เห็นภาพบรรยากาศปั่นจักรยานเมื่อวาน น้ำตาผมพาลจะไหลเอาซะดื้อๆ เมื่อได้มาเจอกับข่าวเรื่องนี้ สังคมไทยเนาะ คนมี ก็มีจนล้นมากมาย ไม่มี ก็เหมือนไม่มีตัวตน ทั้งๆที่ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกันแท้ๆ สุดอึ้ง!! สองดญ.เดินเท้าไปรร.16กม. ออกตี5ถึง9โมง ยากจนไม่มีเงินขึ้นรถ Font Size วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 11:05 น. จำนวนคนอ่านล่าสุด 19804596 คน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางอยู่บนถนนสายช้างทูน-หนองบอน ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด พบชาย-หญิงวัยกลางคน และเด็กหญิงสวมชุดนักเรียน 2 คน กำลังเดินอยู่ข้างถนน จึงได้เข้าไปสอบถามจนทราบชื่อทั้ง 4 คน คือ นายประจักษ์ เอมอ่อน อายุ 39 ปี นางแต เอมอ่อน อายุ 40 ปี ด.ญ.ชนาพร เอมอ่อน อายุ 11 ปี และ ด.ญ.ทศพร เอมอ่อน อายุ 10 ปี จนได้คำตอบที่ต้องตกใจว่า ครอบครัวนี้กำลังเดินกลับบ้าน โดยได้เดินมาจากโรงเรียนอัมพรจิตกานนท์ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด กลับบ้านที่ห่างจากโรงเรียนระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตรทุกวัน จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดตามไปยังบ้านเลขที่28/2ม.5ต.ช้างทูนอ.บ่อไร่ จ.ตราด ซึ่งเป็นบ้านพักหลังเล็กๆ ของครอบครัว เอมอ่อน ที่หลานตัวเองได้ให้ไว้เป็นที่นอน สภาพบ้านที่สร้างมานานกว่า 10 ปี แล้ว อยู่ในสภาพเก่ามาก ต้องอาศัยเทียนไขไว้ส่องสว่าง นางแต กล่าวถึงชีวิตที่ต้องต่อสู้มาตลอดว่า หลังจากแต่งงานกับนายประจักษ์ จนกระทั่งตนตั้งท้องลูกสาวคนที่สอง นายประจักษ์ ก็มีอาการป่วยทางสมอง จนไม่สามารถช่วยทำมาหากินได้ ซึ่งตนมีรายได้จากการรับแจ้งไปวันๆ บางวันมีรายได้ ไม่ถึง 200 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย ส่วนสามีรับเบี้ยคนพิการจากอบต.ช้างทูน ทุกเดือน แต่บางเดือนก็ไม่ได้ กระทั่งลูกสาวคนโตเข้าโรงเรียน ตนและสามีต้องพาลูกสาวเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนบ้านช้างทูนทุกวัน ระยะทางห่างจากบ้านประมาณ 8 กิโลเมตร โดยออกเดินเท้าจากบ้านตอนตี 5 ถึงโรงเรียนประมาณ 8 โมง หรือ 9 โมง เพราะบางวันลูกสาว ปวดขา เดินไม่ไหว ก็ต้องหยุดพักและเดินต่อ แต่บางวันปวดขาจนต้องหยุดไปโรงเรียนก็มี หลัง จากที่ตนส่งลูกสาวถึงโรงเรียนแล้วตนเดินกลับมาทำงานที่บ้านต่อและตกเย็นใกล้ เวลาลูกสาวเลิกเรียนก็ต้องเดินไปรับที่โรงเรียนอีกรอบแล้วก็เดินกลับ บ้านกว่าจะถึงบ้านก็ราว2 ทุ่ม และเป็นเช่นนี้ทุก ๆ วัน