รัฐบาลเผด็จการตบหน้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง มีมติเฉียบขาดยุติการสำรวจและการทำเหมืองแร่ทองคำทั้งหมดทั่วประเทศ หลังพบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม กระทบสุขภาพประชาชน เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ โดยให้มีผลตั้งแต่สิ้นปี 59 เป็นต้นไป "ประยุทธ์" สั่งเร่งคืนสภาพพื้นที่ ชดเชยเยียวยาคนงานและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่บริษัททำเหมืองแร่ทองพล่าน! เตรียมหาช่องฟ้องร้อง นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารว่า ครม.มีมติให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรด้วย โดยในกรณีของบริษัท อัคราฯ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน และเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ จึงเห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 จากเดิมจะหมดอายุในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เพื่อให้สามารถนำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งให้บริษัท อัคราฯ เร่งดำเนินการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต นอกจากนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนและบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ภายหลังสิ้นสุดการประกอบกิจการเหมืองแร่และโลหกรรมของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ดังนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่, กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และกระทรวงแรงงาน ดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ http://www.thaipost.net/?q=เลิกเหมืองแร่ทองคำ-ครมเฉียบขาดห้ามทำทั่วไทย-ฟื้นสภาพแวดล้อม ............................................................................. ตามข่าวผ่านๆ เห็นปัญหานี้ค่อนข้างคาราคาซังมาตลอด โดยในแง่บริษัทก็ยึดถือตัวกฎหมายว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง ส่วนประชาชนก็ได้รับผลกระทบที่เดือดร้อนต่อชีวิตซึ่งน่าเห็นใจมากๆ ทำให้หาข้อยุติไม่ได้ เห็นด้วยกับการใช้อำนาจที่เด็ดขาดนี้ครับ
บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (ชื่อเดิม อัครา ไมนิ่ง จำกัด) เป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนจัดตั้งภายใต้กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยในปี 2536 เป็นเจ้าของและผู้ประกอบการโครงการเหมืองแร่ชาตรีคอมเพล็กซ์ในประเทศไทย บริษัทฯ เป็นบริษัทลูกของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ดซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย ("ASX") โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ถือหุ้นร้อยละ 48.2% ในบริษัทฯ ===================================================================== เป็นของออสเตรเลียรึปล่าว เดี๋ยว UN ก็ส่งประชาธิปไตยก็มาเยือนอีกหรอก
รมว.อุตสาหกรรมย้ำว่า มีการตรวจสอบในทุกๆ ด้านดีแล้วก่อนการตัดสินใจ ทั้งนี้ ปัจจุบันในพื้นที่เหมืองทองอัคราฯ ยังคงมีปัญหาข้อขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนอีกด้วย โดยหากบริษัท อัคราฯ เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองในการไม่ให้ต่ออายุเหมืองทอง กระทรวงก็พร้อมที่จะต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริงตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้พิจารณาต่อใบอนุญาต โดยได้สั่งการไปว่าภายในสิ้นปีนี้จะไม่มีการทำเหมืองแร่ทองอีกต่อไป และในระหว่างนี้จะต้องแก้ปัญหาการปรับพื้นที่คืนสภาพ เตรียมหางานให้คนงานอีกกว่าพันคน สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนก็จะได้รับการเยียวยา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลรักษา ซึ่งยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร เพราะทุกพื้นที่มีมากมีน้อยอยู่ "แบบนี้ใครจะมาร่วมรับผิดชอบกับผม ไม่ใช่ว่าสั่งโครมๆ ว่าเลิกไม่เลิก สร้างกันมากี่ปีแล้วปัญหาเกิดมาจากใคร ต้องแก้แบบนี้ แต่สิ้นเดือนธันวาคมนี้จะต้องไม่มีเหมืองทองอีกต่อไปจนกว่าจะชัดเจน เขามีการตรวจสอบ 5 หน่วยงาน 4 กระทรวง กรรมการ 5 ฝ่ายลงไป ซึ่งก็มีผล เดี๋ยวจะออกทีวีให้เขาดูก็ไปพิจารณาเอาเอง ใช้สติปัญญาคิดเอา จะให้ผมแก้ปัญหาอะไรก็กรุณาคิดปัญหาอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่แก้อันนี้ไปเจออันโน้นอีก" นายกฯ กล่าว
