ผมชื่นชอบการสรุปบทความของ คุณ Pat เป็นทุนเดิม แต่คราวนี้ผมกลับเห็นว่า คุณ Pat อาจมองสถานการในทางร้ายไป แต่อย่างไรก็ตามผมเห็นว่าบทความนี้น่าสนใจมากครับ จึงขออนุญาตเอามาฝากกัน ปล โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่ามะกันชักจะกลิ่นแหม่งๆขึ้นทุกที เพราะดันไปให้อาวุธ+เงิน สนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดน จนทำให้ซีเรียมีทุกวันนี้ ทั้งที่อัสสาด ที่สื่อเมกาด่ากันก็มาจากการเลือกตั้ง แล้วยังถือวิสาสะเข้ามาถล่มประเทศซีเรียทางอากาศ โดยอ้าง Isis โดยไม่ได้ผ่านใคร พอรัสเซียทำบ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กลับดิ้นสะงั้น
เมื่อรัสเซียร่วมถล่มไอเอสในซีเรียอะไรจะเกิดขึ้น ? นักวิเคราะห์คนหนึ่งของซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์ว่า ทำไมการเข้าร่วมรบของรัสเซียถึงทำให้ปธน. โอบามาอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดยชี้ว่า การที่รัสเซียนำเครื่องบินรบรุ่นใหม่มาเข้าประการในครั้ง คือเครื่องบินรบเอนกประสงค์ซู-30 และเครื่องบินโจมตีขับไล่ทิ้งระเบิด ซู-34 ตลอดจนเครื่องบินรบสำหรับการโจมตีภาคพื้นและเฮลิคอปเตอร์นั้น มีนัยที่สำคัญ ทั้งนี้เพราะเครื่องบินรบของรัสเซียมีสมรรถนะสูงและสามารถต่อกรกับเครื่องบินรบของชาติตะวันตกที่ปฏิบัติงานอยู่ในซีเรียได้ ในประเด็นนี้หมายความว่า ไม่เพียงแต่สหรัฐฯ กับพันธมิตรจะต้องดึงรัสเซียเข้าร่วมวงหารือในการวางแผนออกปฏิบัติการเพื่อรับประกันเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น แต่สหรัฐฯ กับพันธมิตรยังจะต้องนำเรื่องสมรรถนะของเครื่องบินรบรัสเซียร่วมประเมินถึงความเสี่ยงต่อปฏิบัติการของกองกำลังพันธมิตรด้วย กำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่รัสเซียระดมมาใช้ในครั้งนี้เป็นเพียงส่วนเศษเสี้ยวของกองทัพรัสเซีย แต่ปธน. วลาดิเมียร์ ปูตินได้ทำให้ปธน. บารัค โอบามาไม่มั่นใจในตนเอง นอกจากนั้นกลยุทธ์การสู้รบของพันธมิตรที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำยังมีความยืดหยุ่นน้อย การเดินเกมของปธน. ปูตินทำให้สหรัฐฯ กับพันธมิตรต้องยอมรับว่า รัสเซียมีบทบาทที่สำคัญต่อยุทธศาสตร์ในซีเรีย แฟรงค์ การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีที่เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางมากคนหนึ่ง เห็นว่าการเข้าสู่น่านฟ้าซีเรียของรัสเซียพร้อมด้วยเครื่องบินรบที่ทันสมัย ทำให้กระดานหมากด้านยุทธศาสตร์ของตะวันออกกลางสั่นคลอน สหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรไม่เต็มใจต้อนรับรัสเซียเลย โดยเฉพาะหากรัสเซียโจมตีกลุ่มกบฏที่สหรัฐฯ หนุนหลังอยู่ด้วย สหรัฐฯ กับพันธมิตรเห็นว่ารัสเซียจะยิ่งทำให้สงครามที่ไม่มีวันชนะได้นี้ยืดเยื้อต่อไปอีก รวมทั้งการลงจากอำนาจของปธน. อัสซาดจะยิ่งล่าช้าออกไป