จนลูกสาวคนที่ 2 เข้าโรงเรียน ก็ต้องเดินไปรับไปส่ง ไปโรงเรียนแบบนี้มาจนลูกสาวคนโต อยู่ ป.5 แล้ว ซึ่งรวมระยะทางที่ต้องเดินแล้ว ตนเองต้องเดินทางระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตรต่อวัน และลูกสาวทั้ง 2 คน ต้องเดินทาง 16 กิโลเมตรต่อวัน นางแต ยังกล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางไปรับส่งลูกสาวเองนั้น เนื่องจากฐานะยากจน รายได้ไม่เพียงพอที่จะซื้อรถจักรยานยนต์ขี่ไปส่งลูกสาว แม้แต่รถจักรยาน ก็ยังไม่สามารถซื้อมาใช้ได้ มีแต่รถจักรยานที่มีผู้ใจบุญให้มาใช้นานมากแล้ว แต่สภาพตอนนี้ใช้การไม่ได้ และก็ไม่มีเงินที่จะเอาไปซ่อม จะให้ลูกสาวนั่งรถประจำ เงินก็ไม่พอ และเป็นสาเหตุที่ต้องเดินส่งถึงโรงเรียน ประกอบกับลูกเป็นผู้หญิง และเส้นทางที่เดินไปโรงเรียนค่อนข้างอันตราย ต้องผ่านสวนยางพาราที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานอยู่ ซึ่งตนไม่ไว้ใจแรงงานต่างด้าวด้วย อย่างไรก็ตาม ตนวอนผู้ใจบุญให้ช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่าย ยานพนะ หรืออาหารก็ได้ เพราะบางวันก็ไม่มีอาหารกิน จนต้องไปช่วยงานวัด ล้างจาน และไปขอข้าวก้นบาตรพระมากินที่บ้านอยู่ประจำ ด้าน ด.ญ.ชนาพร กล่าวว่า รู้สึกเหนื่อยที่ต้องเดินจากบ้านไปโรงเรียนทุกวัน เพราะปวดขา และเจ็บเท้า จนทำให้บางวันไม่อยากไปโรงเรียน บางครั้งเมื่อไปโรงเรียน เพื่อนๆ ก็ชอบล้อ ชอบแกล้ง และอยากจะขอให้ผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะจักรยานคันเล็กๆ ที่จะขี่เล่นและขี่ไปโรงเรียน ส่วนความฝันตนเอง แค่ต้องการให้เรียนจบสูงๆ เพื่อจะกลับมาเลี้ยงพ่อแม่ให้มีความสุข สำหรับเด็กหญิงทั้ง 2 คน ได้ย้ายโรงเรียนจากบ้านช้างทูน ต.ช้างทูน ไปโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ แล้ว เนื่องจากระยะใกล้กว่าโรงเรียนเก่าประมาณ 300 เมตร ด้านนายเกษม มั่นคง นายกอบต.ช้างทูน กล่าวว่า ที่ผ่านมาอบต.ช้างทูน เคยให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้ด้วยการปลูกบ้านในพื้นที่ใกล้กับโรงเรียนที่เด็กทั้ง 2 คนเรียนอยู่และมอบเงินช่วยเหลือด้วย แต่ต่อมาครอบครัวนี้ได้ขอย้ายกลับไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเก่าในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ไกลจากโรงเรียนนับ 10 ก.ม. แต่อบต.ช้างทูนก็ยังช่วยเหลือในด้านอื่นๆ อย่างต่อเนื่องด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้หากประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวเอมอ่อน สามารถติดต่อผ่านนายเกษม มั่นคง โทร.081-309-1607 ต่อมาวันเดียวกัน นายเกษม เปิดเผยว่า หลายหน่วยงานเดินทางมาพบครอบครัวเอมอ่อนทั้งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.