สงสัยว่า คสช จะเรียกเข้าค่ายไปติวภาษาปะกิต เพิ่มเติม เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่ตึกสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสมช. และหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงกรณีที่นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทย และขอให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ว่า รู้สึกเสียใจที่สหรัฐฯไม่เข้าใจการทำงานของเรา ซึ่งเราเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดมานาน เราก็ไม่เคยตอบโต้อะไรเลย จึงให้กระทรวงต่างประเทศไปชี้แจงทำความเข้าใจถึงแก้ปัญหาของเรา ส่วนเรื่องคดีความเรื่องถอดถออนก็ต้องตัดสินตามกระบวนการปกติ ไม่ได้ไปไล่ล่าตระกูลใด หากมีการกระทำความผิดทุกตระกูลโดนหมด วันนี้ตนก็ได้สั่งการให้เอาคดีความต่าง ๆ ที่สำคัญเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนพยายามนำคดีความต่าง ๆเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากเป็นคดีอาญาก็นำหลักฐานมาสู้กันในศาล ตนไม่สามารถก้าวล่วงการตัดสินได้ ถ้าก้าวล่วงระบบความยุติธรรมของไทยก็จะล้มเหลว ต้องตัดสินตามข้อกฎหมาย จะนำมาโยงไปมาไม่ได้ อย่าไปมองเช่นนั้น หากมองเช่นนั้นปฏิวัติมาก็เสียของเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯยังมีอยู่ การค้าขายการลงทุนยังมีอยู่ ที่ผ่านมาเราอำนวยความสะดวกเขามากกว่า ที่ผ่านมาด้วยซ้ำ แต่เขาไม่สามารถพูดเป็นอย่างอื่นได้ ในเมื่อเราเป็นประชาธิปไตย เขาก็ต้องคิดแบบประชาธิปไตยตะวันตก แต่อย่าลืมว่าผู้นำทางการเมืองของเราในอดีตไม่เหมือนกับเขา เขาก็ต้องฟังบริบทเหล่านี้ด้วย ทุกประเทศมีศักดิ์ศรี ประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรีของเรา เราให้เกียรติทุกประเทศ เราไม่เคยต่อต้านใคร แต่ตนก็เสียใจได้ในการแสดงความคิดเห็นของเขา "ทุกฝ่ายต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถามว่าอีกพวกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ 28 คน เข้ามามอบตัวหมดไม่ใช่หรือ อีกข้างก็มามอบตัวสิ ถ้าคิดว่าตัวเองถูกก็มามอบตัวให้หมดก็จบ จะหนีไปทำไม ทุกคนต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม เพื่อต่อสู้คดี อีกหน่อยคนก็หนีไปต่างประเทศหมด คดีอาญาหนีไปหมด แล้วมาด่าประเทศตัวเอง คนเหล่านี้ไม่กลับมาประเทศไทยอีกแล้วหรือ ซึ่งการติดตามตัวคนที่หนีไปต่างประเทศนั้น ขณะนี้กระทรวงต่างประเทศก็ได้ทำตามขั้นตอน ปัญหา คือ เขาไปสร้างการรับรู้ที่ผิด ๆ หาว่าเราไปละเมิดทำร้าย ซ้อมเขา เราทำที่ไหน คนอย่างผมจะทำเหรอ ไม่ทำ มีแต่สั่งว่า อย่าทำอะไรเขา เรียกมาพูดคุย หาอาหารให้ดี ๆ ระดับผู้ใหญ่ ระดับอดีตนายกฯ ผมยังหาห้องแอร์ให้นอนเลย ที่ไปพูดว่าเอาถุงดำครอบหัว ปัธโธ่ นั่นมันในหนัง "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการอนุญาตให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกนอกประเทศ ว่า ขณะนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้ขออนุญาติเดินทางไปต่างประเทศ แต่หากขอมาก็ต้องถามศาล ว่า ไปได้หรือไม่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศาล หากศาลบอกว่า ห้ามออกนอกประเทศก็ไม่ให้ออก นอกจากนี้คนที่ออกมาข่มขู่ว่า จะเกิดความรุนแรงก็จะเรียกมาพูดคุย หากออกมาพูดอีกตนก็จะใช้อำนาจห้ามเดินทางออกต่างประเทศ ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทอง ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก รวมถึงนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งตนจะเรียกทุกคน ใครพูดอีกก็จะเรียกหมด ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เขาเป็นอดีตนายกฯ ตนให้เกียรติเขาเสมอ ทุกคนก็ควรให้เกียรติด้วย. เมื่อวันที่ 28 ม.ค.นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเชิญตนมาพูดคุยนั้นได้ทราบจากข่าวบ้างแล้ว แต่ยังไม่เห็นหนังสือเชิญไปพูดคุยและไม่อยากแสดงความเห็นอะไรในขณะนี้.