แต่ซีเรียกับอิหร่านที่เป็นพันธมิตรของซีเรียกลับยินดีและเห็นว่า การเข้ามาของรัสเซียจะช่วยต่ออายุให้กับกองทัพซีเรียที่กำลังเหนื่อยล้า ทั้งจะช่วยให้ซีเรียยึดพื้นที่บางส่วนกลับคืนมาได้ และช่วยปราบกบฏที่ต่อต้านปธน. อัสซาดให้หมดสิ้น เว้นแต่กลุ่มนักรบไอเอสกับกลุ่มแนวร่วมนูสราที่จะยังคงไม่หมดไปง่าย ๆ ประเด็นที่สหรัฐฯ เป็นห่วงมากที่สุดคือ เครื่องบินของตนอาจปะทะกับเครื่องบินของรัสเซียเหนือน่านฟ้าซีเรียได้ ทั้งนี้สหรัฐฯ กับพันธมิตรใช้ฐานทัพอากาศที่กาตาร์เป็นศูนย์บัญชาการปฏิบัติการทางอากาศเพื่อโจมตีไอเอส แต่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รัสเซียได้ประกาศเปิดศูนย์บัญชาการแห่งใหม่ขึ้นในกรุงแบกแดด โดยมีรัสเซีย อิหร่าน ซีเรียและอิรัก ปฏิบัติการร่วมกัน แน่นอนว่าไอเอสเป็นกลุ่มที่อยู่ในบัญชีที่รัสเซียจะต้องจัดการ แต่ทั้ง 4 ประเทศนี้ก็เห็นพ้องกันว่ากบฏทุกกลุ่มที่ต่อต้านปธน. อัสซาดคือศัตรูที่จะต้องจัดการด้วย ขณะที่สหรัฐฯ กับพันธมิตรเห็นว่าการเข้ามาของรัสเซียจะทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความยุ่งเหยิงมากขึ้น ทั้งจะบั่นทอนความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการกับไอเอสด้วย http://www.isranews.org/isra-news/item/41807-syria.html จอมกร่างของโลก คงต้องรีบเจรจากะรัสเซีย เพราะต่อไปน่านฟ้าซีเรีย ไม่ใช่เขตยึดครองของตนซะแล้ว บินมั่วๆอาจโดนสอยร่วงให้เป็นที่อับอายของชาวโลก
ที่เจ็บปวดหนักคือยุโรปกับตะวันตกอุตส่าห์ปลุกปั้นไอซิสมากลับมือวันดีคืนดี พอกระแสรวมรัฐจุดติดกลับประกาศอิสระภาพไม่อยู่ใต้อาณัตินายทุนซะงั้น ยิ่งตุรกีร้อนๆหนาวเพราะไอซิสมายืนเคาะหน้าประตูบ้านแล้วถ้าผู้ลี้ภัยที่อพยพเข้าไปในตุรกี หันมาใส่ไอ้โม่งหรือคลุมหน้าเมื่อไหร่ตุรกีมีหนาวเพราะมีพวกอพยพบางกลุ่มไม่ยอมเข้าค่ายอพยพ
ผมว่าอเมริกาเจ็บทั้งนั้นไม่ว่าISISหรือฝ่ายกบฏต่อต้านอัสซาดถูกรัสเซียยำ เพราะจริงๆแล้วISISกับฝ่ายกบฏแยกจากกันไม่ออก เพียงแต่สำหรับอเมริกา การให้เงินและอาวุธยุทโธปกรณ์กับฝ่ายกบฏ ดูแล้วน่าเกลียดน้อยกว่าไปสนับสนุนISISเท่านั้น
"ประกาศเปิดศูนย์บัญชาการแห่งใหม่ขึ้นในกรุงแบกแดด โดยมีรัสเซีย อิหร่าน ซีเรียและอิรัก ปฏิบัติการร่วมกัน แน่นอนว่าไอเอสเป็นกลุ่มที่อยู่ในบัญชีที่รัสเซียจะต้องจัดการ แต่ทั้ง 4 ประเทศนี้ก็เห็นพ้องกันว่ากบฏทุกกลุ่มที่ต่อต้านปธน. อัสซาดคือศัตรูที่จะต้องจัดการด้วย ขณะที่สหรัฐฯ กับพันธมิตรเห็นว่าการเข้ามาของรัสเซียจะทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความยุ่งเหยิงมากขึ้น ทั้งจะบั่นทอนความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการกับไอเอสด้วย" งง ว่า อเมริกา ไม่ได้มีอำนาจเหนืออิรัค แล้วหรือ ถึงยอมให้ กลุ่มอื่นเข้ามาตัั้งศูนย์บัญชาการรบ ในแบกแดด????