นายณัฐพล แก้วนวล ตัวแทนชาวบ้านที่ต่อต้านเหมืองทอง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์จากนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่ามั่นใจว่าจะฟื้นฟูเหมืองทองได้ และจะไม่มีเหมืองทองต่อไป ตนและเครือข่ายอยากให้รัฐบาลประกาศชัดเจนว่าจะไม่มีแผนสัมปทานอีกแล้ว และต้องประกาศพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร เพื่อไม่ให้ธุรกิจที่ทำอุตสาหกรรมอันส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นในพื้นที่คุ้มครองดังกล่าวด้วย "ผมไม่เข้าใจความหมายของการขยายใบอนุญาต แต่ผมมองว่านี่เป็นเพียงบทยื้อการทำงานของเหมืองเท่านั้น ส่วนตัวผมเชื่อว่ารัฐบาลจะเยียวยาคนป่วยไม่ได้ เพราะหากรัฐบาลจริงใจที่ผ่านมาตั้ง 15 ปี เขาถลุงทองไปตั้งเท่าไหร่แล้ว คนล้มป่วยตายตั้งเท่าไหร่ ไม่เห็นมีใครลงมาดู เพิ่งมาดูสองสามปีหลัง ผมอยากให้รัฐมีนโยบายที่ชัดเจนกว่านี้ คือสั่งปิดทันที ไม่ใช่สิ้นปี เพราะระยะเวลาที่เหลือหลายเดือน ผมไม่เชื่อว่าเขาจะหยุดระเบิดหิน ผมว่าเขาจะเร่งมือ เร่งรัดทำแร่เพิ่มเติมมากกว่า ทีนี้พิษก็จะหนักกว่าเดิม" นายณัฐพลกล่าว. http://www.thaipost.net/?q=เลิกเหมืองแร่ทองคำ-ครมเฉียบขาดห้ามทำทั่วไทย-ฟื้นสภาพแวดล้อม ..................................................................... ไม่อยากมองว่า ได้คืบจะเอาศอกนะครับ เพราะเข้าใจถึงผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษต่อชีวิต แต่เพราะอยู่ไกลจากพื้นที่เลยไม่เข้าใจปัญหานี้เท่าไหร่ ตัวบริษัทได้รับใบอนุญาตถูกต้อง แต่สร้างผลกระทบต่อชีวิตปชช. รัฐบาลนี้ก็พยายามหาทางออกให้ จนได้ข้อสรุปวิธีนี้ เป็นขั้นตอนแรก ปัญหานี้ก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆที่สะสมมาหลายปี ต้องใช้เวลาในการแก้ไขและหาทางออก หลังจากนี้รัฐบาลก็ต้องรับมือกับการฟ้องร้องจากบริษัทในเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอีก
ย้อนไปอ่านข่าวมีข้อเรียกร้องจากกลุ่ม อ.ระพี ศาคริก ว่า 1.ขอให้หยุดต่อใบอนุญาตประกอบโลหกรรมแหมืองแร่ทองคำของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) 2.ขอให้เร่งรัดการตรวจพิสูจน์สิ่งแวดล้อมเพื่อเร่งฟื้นฟูเยียวยาประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน 3.โปรดกำชับให้ข้าราชการรักษาหน้าที่ต่อชาติประชาชนเหนือกว่าการปกป้องผลประโยชน์ของเอกชน 4.โปรดสั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการคุ้มครองผลประโยชน์ของคนงานเหมืองทองคำให้ได้รับการชดเชยอย่างสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอให้มีมาตรการประกันความเจ็บป่วยในอนาคตของคนงานและชาวบ้านอันเนื่องจากสารพิษที่อาจสะสมในขณะปฏิบัติหน้าที่และดำเนินชีวิตให้ได้รับความเป็นธรรม ตลอดไปถึงอนาคตด้วย 5.ขอให้ยุตินโยบายทำเหมืองแร่ทองคำทุกพื้นที่ของประเทศ http://www.isranews.org/isranews-news/item/46396-news_463961.html ................................................................................... หากมองตามข้อเรียกร้องของกลุ่มนี้ ก็ถือว่าทำตามข้อเสนอได้เกือบทั้งหมด คงเหลือแต่ ข้อ 5.
ส่วนตัวเฉยๆกับการทำเหมืองแร่ทองคำ แต่ถ้าจะพูดกันตรงๆตามหลักวิทยาศาสตร์คือ "มันพิสูจน์ไม่ได้ว่าสารพิษมาจากการทำเหมือง" เพราะจุดที่อยู่ห่างจากเหมืองก็มีสารพิษพวกนี้เหมือนกัน และจากรายงาน สารพิษพวกนี้ก็พบได้ร่วมกับสายแร่ทองคำอยู่แล้ว ถ้าว่างก็เชิญเสพรายงานที่"เป็นวิทยาศาสตร์" ครับ http://www.dgr.go.th/newproject/53/FinalReport.pdf #อย่างว่ามนุษย์เรา การเมืองอยู่เหนือเหตุผล หลักกูอยู่เหนือหลักการ
ตรวจฉี่ และเลือด พนักงานทั้งหมด รวมถึงปชช ที่อาศัยอยู่รอบๆเหมือง แล้วตีแผ่ผลการตรวจก็น่าจะดี จะได้ไม่มีการโต้แย้ง
http://prachatai.com/journal/2016/03/64562 ม.รังสิตตรวจแล้วครับ แต่ผมว่าไม่ควรตรวจแค่รอบๆเหมือง แต่ควรตรวจทั้งจังหวัดเพื่อเปรียบเทียบด้วย เพราะผลรายงานจากรัฐก็บอกอยู่แล้วว่า น้ำบาดาลมีสารปนเปือนจากสายแร่ได้ด้วย ปล.ผมไม่มีหุ้นบริษัทนี้ และไม่คิดจะซื้อ รวมทั้งไม่มีส่วนได้เสีย ลึกๆแล้วเห็นว่าปลูกป่าดีกว่าทำเหมืองทองด้วยซ้ำ