ตราด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจ.ตราด เดินทางมาพบเด็กที่บ้านเนื่องจากทั้งสองคนไม่ได้เดินางมาโรงเรียน และได้สอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมรับว่าจะดำเนินการช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องบ้านที่อยู่ห่างจากโรงเรียนซึ่งจะให้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเทิดไท้องค์ราชันย์ ที่อยู่ในพื้นที่ตำบลหนองบอน และห่างโรงเรียนไม่มากนัก และจะสะดวกในการเดินทาง ซึ่งจะเดินทางมาในวันพรุ่งนี้(13 มกราคม 2558) เพื่อแก้ปัญหาให้ก่อน "พ่อ ของน้องสุขภาพไม่ดี ปัจจุบันได้เบี้ยยั้งชีพคนพิการ 800 บาท/เดือน ส่วนภรรยา รับจ้างหยอดน้ำกรดที่สวนยางมีรายได้วันละ 100-150 บาท/วัน ซึ่งหลังจากเป็นข่าวออกไปมีผู้โทรศัพท์มาหาผมเพื่อบริจาครถจักรยานกว่า 20 คัน แต่ได้บอกไปว่าทางเดินไม่เหมาะกับการขับขี่จักรยาน น่าจะมอบให้เป็นเงินมากกว่าเพื่อเป็นทุนการศึกษา ซึ่งมีผู้โทรศัพท์มากว่าถึง 50-60 สาย ที่ไม่ได้รับอีกจำนวนกว่า 20 สาย ทำให้ได้ปรึกษากับทางครูโรงเรียนเพื่อเดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารให้เพราะจะ สะดวกในเรื่องของการบริจาคสำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือน้องทั้งสองคน ที่ผ่านมาทางอบต.ช้างทูนไม่ได้ทอดทิ้งแต่เป็นที่ครอบครัวต้องการเช่นนี้ มากกว่า รวมทั้งญาติของครอบครัวนี้ก็มีฐานะ และเป็นอดีตสมาชิกสภาอบจ.ตราดด้วยแต่ไม่ถูกกันเท่านั้น" นายเกษม กล่าว นอกจากนี้แล้ว ทางโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ได้ร่วมประชุมกับทางสำนักงานเขตการศึกษาประถม ศึกษาจ.ตราดเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับนักเรียนทั้งสองคนโดยเร็วที่สุด สำหรับความช่วยเหลือยังมีพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดสดเทศบาลเมืองตราดบริจาคเงิน ให้น้องทั้งสองจำนวน 3,200 บาท และนายกสมาคมสื่อสารมวลชนจ.ตราด บริจาคเงินจำนวน 3,000 บาทด้วย และในวันพรุ่งนี้จะมีหน่วยงานสาธารณกุศลในจ.ตราดเดินทางไปมอบทุนการศึกษาให้ ครอบครัวนี้ด้วย http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU16Y3hOREk1TVE9PQ=
แล้วเจ้าพระยาช่วยอะไรเด็กสองคนนี้บ้างครับบอกหน่อยได้ไหม หรือว่าไม่ได้ช่วย ผมละเศร้าจริงๆ ทั้งๆเจ้าพระยาที่ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกันแท้ๆ
