและดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 8 หมู่บ้านหมู่บ้านอิสระ ซอยรามคำแหง 24 แยก 26 (หมู่บ้านอิสระ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ (บ้านของนายตัน) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้ทำธุรกิจกับนายสรยุทธ์แต่ไปร่วมหุ้นกันซื้อที่ดินที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยตั้งใจว่า เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็จะไปตกลงแบ่งที่ดินกัน “ตอนแรกผมตั้งใจไปซื้อคอนโดที่หัวหิน แต่คิดๆ ดูแล้ว ถ้าซื้อคอนโดจะมีค่าใช้จ่ายมาก เพราะตอนนี้ ผมก็มีคอนโดอยู่ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปรากฏว่าต้องเสียค่าดูแลเดือนละ 1-2 แสนบาท เลยตัดสินใจซื้อเป็นที่ดินจะดีกว่า สาเหตุที่ซื้อที่ดินเพราะดูแล้วว่า น่าจะนำไปใช้อะไรในอนาคตได้ ดีกว่านำไปฝากธนาคารที่แม้จะได้ดอกเบี้ย แต่ก็ได้เงินไม่มากนัก” นายตันกล่าว นายตันยังกล่าวถึงความสัมพันธ์กับนายสรยุทธ ว่า รู้จักกันตั้งแต่นายสรยุทธยังอยู่จัดรายการอยู่ที่สถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนแนล เมื่อนายสรยุทธ์มาจัดรายการอยู่ที่สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี หรือช่อง 9ก็ยังเคยไปให้สัมภาษณ์ 2-3 ครั้ง กระทั่งมาทำรายการเล่าข่าว ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี หรือช่อง 3 ตนก็เคยไปออกรายการของเขาตลอด แต่สาเหตุที่ทำให้คนรู้สึกว่าตนสนิทสนมกับนายสรยุทธ์ น่าจะมาจากช่วงน้ำท่วม ที่ตนเคยไปบริจาคเงินตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ปรากฏว่าไม่มีใครรับ โดยอ้างว่าต้องรอรัฐบาลก่อน พอช่อง 3 ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตนจึงนำถุงยังชีพ 5 หมื่นถุงไปให้ เพราะไม่มีทางขนไปส่งให้ผู้ประสบภัยเองได้ เลยต้องให้ช่อง 3 ขนไปให้ ส่วนความสนิทสนมกับ "นายอุดม แต้พานิช" หรือโน้ส นักแสดงเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง มาจากหลังเหตุการณ์ที่บรรดาผู้ค้าในโรงภาพยนตร์สยามถูกเผาในเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี2553 แล้วนายตันก็เข้าไปช่วยเหลือโดยจัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการช็อปปิ้ง” หรือ ศอช.ขึ้นพร้อมกับให้บรรดาผู้ค้าเหล่านั้น นำสินค้ามาวางขายในสนามฟุตซอลอาเรียน่า 10 ของตนในซอยทองหล่อ 10 โดยไม่คิดค่าเช่า ขณะที่นายอุดมก็เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์โดยไม่คิดค่าแรงเช่นกัน หลังจากนั้นตนก็สนิทสนมกับนายอุดม ครั้งหนึ่ง ตนเคยจัดเดี่ยวไมโครโฟนเพื่อระดุมทุนไปใช้ในงานด้านการกุศล ก็มีนายอุดมมาคอยให้คำแนะนำและเป็นโปรดิวเซอร์ให้ ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าวอิศรา” เปิดเผยว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายตันได้ยกมือไหว้พร้อมระบุว่า ขอร้องอย่าโยงตนเข้ากับเรื่องทางการเมือง เพราะบ้านเมืองวันนี้แตกแยกกันมากแล้ว แม้จะรู้จักนักการเมืองอยู่บ้าง แต่ไม่เคยใช้ประโยชน์ในการทำธุรกิจ ก่อนหน้านี้ เคยมีคนชวนให้ตนลงสมัครรับเลือกตั้ง ตนก็ยังปฏิเสธไป เพราะคิดว่า ที่ตนมาถึงวันนี้ได้ ก็เพียงพอแล้ว และตัดสินใจว่า ชีวิตหลังจากนี้ไปจะทำงานด้านการกุศลอย่างเดียว จะไม่ทำธุรกิจใดเพิ่มเติมอีก
ไม่ละครับ เพราะผมไม่ใช่พวกชอบโกหกแบบคุณที่จะฟันธงชาวบ้านโดยไม่มีหลักฐาน คุณต่างหากที่บอกว่าเขาใช้เงินบริจาค เพราะฉะนั้นคุณเองที่ต้องแสดงหลักฐานว่าเขาทำ
ก่อนชุมนุมอันนั้นเงินมัดจำ 60 ล้านบาทครับ ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกัน แต่เมื่อถึงกำหนดก็ผัดผ่อนเรื่อยมา จนมีการดำเนินคดีให้รับโอนที่ดินตามที่ตกลงซื้อไว้ จู่ๆไปเอาเงินจากไหนมาก็ไม่รู้ 220 ล้านบาทมาซื้อ เหมาะเจาะจริงๆมาซื้อตอนลุงกำนันพาสาวกออกเดินเร่ขอทานด้วยนะ ฮา
ก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่มีเงินซื้ออยู่แล้ว ชอบว่าเขาขอทานนะ เขายังทำตัวเป็นแกนนำจนจบ ส่วนพวกตัวเองที่ติดคุกอยู่นะช่วยเหลือเงินประกันมั้งมั้ย แกนนำแต่ละคนอยู่จนเขาเลิกชุมนุมหรือเปล่า ไม่เห็นตอบได้ซักที
มีเงินอยู่แล้ว ไงรีบไปซื้อที่ดิน ปล่อยพ่อออกเดินเร่อย่างกับขอทานครับ หน่ำซ้ำแนะคนอื่น ให้เงินลุงกำนันยืมเลย ผมจะจ่ายหนี้ให้ไม่ต้องห่วง ฮา
ใช่ครับมีเงินแต่ปล่อยให้พ่อร่อนเร่ไม่ได้กลับบ้านนี่ชั่วจริงๆๆนะพานทองแท้ ทักษิณ’โพสต์ไอจีบอกคิดถึงเมืองไทย ‘ทักษิณ’ โพสต์อินสตาแกรมใส่เสื้อแดงกินโจ๊กที่ฮ่องกง บอกคิดถึงเมืองไทย 15 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวชื่อ "thaksinlive" โดยระบุว่า "วันนี้วันอาทิตย์มาทานโจ๊กฮ่องกงที่เคยทานตั้งแต่ลูกๆยังตัวเล็กๆ ครอบครัวยังค้าขายระดับSME อยู่ ยังคงอร่อยเหมือนเดิมและยังมีคนไทยมากินกันเยอะเหมือนเดิม เพราะคนเสิร์ฟก็พูดไทยได้ด้วย คิดถึงเมืองไทยครับ"