ที่อนุมัติโครงการจำนำยุ้งฉาง วงเงิน 3.5 หมื่นล้าน ไปเมื่อปี 57 ตอนนี้มันขาดทุน, หรือมีกำไร, มันสร้างความเจริญ หรือได้สร้างความเสียหาย อะไรยังไงบ้าง ? ใครพอจะมีความรู้ มีข้อมูลเรื่องนี้บ้างครับ .... เอาแบบที่มีเก็บไว้ในบนศีรษะ ณ. เวลานี้ ก๊อบมาวาง อันนั้นไม่ต้องก็ได้ ผมทำเป็น อยากรู้ในหัวสมอง พากันมีอะไรเก็บไว้ไหม แค่นั้นเองแหล่ะ ไม่มีไรมาก
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1445906236 เขาช่วยกันตามสมควร คนไทยwin-win ทุกคนรับได้ ไม่ใช้เหมือนรัฐบาลปูที่ตั้งโครงการ"จำนำข้าวเขมร-ข้าวพม่า" รับซื้อกันจนเจ๊งไปทั้งชาติเป็นแสนล้าน #ของแค่นี้นายเวรคิดไม่เป็น? แล้วคนที่รวยคือโรงสีที่เป็น"หัวคะแนน" แค่นี้ทำมึนไอ้ship lost !
แล้วคนตั้นกระทู้ถามนี่ มีข้อมูลเรื่องโครงการจำนำยุ้งฉาง อะไรบ้าง เดี๋ยวเอาวิธีการและการดำเนินงานของโครงการมาบอก ส่วนการจำนำยุ้งฉางนั้นชาวบ้านเก็บข้าวเปลือกที่ยุ้งฉางตนเอง สอดคล้องวิถีของชาวนาภาคเหนือและอีสาน ผลประโยชน์ถึงชาวนา ไม่ต้องเสียค่าสีแปรและค่าเช่าโกดังเก็บข้าวสาร ส่วนค่าจ้างเก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางก็ตกถึงมือชาวนา ค่าบริหารจัดการน้อยกว่า ทุจริตยากกว่า ยกเว้นชาวนาแอบเอาไปขายเองหรือจำนำลม นี่ตรงกับหลักการรับจำนำของจริง
ความรู้ข้อมูลโครงการจำนำยุ้งฉาง กระผมมิมี แต่ถ้าใช้หลักการเดา ก็คงใช้วิธีการแบบเก่าๆ คือลอกเค้ามา เปลี่ยนแค่ชื่อ ข้อมูลเรื่องจำนำยุ้งฉางมิมี แต่ก็พอจะเป็นคนที่ตื่นรู้ทันโลกเสรี เป็นคนหัวก้าวหน้าพัฒนาตามโลกที่เปลี่ยนไป ก็เลยรู้ว่า ยุ้งฉางมันสาบสูญหายไปจากสังคมไทยนานแล้ว บ้านไหนเค้ามีไว้กัน ..... นี่ล่ะน๊า ชอบอยู่ในกะลากัน ไม่เรียนรู้พัฒนาปรับสภาพตามโลกที่เปลี่ยนไป เวลาเค้าเรียก พวกล้าหลังดักดาน อย่าไปว่าเค้าล่ะ ....
ใช่ๆ "จำนำยุ้งฉาง" มันล้าหลังดักดาน สู้ "จำนำข้าว 15,000 บาท/ตันแบบแม่ปู" ไม่ได้ ฉิบหายไปก็แค่ 5 แสนล้านเอง แถมคนทำโครงการก็โดนเรียกเงินคืนไปอีก 2.8 แสนล้าน เท่านั้นยังไม่พอ ยังตั้งบริษัทฮั้ว G2G เก๊ อีก 4 บริษัท ไม่ here จริง ทำแบบนี้ไม่ได้นะเนี่ย ********************************************************* ตัวเลขสรุปบัญชีในโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2 ปี 4 รอบการเพาะปลูก ขาดทุนกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งจากนี้จะเลือกชดเชยส่วนขาดทุนการรับจำนำข้าวให้เหมาะสม โดยไม่กระทบกับงบพัฒนาประเทศ ชดใช้จำนำข้าว 2.8 แสนล้าน พยานยืนยัน ไม่เร่งรัดตรวจสอบ "ยิ่งลักษณ์" จากการที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนโยบายรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่ช่วงปี 2558 ล่าสุด ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ เบิกความต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า ผลการตรวจสอบนางสาวยิ่งลักษณ์มีความผิดละเมิดและต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดถึง 286,639 ล้านบาทเศษ จากผลขาดทุนกว่า 5.18 แสนล้านบาท วานนี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษาคดีรับจำนำข้าว ได้ไต่สวนพยานโจทก์นัดที่ 8 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย คดีโครงการรับจำนำข้าวซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งไฮไลต์สำคัญของการพิจารณาคดีอยู่ที่ พยานปากที่ 2 นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานประธานคณะกรรมการการสอบข้อเท็จจริงจำนำข้าว เบิกความว่าที่ประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงจากความรับผิดโครงการจำนำข้าว ซึ่งพยานเป็นประธานได้สรุปความเห็นแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความผิดละเมิด โดยการแสวงหาข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณานั้น คณะทำงานได้ให้ความเป็นธรรมและให้โอกาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงเต็มที่แล้ว โดยเป็นการตรวจสอบการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวทั้งสิ้น 4 ฤดู และปิดบัญชีในวันที่ 22 พ.