คณะรัฐมนตรีสั่งปิดเหมืองทองอัครา หลังสิ้นปี 2559 แต่ขยายเวลาใบอนุญาตประกอบโลหกรรมเพื่อนำแร่ไปใช้ประโยชน์ จนถึงสิ้นปี 2559 ส่วน พนง. -ผู้รับเหมา รวม กว่า 1,000 คน ให้กระทรวงแรงงานดูแล ตามข้อเสนอของรัฐมนตรี 4 กระทรวง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าภายในสิ้นปีนี้ไม่มีการทำเหมืองแร่ทองอีกต่อไป และในระหว่างนี้จะต้องแก้ปัญหาการปรับพื้นที่คืนสภาพ เตรียมหางานให้คนงานอีกว่าพันคน สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนก็จะได้รับการเยียวยา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลรักษา ซึ่งยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางอรรชกา สีบุญเรือง บอกว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงาน และเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ จึงเห็นควรให้ต่อใบอนุญาตประกอบโลหะกรรมจนสิ้นปี 2559 เพื่อให้นำแร่ ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมให้บริษัทอัคราฯ เร่งทำการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ การทำเมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี ยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนและบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังสิ้นสุดการประกอบกิจการเหมืองแร่ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะกำกับดูแลการปิดเหมือง และการฟื้นฟูพื้นที่ // กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง // และ กระทรวงแรงงานดูแลพนักงานที่รับผลกระทบจากการปิดกิจการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม บอกถึง การช่วยเหลือพนักงานของบริษัทอัคราฯ ว่านอกจากจะประสานกับกระทรวงแรงงานแล้ว จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรนำเงินกองทุนพัฒนาท้องถิ่น 45 ล้านบาทมาให้การช่วยเหลือด้วย การตัดสินของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ หมายรวมถึงการยกเลิกนโยบายสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำทั้งประเทศ ซึ่งปัจจุบัน มีการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำขนาดใหญ่อยู่ 2 แห่งคือเหมืองแร่ทองคำ ของบริษัท ทุ่งคำ จ.เลย และ เหมืองแร่ทองคำ ของ บริษัท อัครา จ.พิจิตร ให้สิ้นสุดลงไปด้วย 11 พ.ค.| ข่าว 09.00 น. บริษัทผู้รับสัมปทานเหมืองแร่ทองคำเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉิน หลัง ครม. มีมติไม่ต่อสัมปทานเหมืองแร่ทองคำ
ทุกวันนี้มันต้องเอาอาหาร เอาผัก เอาน้ำไปแจกไม่ใช่เหรอ เพราะไซยาไนด์มันสูงมาก แล้ว มันกระจายไปตามทางน้ำใต้ดินด้วย ที่ผ่านมาไม่มีเหมืองทอง คนก็ไม่เคยเป็นโรคพวกนี้ ระบบการทำเหมืองทองที่เมืองไทย ใช้ต้นทุนต่ำที่สุด เพราะเป็นระบบการทำเหมืองแบบเก่าที่เขาไม่ใช้กันแล้ว ใช่หรือไม่ มีระบบการทำที่ดีกว่านี้หลายระบบ แต่ไม่เอามาใช้เพราะต้นทุนสูง
จริงๆแล้วรอให้เราสามารถขุดทองเองไม่ได้เหรอครับ อีกสัก 100ปีสายแร่ทองมันคงไม่เลื่อนหลุดจากไทยหมดหรอกครับ รอเทคโนโลยีที่มันดีกว่าและปลอดภัยกว่านี้ก็ไม่น่าจะเสียหายนี่ครับ เพราะตอนนี้ให้เขาขุดแล้วทองก็ไม่ได้เป็นของเรา เอาเก็บไว้ให้รุ่นลูุกให้รุ่นเหลนก็ได้ครับ
2 ปี หลังมันก็ คสช รัฐบาลเผด็จการนี่หว่า ก่อนหน้านั้นรัฐบาลประชาธิปไตยซะส่วนใหญ่ เสียงเรียกร้องไปหายไปไหนล่ะ ส่วนที่จะให้ปิดทันทีใจคอจะไม่ให้เขาขนย้ายแร่ที่ขุดขึ้นมาเลยรึ ถ้าผมมองในแง่ร้ายจะให้ชาวบ้านไปช่วยขนย้ายแร่ทองแทนรึไง
วัฒนา เมืองสุข โพสต์เฟซบุ๊ก แฉทุจริตโครงการขุดลอกบึงหนองพล ชี้ อผศ. มีเอี่ยว เผยประชาชนที่ร่วมตรวจสอบถูกทหารเรียกปรับทัศนคติ วันนี้ (11 พฤษภาคม 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Watana Muangsook ระบุถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติเห็นชอบให้องค์การทหารผ่านศึก (อผศ.) ได้รับสิทธิพิเศษในการรับจ้างงานจากส่วนราชการ โดยไม่ต้องประกวดราคา ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทำสัญญาว่าจ้างให้ อผศ. ขุดลอกบึงหนองพล บ้านน้อยเหนือ ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ขนาด 24 ไร่ มูลค่า 9,743,000 บาท เริ่มสัญญา 28 กรกฎาคม สิ้นสุด 30 พฤศจิกายน 2558 เป็นการทุจริตอย่างชัดเจนเพราะล่วงเลยกำหนดสัญญามานานแล้วแต่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งนี้ประการสำคัญคือ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้า คสช. มีตำแหน่งเป็นนายกสภาทหารผ่านศึก จึงมีลักษณะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนตามกฎหมาย ป.ป.ช. ทุกประการ อย่างไรก็ตาม นายวัฒนา ได้รับแจ้งจาก นายนคร มาฉิม ส.ส. พิษณุโลก ว่า พันโท สิทธิ มณีรัตน์ ได้เรียก ส.ส. นายกฯ อบต. รองนายก อบต. ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลหินลาด รวมทั้งชาวบ้านที่มาให้ข้อมูลและถือป้าย รวม 9 คน ให้ไปพบ พลตรี นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษ กองทัพภาคที่ 3 เนื่องจากไปร่วมตรวจสอบการทุจริตในโครงการที่ คสช. มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ในขณะที่ประชาชนที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติต้องถูกเรียกไปปรับทัศนคติ จึงตั้งคำถามว่าหัวหน้า คสช. เอาอำนาจอะไรเรียกคนตรวจสอบการทุจริตไปปรับทัศนคติ หรือนี่คือนโยบายปราบโกงตามยุทธศาสตร์ชาติที่ท่านกำลังผลักดัน