คงเป็นห่วง"วิดวะเมกา" จะลืมภาษาปะกิต เมื่อเวลา13.30 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่กระทรวงกลาโหมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก ว่า กรณีดังกล่าวทางกระทรวงการต่างประเทศไทยได้ชี้แจงรายละเอียดแล้ว ส่วนตนไม่รู้สึกกดดันที่สหรัฐฯเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศ ประกอบกับคนไทยเองก็ไม่เดือดร้อน อีกทั้งทุกอย่างก็เดินไปด้วยดี สำหรับกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งการให้คสช. เชิญนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจนั้น ตนถามว่า บุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความแตกแยกหรือไม่ ถ้ามีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความแตกแยกแตกความสามัคคี สวนทางกับคสช.ที่อยากให้เกิดความรักความสามัคคี ก็สามารถเรียกนายสุรพงษ์มาพูดคุยได้ เพราะฉะนั้นต้องดูพฤติกรรมดังกล่าวว่า สมควรหรือไม่ที่ให้สัมภาษณ์แบบนั้นต้องไปดูที่เจตนา เมื่อถามว่า ทางสหรัฐออกมาระบุว่า การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องการเมืองมากกว่า กระบวนการยุติธรรม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ให้คิดไปแต่เรื่องการถอดถอนเป็นของกระบวนการนิติบัญญัติ ตนถามว่า เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 พ.ค.2557 “ผมอยากขอร้องว่า สิ่งใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมก็อย่าไปทำ เพราะตอนนี้ผมอยากให้ประเทศเกิดความรักความสามัคคี เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้รัฐบาลเองก็แก้ปัญหาต่าง ๆ ของประเทศ แก้ทุกอย่างจึงได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ขึ้นมาหลายคณะ เพราะนายกฯมองภาพที่อยากให้เกิดความสงบสุขกับประชาชนทุกระดับชั้น” พล.อ.ประวิตร กล่าว เมื่อถามต่อว่า การที่สหรัฐอเมริกายังไม่ส่งเอกอัครราชทูตมาประจำที่ไทยสะท้อนนัยทางการเมืองระหว่างประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมไม่รู้ต้องไปถามกระทรวงการต่างประเทศ และสหรัฐอเมริกาก็คงมีวิธีการพิจารณาของเขาอยู่แล้ว”
ไอ้โล้นนี้มันเก่งนะ มะก่องตอนเป็นรัฐบาล เสือกบ่อง แม่ผมไม่ได้เป็นเมียฝรั่ง พอโดนถีบตกเก้าอี้ที ภาษาปะกิตคล่องปร๋อขึ้นมาทันที
เป็นท่าทีที่น่าแปลกใจและชวนให้ตั้งคำถามจากกรณีที่นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกและอุปทูต ดับเบิลยู. แพทริค เมอร์ฟี ได้เดินทางมาประเทศไทยและได้เข้าพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และที่สำคัญคือ การเดินทางมาในครั้งนี้ของตัวแทนประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นภายหลังจากที่ประชุมสนช.ลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงทำให้หลายฝ่ายคาดเดากันว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองไทยใช่หรือไม่ เว็บไซต์และเพจสถานทูตสถานฑูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ ภารกิจของนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกและอุปทูต ดับเบิลยู. แพทริค เมอร์ฟีระหว่างเข้าพบ หัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสมาชิกพรรคหลายคน เช่น นายเกียรติ สิทธีอมร เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศไทย ก่อนหน้านั้น นายแดเนียล รัสเซลและคณะได้เข้าพบอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศไทย เช่นกัน โดยมีนายสุรพงศ์ โตวิจักษ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ รัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้าฟังด้วย รายงานข่าวระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เล่านโยบายการรับจำนำข้าว ของรัฐบาลตนเองให้กับ คณะผู้ช่วยทูตกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ รับทราบ รวบทั้งชี้แจงปมที่ตนเองถูก สนช.ถอดถอน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้คณะฟังด้วย สถานทูตสหรัฐ ยังเผยแพร่คลิปวีดีโอในระหว่างการเยือนไทย ของนายแดเนียล ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสระหว่างการเยือนกรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ.2557 ขณะเดียวกัน ยังเปิดโซเชียลฯ เพื่อติดตามนายแดเนียล ทางทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @USAsiaPacific อีกด้วย รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายแดเนียล จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2558 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเยือน 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ส่งผู้แทนระดับสูงมาเยือนประเทศไทยและถือเป็นบุคคลสำคัญเป็นแขกพิเศษของไทย ขณะที่รัฐบาลไทยระบุก่อนหน้านี้ว่าจะใช้โอกาสนี้ ย้ำถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเข้ามาบริหารประเทศเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และชี้แจงถึงแนวทางการพัฒนาทางการเมืองที่สำคัญ ตลอดจน การดำเนินการของรัฐบาลเพื่อปูทางสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในอนาคต ควบคู่กับการปฏิรูปประเทศ ทั้ง 11 ด้าน รวมถึงไทยมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาที่อยู่ในความกังวลร่วมกันระหว่างไทยและสหรัฐฯ อาทิ การต่อต้านการค้ามนุษย์และประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการอย่างจริงจังตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการให้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม ตลอดจนได้รับสิทธิและสวัสดิการที่ดีเช่นเดียวกับแรงงานไทย ทั้งนี้ การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผู้แทนระดับสูงเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ เชื่อว่า เป็นการส่งสัญญานที่ดีต่อความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่จะพัฒนาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป ขณะที่ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ยังกล่าวถึงการเดินทางมาเยือนไทยของผู้แทนประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เป็นการมาเพื่อเรื่องทั่วๆ ไป และเท่าที่ทราบ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ก็จะเดินทางมาประจำในเดือนหน้า (ก.พ.) ก็เป็นเรื่องธรรมดาอย่าเอาไปพันกันกับคดีการถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรีเลย ในเรื่องที่ผู้แทนสหรัฐเดินทางมาก็เป็นการติดตามสถานการณ์ต่างๆ เราก็จะถือโอกาสได้ชี้แจงว่าเรามีพัฒนาการไปถึงไหนแล้ว ปัญหาอยู่ที่ไหน สหรัฐเขาไม่ได้มาดูเรื่องการตัดสินคดีของอดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมติงว่าสื่ออย่าวิเคราะห์ไปต่างๆ นานา และคิดเอง สหรัฐจะมาช่วงไหนก็เป็นเรื่องของเขา เราจะไปไหนก็เป็นเรื่องของเรา ทำไมจะต้องเอามาพันกัน เมื่อถามว่า มีการติดต่อมาพบนายกรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาจะมาพบผมทำไม เขาไม่พบผมเพราะเขาก็รู้อยู่ว่าผมมาอย่างไร การเมืองก็คือการเมือง การเศรษฐกิจเขาก็มีการค้าขายกับเรา การฝึกร่วมรบก็ยังฝึกกับเรา เขาแยกแยะออกจากกัน แต่เรายังเอาหลายเรื่องมารวมกันอยู่เลย วันนี้หลายประเทศก็ยังค้าขายกับเราอย่างปกติ ประเทศที่ต่อต้านเราไม่เห็นชอบกับเรา แต่ก็ยังค้าขายกับเราได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้แทนสหรัฐได้มีกำหนดในการพบนางสาวยิ่งลักษณ์ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของเขา เขาก็มีสิทธิ์ที่จะพบ ซึ่งเขาต้องรู้ว่าเขาต้องทำอย่างไรก็แล้วแต่เขา เราก็ไม่ได้ไปห้ามปรามอะไรเขา ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงภายหลังนายแดเนียล เข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ว่า การเยือนครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของนายรัสเซล และเป็นการเยือนระดับสูงครั้งแรกของสหรัฐฯ หลังปีใหม่ โดยทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันความร่วมมือและความสัมพันธ์ ในฐานะที่ไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ของสหรัฐฯ ที่มีมายาวนาวนาน กว่า 180 ปี และได้ยืนยันความเป็นมิตรและหุ้นส่วนทวิภาคี นอกจากนี้ ยังได้หารือแนวทางรับมือความท้าทายในอนาคต ทั้งเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อการร้าย ยาเสพติด ค้ามนุษย์ และการแพร่ระบาดของโรค เช่น อีโบล่า ซึ่งประเด็นเหล่านี้ประชาคมโลกต่างให้ความสำคัญ นายเสข ยังระบุอีกด้วยว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ได้แจ้งสถานการณ์ในประเทศไทย และความมุ่งมั่นของรัฐบาล ในการดำเนินการตามโรดแมป ขณะที่ สหรัฐฯ ยืนยันให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการปฎิรูป และย้ำท่าทีเดิม คือการขอให้ประเทศไทยยกเลิกกฎอัยการศึก อย่างไรก็ตาม ในการพบปะกันครั้งนี้ ได้มีการหารืออย่างสร้างสรรค์ และไม่มีประเด็นเรื่องการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ นายแดเนียล รัสเซล กล่าวว่า แม้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และสหรัฐฯ ให้ความเคารพกับประเทศไทย และยืนยันว่าไม่เลือกข้างอยู่ฝ่ายใด แต่รัฐบาลสหรัฐฯ มีความกังวลในเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการรวมตัวทางการเมืองที่ถูกกีดกันในไทย จึงได้แสดงความเห็นเรื่องการสร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนให้มากขึ้น รวมถึง ได้พูดกับพล.อ.