Alamos อย่างน้อยก็กำลังทำอยู่นี้ไง อย่าถามโง่ๆให้มากนักคิดก่อนถาม คงจะไม่โง่ถามอีก กำลังทำอยู่ ช่วยน้องได้อย่างไร
น้ำตาจะไหล บ้านจน ไฟฟ้าก็ไม่มีจะใช้ นังปูยังออกนโยบาย แจกแทบเล็ตให้นักเรียน คนไม่โง่ เขาไม่ทำนโยบายปัญญาอ่อนแบบนี้หรอก
แค่ที่พี่ขยันทำงานอยู่ทุกวันนี้ก็น่าจะได้เงินพอจะไปเที่ยวปีใหม่สบายๆแล้วนะครับ ไม่จำเป็นต้องตั้งใจให้เยอะไปทุกเรื่องหรอก
อ้างจากข้อความต้นเรื่อง......."พ่อ ของน้องสุขภาพไม่ดี ปัจจุบันได้เบี้ยยั้งชีพคนพิการ 800 บาท/เดือน ส่วนภรรยา รับจ้างหยอดน้ำกรดที่สวนยางมีรายได้วันละ 100-150 บาท/วัน ซึ่งหลังจากเป็นข่าวออกไปมีผู้โทรศัพท์มาหาผมเพื่อบริจาครถจักรยานกว่า 20 คัน แต่ได้บอกไปว่าทางเดินไม่เหมาะกับการขับขี่จักรยาน น่าจะมอบให้เป็นเงินมากกว่าเพื่อเป็นทุนการศึกษา ซึ่งมีผู้โทรศัพท์มากว่าถึง 50-60 สาย ที่ไม่ได้รับอีกจำนวนกว่า 20 สาย ทำให้ได้ปรึกษากับทางครูโรงเรียนเพื่อเดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารให้เพราะจะ สะดวกในเรื่องของการบริจาคสำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือน้องทั้งสองคน ที่ผ่านมาทางอบต.ช้างทูนไม่ได้ทอดทิ้งแต่เป็นที่ครอบครัวต้องการเช่นนี้ มากกว่า รวมทั้งญาติของครอบครัวนี้ก็มีฐานะ และเป็นอดีตสมาชิกสภาอบจ.ตราดด้วยแต่ไม่ถูกกันเท่านั้น" ทีนี้ขอถาม เรื่องเมื่อต้นปี ทำไมไม่เช็คว่ามีใครเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้วหรือยัง อีกอย่างงานปั่นจักรยานเมื่อวานทำเพื่อใครเพื่ออะไร แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับภาพบรรยากาศปั่นจักรยานเมื่อวานไม่ทราบ ถ้าอยากช่วยทำไมไม่แจ้งไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าโพสโดยไม่รู้ว่าจะเล่นเรื่องอะไรแล้วเอาเรื่องงานเมื่อวานมาโพสเกี่ยวโยงกัน นับว่าเลวทรามมาก ชักจะหนักข้อขึ้นทุกวัน
แฟนเปาบุ้นจิ้นไม่พอใจช่อง3 เนื้อเรื่องดีอยู่แล้วทำไมต้องตัดฉากทิ้ง Written by Jomyutclub Tagged under เปาบุุ้นจิ้น วันพฤหัสบดี, 10 ธันวาคม 2558 20:41 font size Print Email แฟนเปาบุ้นจิ้นไม่พอใจ ช่อง3 ของดีอยู่แล้วทำไมต้องตัดฉากทิ้ง แฟนหนังจีนชุด "เปาบุ้นจิ้น" ออกปากไม่พอใจ ช่อง3 อย่างรุนแรงหลังจากได้ดู เปาบุ้นจิ้น ตอนประหารมังกร ที่ออกอากาศวันที่ 10 ธ.