ค. 2557 พบว่า ต้นทุนโครงการอยู่ที่ 653,000 ล้านบาท ค่าดำเนินการของเจ้าหน้าที่ 24,000 ล้านบาท ค่าดอกเบี้ย 30,000 ล้านบาท รายได้จากการขายข้าว ระบายข้าว 189,000 ล้านบาท ปรากฏเป็นผลขาดทุน ณ วันที่ 22 พ.ค. 2557 อยู่ที่ 518,690 ล้านบาท แต่เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหา คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯจึงให้หักต้นทุนส่วนที่จำนำข้าวให้ประโยชน์กับประชาชน ค่าใช้จ่ายดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ส่วนที่ชาวนาเข้าโครงการและขายข้าวระบายข้าวได้รวมถึงดอกเบี้ยจากการใช้งบประมาณดำเนินโครงการจึงสรุปเป็นค่าทำให้ค่าเสียหายอยู่ที่ 286,639 ล้านบาททนายโจทก์จึงถามต่อว่าเป็นยอดหนี้มูลค่าความเสียหายที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ในฐานะจำเลยต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ พยานโจทก์ตอบว่า "ใช่" พร้อมกันนี้ พยานยังได้ปฏิเสธด้วยว่าการตรวจสอบไม่มีการเร่งรัดกดดันหรือคาดโทษจากฝ่ายใดไว้ก่อน โดยได้รับคำสั่งตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.2558 แล้วเสร็จในวันที่ 28 มกราคม 2559 ซึ่งเป็นการทำงานด้วยความสบายใจ อย่างไรก็ตาม ทนายฝ่ายจำเลยได้ค้านว่าเป็นตัวเลขที่สูง และต้องการตรวจสอบเอกสารในส่วนนี้ ศาลจึงพิจารณาแล้วให้ฝ่ายจำเลยดูเอกสารก่อนและให้มีการไต่สวนประเด็นนี้กับนายจิรชัยอีกครั้งในวันที่ 24 มิถุนายน2559 ส่วนการไต่สวนพยานจำเลยนัดแรกเลื่อนจากวันที่ 8 ก.ค. เป็นวันที่ 5 ส.ค.2559 เปิดหลักฐานคดีข้าว "จีทูจี" พบเช็ค 40 ใบมูลค่า 1.8 พันล้าน เป็นของ "สยามอินดิก้า" สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช) พบหลักฐานซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ให้กับ 4บริษัทจีนโดยมิชอบ โดยทั้ง 4 บริษัทไม่ได้รับมอบอำนาจจากหน่วยงานจีนตามที่เคยอ้าง และยังพบว่า เช็ค 46 ใบ มูลค่า 1,800 ล้าน เป็นของ "สยามอินดิก้า" ถึง 40 ใบ เลขาธิการและโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. นายสรรเสริญ พลเจียก บอกว่า จากการตรวจสอบหลักฐานมีเหตุอันควรสงสัยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนางปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เห็นชอบการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตใหม่ กับบริษัทจีน 4 แห่งโดยมิชอบ เพราะพบหลักฐาน ว่า บริษัททั้ง 4 แห่ง ไม่ได้รับมอบอำนาจกับหน่วยงาน COAFCO (คอฟโก้) หรือหน่วยงานจีนที่มีหน้าที่ในการดำเนินการซื้อขายข้าวจีทูจีโดยตรง ดังนั้นการซื้อขายข้าวกับบริษัทจีน 4 แห่ง จึงไม่ใช่สัญญาการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี และยังพบว่าไม่มีการโอนเงินระหว่างประเทศ รวมถึงข้อมูลกรมศุลกากร เมื่อปี 2556 - 2558 ก็ไม่พบว่ามีการส่งออกข้าวไปยังประเทศจีน นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า แคชเชียร์เช็ค 46 ฉบับ มูลค่า 1,878 ล้านบาท ก็ไม่ได้มาจากบริษัทจีน แต่มาจากบัญชีของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด บริษัท สิราลัย จำกัด และนายสุธี เชื่อมไธสง ซึ่งเป็นคนสนิทของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ถึง 40ใบ มูลค่า 1.8 พันล้านบาท คณะอนุกรรมการไต่สวนพิจารณาแล้วเห็นว่า เงินดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์ความผิดและเป็นพยานหลักฐานที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาฟ้องลงโทษ ดังนั้น ป.