แต่ ซัก 1/4 ของคนกลุ่มนั้น ก็อาจไม่เอาทักษิณเช่นกัน เพราะมันก็คือ ฝ่ายที่เชียร์ กปปส. มาด้วยกันนั่นล่ะ ที่ผิดหวังหลายๆอย่าง และอีกเกือบครึ่งนึงที่เหลือ คือคนกลางๆ ที่ไม่เห็นด้วย กับวิธีการของ กปปส. มาตั้งแต่แรกแล้ว ปัจจุบันก็เลยร่วมด่า คสช. ด่าสลิ่ม ตามเสื้อแดงกันไป คนกลุ่มนี้ ผมเดาว่าก็ไม่อยากจะเอาทักษิณเหมือนกัน แต่ก็อาจไม่แน่ ถ้าไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่า ก็..... คงเหมือนเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ยังแสดงถึงความหวาดกลัว ความไม่เห็นด้วย ความไม่คุ้นเคย ต่อนโยบายของรัฐบาลทหารอย่างชัดเจน เป็นกลุ่มคนที่โดนล่อหลอก จากลมปากของเสื้อแดงได้โดยง่ายนั่นล่ะ แค่เปลี่ยนจาก นโยบายประชานิยม เป็นความกลัว จะเดือดร้อนภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารนั่นล่ะ (เรื่องเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศ เป็นสำคัญ) ส่วนที่เหลือ อันนี้เข้ากระดูกดำไปล่ะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจล่ะกัน เรื่องนี้ผมสมมุติขึ้นนะ แต่ก็น่าจะสะท้อนความจริงบางอย่างที่ผมประสบมาด้วยตนเอง ไม่ใช่การเดามั่วอะไรแบบนั้นหรอก(เพื่อนกรู ซะครึ่งนึง กำลังด่าลุงตู่อย่างเมามันอยู่ในขณะนี้) สมมุติว่าสิ่งที่ผมคิด จนต้องมาตั้งกระทู้นี้ เป็นความจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร? ดีใจ เสียใจ หรือรู้สึกอย่างไร? มองการเมืองในอนาคตจะไปในทางใด? สำหรับผมแล้ว แม้เสียงที่ประเมิณว่าสนับสนุน คสช. จะมีมาก แต่ใช่ว่าจะมากพอ หากทุกอย่างยังไม่ดีขึ้น หนทางก็ยากลำบากยิ่ง แม้ คสช. จะยังแข็งแกร่ง ไม่มีใครเทียบหรือล้มได้ แต่แผนต่างๆ ที่วางไว้ คงใช่ว่าจะควบคุม ให้เป็นไปตามตั้งใจได้ โดยเฉพาะ ประชามติที่จะมีขึ้น
จะอยู่จนถึงวันที่ ปชป พท สามัคคีกันออกมาไล่รึเปล่า หวังว่าจะหาทางลงได้งามๆ ยิ่งตอนนี้ม๊อบอาชีพน่าจะอยากมีงานทำกันแล้ว รึเปล่า?