ค. 2558 เนื่องจากช่อง3 ตัดฉากที่สำคัญออกนั่นก็คือฉากที่อดีตฮ่องเต้ไท่จู่แสดงอิทธิฤทธิ์มาเข้าสิงร่างของเล่าฮูหยินหลังจากที่ท่านเปาบุ้นจิ้นได้จุดธูปสักการะต่อหน้าภาพวาดของฮ่องเต้ไท่จู่ ซึ่งฉากดังกล่าวถูกช่อง3ตัดทิ้งอย่างน่าเสียดาย ทำให้แฟนเปาบุ้นจิ้นที่เคยดู เปาบุ้นจิ้น ตอนประหารมังกรมาแล้ว เกิดสงสัยกันต่างๆนาๆว่าทำไมช่อง3 ต้องตัดฉากทิ้งไปด้วย มันทำให้เสียความรู้สึกกับช่อง3 และเสียเวลาในการดูเปาบุ้นจิ้นที่ช่อง3 รีรันรอบนี้ เพราะเปาบุ้นจิ้น 2010 ถึง 2012 ช่อง3ก็ยังดองไว้อยู่ยังไม่ลงจอซะที ฉากที่ท่านเปาบุ้นจิ้น และเจ้าหน้าที่ศาลไคฟงทุกคน แสดงความเคารพต่อฮ่องเต้ไท่จู่ โดนช่อง3 ตัดทิ้ง จอมยุทธคลับก็หวังว่า ช่อง3 คงจะมีคำอธิบายหรือขอโทษกับแฟนหนังจีนที่อยู่คู่กับช่อง3มากว่า 20ปี จอมยุทธคลับ รายงาน นี่คือ คอมเม้นท์ บางส่วนจากแฟนเปาบุ้นจิ้น จาก เพจเปาบุ้นจิ้น ฉากที่ถูกตัดออก
อ่อ คือเดือนนี้เดือนกุมภาพันธ์นะครับ ไอ้พญาควายแดงขี้แพ้ ว่าไว้ โหนคนจนไว้ก่อน ไอ้เหี้ยแม้วสอนไว้ จะแซะไบค์ ฟอร์ แด๊ด ดันโชว์โง่ ก๊ากกกกกกกกกกกก
สันดานคนเปลี่ยนยากถึงจะเก็บอาการอย่างไรสุดท้ายหางก็โผล่ คนมันชั่วสุดท้ายก็อดกลับไปชั่วไม่ได้ ผมละเกลียดจริงพวกกระทบชิ่ง แน่จริงเจ้าพระยาหน้าส้นทีนพูดตรงๆสิอย่าหลบซ่อนๆจะได้มีคนไปประคองปีกถึงบ้านพาไปนอนสงบสติอารมภ์ ในคุกสมใจให้ใจๆหน่อยอย่าทำตัวเป็นอีแอบพาบอร์ดเสีย
เวรน่าะรู้ไว้เป็นความภาคภูมิใจไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ว่าเวรมักจะเป็นท็อปปิคในแชทกลุ่มของเราเสมอ มีการตั้งข้อสังเกตไปถึงเวรว่า เวรอาจเป็น ไอคกหรือไอเต้น ก็เป็นได้ จากการแสดงภูมิของเวร ๕๕๕๕๕๕
เห็นภาพบรรยากาศปั่นจักรยานเมื่อวาน น้ำตาผมพาลจะไหลเอาซะดื้อๆ เห็นบอกว่าเป็นข่าวเก่า ปั่นจักรยานเมื่อวานมันก็เป็นข่าวเก่านี้น่า พวกควายโง่สมองหมาปัญญาควาย
แต่เจ้าพระยาช่วยน้องเขาหรือเปล่าไม่เก่านะครับ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าพระยาช่วยอะไรเขามั้ง ถ้าไม่ได้ช่วยก็อย่ามาด่าชาวบ้านเลยครับ
น้องคนนี้น่าสงสารกว่าเยอะแม่โดนปฎิวัติ ตอนยุบสภาไปแล้ว ตอนพ้นจากตำแหน่งนายกรักษาการไปแล้ว ลิ่้วล้อยังเอามาโหน น่าสงสารน้องเค้ามากที่คุณแม่มีลิ่วล้อโง่ๆๆหาคุกให้นายตลอดช่วยกันซับน้ำตาน้องเค้าหน่อยนะครับ น.ส.ยิ่งลักษณ์รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และครอบครัว นายกฯ หญิง และเครือญาติตระกูลชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงการณ์ต่อประชาชน หลังได้รับพระบรมราชโองการฯ
ช่วยเผยแพร่ตอนนี้ จะมีประโยชน์อะไรครับ ข่าวนานแล้ว แถมในข่าวก็มีคนช่วยอยู่ ทำไหมไม่ทำข่าวเผยแพร่ชีวิต นปช.ติดคุกละครับ นานเหมือนกันแต่เงียบ ไม่เห็นใครเหลียวแลเลย