ชีวิตผมเองเคยเห็นแต่สื่อเลือกข้าง เอียงข้าง สื่อบิดเบือน ปลุกระดม(สื่อดีก็มีแต่น้อยมากๆ) แต่ไม่เคยเห็นว่าสื่อจะจัดการกันเองได้ หรือใครเคยเห็นบ้างครับ ------------------------------------------------------------------------------------ วันสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนโลก 3 พฤษภาคม 2558 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เรียกร้อง คสช. ยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ 97 ,103 และ คำสั่งที่ 3/2558 ข้อ 5 ตามมาตรา 44 โดยเร็ว เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการปรองดองพูดคุยอย่างเสรี-ปลอดภัย องค์กรวิชาชีพสื่อ ทั้ง 4 ขอย้ำเตือนว่า ทุกฝ่ายในสังคมต้องตระหนักถึงหลักการเคารพเสรีภาพในการแสดงออกของสื่อมวลชนและประชาชน เพราะเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชนมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความโปร่งใส ตามหลักการปกครองด้วยหลักธรรมาภิบาลของประเทศ และการใช้เสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ http://www.isranews.org/thaireform/thaireform-news/item/38323-free_38323.html ------------------------------------------------------------------------------- และขอร้องเหอะ อย่าอ้างประชาชนบังหน้า เพื่อเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะประชาชนเดือดร้อนกันทุกวันนี้ สื่อเองก็มีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน พอๆกับนักการเมือง
บางครั้ง การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพก็เป็นการแสดงความเห็นแก่ตัวอย่างหนึ่ง หลักการ อุดมการณ์ มีไว้อวด แต่ไม่ได้ใช้จริง
มีครับ... สื่อที่มีความรับผิดชอบ แต่สื่อกลุ่มนี้มักไม่เอาคำว่า "เสรีภาพของสื่อ" หรือ "คุกคามสื่อ" มาบังหน้า
พอรู้สถานะของตัวเองอยู่บ้าง แต่ ****ไม่ใช่แค่ปี2557 แต่มันนานมามากกว่านั้น อย่าบิดเบือนอีกเลย ****เมื่อรู้ตัวเองดี แล้วได้ทำอะไรบ้างเพื่อรับผิดชอบ ------------------------------------------------------------------- สถานการณ์ของสื่อมวลชนไทยในรอบปี 2557 ถือว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ถูกกดดันจากกลุ่มมวลชนทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายต่อต้านและฝ่ายที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล อยู่ในสถานะที่ถูกจับจ้องจากทุกฟากฝั่ง ถูกมองเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งเป็นผู้เติมเชื้อไฟให้โหมกระพือมากกว่าเป็นผู้ถอนฟืนออกจากกองไฟ ไม่อยู่ในสถานะที่เป็นที่พึ่งหวังของประเทศเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน
สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ออกแถลงการณ์วันนี้ ระบุว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์มีข้อความระบุถึงการให้เงินและผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนหลายสำนัก เพื่อให้นำเสนอข่าวของพรรคการเมืองหนึ่ง โดยมีการระบุชื่อของผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น ในการประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ประจำเดือนกรกฎาคม 2554 มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบ กรณีนี้ประกอบด้วย น.