ธนะศักดิ์ ถึงความเป็นไปได้ในการยกเลิกกฎอัยการศึกด้วย นายรัสเซล กล่าวต่อว่า ความยุติธรรมมีความสำคัญในการสร้างความปรองดอง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน มีผู้นำของไทยที่มาจากการเลือกตั้ง ได้ถูกถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองจากกลุ่มผู้ทำรัฐประหาร และยังถูกฟ้องในคดีอาญาด้วย ซึ่งประชาคมโลกย่อมมีความรู้สึกว่า การปรองดองย่อมได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ สหรัฐฯ จึงต้องการหลักประกันว่า การสร้างความปรองดองจะยังเดินหน้าไปได้ และระบบตุลาการของไทยจะมีความยุติธรรมแท้จริง เมื่อถูกถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่า ประชาธิปไตยเป็นระบบที่เหมาะสมในทุกประเทศ นายรัสเซล กล่าวว่า ไม่มีที่ไหนในโลกที่ ประชาชนไม่ต้องการให้รัฐบาลรับฟังเสียงของตน และทำตามความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ จึงถือว่าการสร้างประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สหรัฐฯ ต้องการเห็น และหวังว่าการเปิดกว้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แม้ว่าภาพรวมของการออกมาแจกแจงของผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาระบุว่า การที่สหรัฐฯส่งตัวแทนเมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมือง แต่ว่าด้วยบรรยายกาศของสถานการณ์ ทำให้หลายฝ่ายอดคิดไม่ได้และมองไปถึงขั้นที่ว่า จากภาพรวมสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน สหรัฐได้เลือกที่จะสนับสนุนรัฐบาลพล.อประยุทธ์หรือเลือกเคียงข้างกับระบอบทักษิณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าได้ย้อนกลับไปตรวจสอบท่าทีของสหรัฐฯเกี่ยวกับการเมืองไทยก่อนหน้านี้ เริ่มจาก ชื่อของนางคริสตี้ เคนนี่ย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นับตั้งแต่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2554 ก็มีข้อครหาเกิดขึ้นมากมายทั้งจุดยืนของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อพ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องผลประโยชน์ทางด้านพลังงาน และการเข้ามาหาผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย และที่เป็นการย่ำยีหัวใจของคนไทยเป็นอย่างมากก็คือการออกมาแสดงทรรศนะสนับสนุนผู้ต้องหาและผู้ต้องโทษในคดีที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นางคริสตี้พูดถึงการออกวีซ่าให้กับพ.ต.ท.ทักษิณว่า "การออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการออกภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ อย่างเคร่งครัด และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองภายในประเทศใดๆ ทางสหรัฐฯ ดีใจ และเป็นเกียรติในความร่วมมือทางด้านกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศ และแน่นอนที่ประเทศไทยกับสหรัฐฯ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน และสหรัฐฯ ก็ได้ตอบสนองคำขอของไทยอย่างต่อเนื่อง" ไม่ใช่แค่ทูตสหรัฐฯ เท่านั้นที่ดูจะสนับสนุนการออกวีซ่าให้พ.ต.ท.ทักษิณ นายวอลเตอร์ เอ็ม บราวโนเลอร์(Walter M. Braunohler) ผู้ช่วยทูตฝ่ายสื่อมวลชน ฐานะโฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ก็ออกมาแถลง ว่า การออกวีซ่าให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นเรื่องของกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของ สหรัฐฯ ไม่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย อื่นๆ เช่น กฎหมายอาญาหรือกฎหมายก่อการร้ายของประเทศอื่น พร้อมยังกล่าวอีกว่าการขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยและสหรัฐฯ จะกระทำได้นั้นต้องกระทำโดยรัฐผู้เสียหายหรือผู้ร้องเป็นผู้ดำเนินการว่า แปลว่าหากประเทศไทยทำเรื่องขอไป ก็จะมีการพิจารณาเนื่องจากมีสนธิสัญญาระหว่างกัน ทั้งนี้ ผลประโยชน์ด้านพลังงาน นับเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุดว่าเกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เนื่องจาก หนังสือพิมพ์รายปักษ์ที่ชื่อ Culture Map Houston ประจำวันที่ 6-12 ส.ค.2556 ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับการเดินทางเข้าสหรัฐฯของทักษิณ โดยระบุว่าเป็นการเดินทางมาเพื่อ "เจรจาเรื่องธุรกิจพลังงาน" พร้อมทั้งบอกว่า ประธานกรรมการของ ยูไนเต็ด แอลเอ็นจี ที่ชื่อนาย Stephen Payne ได้พบปะพูดคุยและรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ร้าน Brennan กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การพบกันครั้งนี้อาจมีวาระที่ ไม่ธรรมดา เพราะมีประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณกำลังมุ่งมั่นลงทุน ในธุรกิจพลังงาน Stephen Payne ก็เป็นนักล็อบบี้ยิสต์ชาวอเมริกันที่มีเครือข่ายกว้างขวางและมีสายสัมพันธ์ กับรัฐบาลและกลุ่มทุนในสหรัฐอเมริกามา