ผมคิดไปเองนะครับจากที่ติดตามข่าว คือรัฐบาลอิรัคเองก็โดน ไอเอส เล่นงานจนจะแย่และคืบคลานเข้ามาใกล้แบกแดแทุกขณะ ในขณะที่อเมริกาก็ช่วยเหลือแบบไม่จริงใจ รัสเซียเข้ามาเลยเป็นโอกาสดีตั้งศูนย์บัญชาการรบร่วมกันในแบกแดดซะเลย ผู้เชี่ยวชาญทางทหารของรัสเซียที่ส่งเข้าไปศูนย์บัญชาการรบที่แบกแดด อิรัก
ที่ต้องไปช่วยอิรักเพราะไอ้กันมันจำใจเพราะไปถล่มเขาไว้เสียเละเทะจนทุกวันนี้ทหารของอิรักมีสมรรถนะแค่ตำรวจบ้านไม่ใช่ทหารอาชีพส่วนใหญ่ที่มีอยู่ก็เป็นทหารใหม่แทบทั้งนั้นจะไปรบกับขบวนการมีเขาก่อตั้งกันมานานได้อย่างไรรบเมื่อไหร่ก็แพ้
รอดูครับ ถ้ายืดเยื้อจนหลายประเทศแบ่งเป็นสองฝ่ายแล้วร่วมมือกันรบอีกฝ่าย นั่นก็มีสิทธิครับ สำหรับผม ผมว่ายังไม่แรงขนาดนั้น
http://chaoprayanews.com/blog/socialtalk/2015/10/06/โซเชียลเฮฮา-การ์ตูนล้อโ/ สื่อดังตะวันตกพ่ายสงครามข่าวสารยับเยิน : สื่อสัญชาติรัสเซียทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น ใครจะรู้บ้างว่าตลอดเดือนกันยายนมาถึงต้นตุลาคมนี้ “สื่อกระแสหลัก” แบรนด์เนมเจ้าเก่าก๊กตะวันตก จะหมดรูป กลายเป็น “สื่อกระแสตก” กันเป็นแถว (ดูแบรนด์คุ้นเคยที่ตกตลาดตามภาพ) เมื่อ RT (Russia Today) สื่อสัญชาติรัสเซียชิงพื้นที่ความไว้วางใจจากมวลมหาประชาชนทั่วโลก ทั้งข่าวโทรทัศน์ ออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊ก(ทำสถิติคนกด likeเกิน 3 ล้าน) ที่ผู้คนเข้าไปติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และมุมมองที่หาไม่ได้จากพวกตะวันตก ซึ่งเผยแพร่ข่าวสาร-ความเห็นแบบตะแบงๆ และทำแชเชือนกับเรื่องร้อนๆในการประชุมสหประชาชาติ และเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง เหมือนกับพยายามจะเบนความสนใจ หรือให้ชาวบ้านปิดตาข้างเดียวไม่ให้เหลียวไปดูเรื่องสำคัญๆกับเขาจริงๆ ขณะที่ RT ซึ่งมีสำนักงาน/ผู้แทนอยู่หลายประเทศ ทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง รายงานสดๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงพริกถึงขิง รอบด้าน มาจนถึงวินาทีปูตินสั่งถล่มผู้ก่อการร้ายในซีเรีย รวมถึงสกู๊ปสัมภาษณ์ผู้นำซีเรียที่เผยประโยคเด็ดออกมาว่า “ถ้าพวกคุณวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องผู้อพยพก็หยุดให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายเสียสิ” และที่กระแสความนิยมร้อนฉ่า พุ่งพรวดก็เห็นจะเป็นช่วงดารานำประคารมกันระหว่างโอบามากับปูติน…นั่นเอง http://chaoprayanews.com/blog/socialtalk/2015/10/06/นิยามประชาธิปไตยแบบโอบ/