พ.วิชัย โชควิวัฒน์ รศ.ดร.ดรุณี หิรัญรักษ์ ศ.สิทธิโชค ศรีเจริญ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ และ นางบัญญัติ ทัศนียะเวช โดยให้คณะอนุกรรมการดังกล่าว รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงแก่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ทราบภายในเวลา 15 วัน และจะมีการแจ้งผลการสอบสวนให้สาธารณชนทราบต่อไป http://hilight.kapook.com/view/60510 พ้น 15 วันมาหลายปีแล้ว มีใครโดนลงโทษบ้างไหมครับ
หลุด!เอกสารฝ่ายPRธุรกิจยักษ์ใหญ่ จ่ายสื่อ-ลบกระทู้-อ้างชื่อนักวิชาการ ทีมข่าว TCIJ 14 กรกฏาคม 2557 TCIJได้รับข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งข่าวที่ไม่สามารถเปิดเผยนาม ซึ่งเมื่อได้อ่านข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดแล้ว น่าเชื่อได้ว่า เป็นข้อมูลภายในจริง ที่บันทึกโดยผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศแห่งหนึ่ง ที่ดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีผู้บริหารระดับสูงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่า ถูกจัดอันดับความร่ำรวยเป็นระดับต้นๆของโลก และมักเป็นข่าวในพื้นที่สื่ออยู่บ่อยๆ TCIJ พบว่า ข้อมูลภายในทั้งหมดมีเนื้อหาเกี่ยวกับรายงานการทำงานในหน้าที่ การแก้ข่าว การติดตามลบกระทู้เชิงลบในเว็บพันทิป / เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์และอื่นๆ มีรายชื่อนักข่าวและตัวเลขการจ่ายเงินสื่อมวลชน 19 ราย ตลอดจนความเห็นต่อตัวนักข่าวและพูดถึงกลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดนักข่าว นอกจากนี้ ยังมีรายงานการเขียนบทความตอบโต้ประเด็นข่าวเชิงลบในสถานการณ์ต่างๆ เช่น กรณีไข่แพง ราคาสุกรตกต่ำ เป็นต้น โดยเอกสารภายในระบุการจัดการด้วยวิธีใช้ชื่อนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้บทความมีความน่าเชื่อถือ มีการจ่ายค่าตอบแทน และการใช้นามแฝงให้เป็นเสมือนหนึ่งข้อเขียนของ Third Party หรือบุคคลภายนอกอื่น รวมไปถึงการจัดม็อบเกษตรกรปลอม เพื่อมาเชียร์บริษัทในคราวที่มีเกษตรกรจริงมาประท้วงหน้าบริษัท http://tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=4559 ---------------------------------------------------------------------------------- มีการลงโทษใครบ้างไหม
ชื่อ"นักข่าว"หราโผล่รับเงิน 2 ล.!ผลสอบระบุ"เอแบคโพลล์"ทุ่มจ่ายสื่อ 4.4 ล. เขียนวันจันทร์ ที่ 20 เมษายน 2558 http://www.isranews.org/isranews-news/item/38034-abac_38034.html
รอยพญานาคที่สื่อใหญ่ชอบเอามาพาดหัวบ่อยๆ จ้องแต่จะขายข่าว โดยไม่เคยคิดที่จะ หาทางพิสูจน์ความจริง --------------------------------------------------------------------------
ก่อนวันหวยออก สื่อเขารับผิดชอบดีนะ ต้องลงข่าวตุ๊กแกห้อยหัวลงมากราบตีน วัวควายที่พิการหัวหางขาดหายหรือมีมากเกิน ต้นกล้วยใส่ปุ๋ยมากเกินขนาดจนหัวปลีออกมารูปร่างประหลาด สื่อประกาศให้ชาวบ้านทราบแล้วไปกราบไหว้ขอเลขไปแทงหวย แห่ะๆๆ คนโดนหวยแดกไม่เคยไปสัมภาษณ์ให้ฟังบ้างเลย น่าสงสัยว่า ลำเอียง