12 พ.ค. | ข่าว 12.00 น. รมว.อุตสาหกรรม ยืนยัน การฟื้นฟูเหมืองแร่ทองคำชาตรีหลังปิดกิจการ จะต้องยึดตามรายงานผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ พร้อมสั่งทบทวนใบอนุญาตเหมืองแร่ที่จะสิ้นสุดในปี 2571 เพื่อให้เป็นไปตามมติครม. 12 พ.ค.| ข่าว 15.00 น. บริษัทเหมืองแร่ทองคำชาตรีแถลงขอความเป็นธรรม หลังจากถูกคณะรัฐมนตรีสั่งปิดเหมืองภายในสิ้นปีนี้ แม้เหมืองแร่ทองคำในจังหวัดพิจิตร ของบริษัทอัครารีซอสจำกัด จะไม่ได้รับการต่อใบอนุญาติในการทำเหมืองแร่ และ ขุดแร่ได้ถึงแตค่สิ้นปีนี้ แต่ระหว่างนี้สิ่งที่ยังต้องพิสูจน์ตามที่รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ระบุ ก็คือ เรื่องสารพิษจากบ่อกักเก็บกากแร่ ว่ารั่วไหลออกมาจริง จนกระทบกับแหล่งน้ำ และ ปนเปื้อในพืชผักหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป สำหรับประเด็นการรั่วไหลของสารพิษที่ว่า ก็คือ สารไซยาไนต์ ที่ใช้สกัดทองคำออกจากแร่ นอกจากจะรั่วไหล หรือ ซึมออกมา แล้วยังเชื่อว่าจะระเหยขึ้นไปในอากาศ เมื่อฝนตกลงมาก็จะปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ และ ยังทำ ทำให้ผิวหนังชาวบ้านเป็นผื่นคัน ส่งผลกระทบกับสุขภาพทำให้ประชาชนเจ็บป่วย นอกจากนียังมีความเป็นห่วงเพราะเรื่องของสารพิษโลหนักจะรั่วไหลลงสู่แม่น้ำน่าน ที่ชาวบ้านใช้เป็นประเด็นในการต่อสู้เรื่องผลบกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยระบุว่า แม่น้ำน่าน ที่เป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะที่แม่น้ำน่านตรงจังหวัดพิจิตรอยู่ห่างจากขอบบ่อไซยาไนด์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เพียง 23 กิโลเมตร แม้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า สารพิษ โลหะหนักปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำหรือไม่ แต่นับถอยหลังจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ชาวบ้านยังต้องอยู่กับเหมืองแร่แห่งนี้นานถึง 7 เดือน สิ่งที่ชาวบ้านยังกังวลหนัก บริษัทอัครายังคงเดินหน้าถลุงแร่อย่างต่อเนื่อง สกัดแร่โดยใช้สารเคมีมากจนส่งผลกระทบต่อเนื่อง ขณะที่เรื่องความขัดแย้งของชุมชนก็ยังเป็นสิ่งที่น่าจับตา อัครา แถลงขอความเป็นธรรม หลังถูกยุติสัมปทานเหมืองทอง
กระผมขรรม กระบือหริ่มที่นี่จังเลยงับ อิๆๆๆ5555 เขาประชุมกันทุกภาคส่วน เพื่อหาข้อสรุป ตามหลักเกณฑ์ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ตกผลึก ก็มาออกคำสั่งระงับเสียแล้ว เล่นเอาปลัดทำท่าลาออก แถมเขายังสามารถไปฟ้องศาลได้อีก ถ้าเกิดศาลไม่สั่งปิดมา คนสั่ง ต้องลาออกเปล่า กร๊ากๆๆๆๆ แถมคนตกงานเป็นพันๆ จะให้เขาไปทำไรบางคนก็หัวหงอกแล้ว หรือจะเอาแบบจับประมงคราวก่อน ไม่ให้กูทำประมง จะให้ไปเป็นโจรใช่ไหม 555555555555555
ข่าวบอกว่า ปลัดกระทรวงลาออกเพราะเรื่องครอบครัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องเหมืองนะ *************************************************** ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม น้ำตาคลอแจงสื่อ ยันไม่ได้ลาออกเพราะโดนกดดัน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยันไม่ได้ลาออกก่อนเกษียณเพราะโดนกดดัน เผยวางแผนไว้นานแล้วเพื่อกลับไปทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่ดีและให้เวลาหาปลัดคนใหม่ฯ วันนี้ (12 พฤษภาคม) นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังมีรายงานข่าวว่า นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการก่อนถึงกำหนดเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2559 โดยมีผลวันที่ 7 มิ.