นับรวมไอ้แป๊ะลิ้มและบริวารรึยังครับ เป็นพวกที่ชอบแตะตัดขาฝั่งตรงข้ามทักขี้ โดยไม่มีปัญญาทำห้าอะไรกะฝั่งนั้นเบย
คิดว่าเสื้อแดงพันธุ์แท้มีเท่าไหร่ กลุ่มแป๊ะลิ้มหลังโป๊ะแตก น่าจะน้อยกว่านั้นซัก 3 เท่า น่าจะรวมๆ อยู่ในกลุ่ม 1/4 นั่นแหละ ก็ยังหวังว่ากลุ่มพี่แก คงแค่ด่าทหาร แต่คงไม่ กลับขั้วถึงขั้นไปเลือกทักกี้หรอกมั้งนะ
ไม่หรอกครับ แม่ผมเป็นเสื้อแดงกลับใจ ตอนนี้แกเป็นติ่งลุงตู่ ด้วยเหตุผล อยากให้ประเทศไทยที่แกเคยรู้จักมากว่า 60 ปี กลับมาเป็นเหมือนเดิม ความหมายคือ ความสงบสุข การปรองดอง ประชาชนรัก สามัคคีกัน น่ะครับ แต่รายการลุงตู่มา เจ๊แกปิดทีวีหนี รอจนลุงพูดจบ ค่อยเปิดดูละครต่อ
ไม่แปลกใจครับ เพราะถ้ามองย้อนหลังไปว่า ทำไมทักษิณถึงชนะคะแนนถล่มทลายเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว และถ้าถามว่า คนไทยต้องการอะไรจากประชาธิปไตยคงจะตอบกันไปคนละทิศทางเลยก็ได้ เพราะความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยคนไทยน้อยมาก ยิ่งมาประกอบกับพื้นฐานคนไทยที่มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ ระบบอุปถัมภ์ ยิ่งขัดแย้งกันเองมากขึ้น คสช.วางรากฐานประชาธิปไตยระยะยาว ซึ่งจะเห็นผล 5 ปีเป็นอย่างน้อย เลยมองเหมือนผลงานไม่มี สื่อไม่ชอบ เลยไม่สนับสนุน นักการเมือง(โดยเฉพาะยุคทักษิณ) เน้นประชานิยม สร้างความหวือหวา โดยมีสื่อสนับสนุน เพราะขายข่าวได้ มีผลประโยชน์ร่วม สังเกตได้จากยุคท่านชวน คุณอภิสิทธิ์ ที่วางรากฐานของเศรษฐกิจไว้ และทักษิณก็เข้ามาชุบมือเปิบถึง 2 ครั้ง 2 ครา สุดท้าย คงต้องเป็นแบบคุณนอกคอกว่าไว้ ให้มันเป็นไปครับ ไม่วาดีหรือเลว คนไทยต้องรับมันร่วมกัน (ยกเว้นพวกที่กอบโกยผลประโยชน์)
ก็ถูกแล้ว ดีกว่าคนบูชาเยอะ เบื่อพวกไม่มีน้ำยาต้องไปอาศัยคนนอก บาม่าบินไปเวียดนาม เสรีภาพบานเบอะเลยprachatai.com/journal/2016/03/64853ถรุ้ยส์
เลอคูทำอะไรบ้างครับไม่อายบางเหรอ สู้เด็ก คนชรา ผู้หญิง ก็ไม่ได้ เขาออกมากันแล้ว หรือเพราะใจดำเลยไม่สน
ประชาชนกลางๆส่วนใหญ่ในประเทศ ยังทนอยู่ถึงวัันนี้โดยไม่มีแรงกระเพื่อม (ส่วนอีกฟากชั่งมัน ดื้อด้านแบบนี้สมควรปกครองด้วยความกลัวชั่งหัวเขา) ผมว่าไม่มีใครพอใจ 100 เปอเซ็นต์ทั้งนั้นล่ะ เรื่องปากท้องเรื่องใหญ่ แต่ก็ยังอดทนมาถึงวันนี้ ผมว่า มันไปได้หล่ะน่า
โอเคมากกว่าแล้วไง โอเคน้อยกว่าแล้วไง ผมว่าคนไทยกำลังติดกับดักเสียงข้างมาก ตามระบอบประชาธิปไตย จนลืมความถูกต้อง ดีงามตามวัฒนธรรมและหลักศีลธรรมไปหมด ถ้ารัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม และเป็น ประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนส่วนรวม ถึงแม้คนไทยทั้งชาติไม่ปลื้ม เข้าทำนองถูกต้อง แต่ไม่ถูกใจ ผมก็พร้อมยืนหยัดไปกับรัฐบาล หากรัฐบาลทำอะไรที่ถูกใจคนส่วนมากในสังคม แต่ไม่ถูกต้องด้วยวัฒนธรรมและหลักศีลธรรม ถึงแม้จะมีผมคนเดียวที่ไม่เห็นด้วย ผมก็พร้อม ที่จะต่อสู้โดยไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เฮ้อ สังคมเรา มันเป็นเช่นนั้นแล โปรดพิจารณาบัวสี่เหล่า