ยาวนานกว่า 25 ปี โดยเป็นที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์และมีประสบการณ์ด้านพลังงาน ปัจจุบันได้เป็นตัวแทนเกี่ยวกับกิจการพลังงานให้กับหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ปากีสถาน อาเซอร์ไบจาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เติร์กเมนิสถาน รวมถึงทำงานร่วมกับอีก หลายบริษัทที่เป็นลูกค้าของเขา เช่น บริษัทวาณิชธนกิจอย่าง เจพี มอร์แกน, บริษัทผลิตซอฟต์แวร์ยี่ห้อ SAP, สายการบิน คอนติเนนตัล, เครื่องบินโบอิ้ง, บริษัทผลิตอาวุธและเครื่องบินสงคราม ร็อคฮีท มาร์ติน จึงเกิดคำถามตามมาว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ นักโทษหนีคดีคอร์รัปชันและคดีก่อการร้าย สามารถเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้โดยสะดวกเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีนั้น เป็นฝีมือการล็อบบี้ระดับนานาชาติของ Stephen Payne หรือไม่ การพบปะเจรจาระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ Stephen Payne มีอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ทำให้นักโทษชายทักษิณสามารถเข้าประเทศสหรัฐ อเมริกา อะไรเป็นแรงจูงใจให้อเมริกาต้อนรับทักษิณเข้าประเทศ โดยไม่สนใจบทลงโทษของศาลไทย และไม่สนใจแม้กระทั่งในเรื่องข้อกล่าวหาและการหนีหมายจับคดีก่อการร้าย ทั้งๆ ที่สหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้คนทั้งโลกมีความโปร่งใสและจัดการกับผู้ก่อการ ร้ายทั้งหลาย ที่มา http://www.tnews.co.th/html/content/126383/
อะไรจะปานน้านนนน จะล่อทีเดียว ๓ คนเลยเร๊อะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว น่าจะเชิญมาทั้งคลอกเลยนะ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ทหารได้บุกไปเชิญตัวนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เมืองทองธานี ในวันนี้เพื่อปรับทัศนคติ ว่า แล้วจะทำไม เจอตรงไหนก็เชิญตรงนั้น และจะมีการเชิญนักการเมืองคนอื่นเข้าปรับทัศนคติเพิ่มเติม เช่น พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน เพื่อให้เข้าชี้แจงว่าทำไมตอนเป็นรัฐมนตรี จึงไม่แก้ปัญหา แล้วตอนนี้จะออกมาพูดทำไม ส่วนจะมีการให้ค้างคืนในค่ายทหารหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของฝ่ายความมั่นคง ส่วนที่มีการรณรงค์ให้ใส่เสื้อสีแดงในทุกวันอาทิตย์นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับอย่างมีอารมณ์ว่า "รณรงค์อย่างนี้ เป็นประโยชน์อะไร มันเป็นเครื่องหมายอะไร สร้างประโยชน์หรือไม่ ทำไมไม่รณรงค์ให้ใส่เสื้อสีฟ้า หรือสีอื่น ๆ" นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังตำหนิสื่อมวลชนที่ถ่ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ชูนิ้วกลางระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า "เป็นเรื่องของพวกจิตใจต่ำ ผมก็ชี้โน้น ชี้นี่ไปเรื่อย" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนี้ เป็นไปอย่างฉุนเฉียว มีการเคาะนิ้ว เขย่าโพเดียม เป็นระยะ ๆ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่าไม่ได้โมโห ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารได้ บุกเข้าเชิญตัวนายสุรพงษ์ จากเมืองทองธานี เพื่อไปปรับทัศนคติในค่ายทหาร เนื่องจากที่ผ่านมาทางทหารได้พยายามติดต่อนายสุรพงษ์แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงต้องมีการเชิญตัวดังกล่าว. เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการเชิญนักการเมืองคนอื่นนอกเหนือจากนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อปรับทัศนคติเพิ่มเติม เช่น นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงานนั้น ว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา แต่ถ้าเชิญมาก็ยินดีที่จะไปพูดคุย เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่ได้พูดไปนั้น ตนพูดเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้พูดเพื่อสร้างความขัดแย้ง หรือสร้างความแตกแยก และเรื่องที่พูดส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่ตนมีความเป็นห่วง จึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจกับทีมทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ตามคำเชิญของ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส. หลังจากที่นายสุรพงษ์ ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นได้ให้นายสุรพงษ์เดินทางกลับ ทั้งนี้แหล่งข่าวระดับสูงจากกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า ทหารไม่ได้เข้ารวบตัวหรือหิ้วตัวนายสุรพงษ์ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี ตามกระเเสข่าวก่อนหน้านี้ แต่เป็นการนัดหมายเวลาล่วงหน้าเเล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ พล.ท.กัมปนาท ยังได้เชิญนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง เข้ามาหารือกับทีมทหาร กกล.รส. ในเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ม.ค. เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจด้วยเช่นกัน