ย. 2559 ว่า นายอาทิตย์ ต้องการดูแลครอบครัว และมีปัญหาเรื่องของสุขภาพ โดยนายอาทิตย์ ยินดีที่จะมาช่วยงานอื่นๆ และเป็นเบื้องหลังการทำงานของคนรุ่นใหม่ เพราะเป็นคนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ส่วนงานเก่าที่ยังค้างคา ก็จะต้องมีการสานต่อให้เสร็จเรียบร้อย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบอยู่แล้ว ปลัดกระทรวงจะดูแลเพียงภาพรวม ด้านนายอาทิตย์ ได้ยืนยันว่า สาเหตุการลาออกจากราชการก่อนกำหนดเวลาไม่ได้โดนกดดันตามที่มีกระแสข่าว แต่เพื่อต้องการจะออกไปทำหน้าที่ลูกที่ดีของพ่อแม่ สามีที่ดีของภรรยา และพ่อที่ดีของลูก เนื่องจากที่ผ่านมาคนในครอบครัวได้ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีมาโดยตลอด และมองว่าการที่ยังอยู่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้มีเวลาส่วนตัวไม่มากเท่าที่ควร เพราะการเป็นหัวหน้า จะมาสาย จะกลับก่อน รวมถึงไปธุระต่างๆ ทำได้ยาก และเมื่อดำรงตำแหน่งแล้ว ก็อยากทำให้ดีที่สุด ไม่อยากให้มีข้อบกพร่อง และอยากให้คนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมเข้ามาบริหารงานแทน ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้หวงตำแหน่งหรือยึดติดกับหน้าที่การงาน เพราะได้ทำงานอย่างเต็มที่มากว่า 35 ปีแล้ว ไม่เคยขาดตกบกพร่องต่อหน้าที่ แต่ในเมื่ออายุมากขึ้น ก็อยากพักผ่อน มีเวลาให้กับครอบครัวบ้าง นายอาทิตย์ ยังระบุถึงการลาออกก่อนเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2559 ว่า อยากลาออกในช่วงวันเกิดที่จะถึงและเพื่อให้รัฐมนตรี เตรียมหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งแทน เพราะปีนี้จะมีผู้เกษียณอายุราชการในกระทรวงถึง 7 คน เมื่อถึงสิ้นปีคนจะขาดหายไป 7 คน กว่าจะมีการแต่งตั้งปลัดกระทรวง และกว่าที่ปลัดกระทรวงจะแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งอื่นๆ ก็จะใช้ระยะเวลาถึงสิ้นปี ดังนั้นเพื่อให้มีการสานงานอย่างต่อเนื่อง จึงเลือกที่จะลาออกก่อน และเน้นย้ำว่าการลาออกครั้งนี้ได้วางแผนไว้นานแล้ว ทั้งนี้หากทางรัฐมนตรีต้องการให้ช่วยเหลืองานอะไรเพิ่มเติม ก็ยินดีที่จะช่วยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายอาทิตย์ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและน้ำตาคลอ โดยผู้สื่อข่าวได้ถามว่าร้องไห้เพราะมีเรื่องอัดอั้นอะไรหรือไม่ ซึ่งนายอาทิตย์ก็ได้ตอบกลับมาว่า ตื้นตันใจ เหมือนได้ระบายความในใจออกมา เพราะการเปิดเผยกับสื่อมวลชนครั้งนี้เป็นความจริงทุกประการ เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่าเมื่อลาออกไปแล้วจะทำงานอะไร นายอาทิตย์ก็ได้กล่าวติดตลกว่า อาจจะไปเป็น NGO แต่จะเป็น NGO ที่มีความรู้ มีความคิด http://www.matichon.co.th/news/133523 ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปฏิเสธลาออกจากกรณีนโยบายรัฐฯปิดเหมืองแร่ทองคำ
จากแหล่งข่าวที่สมาชิกหลายคน (หรือคนเดียวกัน) เชื่อถือ หลังพบทหาร ชาวบ้านโวย ถูก’คณะปลอดประสพ’หลอกให้ถือป้ายค้านขุดบึง
ต่อให้สิบโคตรพ่อโคตรแม่ของนายทุนเหมืองมาฟ้องศาลปกครองหรือศาลยุติธรรม รับรองยกฟ้องพันเปอร์เซ็นต์ คุณกับผมเอาชีวิตมาเดิมพันกันไหมละ ถ้าศาลตัดสิน ว่ารัฐบาล/คสช.ผิดที่ไม่ต่อสัญญาประทานบัตร คุณมายิงผมได้เลย แต่ถ้าศาลยกฟ้อง ผมจะไปยิงคุณเอาไหม ลูกผู้ชายแฟร์ๆ ขอร้องอย่ากวนTeenในนี้ อีกอย่างที่รัฐบาล ไม่ต่อสัญญาและยกเลิกการทำเหมืองทั้งหมดมาตั้งหลายวันแล้ว ไม่มีแรงงานคนไหน บ่นสักราย ที่เดือดร้อนคือบริษัท อัครา โน่น ขอร้องอย่ามโน ไอ้กร๊วก
[/quote]12 พ.ค.| ข่าว 15.00 น. บริษัทเหมืองแร่ทองคำชาตรีแถลงขอความเป็นธรรม หลังจากถูกคณะรัฐมนตรีสั่งปิดเหมืองภายในสิ้นปีนี้ แม้เหมืองแร่ทองคำในจังหวัดพิจิตร ของบริษัทอัครารีซอสจำกัด จะไม่ได้รับการต่อใบอนุญาติในการทำเหมืองแร่ และ ขุดแร่ได้ถึงแตค่สิ้นปีนี้ แต่ระหว่างนี้สิ่งที่ยังต้องพิสูจน์ตามที่รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ระบุ ก็คือ เรื่องสารพิษจากบ่อกักเก็บกากแร่ ว่ารั่วไหลออกมาจริง จนกระทบกับแหล่งน้ำ และ ปนเปื้อในพืชผักหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป สำหรับประเด็นการรั่วไหลของสารพิษที่ว่า ก็คือ สารไซยาไนต์ ที่ใช้สกัดทองคำออกจากแร่ นอกจากจะรั่วไหล หรือ ซึมออกมา แล้วยังเชื่อว่าจะระเหยขึ้นไปในอากาศ เมื่อฝนตกลงมาก็จะปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ และ ยังทำ ทำให้ผิวหนังชาวบ้านเป็นผื่นคัน ส่งผลกระทบกับสุขภาพทำให้ประชาชนเจ็บป่วย นอกจากนียังมีความเป็นห่วงเพราะเรื่องของสารพิษโลหนักจะรั่วไหลลงสู่แม่น้ำน่าน ที่ชาวบ้านใช้เป็นประเด็นในการต่อสู้เรื่องผลบกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยระบุว่า แม่น้ำน่าน