กำลังสงสัยเลยว่าทำไมทนายพันธมิตร ถึงไปเป็นทนายให้SLC ที่โยงไปถึงทักษิณ ปล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : รายละเอียดข่าว www.set.or.th/set/newsdetails.do;...SLC...SLC... 19 มี.ค. 2555 - ... แชนแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีผู้ถือหุ้นใหญ่และบริหารงานโดย คุณยุวดี บุญครอง(ภรรยา คุณโฆสิต สุวินิจจิต ประธานกรรมการของ SLC และกรรมการบริษัท สปริง ... ยุวดี ก็ต่อสายไปถึงทักษิณได้
เป็นเสรีภาพในการ เทคโอเวอร์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เขมือบ นะครับ ไม่แน่ว่าในทางลับ ๆ S... ได้ เทคโอเวอร์ สื่อไอ้แป๊ะไปตั้งนานแล้ว มันถึงมีพฤติกรรมจัญไร โจมตีกลุ่มต่อต้านไอ้เหลี่ยมทุกกลุ่ม ขนาดเรื่องการผูกขาดและการปรับราคาน้ำมันของ ปอตอทวย ที่รู้กันว่ามีนอมิมีของไอ้เหลี่ยมถือหุ้นเยอะมาก ... สาวกไอ้แป๊ะยังสามารถเอามาด่า ปชป. กับ รัฐบาลนี้ แชร์กันวันละเป็น 10 เฟสได้ โดยไม่ด่าไอ้เหลี่ยมสักคำ
ทำไมเห็นข่าวสื่อส่วนใหญ่มีแต่คนออกมาร้องเรียกเสรีภาพ ผมว่าน่าจะออกมาร้องเรียกสิทธิและหน้าที่ของสื่อมากกว่า ทุกวันนี้ที่มันมีปัญหากันไม่ใช่เพราะเสรีภาพไม่เพียงพอหรอกครับ ผมว่ามันเกินพอแล้ว แต่คนมันไม่ซื่อตรงต่อสิทธิและหน้าที่ที่ตัวเองมี เบี้ยวไปเบี้ยวมาเลยเกิดปัญหา ผมอยากเห็นจริง ๆ ว่ามีสื่อไหนที่ยึดข้อนี้เป็นหลักบ้าง
ฮะ ๆ เปิดมาเห็น คุณกุ๊กไก่ เอาคลิป รอยพญานาคมาให้ดู แล้วผมนึกถึง บ้านพี่ชาย (ตอนนี้ขายไปแล้ว ) เลย ตอนน้ำท่วมปี 2554 อะ ฝีมือน้องปูนานะ ผมเข้าไปทำความสะอาดบ้าน วันแรก ตกใจจนแทบอยากจะกลับบ้านเลย เห็นไปรอยคล้าย ๆ งี้แหละ แต่เล็กกว่านะ ทีแรกเพื่อนบ้านข้าง ๆ มาผสมโรงว่า สงสัยงูนะเนี่ย คือรอยมันคล้ายงูเลื้อย มาก ๆ เลย แล้วยังอุตส่าห์บอกอีกด้วย ว่าระวังนะ เปิดประตูห้องใด ห้องหนึ่ง อาจจะเจอเข้าให้ ได้ฟังดังนั้น ผมก็ขาสั่นทันที (แล้วอย่างนี้ ตรูจะอยู่ต่อดีเหรอนี่) แต่เพราะมีคนไปเยอะ เลยยังพอใจดีสู้เสือ แล้วที่สุด เรื่องมันมาถึงบางอ้อจนได้ พี่ชายผมพบเปลือกหอยทาก อยู่เปลือกหนึ่ง เอามาวัดได้รอยเกือบเท่า รอยงูเลย เออ นั่นอะ สุดท้ายที่เลื้อยไม่ใช่งู แต่เป็นหอยทาก ผมว่านักข่าว มันไม่โง่หรอก บางคนมันเห็นทีแรก มันรู้แล้วอะ แต่ถ้าไปออกข่าวว่า นี่รอยหอยทากนะ เออ คนมันจะอยากดู อยากฟังต่อไหมอะ เข้าใจนะ เวลาพูดถึงพญานาคอะ คนเรามันก็หูผึ่งแล้วอะ อะไรที่คนมันไม่เคยเห็น มันย่อมอยากรู้อยากเห็น มากกว่าปกติอยู่แล้ว นี่อะ จรรยาบรรณสื่อ เค้าล่ะ
อ่านวิธีการเขียน ที่มาจากความนึกคิด พอคาดเดาได้ว่า เขียนเพื่อโฆษณาเชียร์นิตยสารเอามันส์ สาระไม่ต้อง เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร นิตยสารขายไม่ออกไม่เป็นไร ขอแต่ให้ยอดค่าโฆษณาอย่าลดลงเป็นพอ เลยต้องเขียนให้เข้าทางผู้มีอุปการะคุณให้มากๆ สนุกนึก โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร วันที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19:00:02 น. คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 นั่ง "นึก" เล่นๆ หากร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ "36 มหาปราชญ์" ถูลู่ถูกังออกไปใช้ได้ จะมีผลบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เอาเรื่องตัวเรา--ที่ถูกนิยาม ให้เป็น "พลเมือง" นี่แหละ 36 มหาปราชญ์เขาเขียนไว้ในมาตรา 