จาตุรนต์ ยัน ถูกทหารเชิญพบจริง! บ่ายสามโมงนี้ ที่กองทัพภาค1 ย้ำโพสต์เฟซเชิงหลักการ วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 12:15:06 น. วันที่ 29 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ถูกเจ้าหน้าที่หทาร จากกองทัพภาคที่1 เชิญไปพบเพื่อพูดคุย ที่ กกล.รส. กองทัพภาค1 ในช่วงบ่ายวันนี้นั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยัง นายจาตุรนต์ ได้รับการยืนยันว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 1 โทรมาหาตนจริง และนัดหมายให้ไปพบกับแม่ทัพภาคที่1 ในเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นการเชิญตนเข้าไปพูดคุย แต่ยังไม่ทราบว่าเรื่องอะไรและสาเหตุใด นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ตนจะเข้าไปพบตามที่เชิญมา และเห็นว่า การเรียกตนรายงานตัวในครั้งนี้ มองว่า เมื่อสถานการณ์ประเทศกำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการปฏิรูป การส่งเสริมให้ประชาชนทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งการแสดงความคิดเห็นแม้ว่าจะมีความคิดที่แตกต่างกัน แต่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ "การที่ผมแสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊ก ก็เป็นการพูดในเชิงหลักการ เป็นการแสดงความห่วงใยประเทศชาติ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอานคตข้างหน้า" นายจาตุรนต์กล่าว เมื่อถามถึง กรณีของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่าจะเข้าไปรายงานตัวพร้อมกันหรือไม่ นายจาตุรนต์ ตอบว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้ติดต่อกัน
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง กร๊ากกก แต่ละตัว ตอนอยู่ไม่ยอมทำ. ดีแต่ริยำวิจารณ์ปากสุนัข !!! นายกฯเผย จ่อเรียก พิชัย นริพพันธ์ มารายงานตัว หลัง ออกมาแสดงความเห็นพลังงาน มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเชิญตัว นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้ารายงานตัว หลังจากวิพากษ์วิจารณ์เรื่องน้ำมัน โดย นายกฯ อยากถามว่าตอนที่นายพิชัยอยู่ทำไมถึงไม่ทำ Wassana Nanuam มีรายงานว่า ทหาร เชิญตัว"สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" จากเมืองทองฯ ไปปรับทัศนคติ ในค่ายทหารแล้ว คาดนำพบ แม่ทัพภาค 1 ฝ่ายทหาร ระบุว่า ได้ติดต่อ นาย สุรพงษ์ แล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงต้องเชิญตัว. แต่เมื่อวาน นาย สุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้รับหมายเรียก จาก คสช.... @WassanaNanuam ทหารเชิญตัว "สุรพงษ์"จากร้านข้าวที่เมืองทองฯพาเข้าค่ายทหารแล้ว หลังเงียบไม่ตอบรับคำเชิญรายงานตัวของทหาร รุ่งศักดิ์ สุวรรณภาณุ คสช.เรียก นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย หลัง โพสต์ Facebook และ ทวิตเตอร์ วิพากษ์วิจารณ์คสช.และการถอดถอน อดีตนายกฯ"ยิ่งลักษณ์"จนถูกคสช.เรียกรายงานตัว ที่ กกล.รส. กองทัพภาค1 บ่ายนี้ Hapisoh Jenny นี้อีกตัวจัดหนัดเลยไม่ต้องเกิดไปเลยหายเลยอยุ่ไปทำไห้ประเทศชาติเดื่อนร้อนเอาไปเลยอย่าไห้อยุ่เลยไอ้ตัวนี้โตครเหี้ยเลยโตครเลวว่ะ Pitchanan Bunmark ตัวนี้ต้องปรับนานหน่อยจิตสำนึกชั่วดีพร่องอย่างแรงหลงยุคหลังสมัย ความดีไม่เคยปรากฏ!!!! ***** 3 AF. หัวนกกระปูด คงอยู่ยาวที่สุด แล้วคงมีตามมาอีก 2-3คน ฮาๆๆๆ จะให้คัยเป็น พี่เลี้ยงละ ชอบๆๆๆ
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง อัพเดทปรองดอง @ 14.59 น. ทหารนำนพ. เชิดชัย แกนนำ นปช. พร้อมภรรยา มาถึงมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อปรับทัศนคติ ลังแสดงความเห็นพาดพิงการทำงานของ คสช. ต่อด้วย. บุคคลสำคัญ จัญไร. นาม. ณัฐวุฒิรายงานตัว ทัพภาค 1 พรุ่งนี้ *** ตามมาอีก 2 ยังอีกๆๆ
อีกตัว ภากร นครกุลเชษฐ์ นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. ถูกเชิญตัวเข้าค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อปรับทัศนคติแล้วครับ !!!
ฮะฮะฮะ ภากร นครกุลเชษฐ์ ทหารเข้าควบคุมตัว 'สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล' เข้าบ้าน AF เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ อ้อ ข่าวรายงานว่า 'ไอ้ปึ้ง' ถูกบุกรวบตัวขณะ "กำลังกินข้าว" ที่เมืองทองธานี !!!