ที่เป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะที่แม่น้ำน่านตรงจังหวัดพิจิตรอยู่ห่างจากขอบบ่อไซยาไนด์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เพียง 23 กิโลเมตร แม้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า สารพิษ โลหะหนักปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำหรือไม่ แต่นับถอยหลังจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ชาวบ้านยังต้องอยู่กับเหมืองแร่แห่งนี้นานถึง 7 เดือน สิ่งที่ชาวบ้านยังกังวลหนัก บริษัทอัครายังคงเดินหน้าถลุงแร่อย่างต่อเนื่อง สกัดแร่โดยใช้สารเคมีมากจนส่งผลกระทบต่อเนื่อง ขณะที่เรื่องความขัดแย้งของชุมชนก็ยังเป็นสิ่งที่น่าจับตา[/quote] เห็นข่าวที่พี่โพสต์มาแล้วมันของขึ้น ไอ้คำที่ว่า ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ และ ต้องพิสูจน์กันต่อไป คำนี้มันใช้กันเกร่อกับไอ้ปัญหาพวกนายทุนที่มีปัญหาสิ่งแวดล้อมกับชาวบ้าน สิ่งที่สำคัญดูกันง่ายๆ เหมืองทองมาทำ 15 ปีแล้ว เกิดอะไรขึ้นบ้างกับชาวบ้านในพื้นที่ น้ำกินน้ำใช้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป น้ำใต้ดินมีอะไรผสมอยู่มากน้อยเท่าไหร่ แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่า มันเป็นผลมาจากอะไร มันทุเรศกับพวกข้าราชการเลวๆ ชั่วๆ หลายๆตัว ที่ทำงานได้แบบระยำหมา จนประเทศชาติประชาชนต้องเป็นอย่างที่เห็น หันไปดูสิ ที่บ้าน คลี่ล่าง อะไรเนี่ย จ.กาญจนบุรี ชาวบ้านโดนอะไรกันมั่งนั่นก็หนึ่งในตัวอย่าง นิคมแหลมฉบังระยอง ตอนนี้มันเป็นยังไง ก็เพราะใครล่ะ เพราะข้าราชการชั่วๆไง เวลาจะทำอะไรที่ได้เงินล่ะก็ เร็วชิบหาย ทำ IAEA ประเมินสิ่งแวดล้อมเซ็นกันง่ายๆ ไม่เคยต้องมานั่งพิสูจน์นั่นพิสูจน์นี่ ต้องตรวจสอบให้ละเอียดมากขึ้น ไม่เค้ยไม่เคย เพราะอะไรล่ะ? พอไอ้ที่จะขัดแย้งกับนายทุนใหญ่ๆ หรือปกป้องผลประโยชน์ชาวบ้านตาดำๆ มันทำงานโคตรช้า ยังไม่เสร็จมั่ง ยังไม่จบมั่ง ยังพิสูจน์ไม่ได้มั่ง ทำไม มันไม่มีน้ำมันหล่อลื่นใช่มั้ย? ไอ้ทุเรศ 15 ปีแล้ว คนตายไปกี่คน ในเลือดมีไซยาไนด์สูง กี่คน มันตาถั่วกันหรือไง แล้วเทียบกับก่อนมีเหมืองทองนี่ ประชาชนเคยมีปัญหานี้มั้ย น้ำเคยมีปัญหาปนเปื้อนมั้ย แค่นี้ต้องรอพิสูจน์โคตรเหง้าศักราช ปู่ย่าตายายมันถึงเมื่อไหร่ ถึงจะพิสูจน์ได้ มันน่าเปิดเพลง วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ฟัง ตอนที่มันตอบว่า ยังพิสูจน์ไม่ได้ หรือให้มันไปอยู่กับชาวบ้าน กินนอน กินน้ำแถวนั้นกับชาวบ้านซักปีนึง นี่ล่ะถึงพิสูจน์ได้ใช่มั้ย มันกล้าไปไหมล่ะ เอาครอบครัวมันไปอยู่เลยทั้งครอบครัวนั่นแหละ จนกว่ามันจะมีผลพิสูจน์
รักจนคลั่ง รับยาช่อง3 ครับ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายเชิดศักดิ์ อรรถอรุณ ผู้จัดการฝ่ายประสานงานกิจการภายนอก บริษัท อัครา รีซอร์สเซส เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาต่อใบอนุญาตโลหกรรม ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ผู้ดำเนินการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ครอบคลุม 3 จังหวัด เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร ที่กำลังจะหมดอายุลงวันที่ 13 พ.ค. 2559 ซึ่งมติ ครม. พิจารณาแล้วเห็นควรให้ต่อใบอนุญาตประกอบโลหกรรมให้บริษัท อัคราฯ จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 เพื่อให้นำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ จากนั้นให้บริษัท อัคราฯ ดำเนินการปิดเหมืองทองคำถาวร ซึ่งเรื่องนี้ทาง บริษัท อัครา รีซอร์สเซส ยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากทราบว่าเหมืองถูกสั่งปิด คนงานทั้งหมดอกสั่นขวัญแขวนใจหายเพราะว่าสิ้นปีหากท่านรัฐมนตรีไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่งคนงานทั้งหมดที่มีอยู่จำนวน 1,000 กว่าคน พร้อมกับครอบครัว 4,000-6,000 คนต้องลำบาก ที่จะได้รับผลกระทบซึ่งอยู่ใน 3 จังหวัดรอยต่อคือพิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เพราะนโยบายการทำเหมืองจ้างคนไทย 99% คือคนในพื้นที่ส่วนคนอื่นๆ คนนอกจะเป็นการจ้างวิศวกรเท่านั้น นอกจากนี้บางคนก็มีอายุมากเกินกว่าที่จะไปหางานใหม่ อีกทั้งเด็กๆ นักเรียนที่เรียนอยู่ 3 จังหวัดเขตรอยต่อ ก็จะลำบาก เนื่องจากเมื่อพ่อแม่ตกงานก็จะต้องเข้า กทม.