ไม่มีใครเพอร์เฟคไปทุกอย่าง บิ๊กตู่ไม่ใช่นายกที่ดีที่สุด แต่ก็ยังดีกว่าให้พวกนักการเมืองชั่วๆมาครองเมืองเหมือนก่อนๆ
ดูนี่ก่อน แค่นี้ก็รู้แล้วว่า คนไทยเกินครึ่งเลือกเพื่อไทย ซึ่งเพื่อไทยตรงข้ามกับคสช. แล้วที่นี้ ปชป. ก็เริ่มออกมาต้านนิดๆ บวกลบคูณหาร ถ้าคุณบอกว่าครึ่งหนึ่ง แสดงว่าคะแนนปชป.หายไปด้วยซ้ำ #อ่านหนังสือเล่มเดิม ตอนจบก็เหมือนเดิม #ยังถู่ซี้เอาหน.คนเดิม ตอนจบก็ไม่ต่างจากเดิม
ส่วนตัว...............ถึงคนไทยส่วนใหญ่ จะไม่เอาคสช. ผมก็ไม่เดือดร้อนอะไรหรอก ขออย่างเดียวอย่าเลือกพรรคเอี้ย มาปกครองประเทศอีกเลย รู้จักเข็ดหลาบกันบ้างเหอะ
อ่านให้ดีๆ ครับ ผมไม่ได้หมายความว่า คนที่ไม่ชอบ คสช. ต้องเลือกเพื่อไทย เสมอซักหน่อย ยิ่งคนเป็น กปปส. เก่า แม้จะต้านลุงตู่ แต่โอกาสกลับไปเลือกเพื่อไทย คงแทบไม่มีเลย ผมมาเล่า ความเป็นจริงที่พบมาให้ฟังเท่านั้นล่ะ ว่าสถานการณ์ดูเหมือนจะแย่ลง กว่าตอนลุงเข้ามาใหม่ๆ พอสมควร การทีคนเชื่อถือ คสช. น้อยลง ขณะทีอีกฝ่ายยังเหมือนเดิม แถมวิชามารมากมาย คสช. คงจะต้องลำบากมากขึ้น อีกอย่าง ถ้าเลือกตั้ง แม้คนส่วนใหญ่จะไม่เลือกเพื่อไทย แต่ถ้าคะแนนฝ่ายต้านทักษิณ กระจัดกระจายมากขึ้น ก็ไม่เป็นผลดีเท่าไหร่ ผมเชื่อว่าต่อให้อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ มันก็จะอ้างเสียงข้างมากเข้าข่มอีกอยู่ดี แถชั่วๆแล้วได้ดี มีคนเชียร์ คนส่วนใหญ่ไม่กล้าโวยวายอะไรแบบนี้
อย่าท้อครับ ดูอย่างเลอคู กับผู้พิชิต สนามบิน005 ซิ เปลี่ยนร่างมากี่ร่างแล้ว ยังคงไว้ซึ่งความใจดำ และไม่ย่อท้อในความด้านที่จะโกหกใส่ร้ายผู้อื่น เพราะเชื่อ(หลอกตัวเอง)ว่าชาวบ้านเลวหมด คนอื่นไม่ชอบไม่ได้แปลว่าเราต้องไม่ชอบด้วยนี้ครับ
รายการแบบนี้ วัดอะไรไม่ได้หรอก สมัยทักษิณ เช้าวันอาทิตย์ ก็ไม่มีใครฟังแกเหมือนกัน คือ ลักษณะรายการแบบนี้ จะทำอย่างไร ให้ดีอย่างไร คนก็ไม่ฟัง
ที่ผ่านมา รัฐบาลในยุค คสช. ก็ออกกฎหมายใหม่ๆ มาหลายฉบับ แต่ปัญหาคือ ความเข้าใจในเรื่องกฎหมายแบบผิดๆ ถูกๆ ของประชาชนด้วยกันเอง อย่างกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นกฎหมายเอาใจสัตว์ จนทำอะไรกับมันไม่ได้เลยสักอย่าง ทั้งที่มีข้อยกเว้นที่ไม่นับว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์อยู่ในกฎหมายแล้ว
คือ รบ เผด็จการทหารมา คนคาดหวังว่า มันต้องสร้างมาตรฐานที่เหนือกว่า เจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด โคตรเมพ เช่น ลีกวนยู ปาคจุงฮี แต่ที่เห็นมันไม่ใช่ คือคนพวกนี้คิดว่า ถ้าเผด็จการไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ รบ แม้ว โอเคกว่าสำหรับพวกเขา