Sompron Punsa ทหารบุกรวบตัว "ปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่เมืองทองธานี นำตัวเข้าข่ายทหารปรับ ทัศนคติ ต่อไป ***** ฮาาาาาาาา หน้าซีดเชี้ยว น่าติวปะกิตก่อน...!!!
ข่าวบันเทิงรายวัน 55555 เด่วหมาต้องมาคาบข่าวนี้ไปเล่นต่อแน่ ไม่เป็นประชาธิปตายเล้ย แดงบอกยกเลิกกฏอัยการศึกซิ แล้วจะไปประท้วงตะหาร
คาเธ่ย์ หมี (29 มค.) - คสช. เรียก -ณัฐวุฒิ: รายงานตัวพรุ่งนี้ 10 โมง ที่ ภาค 1 // ขณะที่ นพ.เชิดชัยพร้อมภรรยา ถึง มทบ.23 เพื่อปรับทัศนคติ หลังแสดงความเห็นพาดพิง คสช. เตือนแล้ว !!! บิ๊กโด่ง พล.อ.อุดมเดชฯ ผบ.ทบ./เลชาฯ คสช..เผยว่า ได้มีการขอร้อง "โอ๊ค พานทองแท้" ให้อยู่ในกรอบแล้ว ( @พี่เล็ก-วาสนา) **** ตัวเต็ง AF 6 มาแล้ว
เชิญมาเฉยๆพวกนี้เค้าเบื่อกัน ออกไปก็เหมือนเดิม น่าเชิญมาให้เล่นเกมหน่อย แนะนำ รัสเซี่ยนรูเล็ต แพ้ก็พักที่บ้านพักไป คนชนะออกไปได้ ประมาณนี้
เสมา ขุนศึกรักสถาบัน กรณีนพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนายแดเนียล รัสเซล คสช เรียกเข้าไปพบ ใช้เวลา 45 นาที ปล่อยตัวกลับบ้านแล้ว >>>> สงสัยเรียกไปสอนวิธีแปรงฟันแบบพวกนั้น ^^ ****** อ้าววววว ทำไมโวทออกเร็วนักละ
เสมา ขุนศึกรักสถาบัน "บิ๊กตู่"ถาม"บก.ลายจุด"รณรงค์ใส่เสื้อแดงวันอาทิตย์ต้องการอะไร ไม่ใส่สีอื่นบ้าง? *** ถ้าได่โวทเข้าร่วม คงได้กินโบ้ท เฮ้ยยย กินแม็คฯ ยาวแน่ๆ
พรรคเพื่อไทย แปลก นะผมว่า แค่โดนถอดถอน ยังกินอิ่มนอนหลับ ยังเดือดร้อน วิ่งแจ้นไปทั่ว หาคนโน้น คนนั้นที อิสระภาพ ก็ไม่ได้เสีย แม้แต่ติดคุก แกนนำทั้งหลาย ยังเสวยสุขในคุก ไม่ได้ขอมาม่าใครกิน ที่เรื่องตัวเอง แค่นิด แค่น้อย ลงทุนลากสังขาร เจอฝรั่งมังค่า ปลุกระดม มั่งหละ แล้วไอ้พวกเสื้อแดง ที่ติดคุก บ้างก็ติดโรค ออกมาก็รอวันตาย พวกนี้มันจะได้สวรรค์วิมานแมน แดนศิวิไล กับพวกท่านทั้งหลายบ้างมั้ย ไปถ่ายรูปบ้าง ยืนคู่กันบ้าง แบบตอนหาเสียง หรือ ปลุกระดม บ้างก็ยังดี
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง อ๊ากกกกกก !!! สุภาพ คี่แทบกระจายยย สะจายยยยย @l0l93 · . สุภาพ คลี่ขจาย บอกว่า นักข่าวถามนายกฯว่า ทำไมต้องไปรวบตัว สุรพงษ์ที่ร้านอาหาร นายกฯตอบว่า จะให้ไปรวบตัวที่ห้องส้วม เหรอ .. ****** โดน 5555555555555
ซ่อนกลิ่น กระดังง สงบปากด้วยนะ โป๊งเหน่ง "สุรพงษ์"เผยหลังทหารเชิญเข้าปรับทัศนคติ บอก"คุยกันรู้เรื่องหมด เข้าใจกัน จบหมดแล้ว *** โอ...นี้ก้อไใ่น่าโวทออกเร็วเลย ผ่าเพือกสิ! ท่าทางจ๋อยเลย
หลังพูดคุยกับทหารกว่า1ชม."ณัฐวุฒิ" งดจ้อการเมือง ยันที่ผ่านมาอยู่บนฐานเสรีภาพ-รักชาติ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:55:07 น. วันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวภายหลังเข้าหารือกับพันเอกนวกร สงวนศักดิ์โยธิน ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กกลส. ที่สโมสรทหารบกเทเวศร์ นานกว่า 1 ชั่วโมง โดยระบุว่า การพูดคุยเป็นไปด้วยดี ไม่มีการใช้ความรุนแรง และพูดคุยด้วนความเข้าใจกัน โดยนายณัฐวุฒิ รับปากจะให้ความร่วมมือในการไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยยืนยันว่าการแสดงความคิดเห็นของตนเองอยู่บนหลักสิทธิและเสรีภาพเป็นการแสดงความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง โดยจะไม่ให้เกิดการปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง และพร้อมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่แสดงความเห็นออกไป ซึ่งยังคงยืนยันในจุดยืนของตนเอง ก่อนเดินทางกลับทันทีโดยรถยนต์ส่วนตัว ที่ขอนแก่น ทหารเรียก “หมอเชิดชัย” อดีตส.ส.เพื่อไทยแกนนำเสื้อแดงอีสาน ปรับทัศนคติ วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 15:55:59 น. เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ม.ค. นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. ขอนแก่น พร้อมนางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ ภรรยา ได้เดินทางไปที่ กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น เข้าพบกับ พ.อ.ประกิจ ทับทอง รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น พ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รอง ผอ.รมน.จว.ขอนแก่น นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว ขอนแก่น พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รองหัวหน้าการข่าว มทบ.23 กรณีนี้ สืบเนื่องจาก นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์กล่าวถึง นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เมื่อวันที่ 27 มกราคม ว่า "กระบวนการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุเป็นคดีการเมือง และ การที่ประเทศจะเป็นประชาธิปไตยได้ ก็ต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เสมือนเป็นการบอกโดยนัยว่าให้ฟังคนอื่นพูดบ้าง เพราะถ้าไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก จะรู้ได้อย่างไรว่าคนส่วนใหญ่เขาคิดเห็นอย่างไร ส่วนที่อ้างว่าเพื่อความมั่นคง ก็อยากถามว่า ความมั่นคงของใคร ของตนเองหรือ" พร้อมแสดงความคิดเห็นให้ครม.และ คสช. ทำตามคำแนะนำของผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ น.พ.เชิดชัย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และให้สัมภาษณ์ว่า ที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อสร้างความเข้าใจ กับ กกล.รส.จว.ขอนแก่น โดยได้ขอความร่วมมือให้ตนระงับการให้สัมภาษณ์ และการโพต์สข้อความที่อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาล และการทำงานของ คสช.ตามโรดแมป ซึ่งตนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมที่จะดำเนินการตามคำชี้แจง แลให้ความร่วมมือสร้างสภาวะให้เกิดความสงบในพื้นที่ร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความสามัคคีปรองดองกันตลอดไป นพ.เชิดชัย กล่าวว่า "กกล.รส.จว.ขอนแก่น เรียกตนมาทำความเข้าใจ เพื่อทำให้บรรยากาศในขอนแก่นดีขึ้นและไม่เกิดการปั่นป่วน ทั้งนี้ เราไม่ต้องการให้บ้านเมืองวุ่นวาย ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างก็ว่ากันไป เพราะทางรัฐบาลก็รับผิดชอบทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ที่จะทำตามโรดแมปให้ราบรื่นอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่รู้ แต่อาจมีบางคนไปปล่อยข่าวกระตุ้น ทำให้เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งทางจังหวัดไม่ต้องการให้เกิดขึ้นในขอนแก่น ที่มาวันนี้ เพราะมีข่าวที่ตนได้ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นกับสื่อไป โดยที่ตนยังไม่ได้อ่านข่าวเลย แต่น่าจะเป็นเรื่องที่ให้สัมภาษณ์กรณีของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยให้ความเห็นตรงไปตรงมา เพียงแต่เราไม่อยากให้คำสัมภาษณ์นี้ไปกระตุ้นให้เกิดความปั่นป่วนในจังหวัดเท่านั้นเอง จึงบอกพี่น้องให้ทำมาหากินเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ตอนนี้ก็คุยกันเรียบร้อยแล้ว อยากให้ทุกอย่างสงบ ประชาชนในขอนแก่น มีความสามัคคีปรองดองกันตนขอทำงานของตนโดยไม่ยุ่งการเมืองในช่วงนี้ "
ปึ้งเข้ารัง ไอ้สลิ่มสาปตีปี๊บใหญ่ แต่ทราบเบื้องหลังหรือไม่ ว่าเขาออกจะเอ็นดูกัน ทหารเขานัดปึ้งที่ร้านข้าวขาหมูเมืองทอง ปึ้งไปเขาก็พาขึ้นรถ ทีแรกนึกว่าจะนั่งกินที่ร้าน พอเข้าค่ายเสร็จ เขาก็เอาข้าวขาหมูที่ซื้อมา เลี้ยงพี่ปึ้ง แล้วก็คุยกันสักพัก ก็กลับ ไม่มีใครไปนั่งดูรากมะม่วงสักคน เข้าพบเช้า เย็นก็กลับบ้าน ไอ้สลิ่มทราบทำเป็นระริก
แอ่น แอน แอ๊น ผู้โชคดีรายต่อไปวันจันทร์หน้า นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทธปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำกลุ่มนปช. ก็ได้ถูกเชิญเข้ารายงายตัวที่ กองทัพภาคที่ 1 ในวันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 10.00 น. เช่นกัน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1422588667
คงมาจากสาเหตุนี้มั้งครับ "...แต่รายไหนก็ไม่ฮือฮาเท่ากรณีมีทหารแวะไปพูดคุยทำความเข้าใจ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังโพสต์อินสตาแกรมในเชิงปลุกระดม เลยมีทหารไปสะกิดติดเบรกกันถึงบ้าน ก็ไม่มั่นใจคิวปรับทัศนคติ “โอ๊ค พานทองแท้” จะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนในครอบครัวชินวัตร และท่าทีของขั้ว “นายใหญ่” กับสถานการณ์บ้านเมืองนับจากนี้ต่อไปอย่างไร..." กระบองเริ่มแกว่งแรง
'เต้น' ลั่น แสดงความเห็นแบบไม่เผชิญหน้า พร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น วันศุกร์ 30 มกราคม 2558 เวลา 15:56 น. เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)โพสต์ข้อความผ่านเฟวบุ๊กส่วนตัวหลังภายหลังเข้าพูดคุยกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ว่า เจ้าหน้าที่นัดไปคุยที่สโมสรทหารบก การสนทนาเป็นไปด้วยอัธยาศัยไมตรีไม่มีข่มขู่บีบบังคับ สาระโดยสรุป คือ อธิบายเหตุผลการยึดอำนาจความมุ่งหมายของคสช.และขอให้งดแสดงความเห็นทางการเมืองพร้อมแจ้งมาตรการต่อไปหากเห็นว่า ไม่ให้ความร่วมมือตนบอกไปว่ายินดีให้ความร่วมมือ ไม่มีเคลื่อนไหวเผชิญหน้า แต่เรื่องการแสดงความเห็นผมคิดว่า เป็นสิทธิและพร้อมรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นขอให้เข้าใจ ว่าทุกอย่างที่พูด เพราะตนคิด และเชื่อเช่นนั้น ด้วยความหวังดีต่อบ้านเมืองไม่มีเป้าหมายอื่น สุดท้ายก็จบตรงที่ก็แล้วแต่น้องถือ ว่าเราได้พูดคุยกันแล้ว ตนก็ตอบว่า หากวันข้างหน้ามีเหตุต้องเรียกตนมาหรือดำเนินการ อย่างไรขอให้เข้าใจว่า ไม่ใช่ตนเล่นแง่หรือไม่ไว้หน้าคณะที่พูดคุยกันแต่ “ผมเป็นผมแบบนี้จริงๆ” 'เต้น'ซ่าไม่เลิกเดินหน้าแสดงความเห็นต่อ