หางานทำ ก็จะทำให้ครอบครัวแตกแยก นายเชิดศักดิ์ กล่าวอีกว่านอกจากนี้ คนงานหลายคน มีภาระหนี้สินผ่อนบ้านและหนี้อื่น ก็จะต้องได้รับผลกระทบจากการตกงานอีกทั้งโครงการต่างๆ ที่ทางเหมืองสนับสนุนอยู่ หากเหมืองถูกปิดก็ไม่มีเงินสนับสนุนต่อไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำดื่มสะอาด เรื่องภัยแล้ง การสนับสนุนโรงเรียน ต้องหยุดหมด แต่คงต้องได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการของทางราชการก่อนว่า เป็นคำสั่งอันนี้แน่ ดังนั้นขณะนี้กำลังหาทางออกกันอยู่หลายทางที่ยังไม่ได้สรุปกันคงต้องรอดูก่อนว่าทางไหนจะทำได้ “ตอนนี้คนงานทั้งหมดร่ำไห้เสียใจคิดถึงแต่อนาคตว่าจะทำอย่างไร คนงานก็ได้มีการตั้งคำถามกันว่า ถ้าท่านนายกรัฐมนตรี บอกว่ามันเกิดความแตกแยกในพื้นที่ คำถามก็คือ คนที่แตกแยกจริงๆ ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เป็นคนจากทางนอกเข้ามา คนในพื้นที่บางส่วนที่บอกว่าได้รับผลกระทบใช่คนส่วนใหญ่ของชุมชนจริงๆ หรือเปล่า หากคนงานทำเหมืองทองออกมาพูดว่าได้รับผลกระทบตรงนั้นน่าเชื่อ แต่นี่คนงานไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย และไม่ป่วยแต่ที่พูดกันคือคนข้างนอกท่านรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีก็ออกมาพูดเองว่ายังไม่มีผลสรุปทางวิทยาศาสตร์ แต่สั่งปิดเหมืองเพราะมันเกิดความขัดแย้งๆ ขัดแย้งเพราะอะไร หรือหมายความว่า คนหนึ่งคนไม่พอใจแล้วมาพูด หรือคนที่มาพูดคือคนในพื้นที่หรือปล่าวอยาก ให้ท่านนายก รัฐมนตรีพิจารณาทบทวนตรงนี้ด้วย” นายเชิดศักดิ์ กล่าว http://www.matichon.co.th/news/132067
คนงานทั้งหมดอกสั่นขวัญแขวนใจหายเพราะว่าสิ้นปีหากท่านรัฐมนตรีไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่งคนงานทั้งหมดที่มีอยู่จำนวน 1,000 กว่าคน พร้อมกับครอบครัว 4,000-6,000 คนต้องลำบาก โอ๊ยยยย ตายๆๆ อกสั่นขวัญแขวนใจหาย มันคนงานหรือนายทุนกันแน่ ยังแถไปได้เรื่อยๆ นี่แหละที่เขาเรียกว่านายทุน
ตอบไม่ตรงคำถามครับ จะให้เขาไปขุดทองบ้านเลอคูไหมครับ หรือว่าดีแต่พูด บ้านคนอื่นเสียหาย สิ่งแวดล้อมเสียหาย ช่างมัน แต่บ้านตัวเองห้ามแตะ ใจดำจริงๆ
ขงเบ้งหรือขงบื้อ เผยแพร่เมื่อ 11 พ.ค. 2016 นางสาว รวิวรรณ สาลี อายุ 28 ปี ชาวบ้านดงหลง ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ พนักงานธุรการ เหมืองแร่ทองคำ บริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด มหาชน บอกว่า มีสามี และญาติๆ ทำงานอยู่ในเหมืองแห่งนี้ 8 ครอบครัว ทำกันมาหลายปีแล้ว ถ้าเหมืองปิดลง คงได้รับผลกระทบโดยตรง พร้อมเพื่อนร่วมงาน อีกประมาณ 1500 คน เพราะต้องตกงาน และครอบครัวอาจจะต้องแตกแยกเพราะต้องไปหางานทำต่างถิ่น
ผมขำกว่าครับ น่าสมเพชนะ ทำไมไม่ยอมละ แปลว่าเลอคูรักษาบ้านไว้มากกว่าให้เขาขุดบ้านเลอคูเพื่อมีงานทำ ใจดำจริงๆ
บริษัท คิงสเกต คอนโซลิเดต จำกัด ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส ผู้ประกอบการเหมืองทองชาตรีใน จ.พิจิตร มีปฏิกิริยาตอบโต้รัฐบาลไทยที่มีมติให้ปิดเหมืองแร่ทองคำทุกแห่งประเทศภายในสิ้นปี 2559 โดยยืนยันว่าเหมืองทองไม่เคยสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน และเป็นเหมืองที่มีการจัดการที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ลงพื้นที่สำรวจขั้นตอนถลุงแร่ทองคำของเหมืองอัครา
อา 15 พ.ค. 59 หลัง 18:00 น. ดู ทรท. รายการบอกจากการศึกษาพบว่าก่อนอนุญาตทำการเปิดเหมืองทอง พบธาตุหนักแล้วตามธรรมชาติ เหมืองทองก็ไม่ได้มีเหตุให้เกิดเหตุที่ ปชช ประท้วง ทางการจึงต้องหาข้อมูลสรุปต่อไป งงกะประเทศไทยถ้าพบว่าโลหะหนักเยอะก่อนอนุญาตเปิดเหมืองทำไมไม่อพยพ ปชช ออกนอกพื้นที่นี้
'จารุมาศ เรืองสุวรรณ'ที่ปรึกษาพท.เป็นกก.บริษัทสำรวจทองคำ 5 แห่ง Cr:สำนักข่าวอิศรา พบข้อมูล“จารุมาศ เรืองสุวรรณ”ที่ปรึกษาพิเศษพรรคเพื่อไทย โผล่นั่ง กก.บริษัทสำรวจขุดทองเครืออัคราไมนิ่ง 5 แห่ง ก่อนถูกชาวบ้านร้อง ป.ป.ช.สอบปมไล่ที่ทำกิน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายจารุมาศ เรืองสุวรรณ มีชื่อเป็นกรรมการในเครือข่ายบริษัทอัครา ไมนิ่งจำกัด จำนวน 5 แห่ง คนตกงาน จะไปเป็นโจรจริงหรือ
ก่อนหน้านี้ ข่าวมหาดไทยเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2554 ระบุว่า พล.ท. ดร.จารุมาศ เรืองสุวรรณ (ระบุมียศ “พลโท” ขณะที่ข้อมูลทางธุรกิจมีคำนำหน้า“นาย”) เป็นที่ปรึกษาพิเศษพรรคเพื่อไทย พร้อมนายปกรณ์ สุขุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด ได้มอบเงิน จำนวน 400,000 บาทให้กระทรวงมหาดไทยนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย โดยมีนายอารี ไกรนารา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับมอบ ที่ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย และพบว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในประกาศกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ให้พล.ท.จารุมาศ เรืองสุวรรณ อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีความเหมาะสมเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพิ่มเติมประจำปี 2555 เพิ่มเติมในลำดับ ที่ 9 (http://www.sepo.go.th/spaw/uploads/files/55_1.pdf) จำไม่ได้ใครน้า เป็นคนตั้งชื่อเลอควาย