26 วรรคสองว่า "พลเมืองต้องไม่กระทำการที่ทำให้เกิดความเกลียดชังกันระหว่างคนในชาติหรือศาสนา หรือไม่ยั่วยุให้เกิดการเลือกปฏิบัติ การเป็นปฏิปักษ์ หรือการใช้ความรุนแรงระหว่างกัน" เกิดคำถามขึ้นมาว่า หากมีพลเมืองที่อวยกันว่าเป็น "พลเมืองดี" นั้น ไปเขียนข้อความในสื่อโซเชียลมีเดียว่า "รู้งี้ยอมขายบ้านขายรถซื้อทัวร์ให้พวกซาตานรกแผ่นดินบ้านเกิดทั้งแก๊ง ไปเที่ยวเนปาลและปีนเขาเอเวอเรสต์ตรงกับวันแผ่นดินไหว คงทำให้ชีวิตเรารู้สึกตื่นเต้นมีลุ้น เหมือนนั่งลุ้นหน้าจอทีวีวันหวยออก แค่ฝันเล่นๆ ก็เป็นสุขแล้ว" เราจะตีความกันอย่างไร ถ้าตีความ "ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ" เพราะไม่ได้หมายถึงใคร "ซาตาน" รกแผ่นดินเป็นใครก็ไม่รู้ ก็ปล่อยให้ "ดื้อตาใส" ไปตามสบาย แต่หากขึงขังขึ้นมา โดยเห็นว่า "ขัด" รัฐธรรมนูญ ก็มีคำถามว่า ขัดแล้ว จะเป็นอย่างไร บอกตรงๆ นึกไม่ออกจริงๆ จะปลดจากความเป็น "พลเมือง" แล้วให้ไปเป็น "ซาตาน" ที่ไหน อย่างไร คิดแล้วก็ชวนให้ "เบลอๆ" หรือเป็นแค่ "ฝันให้ไกล" แต่ "ไปไม่ถึง" เท่านั้น กฎหมายสูงสุดของประเทศถูกปรามาสเช่นนี้ก็น่าห่วงอยู่เหมือนกัน แต่ที่ห่วงยิ่งกว่า ไม่ได้เป็นห่วงว่าจะขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญเท่าไหร่นัก แต่ห่วงว่าหากพลเมืองที่เชื่อตนเองเป็นพลเมือง "ดี" กลับมี "จิตใต้สำนึก" ที่มองเห็น "ฝ่ายที่เห็นต่าง" หรือ "ฝ่ายที่เราไม่ชอบ" เป็น "ซาตาน" และยังสนุกสนานที่จะเห็น "ซาตาน" เหล่านั้น ไปเผชิญกับ "โศกนาฏกรรม" อันสลดใจอย่างที่ "เนปาล" ด้วย หากเป็นเช่นนี้ประเทศไทยเราคงไม่ไปไหน นอกจากจมอยู่ในหล่มความขัดแย้งและเกลียดชังลึกยิ่งขึ้นทุกที พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ขออนุญาตพูดถึงร่างรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามพลเมือง "ต้อง" ไม่ยั่วยุให้เกิด "การเลือกปฏิบัติ" ต่ออีกสักนิด เพราะตอนนี้ ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ทวงคืนที่ดินของหลวง กำลังฮิต ซึ่งถ้าเป็นการ "ฮิต" แล้ว ทำให้เราได้ที่หลวง ได้ผืนป่าคืนมา ก็จะยกมือท่วมหัว แต่ทำไปทำมา เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลายกรณีเป็นการทำไปตามแรงยุ ให้เช็กบิลบางพวกบางฝ่ายที่ "ไม่ใช่พวกเรา" เสียมากกว่า คำว่า "เลือกปฏิบัติ" จึงกระหึ่ม การไล่ล่าคนดังที่เขาใหญ่ จะไม่มีใครว่าเลย หากเป็นการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน จะไชโยโห่ร้องกับความสามารถอันเยี่ยมยอดกับการทวงคืนพื้นที่ 8 ไร่คืนจากพิธีกรดัง ก็ไม่ว่าเลย หากบรรทัดฐานนี้นำไปใช้กับพวกบุกรุกที่ป่าเป็นร้อยเป็นพันไร่ ที่แลเห็นกันอยู่โต้งๆ ด้วย ไม่ใช่เพราะเอ็งดัง รวย น่าหมั่นไส้ ไม่มายืนอยู่ข้างเดียวกัน เลยต้องยั่วยุให้เชือด อย่างนั้นคงไม่ไหว และทำให้เราต้องนั่งลง "สนุกนึก" กับสิ่งที่ "มติชนสุดสัปดาห์" ยั่วและยุ ให้คิดแบบไม่กลัวขัด(ร่าง)รัฐธรรมนูญ กรณี "เนปาล" บทเรียน : ความชัง ของ "ชนชั้นนกหวีด" กรณี "สรยุทธ" บทเรียน : ริษยา ของชนชั้นกลาง ใช่หรือไม่ และทำไม
มติชั่ว นับวันยิ่งตกต่ำลงไปเรื่อยๆ การยกเอาการโกงของสรยุทธ มาเป็นตัวอย่างว่า คนชั้นกลางริษยา แล้วชั้นไพร่แดงนี่ไม่ริษยา สุรยุทธ เขาสอยดาว และเขาแพง หรือ ก็เห็นเล่นกลุ่มตรงข้ามมาตลอด แต่พอพวกตัวเองโดนบ้าง กลับหาว่าเขาริษยา ความจริงครึ่งเดียว มติชั่วมันถนัดนักล่ะ