ผมเลือกลุงตู่แล้วครับ และจะสนับสนุนแกจนแกจะคืนเมืองไทยให้กับนักเลือกตั้ง เรามีควายอยู่ฝูงหนึ่ง แต่เราก็มีคนไทยที่มีจิตวิญญาณเป็นไทยจำนวนมากพอที่จะยับยั้งนายของควายฝูงนั้นไม่ให้ทำความเสียหายต่อชาติไทยของเราต่อไปได้ ภารกิจของลุงตู่และคณะหนักหนาสาหัสนัก หากจะเพ่งโทษกันก็ย่อมจะมองเห็นข้อบกพร่องได้ในระดับหนึ่ง ถ้าคนไทยที่มีจิตวิญญาณไทยไม่อดทน กลับกลายเป็นคนชักเข้าชักออก ผมรับรองว่านายของฝูงควายจะกระหยิ่มยินดีเป็นอย่างยิ่ง และถ้าฝูงเหลือบฝูงนี้ได้อำนาจรัฐอีกครั้ง ประเทศไทยไม่เหลืออะไรแน่ๆ เริ่มตั้งแต่สถาบันสูงสุดลงมา
ผมคนนึงแหละครับ ร่วมม็อบ กปปส แต่ไม่โอเค กับบิกตู่ครับ และเข้าใจว่าขนาดนักการเมือง ปชป หรือ ที่ออกข่าว คือนักวิชาการหลายท่าน ก็ไม่ได้ชอบคสช นะครับ
ขออนุญาตครับ บางทีประเทศชาติก็ไม่ได้อยู่ที่เราโอเค ไม่โอเค ชอบ หรือไม่ชอบใคร ผมว่ามันอยู่ที่ใครหรืออะไรดีที่สุดกับชาติในขณะนั้นมากกว่า บ้านผมเลือกปชป.ตั้งแต่สมัยพ่อผม ตอนนายเลียง ไชยกาล และนายสวัสดิ์ คำประกอบ ยังไม่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และจนถึงปัจจุบันผมก็ยังเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่เลวน้อยที่สุด อนาคตก็คงแล้วแต่อนาคต แต่ปัจจุบันผมเชื่อว่าปัญหาที่หมักหมมมานานของประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขได้โดยนักเลือกตั้ง ด้วยความอ่อนไหวและความกลัวจะเสียคะแนนนิยม ต่อให้เป็นพรรคการเมืองที่ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาโกงกิน แต่ก็มีหลายเรื่องที่พรรคการเมืองไม่กล้าแตะต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุกรุกป่าสงวน เรื่องการรุกล้ำที่สาธารณะในเมืองใหญ่ ปัญหาสลากกินแบ่ง วินมอเตอร์ไซค์ แรงงานต่างชาติ การค้ามนุษย์ ทรัพย์สินทางปัญญา หรือแม้แต่การดำเนินการกับพวกที่ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ หากจะทำก็แค่เข้าไปแตะแล้วถอยออกมา หรือทำจริงจังเนื่องจากอีกฝ่ายเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง หลักการประชาธิปไตย การเลือกตั้ง สิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ พูดเมื่อไหร่ก็ถูกเมื่อนั้นแหละครับ แต่กี่ปีกี่ชาติมาแล้วที่นักเลือกตั้งและพ่อค้าเอาหลักการนี้มาทำมาหากินกับความหายนะของทรัพยากรของชาติ และสัมมาทิษฐิของคนไทย
ผมเองก็เชื่อเช่นคุณ เหตุผลสำคัญที่ผมเชื่อ เพราะผมเห็นว่าตัวนักการเมืองเองนั่นแหละ คือตัวจักรใหญ่ที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาหมักหมม แต่เขาไม่เคยรู้สึกตัว หรือรู้สึกตัวแล้วแต่ในเมื่อเขาไม่เดือดร้อน ยังอยู่กันได้สบายดี แล้วจะแกว่งเท้าหาเสี้ยนทำไม