พลังประชาชนนิวส์ ต่อต้านคอรัปชั่น นี่หรือคือภาวะผู้นำ ? เมื่อโอบามาแถลงข่าว ที่ทำเนียบขาว และไม่พอใจ เมื่อนักข่าวถาม ก็แสดงอาการอย่างที่เห็น
Russian warships attack ISIS positions in Syria from Caspian Sea Russia’s Defense Ministry has published a video of its warships firing cruise missiles from the Caspian Sea to hit the positions of Islamic State militants in Syria. พลังประชาชนนิวส์ ต่อต้านคอรัปชั่น กองทัพเรือรัสเซียยิงขีปนาวุธ จำนวน 26 หัวรบ จากเรือรบในทะเลแคสเปียน ถล่มไอซิสใน ซีเรียที่อยู่ห่างออกไป 1,500 กิโลเมตร ในปฏิบัติการครั้งนี้ กองทัพเรือรัสเซียยิงขีปนาวุธจำนวน 26 หัวรบจากเรือรบ 4 ลำที่จอดในทะเลแคสเปียน เพื่อไปทำลายเป้าหมาย 11 แห่ง ซึ่งเป็นฐานของพวกไอซิสในซีเรีย ระยะทางที่ขีปนาวุธเดินทางคือ 1,500 กิโลเมตร ก่อนที่จะถึงเป้าหมายอย่างแม่นยำ และสามารถทำลายฐานของพวกไอซิสยับเยิน โดยที่ไม่มีข่าวว่าพลเรือนผู้ใดเสียชีวิต การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เพื่อถล่มพวกไอซิสได้รับความร่วมมือจากอิหร่านและอิรัก เพราะว่าขีปนาวุธเดินทางผ่านประเทศทั้ง2ก่อนที่จะเข้าไปในประเทศซีเรียเพื่อถึงเป้าหมาย นอกจากจะโชว์ความแม่นยำและประสิทธิภาพของขีปนาวุธรัสเซียแล้ว รัสเซียต้องการแสดงให้เห็นว่าปฏิบัติการรบกับพวกไอซิสได้รับความร่วมมืออย่างดีจากอิหร่านและอิรัก
มันเป็นขีปนาวุธ Scud ครับ ข้อดีคือ ระยะไกลตั้งแต่ 180-700 กม. ข้อเสียคือ ไม่แม่นยำ ไม่แน่ใจว่ารุ่นที่อิหร่านมีเป็นรุ่นอะไร ถ้าเป็น Scud-B ความแม่นยำจะอยู่ที่ 450 เมตร (หมายความว่า ขีปนาวุธจะตกลงตรงไหนก็ได้ ในรัศมี 450 เมตรจากจุดที่เล็ง) ถ้าเป็นหัวรบธรรมดา ก็ไม่ใช่อาวุธที่น่ากลัวอะไรหรอกครับ เป็นอาวุธพื้นๆทั่วๆไป เพราะรุ่นนี้เวียดนาม ก็มีครับ การเจาะอุโมงค์อย่างนี้ ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ในปัจจจุบันหรอกครับ เพราะอาวุธนำวิถีสมัยนี้ แม่นยำมาก ถ้าโจมตีที่ทางเข้า ข้างในอุโมงค์จะถูกแรงอัด แล้วเละเป็นโจ๊กเลยครับ
ผมผิดเองครับ ไปหยิบตัวเลขผิดมา ไปตัวเลข CEP 450 เมตร มันนับแค่ 50% ของกระสุนที่ตก ถ้ายิงไม่กี่นัด อาจจะไม่ถูกวง 450 เมตรเลยก็ได้