ไม่เคยเห็นสื่อควบคุมกันเอง ผมคิดว่าควรมีองค์กรผู้บริโภคสื่อขึ้นมาให้ license จดทะเบียน ควบคุมลักษณะการเผยแพร่ ถ้ามีการทำผิดก็ถอนใบอนุญาต และใน Social media ต้องให้ ผู้ให้บริการทั้งไทยและต่างประเทศ กำหนด Origin ของข่าวหรือรูปภาพ หรือ วีดีโอ ว่าเกิดจากบัญชีไหนเข้าระบบเป็นครั้งแรก เพื่อ trace ถึงต้นตอข่าวลือ
"คุณจะทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อสื่อสารมวลชนและสถาบันของตัวเองอย่างนั้นหรือ" บรรณาธิการข่าวท่านหนึ่งได้กล่าวไว้.... ก่อนที่จะบอกนักข่าวคนนั้น ให้ไปทำข่าวอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ขององค์กรอีกต่อไป
ขอเลียนแบบคำพูด ของปธน.เคนเนดี้บ้างเหอะ “อย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามตัวท่านเองว่าท่านจะทำอะไรให้ประเทศชาติ” ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ "สื่อจงถามตัวเองก่อนเถอะว่า พวกท่านมีความรับผิดชอบ ต่อพฤติกรรมของพวกท่านเองอย่างไรบ้าง แล้วค่อยเรียกร้องหาเสรีภาพ"
ริษยานี่เป็นตรรกะของคนที่หลงตัวเอง สำคัญตัวผิด มีเงินเยอะ เป็นคนดัง แต่ทำผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ วิญญูชนไม่ไปอิจฉาหรอก มีแต่จะรังเกียจ
เห็นคำนิยมตัวเอง แล้วอยากอาเจียร -------------------------------------------------------------- THAI E-NEWS ข่าวสารเกี่ยวกับประเทศไทยที่คุณไม่อาจหาอ่านได้จากสื่อ หยัดยืนชูธงสัจธรรมโต้กระแสทวน ปรับขบวนก้าวรุดไป สู่ชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย ประเทศไทยต้องมีธรรม http://thaienews.blogspot.com/2015/05/blog-post_4.html
จัดการกันเอง ยังไม่เห็น แต่เชียร์กัน อวยกันเองเนี๊ยะ.....ชัดเป้ง -------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณข่าวสดและมติชนฉบับวันนี้ ที่ลงข่าวเรื่องของเราให้ https://www.facebook.com/ref4dem ------------------------------------------------------------------------- คนเดิมๆ หน้าเดิมๆ ที่ทำแต่เรื่องปัญญาอ่อน นักวิชาการ นักศึกษา กลุ่มสหภาพแรงงาน นักเขียน ผู้กำกับ สื่อมวลชน นักการเมือง และประชาชนภาคส่วนต่างๆ ร่วมเรียกร้องให้มีประชามติร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นประชาธิปไตย นักวิชาการชั้นนำ นักกิจกรรม นักศึกษา กลุ่มสหภาพแรงงาน นักเขียน ผู้กำกับ สื่อมวลชน นักการเมือง และประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ กว่า 150 คน อาทิ นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, เกษียร เตชะพีระ, จอน อึ้งภากรณ์, สุชาติ สวัสดิ์ศรี, ซะการีย์ยา อมตยา, เป็นเอก รัตนเรือง, ปิยบุตร แสงกนกกุล, สฤณี อาชวานันทกุล, รวมทั้งจาตุรนต์ ฉายแสง ร่วมกันเรียกร้องประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย
แบล๊ค เลเบิ้ล 750 ml. ในงานครบรอบวันเกิด"ข่าวสัด"หายไปขวดเดียว คนเก่าคนแก่ตั้งแต่สมัยเริ่มต้นยังต้องตกงานมาแล้วนะครับ