โลหะหนักมันพบกระจายได้ทั่วไปในธรรมชาติอยู่แล้วครับ แต่จะพบมากตามพื้นที่แค่นั้น การที่บอกว่าก่อนอนุญาตทำการเปิดเหมืองทองพบธาตุหนักแล้วตามธรรมชาติ จึงเป็นการเล่นคำมากกว่า เพราะถ้าพื้นที่ตรงนั้นมีมากมันคนที่อาศัยอยู่มันก็มีความผิดปกติจากการได้รับโลหะหนักตั้งแต่หลายร้อยปีแล้วล่ะครับ ไม่ได้อยู่ ๆ เริ่มเป็นตอนที่มีการทำเหมือง
คำว่า มี แต่มีมากจนอันตราย กับมีน้อยจนไม่เกิดอันตราย มันต่างกัน แล้วสงสัยอย่าง มีการตรวจน้ำใต้ดินมั้ย เพราะการทำเหมืองโดยเฉพาะเหมืองขุดลึก อาจมีผลกระทบต่อแหล่งน้ำใต้ดินได้ และก็จะกระทบต่อเนื่องไปยังแหล่งน้ำผิวดินได้เหมือนกัน
ดีเอสไอลงพื้นที่รอบเหมืองทองคำอัครา รีซอร์สเซส หาข้อเท็จจริงหลังรับเป็นคดีพิเศษ พบประชาชนผู้ร้องขอ ตรวจสอบ 4 ประเด็น นายพิเชฏฐ์ ทองศรีนุ่น ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางน้ำทางทะเลและชายฝั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ พร้อมคณะกว่า 20 คน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเก็บข้อมูลในพื้นที่ชุมชนรอบเหมืองทองของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ตามคำร้องขอของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดรอบเหมืองทองคำประกอบด้วย จังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก โดยการลงพื้นที่ของคณะครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามคำร้องขอของประชาชนที่ร้องขอไปยังดีเอสไอ เพื่อขอให้กรณีเหมืองทองเป็นคดีพิเศษ ซึ่งหลังจากอธิบดี ดีเอสไอ รับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ จึงมีการส่งคณะเพื่อลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ สืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ทั้งนี้สิ่งที่ดีเอสไอดำเนินการในครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยการเก็บข้อมูลจากประชาชน จากนั้นจะมีการลงพื้นที่ในจุดที่ประชาชนมีข้อสงสัยว่ามีความผิดปกติ เพื่อเป็นข้อมูลในการทำเวิร์คช็อพและจะมีการประชุมร่วมเพื่อรวบรวบข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของส่วนราชการที่มีกว่า 30 หน่วยงาน และผู้ที่มีผลได้ ผลเสีย เพื่อนำข้อมูลประกอบในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย แม้รัฐบาลได้รับทราบมติ 4 กระทรวงสั่งให้ยุติสัมปทานการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำทุกแห่งทั่วประเทศ และอนุญาตให้ดำเนินการจนถึงสิ้นปีนี้ แต่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส เห็นว่าควรแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน ขณะที่ดีเอสไอลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังได้รับร้องเรียนว่ามีการทำเหมืองแร่ทองคำโดยไม่ถูกต้อง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำโดยนายพิเชฏฐ์ ทองศรีนุ่น ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางน้ำ ทางทะเล และชายฝั่ง พร้อมคณะ ลงพื้นที่สำรวจและนำเครื่องUAV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้เฉพาะทางทหาร บินขึ้นสำรวจ เก็บข้อมูลโดยรอบเหมืองทองคำ จำนวน 14 จุด ที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่ามีการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำโดยไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม นางอารมย์ คำจริง ประธานประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ กล่าวว่า แม้การสั่งให้หยุดประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำจะเป็นมติของรัฐมนตรี4กระทรวง แต่ชุมชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่3จังหวัดรอบเหมือง ทั้งพิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก เห็นว่าควรแก้กฎหมายประกอบกิจการเหมืองทองอย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน และควรมีการลงพื้นที่เข้ามารับทราบผลกระทบของปัญหาด้วย