ป.ช จึง มีคำสั่งให้กรมการค้าต่างประเทศ ยึดและอายัดเงินจำนวนนี้ไว้เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการไต่สวน และ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวน ยังเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติสั่งไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มอีก 33 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก มี 18 บริษัท ซึ่งเป็นเอกชนและบุคคลที่เกี่ยวข้องในการทำสัญญาซื้อขายข้าว และผู้รับมอบอำนาจจากจีน กับกรมการค้าต่างประเทศ กลุ่มที่ 2 จำนวน 15 ราย คือ กลุ่มบุคคล และ นิติบุคคล ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการชำระเงินค่าข้าวตามสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี บริษัท สยามอินดิก้า และคนที่เป็นกรรมการในบริษัทนี้ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" http://www.isranews.org/investigative/invest-slide/item/46982-inves01_46982.html
เคยคิดว่าเสื้อแดงมันโง่พอๆกัน ทุกคน แต่ที่เห็นนี่ ไม่รู้จะมีโง่กว่านี้อีกไหม ได้แต่หวังว่ามันจะเป็นกันแบบนี้ทุกคนไป คนฉลาดเรียนรู้จากคำถามโง่ๆ มากกว่า คนโง่จะเรียนรู้จากคำตอบที่ฉลาดๆ
อยากใส่ตัวเลขยังไงก็ใส่ไป ฉิบหายไป 5 แสนล้าน ร้อยๆเเสนล้านก็ใส่กันตามสบาย ทั้งข่าว ทั้งข้อมูล มันทำให้นึกถึงตอนที่สื่อของศาสนาโกเต๊กสร้างจริงๆ คล้ายกันยิ่งนัก ....แต่อยากรู้ โครงการ "จำนำยุ้งฉาง" แค่ชื่อก็ฮาแล้ว ยุ้งฉางจำนำได้ ตอนนี้ก็สามปีแล้ว มันขาดทุน, หรือมีกำไร, หรือได้สร้างความเจริญเสียหาย ไปกี่บาทกี่สลึงแล้วหนอ ?
แทนที่จะยกหลักฐานมาสู้ กลับเอา "Name-calling" มาตอบซะงั้น พวกกาสรสีชาดนี่มัน Loser จริงๆ ลงไปอยู่ใต้ฐานพีรามิดเลยไป
แทนที่จะตอบตามเนื้อหาประเด็นของกระทู้ กลับใช้การตอบแบบแถๆ คุยนอกเรื่องพาออกทะเล พวกล้าหลังดักดาน มันพากันมีพรสวรรค์ทั้ง แหล แถ ไร้ยาง ครบกันหมดจริงๆ
ใครกันแน่นะที่นำออกนอกประเด็นกระทู้ เริ่มแรกบอกขอข้อมูล เม้นท์บนๆ ก็เอาข้อมูลมาแปะให้ ต่อมาก็ name-calling ชื่อโครงการซะงั้น ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อที่ตัวเองตั้งมาเลย ถามเรื่องกำไร-ขาดทุน ผลเสีย แถไปชื่อโครงการซะงั้น ความจริงเนื้อหาของโครงการนี้ก็หาได้ง่าย ใช้งบประมาณเท่าไหร่ก็มีอยู่ ข้อมูลก็เผยแพร่ไม่ได้ปิดบัง แต่กาสรสีชาดก็ยังเป็นกาสรสีชาดอยู่ดี "ขี้ขอ รอแจก แดกฟรี" คอนเซ็ปไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ อะ ถือว่าโปรดสัตว์ซักครั้ง http://www.ricethailand.go.th/home/images/pdf/prbs/strategic_rice/1631_06_58.pdf http://thaipublica.org/2015/11/plegd-rice-mcpo/ http://www.dit.go.th/uploads/604.pdf พิจารณากันตรงๆ ก็จะเห็นว่าเมื่อเทียบกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่แล้ว ก็พบว่าใช้งบประมาณน้อยกว่ามาก
%%%%%%%%%%%% %%%%%%%%%%%% ดูเอาก็แล้วกันนะฮับ การแถตอบนอกเรื่อง ใครจะพาออกทะเล ตามตำหรับสูตรวิธีของเค้าล่ะ ไอ่เราพยายามจะดึงไม่ให้ออกนอกประเด็นกระทู้ ยังดันหาว่าเรา ไม่เอาหลักฐานเรื่องที่จะพาออกทะเลมาสู้เค้าอีก แถก็ไปแล้ว แหลก็ตามมาติดๆ ทีนี่ก็เหลือแต่ ไร้ยาง ก็ครบองค์ประกอบ ตามพรสรรค์ที่พากันมีแล้ว
เอ้า แบบนี้ไร้ยางหรือยัง จะได้ครบไป ว่าแต่ ไร้หญ้ามันเกินมาน่ะ แล้งน้ำก็ท่อตัน ท่อตันแล้วยังแล้งใจ แล้งใจจึงไร้หญ้า หนักหนากว่าไร้ยาง จิต ผู้มีสากไม่ได้แต่งไว้