มีข่าวนี้ที่เห็น บางสื่อจัดการ เอากันเอง http://www.manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052062 วิจารณ์สนั่น! สาว "เซ็กซี่ทีวี" สวมชุดชั้นในเล่าข่าวโชว์ช่องดาวเทียมโจ๋งครึ่ม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2558 22:02 น. (แก้ไขล่าสุด 8 พฤษภาคม 2558 00:40 น.) สังคมออนไลน์วิจารณ์สนั่น สาวนางแบบช่อง "เซ็กซี่ วูเมน ทีวี" สวมชุดชั้นในจัดรายการเล่าข่าวตอนสี่ทุ่ม พบ ขอใบอนุญาต กสทช. ใช้ชื่อ "เอส.อี.เอ็กซ์.วาย" ป้องกันถูกเพ่งเล็ง "ต้อย แอคเนอร์" บริหาร รายงานข่าวแจ้งว่า ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์กรณีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม SEXY Women TV นำสุภาพสตรีสวมเสื้อชั้นในบิกินีท่อนบนมาจัดรายการโทรทัศน์ว่าไม่เหมาะสม พร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาตรวจสอบ โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรายการ SEXY ON LINE ออกอากาศทุกวัน เวลา 22.00-23.00 น. สำหรับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม SEXY Women TV ออกอากาศผ่านทางจานดาวเทียมพีเอสไอช่อง 69, ดีทีวีช่อง 9 และ 54, จีเอ็มเอ็ม แซด ช่อง 234, ไทยแซท ไอเดียแซท อินโฟแซท ช่อง 119 รวมทั้งแอปพลิเคชั่น PSI Mobile TV โดยสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวนำเสนอเนื้อหาภายใต้คอนเซ็ปต์ Secret Emotion, X-ray you like เจาะลึกความเซ็กซี่ที่ผู้หญิงต้องรู้ เวลา 06.30-19.00 น. ตอบโจทย์ทุกคำถามกับทุกคู่รัก เวลา 19.00-06.30 น. จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์ พบว่า สถานีโทรทัศน์ดังกล่าวได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภทไม่ใช้คลื่นความถี่ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยบริษัท ยู เบสท์ พ้อยท์ มีเดีย จำกัด ได้ขออนุญาตโดยใช้ชื่อ "เอส.อี.เอ็กซ์.วาย วูแมน ทีวี ชาแนล" ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2557 และสิ้นระยะเวลาอนุญาตประกอบกิจการ 21 เม.ย. 2559 ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ยู เบสท์ พ้อยท์ มีเดีย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2552 ทุนจดทะเบียน 48 ล้านบาท วัตถุประสงค์แพร่ภาพ กระจายเสียงวิทยุโทรคมนาคมผลิตสื่อโฆษณา มีคณะกรรมการบริษัทประกอบด้วย นายวรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์, นายอนิศ โอสถานุเคราะห์, นายนพรัตน์ ชัยยะ และ นายชลพรรณ วงษ์สิงห์ โดยนายอนิศ เป็นที่รู้จักกันดีในนาม "กิ๊ก อนิศ" เป็นนักเขียนที่เคยเขียนหนังสือที่ชื่อว่า “หักหลังผู้ชาย” ซึ่งมีชื่อเสียงในอดีต ส่วนนายวรัญญู ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเซีย จอยท์ พาโนราม่า จำกัด (มหาชน) หรือ AJP โดยก่อนหน้านี้ AJP ได้ซื้อกิจการบริษัท ยู เบสท์ พ้อยท์ มีเดีย มูลค่า 45 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557 โดยจัดสรรหุ้นสามัญของ AJP เป็นค่าตอบแทน จำนวน 5.625 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 8 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ ยู เบสท์ พ้อยท์ มีเดีย ได้แก่ กลุ่มทวีปวรเดช และนายดิษพันธ์ ตรีมานดา นอกจากนี้ ยังพบว่าสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว ได้ให้นายเกรียงศักดิ์ สกุลชัย หรือ ต้อย แอคเนอร์ เป็นผู้บริหารช่องอีกด้วย