ผมว่า มันต้องแยกว่า ไม่ OK กับ คสช นี่ ไม่ OK เรื่องอะไร เท่าที่ผมอ่านตามความเห็นของ จขกท ผมคิดว่าน่าจะเป็นสองเรื่องใหญ่ ๆ คือ ไม่ OK ที่มาของ คสช กับ ไม่ OK การบริหารประเทศของ คสช (ไม่รู้ถูกรึเปล่า) ถ้าไม่ OK กับที่มาของ คสช กลุ่มนี้มีนิดเดียวครับ (ถ้าเทียบกับคนทั้งประเทศ) ส่วนใหญ่เป็นคอการเมือง ระดับความไม่ OK ก็มีความเข้มข้นต่างกันไป ตั้งแต่สุดโต่ง จนไปถึงเจือจาง ระดับสุดโต่งก็เห็น ๆ กันอยู่ที่มาแสดงออกนี่แหละ นับหัวได้ครับ กลุ่มนี้ไม่ต้องการเหตุผลอะไร จะบริหารประเทศดีเลวอย่างไรก็ไม่สน ต่อต้านอย่างเดียว ที่เหลือก็ไม่ OK แต่ถ้ามีเหตุมีผลก็ยอมรับได้ แต่รวมทั้งหมดแล้วมีนิดเดียวครับ คิดง่าย ๆ ครับ เอาจำนวน กปปส ที่ชุมนุมเยอะสุด รวมกับเสื้อแดงที่ชุมนุมเยอะสุด รวมกันแล้วยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของคนทั้งประเทศเลย (นี่ผมคิดแบบเหมารวมให้ทั้งจำนวนเลยนะมีพวกที่ OK รวมอยู่กว่าครึ่ง) แล้วคนส่วนใหญ่ในประเทศเขาคิดอย่างไร อันนี้ไม่รู้ครับ แต่ถ้าให้ผมเดา ผมก็เดาตามอาการครับคือ เฉย ๆ ไม่หือไม่อือ จะทำอะไรก็ทำกันไปเถอะ อย่าให้กูเดือดร้อนก็แล้วกัน ถ้าไม่ OK กับการบริหารประเทศของ คสช อันนี้กลุ่มใหญ่ขึ้น เพราะมันเกี่ยวกับปากท้อง แต่ผมมองว่าเป็นเรื่องปกตินะ จะเป็น คสช หรือ นักการเมืองขึ้นมาบริหาร มันหาความพึงพอใจอะไรที่เป็นมาตรฐานไม่ได้หรอก นักการเมืองขึ้นมาบริหาร บริหารไปได้สักพักหนึ่ง ก็เห็นด่ากันเยอะแยะ เหมือนลมเพลมพัดนั่นแหละ ปชป ขึ้นมาบริหารประเทศ ก็เห็นกองเชียร์ด่ากันอยู่ พท ขึ้นมาบริหารประเทศ แม้กองเชียร์จะมีวินัย (ไม่กล้าด่า) แต่ก็มีกองเชียร์ ปชป ช่วยเป็นหูเป็นตา และเป็นปากด่าให้ แต่กองเชียร์ทั้งของ ปชป และ พท นี่ก็ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ครับ เพราะคนส่วนใหญ่ทั้งของ ปชป และ ของ พท จะอยู่ในประเภทเฉย ๆ คือ ไม่หือไม่อือ คนส่วนใหญ่ที่เฉย ๆ ไม่หือไม่อือ นี่ มักจะไปตามกระแสชี้นำครับ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมนักการเมืองถึงอยากให้ คสช ผ่อนปรนระเบียบ ให้นักการเมืองออกไปแสดงความคิดเห็นเรื่องประชามติ เหลือเกิน เพราะเขามองว่ามันใกล้จะมีการเลือกตั้งแล้วไง ถึงฤดูกาลออกไปชี้นำประชาชนแล้ว ไอ้ตัวชี้นำประชาชนอีกพวกหนึ่งที่น่ากลัวไม่แพ้กันก็คือ สื่อครับ สื่อกระแสหลักนี่แหละตัวแสบเลย จะชี้นำให้ประเทศชาติดีเลวอย่างไร ก็พาดหัวไปทางนั้นเรื่อย ๆ จนประชาชนผู้วางเฉยไม่หือไม่อือคล้อยตามนั่นแหละ ผมจึงมองว่า ที่ จขกท ยกตัวอย่างมานั้นเป็นชนกลุ่มน้อยครับ เขาคิดของเขาเอง เหมือนพวกเรา ๆ นี่แหละ เอาทั้งเราทั้งเขารวมกันแล้ว มีนิดเดียวเท่านั้น